ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เด็ก 30 คนกับการรอคอยที่เงียบงัน หลังเกิดสึนามิ

เริ่มโดย เสาร์ซ่า, 11:29 น. 19 มี.ค 54

เสาร์ซ่า

          8 วันแล้วที่ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิได้เกิดขึ้น กวาดล้างสิ่งก่อสร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้กองทับถมกันเป็นกองขยะมหึมาในหลาย พื้นที่ จนสร้างความเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้ในญี่ปุ่น จนถึงวันนี้ น้ำตาของผู้ประสบภัยที่ต้องสูญเสียทั้งทรัพย์สินและคนที่รักไป ยังคงไหลรินอย่างไม่รู้เมื่อไรจะเหือดแห้ง ขณะที่การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไรก็ตาม

          แต่ท่ามกลางการปฏิบัติภารกิจที่ดูแสนจะวุ่นวายของกลุ่มคนสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเร่งค้นหาผู้สูญหายอย่างสุดกำลังความสามารถ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังเร่งกู้วิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ให้สาร กัมมันตรังสีรั่วไหลสู่บรรยากาศ ใครจะรู้บ้างว่า ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง กำลังนั่งรอคอยการกลับมาของคนที่ตัวเองรักอย่างเงียบงันและเข้มแข็ง อยู่ในมุมเล็ก ๆ ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องไห้ หรือการร้องเรียกหาคนที่ตัวเองรักเลยแม้แต่น้อย

          และคนกลุ่มนี้ คือ เด็ก ๆ วัย 8-12 ขวบ กว่า 30 คน ในโรงเรียนประถมศึกษาคามะ เมืองอิชิโนะมากิ ที่ยังคงเฝ้ารอคอยการกลับมาของพ่อและแม่ อยู่ในห้องเรียนเล็ก ๆ บนชั้น 4 ของโรงเรียนมากว่า 5 วันแล้ว แม้ว่าความหวังจะดูริบหรี่ลงเรื่อย ๆ แต่เด็ก ๆ ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาคอยโดยไร้ซึ่งน้ำตาแห่งความสูญเสียใด ๆ พวกเขารอคอยพ่อแม่อย่างเข้มแข็ง โดยทำกิจกรรมฆ่าเวลาไปพลาง ๆ อย่างเช่น การอ่านหนังสือ หรือไม่ก็เล่นเกมการ์ดกับเพื่อน ๆ และครูที่คอยดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด โดยครูที่นี่ จะคอยกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถามไถ่หรือยุ่งย่ามกับเด็ก ๆ โดยเด็ดขาด เพราะกลัวว่าจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจของเด็ก ๆ ให้รู้สึกแย่และหวาดกลัวกับเหตุการณ์ดังกล่าวมากขึ้น

          มาซามิ โฮชิ ครูพละประจำโรงเรียนประถมศึกษาคามะ ผู้ดูแลเด็ก ๆ ที่รอดชีวิตที่นี่ เปิดเผยถึงเหตุการณ์สุดสลดนี้ว่า ในช่วงที่คลื่นยักษ์สึนามิได้ซัดมานั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ปกครองกำลังทยอยมารับเด็ก ๆ กลับบ้านพอดี ซึ่งแน่นอนว่าผู้ปกครองของเด็ก ๆ กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางมารับลูก ๆ กลับบ้าน หรือบางคนอาจจะกำลังจอดรถในโรงเรียนและวิ่งมารับลูกแล้วด้วยซ้ำ แต่เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่เขาจะได้พบหน้าลูก พวกเขาก็ถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดไปก่อนและสูญหายไปอย่างไม่รู้ชะตากรรม ปล่อยให้เด็ก ๆ รอคอยอยู่ในห้องเรียนห้องเดิมจนถึงวันนี้

         และแม้ว่าเด็กทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความร้ายแรงของภัยพิบัติครั้งนี้ที่ทำลาย ล้างทุก ๆ สิ่งให้พังพินาศอย่างไร หลังจากเหตุการณ์สงบลงก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ หรือร่ำไห้เรียกร้องหาพ่อแม่ของตัวเองเลยสักคน แต่ทว่าแววตาของเด็ก ๆ กลับเศร้าสร้อย ทุกคนรอคอยอยู่อย่างเงียบงัน ราวกับเข้าใจตรงกันแล้วว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้พวกเขาไม่ได้พบกับพ่อแม่อีกเลยก็เป็นได้ แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังคงมีความหวัง รอปาฏิหาริย์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากทุก ๆ อย่างเข้าสู่ภาวะปกติ

         จากเหตุการณ์สึนามิพัดถล่มหลายเมืองในญี่ปุ่น เมืองอิชิโนะมากิที่เคยมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 160,000 คน ก็กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเศร้าสลด เมื่อประชากร 425 คนถูกยืนยันว่าเสียชีวิต ขณะที่ประขากรกว่า 10,000 คนรวมถึงผู้ปกครองของเด็ก ๆ ทั้ง 30 คน ถูกระบุเป็นผู้สูญหาย แถมยังมีการคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตในเมืองนี้ถึง 25,000 คน ซึ่งแน่นอนว่า การรอคอยของเด็ก ๆ เหล่านี้ อาจกลายเป็นการรอคอยที่ว่างเปล่าในที่สุด และยิ่งเวลาผ่านไปหลายวัน ดูเหมือนจะยิ่งหมดความหวัง

        และในขณะที่เด็ก ๆ ทั้ง 30 คนกำลังรอคอยการกลับมา และรอฟังคำตอบเกี่ยวกับครอบครัวของพวกเขา ในอีกมุมหนึ่งของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบนั้น คุณปู่คัตสึชิโร่ ฮามาดะ วัย 79 ปี ก็กำลังเผชิญชะตากรรมที่ไม่ต่างอะไรกัน เขาออกตามหาหลานสาววัย 14 ปี และหลานชายวัย 10 ปี อย่างมีความหวัง พร้อมทั้งกอดอัลบั้มรูปของหลานทั้งสองไว้ในอ้อมอก หวังจะได้ยินข่าวดีหลังจากเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เหมือนที่ผู้สูญเสียหลายคนก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้น

         ส่วนทางด้าน โมโกโตะ หนึ่งในผู้รอดชีวิตที่อาศัยอยู่ในสถานที่ลี้ภัยฉุกเฉิน ก็เฝ้ารอคอยข่าวคราวของลูกสาว และหวังอย่างเต็มหัวใจว่า ลูกสาวของเธอจะต้องปลอดภัย ไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะต้องได้พบกับลูกสาวของเธออีกครั้ง

         "ฉันเป็นห่วงลูกสาวของเธอมาก ๆ ในตอนนี้ แต่ฉันไม่อาจรู้ได้เลยว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หรือเธอจะคิดว่าฉันตายไปแล้วหรือเปล่า ฉันติดต่อเธอไม่ได้เลย และนี่ก็วันที่ห้าแล้ว ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมทางการยังมีการระบุรายชื่อผู้รอดชีวิตให้ได้ติดต่อกับ ทางญาติ ๆ ออกมาเลย" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงหวั่นวิตก

          อย่างไรก็ดี นี่คงเป็นเพียงตัวอย่างของการสูญเสียและการเฝ้ารอในมุมเล็ก ๆ มุมหนึ่งเท่านั้น ยังมีผู้คนอีกนับล้านที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับผู้คนเหล่านี้ และยังคงเฝ้ารอการหวนคืนของบุคคลอันเป็นที่รักเช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อีกไม่นานพวกเขาคงจะได้รับรู้คำตอบเสียทีว่าบุคคลที่รักของพวกเขา เสียชีวิต หรือมีชะตากรรมอย่างไร ก็ได้แต่หวังแค่เพียงว่า ความวุ่นวายทุก ๆ อย่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงจะคลี่คลายลงในเร็ววัน เพื่อที่ผู้รอดชีวิตจะได้รู้ว่า พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างไรหลังจากความสูญเสียยิ่งใหญ่ในครั้งนี้


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม  http://kapook.com/
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก jma.go.jp