ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มาอ่านกันเพลิน ๆ..อิฮิ

เริ่มโดย ฟานดี้, 15:13 น. 11 มี.ค 54

ฟานดี้

เมื่อตอนอายุ 5 ปี ..
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอเอียงคอน้อยๆ ..
กระพริบตา-อันกลมโตของเธอ ..
แล้วถามฉันว่า ...
"หมายความว่า..อะไรหรือ?"

----------

เมื่อตอนอายุ 15 ปี
ฉันบอกว่า...ฉันรักเธอ
เธอหน้าแดงก่ำ ..ก้มหน้า-เล่นชายเสื้อเธอเอง
รู้สึกว่า..เธอกำลังยิ้มอยู่

----------


เมื่อตอนอายุ 20 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอซบลงบนไหล่ฉัน ..กอดแขนฉันไว้แน่น
ราวกับกลัวว่า...ฉันจะหายจากไป..ต่อหน้าเธอ

----------

เมื่อตอนอายุ 25 ปี
ฉันบอกว่า...ฉันรักเธอ
เธอวางอาหารเช้าไว้บนโต๊ะ ..
แล้วเดินมาดึงจมูกฉัน...พร้อมกับพูดว่า...
"รู้แล้ว! ตื่นขึ้นมาได้แล้ว ..จะนอนไปถึงไหน?"

----------

เมื่อตอนอายุ 30 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอหัวเราะ..แล้วพูดว่า
"ถ้าเธอรักฉันจริงๆ ..เลิกงานแล้ว..ก็อย่าเถลไถลไปที่อื่นสิ
แล้วก็..อย่าลืมซื้อกับข้าวมานะ!"

----------

เมื่อตอนอายุ 40 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอเก็บจานชามบนโต๊ะไปล้าง...พร้อมกับพูดว่า
"รู้แล้ว.. รู้แล้ว...รีบๆไปสอนการบ้านให้ลูกไป!"

----------

เมื่อตอนอายุ 50 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอนั่งถักเสื้ออยู่ ..แล้วพูดกับฉัน..โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
"จริงหรือ? ในใจเธอ..ไม่ใช่คิดอยากจะให้ฉันตายเร็วๆรึไง?"
แล้ว..เธอก็หัวเราะไม่หยุด

----------

เมื่อตอนอายุ 60 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอหัวเราะ-พลางทุบไหล่ฉัน
"ตาบ้า! ลูกๆก็โตกันหมดแล้ว.. ยังจะมาทำปากหวานอีก!"

----------

เมื่อตอนอายุ 70 ปี

เรา..นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว ..ทบทวนจดหมายรัก...
ที่ฉันเขียนให้เธอ...เมื่อ 50 ปีก่อน..ด้วยกัน
มืออันเหี่ยวย่น-ของเราสองคน..ก็จับกันไว้ตลอด
เมื่อฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอมองหน้าฉัน-แล้วยิ้มให้
ถึงแม้ใบหน้าเธอ..จะเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น
แต่..เธอก็คงยังแลดูสวยงาม..เสมอ

----------

เมื่อตอนอายุ 80 ปี
เธอบอกว่า..เธอรักฉัน
แต่..ฉันไม่ได้พูดอะไร-สักคำ
เพราะว่า..ฉันร้องไห้ออกมา
นี่..เป็นวันที่ฉันมีความสุข..มากที่สุดในชีวิต
เพราะว่า..
ในที่สุด..เธอก็ยอมพูดออกมาว่า..
"ฉัน รัก เธอ"

-----------------------------------------------------------------------------


ซึ้งๆเรื่อง 2

มีชายหนุ่มไฟแรง ที่มุมานะทำงานอย่างมุ่งมั่น

เขามีความฝันจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับแฟนสาว

เธอจะมารอ..ที่หน้าประตูบ้าน..ของเขา หลังจากที่เขาเลิกงาน

เขาพบเธอ..ก็ยิ้มแย้ม ..ยินดีต้อนรับ.. สนทนากัน..แล้วเธอก็กลับไป

วันนี้เขากลับถึงบ้าน ช้ากว่าปกติมาก

แต่แปลกที่ยังเห็นเธอยืนรอที่หน้าบ้านเขา.. เช่นทุกวัน

"โทษทีนะที่รัก วันนี้มีงานด่วน เลยกลับมาช้าไปหน่อย"

เธอยังยิ้มให้เขา "คุณทำงานจนมีรถ มีบ้านอย่างที่ตั้งใจแล้ว

ทำไมยังทำงานหนักอีกล่ะ?"

"ผมอยากมีบ้านที่มีบริเวณมากกว่านี้ มีรถที่ดูโอ่อ่ามากกว่านี้

..เพื่อคุณนะจ๊ะ"

เวลาผ่านไป 1 ปี

หญิงสาวมาหาเขาบ้าง ไม่มาบ้าง แต่เขาไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องอย่างนี้
วันหนึ่งเธอเอ่ยถามเขา

"คุณมีเงินมากพอจะซื้อบ้านหลังใหญ่รึยัง?"

"ขอเวลาอีกสักหน่อย ผมอยากซื้อแหวนวงใหม่ มาเปลี่ยนให้คุณด้วย"

เขาจุมพิตมือที่สวมแหวนทองวงเล็กเบาๆ

"ฉันบอกหรือว่า ฉันอยากได้แหวนวงใหม่?"

"ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ...ที่รัก"

3 เดือนแล้ว..ที่เขาไม่เห็นเธอที่หน้าประตูบ้าน วันนี้เขามีบ้านหลังใหญ่

เขาจึงตัดสินใจลางาน 1 วัน เพื่อไปหาเธอ เขาขับรถคันหรู ผ่านเส้นทางที่ขรุขระอย่างยากลำบาก

'เธอต้องใช้ทางเส้นนี้มาหาเราทุกวันเหรอเนี่ย?' เขารำพึง

เมื่อมาถึง แม่ของเธอออกมาต้อนรับและมอบกล่องไม้ใบหนึ่งให้เขา

และบอกเส้นทางที่เป็นสถานที่ ที่เธออยู่ ที่ซึ่งเขาจะพบเธอได้

เนินเขาเล็ก ๆ รายล้อมไปด้วยดอกไม้ มีแท่นหินสลักชื่อหญิงสาว
ตั้งอยู่กลางเนิน

น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินออกมา มือสั่นเทาของเขา เปิดกล่องไม้อย่างช้า ๆ

ข้างในกล่องอัดแน่นไปด้วยกระดาษแผ่นเล็ก ๆ

เขาเริ่มอ่านข้อความ..ทีละใบ...ทีละใบ....

"วันนี้ ..คุณกลับมาช้า ..ฉันรอ 2 ชั่วโมง ..ไม่เป็นไร ..ฉันรักคุณ"

"วันนี้ฝนตก ..ฉันยังรอ ..แต่ไม่เจอคุณ.. ไม่เป็นไร ..แต่ฉันยังรักคุณ"

"ฉันเริ่มป่วย.. จนไปหาคุณไม่ได้ ..คุณคงไม่ทันได้สังเกต.. ไม่เป็นไร..
แต่ฉันยังรักคุณ"

"วันนี้ ..คุณบอกจะเปลี่ยนแหวนวงใหม่..

คุณคงลืมว่า..ฉันตอบตกลง..จะแต่งงานกับคุณ ..เพราะแหวนวงนี้
แต่ไม่เป็นไร..ฉันยังรักคุณ"

ชายหนุ่มได้เรียนรู้แล้วว่า บางทีสิ่งที่เขาไขว่คว้ามาตลอดชีวิต

อาจเทียบไม่ได้กับสิ่งเล็กน้อย ที่เขาเคยได้รับ จนเป็นเรื่องปกติของทุกวัน

รถคันหรูแล่นไกลออกไป เหลือไว้เพียงกล่องแหวนเพชร ราคาแพง หน้าหลุมศพ

ที่ดูไม่เหลือค่าอะไร ..สำหรับเขา..อีกต่อไป

"ผมมีบ้านหลังใหญ่..แต่คงกว้างไป สำหรับการที่จะต้องอยู่คนเดียว
ผมมีรถราคาแพง

แต่ไม่รู้จะขับไปรับใคร ให้มานั่งเคียงคู่ ..เพื่อไปที่ไหน ๆด้วยกัน

ผมมีเวลาอยู่กับงานครึ่งชีวิต แต่ไม่เคยมีเวลา ที่จะได้อยู่กับคนที่..ผมรัก

ตอนนี้ผมมีเงินมากมาย แต่ไม่อาจซื้อเวลาเพียง 1 นาที ที่จะบอกว่า 'รักเธอ'..

ผมมีทุกอย่างเพียบพร้อมตามที่ผมฝัน แต่ขาดส่วนที่สำคัญที่สุด ..

ที่อยากให้ย้อนกลับมา..จะได้ไหม?"

----------------------------------------------------
เรื่องฮาๆ บ้างละกัน 6เรื่องติด

ช่างซ่อมทีวี

เด็กจอมแก่นถามช่างซึ่งกำลังซ่อมเครื่องซักผ้าที่บ้าน

เด็กน้อย : น้าเป็นช่างซ่อมทีวีใช่ไหมครับ ?

ช่าง : ไม่ใช่หนู น้าเป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้า

เด็กน้อย : ไม่ใช่ น้าเป็นช่างซ่อมทีวีต่างหาก

ช่าง : ไม่ใช่หนู น้าเป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้า

เด็กน้อยกระทืบเท้าเร่าๆ ปากก็ร้องว่า

น้าเป็นช่างซ่อมทีวี!..น้าเป็นช่างซ่อมทีวี!

ช่างซ่อมเครื่องซักผ้า มองเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู ในความไร้เดียงสา

จึงบอกเด็กน้อยไปว่า? โอเคจ้ะ โอเค น้าเป็นช่างซ่อมทีวี

เด็กน้อยหยุดร้อง แล้วยืนเท้าสะเอว ก่อนถามด้วยสีหน้ากวนสุดชีวิตว่า
แล้วน้ามายุ่งอะไรกับเครื่องซักผ้า!



เงินทอน

มีชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ที่ชานชาลาของรถไฟ

ที่กำลังจะออกอีกไม่กี่นาทีนี้

ชายคนนี้เกิดรู้สึกหิวขึ้นมา จึงหันหน้าเพื่อที่จะหาอะไรกิน

และแล้วสายตาของเขาก็ไปพบกับ

รถเข็นขายซาลาเปาอยู่ไกลๆ

จะลงไปซื้อเองก็กลัวรถไฟจะออกก่อน

และเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้ชาย

กำลังเดินเล่นอยู่แถวนั้น ก็เลยควักมือเรียกเด็กคนนั้นมา

และก็บอกว่ากับเด็กว่า นี่ไอ้หนูเอ็งวิ่งไปซื้อ

ซาลาเปาให้น้าหน่อยซิ เดี๋ยวน้าจะแบ่งซาลาเปาให้เอ็งลูกหนึ่ง

พร้อมกับยื่นเงิน 20 บาทให้เด็กไป

เมื่อเด็กเดินกลับมาพร้อมกับซาลาเปา 1 ลูก ที่ถูกกินไปแล้ว

เด็กคนนั้นยื่นเงินทอนให้ชายคนนั้นพร้อมกับพูดว่า

เด็กชาย น้าซาลาเปามันเหลือแค่ลูกเดียวเอง งั้นน้าเอาเงินทอนไปนะ



กี่เปอร์เซ็นต์

วันหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูท่าทางแล้วเป็นคนมีการศึกษาดี

ได้ไปว่าจ้างคนพายเรือให้ไปส่งที่เกาะแห่งหนึ่ง

ระหว่างทางชายหนุ่มได้ถามคนขับเรือว่า

ลุง รู้จักอินเตอร์เน็ตไหม ชายขับเรือได้ตอบว่า

โอ๊ยพ่อหนุ่ม ลุงไม่รู้จักหรอกไอ้เน็ตๆน่ะ

ชายหนุ่มจึงพูดว่า ลุงรู้มั๊ย ในโลกแห่งการแข่งขันทุกวันนี้น่ะ ถ้าลุงไม่รู้จัก

อินเตอร์เน็ต ลุงน่ะเหมือนตายไป 60% แล้วล่ะ

ลุงนิ่งอึ้ง ไม่พูดอะไร

สักพักชายหนุ่มถามต่อว่า แล้วคอมพิวเตอร์น่ะ ลุง รู้จักมั๊ย

คนขับเรือจึงตอบว่า ลุงก็ไม่ รู้จักอีกนั่นแหละคอมพิวเตอร์น่ะ

ชายหนุ่มจึงบอกว่า ลุงรู้มั๊ย ในโลกแห่งการแข่งขันทุกวันนี้น่ะ ถ้าลุงไม่รู้จัก

คอมพิวเตอร์ ลุงน่ะเหมือนตายไป 80% แล้วล่ะ

ลุงนิ่งอึ้งเป็นครั้งที่สอง

สักครู่หนึ่งก็มีลมพายุบริเวณที่เรือลอยน้ำอยู่

ลุงจึงถามชายหนุ่มกลับไปว่า แล้วเอ็งน่ะว่ายน้ำเป็นรึเปล่า

ชายหนุ่มตอบว่า ไม่เป็นหรอกลุง

คราวนี้ลุงแสยะยิ้มพร้อมกล่าวว่า เอ็งรู้มั๊ย ในโลกแห่งการเอาตัวรอดวันนี้น่ะ

การที่เอ็งว่ายน้ำไม่เป็นเนี่ย

เอ็งตายแน่ 100% เพราะเรือข้ากำลังจะล่มว่ะ 5 5 5 !!!!!!!!!!!!