ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

โรงแรมเขาน้อยสงขลา

เริ่มโดย พี่แอ๊ด, 21:05 น. 05 ส.ค 53

พี่แอ๊ด

ตามที่คุณเขารูปช้าง    ได้ให้สอบถามคุณกิตติ  จิระนคร   ทายาทขุนนิพัทธ์ฯ
เรื่องโรงแรมเขาน้อยสงขลานั้น    ซึ่งท่านเป็นผู้หนึ่งที่ได้ติดตามบิดาไปที่สโมสร
ข้าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประจำ     เพราะขุนนิพัทธ์ฯ  เป็นสมาชิกกิตติศักดิ์
ของสโมสรแห่งนี้
จากภาพที่คุณเขารูปช้างนำมาให้ดู   
ซ้ายมือมุมล่างเขียนไว้ว่า   โรงแรมเขาน้อยสงขลา
ส่วนมุมขวาล่างเขียนว่า   KOWNOI  REST - HOUSE

พี่แอ๊ด

ภาพนี้แบ่งเป็นสองโซน   ก็คือ 
โซนซ้ายมือที่เขียนบรรยายไว้ว่า   โรงแรมเขาน้อยสงขลา   นั่นเป็น
                                                 โรงแรมหรือที่พักสำหรับแขกเข้าพักระยะสั้น ๆ
                                                 เป็นเรือนไม้ทั้งหมด (วงกลมสีฟ้า)
โซนขวามือที่เขียนบรรยายไว้ว่า    KOWNAI  REST - HOUSE
                             หมายถึง        เขาน้อย    RESTAURUNT (ร้านอาหาร) - บ้าน
จากภาพวงกลมสีแดงจะเห็นขาว ๆ        บริเวณนั้นเป็นตำหนักหรือที่ประทับแรมครอบครัวกรมหลวงลพบุรี
                                                                    ราเมศวร์   อย่างเช่น  ประทับแรมของพระองค์เจ้าภานุพันธ์
                                                                    ยุคล  หรือ  พระองค์ชายใหญ่    พระโอรสของ กรมหลวงลพบุรี
                                                                    ราเมศวร์    ซึ่งเป็นบิดาของ  มจ.ฐิติพันธ์  ยุคล 
                                                                    (ท่านกบ)                                                               
                                                                    และเป็นร้านอาหารหรืออาคารที่จำหน่ายอาหาร, เครื่องดื่ม
                                                                    โดยเฉพาะและชอคโกแลคจากปีนัง   เป็นลักษณะคล้าย
                                                                    โรงเตี๊ยมฝรั่ง   

ขอแก้ไขและเพิ่มเติมข้อมูล                            คุณกิตติ   เล่าว่า   หลังจากกรมหลวงลพบุรีราเมศวร์   เสด็จ
                                                                     กลับพระนคร    ตำหนักหรือที่ประทับแรมและร้านอาหารแห่งนี้เก่ามาก
                                                                     จึงได้รื้อออก     หลายปีต่อมาจึงจะสร้างเป็นโรงแรมเขาน้อยขึ้น

                                                                                     

ข้าวเหนียวมะม่วง

ตอนถ้าเทียบกับตอนนี้มันอยู่ตรงส่วนไหนของเขาน้อยอะครับ
เมื่อลูกหลานคุณถามว่า 'ทำไมไม่มีหาด' แล้วคุณจะตอบว่าอย่างไร
                            "ธรรมชาติใช้เวลากว่า ๒๐๐ ล้านปี ในการสร้างชายหาด"
                               "มนุษย์ใช้เวลา ๕๐ - ๑๐๐ ปี ในการสร้างชุมชน"
                      "การสร้างเขื่อนกันคลื่นใช้เวลาเพียง ๑ - ๓ สัปดาห์ในการทำลาย"

กิมหยง

เดี๋ยวต้องไปสำรวจใหม่
สร้าง & ฟื้นฟู

หม่องวิน มอไซ

รอติดตามชมการชำระประวัติศาสตร์ครับ  ;)

คนเขารูปช้าง

ต้องขอบคุณในความพยายามของพี่แอ๊ด และความกรุณาของ คุณกิตติ จิระนคร เป็นอย่างสูงครับ
ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตของสงขลา ให้คนรุ่นหลังได้รับทราบกัน ผมเองไม่ได้ขึ้นไปเดินบนเขาน้อย
นานแล้วครับ และต้องขอบคุณท่าน กิมหยงอีกคนครับที่มีความตั้งใจที่จะลงสนามไปสำรวจให้เห็นกันชัดๆ

เขยบ่อยาง

เพิ่งขับรถขึ้นไปเมื่อ2-3ปีที่ผ่านมา เปลี่ยวมากๆครับ สระน้ำก็ปล่อยจนทรุดโทรม น่าจะหางบมาพัฒนาให้เป็นแหล่งชมวิวได้อีกแห่ง สมัยปี20กว่าๆ ตอนเย็นๆคดข้าวไปนั่งกินกันในสวนเสรี นั่งดูลุงตัดแต่งต้นไม้เป็นรูปสารพัดสัตว์ ใกล้ๆค่ำก็จะเดินขึ้นเขาน้อย ตอนนั้นบ้านเมืองไม่เจริญแต่ไม่เปลี่ยว ตอนนี้เปลี่ยวจริงๆ

คนเขารูปช้าง

ท่าน เขยบ่อยาง ครับผมรู้สึกว่าบรรยากาศในสมัย 20ปีกว่าๆที่ท่านว่าเป็นแบบนั้นจริง
สามารถคดข้าวไปนั่งปิคนิคแล้วเดินช้าๆย่อยอาหารได้เลย ถึงแม้สิ่งปลูกสร้างน้อย ผู้คนน้อย
แต่กลับไม่มีความรู้สึกว่าเปลี่ยว สระน้ำที่ท่านว่านั้นผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ ขณะสร้างเสร็จใหม่ๆ
คุณพ่อกับแม่เคยพาไปเล่นน้ำ และหัดว่ายน้ำ เพราะไม่ลึกและเปิดให้เด็กๆลงไปเล่นน้ำได้ เคยสำลักน้ำเข้าไปขมมาก
เพราะเทศบาลเขาเติมคลอรีนในปริมาณสูง สระน้ำรูปวงกลมนี้เปิดใช้อยู่ได้ไม่นานนักก็ทรุดโทรมและขาดกการดูแล
ถูกปล่อยทิ้งร้างอย่างน่าเสียดายครับ

ขอนำภาพที่ตัดส่วนจากภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหารปี2517 ที่เห็นสระบนยอดเขาน้อยมาให้ชมครับ

เอ๋..หาดใหญ่

สมัยนั้นสนามเทนนิสก็สร้างเสร็จแล้วแสดงว่าสร้างมานานแล้วเหมือนกัน

เขยบ่อยาง

ขออภัยอีกรอบ เพิ่งไปมาเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว(13ส.ค.)นึกขึ้นได้เลยขับรถขึ้นไปดู มีการพัฒนาไปพอสมควรแล้วครับ ทางขึ้นเขาฝั่งซ้ายเขาเสริมเครื่องออกกำลังกาย ตั้งกลางหมู่แมกไม้นั่นแหละ คลาสสิคดีได้บรรยากาศดีครับ แต่ไม่แนะนำให้ไปเดี่ยวๆ ควรขึ้นไปเป็นกลุ่มจะดีกว่า บ้านเมืองทุกวันนี้มีโจรอยู่ทุกตารางนิ้ว เผลอไม่ได้

หม่องวิน มอไซ

พอเขาตังกวนมีลิฟต์ ขึ้นลงสะดวก เขาน้อยก็ยิ่งหมดความหมายไป น่าเสียดายจริง ๆ
คิดถึงความหลัง สมัยนั่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนมหาฯ
จำได้ว่ามีหนุ่มสาวขึ้นไปนั่งจู๋จี๋กันอยู่บนนั้น
พวกเราที่นั่งเรียนกันอยู่ ลุกกันทั้งห้องไปมุงดูกันที่หน้าต่างห้องเรียนหมดเลย  ;)

องค์หญิง

เคยไปเล่นน้ำ ในสระด้านบน เขาน้อยด้วยค่ะ  .. สมัยปี 2535 เทคโน ราชมงคล รุ่นพี่เคยพาไปรับน้อง ที่บนเขาน้อยค่ะ..เล่นน้ำในสระได้สบาย  น้ำสะอาดค่ะ..ตอนนี้ไม่ได้ไปเลยค่ะ ทั้งที่ อยู่ในเมืองสงขลาแท้ ๆ

องค์หญิง

ถามหน่อยค่ะ รร.ทุบตอนไหนคะ เพราะเท่าที่จำได้ มีแต่สโมสร ที่เป็นร้านอาหาร แล้วก็สนุกเกอร์ ตอนนั้น ยังเด็กเลย ประมาณปี 2528 ได้

Singoraman

สมัย อ.หม่องวิน เห็นหนุ่มสาว จู๋จี๋กัน โชคดีจัง
สมัยผมเรียน มหาฯ เจอศพเขาปาดคอกัน
บรรดาทะโมนมหาฯ ทั้งหลาย ก็เฮกันขึ้นไปดู
ผมคนนึงด้วยที่เฮไปกับเขา แล้วกลับมานั่งอกสั่นขวัญแขวนไปหลายวัน
ประมาณ พ.ศ. 2519

หม่องวิน มอไซ

ฟังอาจารย์ Singoraman แล้วน่ากลัวจังครับ สงขลาในยุคนั้น
ผมว่าสงขลาช่วง 2525-2530 นี่ น่าจะเป็นช่วงที่บรรยากาศการท่องเที่ยวสงขลาดีมากครับ
ทะเลยังสวย ไม่มีปัญหาน้ำกัดเซาะ เขาน้อย เขาตังกวนยังปลอดภัย ไม่น่ากลัว

ปลาบุหลุ๊ด

ผมเจอเรื่องเหมือนกับ คุณหม่องวิน มอไซ ครับ   สมัยผมเรียนที่ มว. นั่งเรียนคาบบ่ายอยู่ดีๆ  จู่ๆ มีเพื่อนตาไว ชี้ให้ดูหนุ่มสาว ใส่เสื้อแดง กำลังเดินอยู่ท่ามกลางแมกไม้ เมฆครึ้ม อากาศเย็นสดชื่น บนเขาน้อย ต่างพากันฮาเฮ โฮ่หิ้ว ชี้ชวน มาดูกันใหญ่ แหลงกันสนุก ครูผู้หญิงที่สอนอยู่ ก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย  เรียกว่า ถ้าเห็นคนเดินเป็นคู่ๆ ที่เขาน้อย เมื่อไหร่  จะกลายเป็นเรื่องตลกปนทะลึ่งทุกที 

หม่องวิน มอไซ

ดีใจครับที่มีคุณปลาบุหลุ๊ดเป็นพยานมารับรองว่ามีเรื่องแบบนี้จริง ๆ ครับ  O0

หม่องวิน มอไซ

ที่ตั้งของโรงแรมเขาน้อยนั้น มองเห็นได้ในภาพถ่ายทางอากาศยุค ๒๔๘๐ ครับ
(คาดว่าน่าจะถ่ายราวปี ๒๔๘๖)


หม่องวิน มอไซ

เทียบกับตำแหน่งปัจจุบันก็อยู่ตรงนี้ครับ ไม่น่าจะมีซากใด ๆ เหลือแล้ว เพราะในภาพถ่ายทางอากาศปี ๒๕๑๗ ก็มองไม่เห็นอาคารหลังนี้แล้ว




ป้อม 2

อ้างจาก: หม่องวิน มอไซ เมื่อ 13:54 น.  20 ส.ค 53
ฟังอาจารย์ Singoraman แล้วน่ากลัวจังครับ สงขลาในยุคนั้น
ผมว่าสงขลาช่วง 2525-2530 นี่ น่าจะเป็นช่วงที่บรรยากาศการท่องเที่ยวสงขลาดีมากครับ
ทะเลยังสวย ไม่มีปัญหาน้ำกัดเซาะ เขาน้อย เขาตังกวนยังปลอดภัย ไม่น่ากลัว
มียิงเป้าด้วยครับ....แถวสนามติณฯ(ตอนนั้นยังไม่มี) ใช้เป็นที่จัด"งานแหลม"

ชิงช้าสวรรค์ "ยืนยงค์พานิชย์"...........ไก่ย่าง"จีรพันธุ์"ฯลฯ

วัวชน ส.ว.

เมื่ิอก่อนจะมีซากเสาคอนกรีตหลายเสาอยู่สูงถัดไปด้านหลังสระน้ำ

วัวชน ส.ว.

น่าจะอยู่ตรงที่ตั้งอนุสาวรีย์กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์