ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อาคารลึกลับ ที่ต้นถนนรามวิถี

เริ่มโดย หม่องวิน มอไซ, 14:25 น. 18 เม.ย 53

หม่องวิน มอไซ

จากภาพถ่ายทางอากาศ กรมแผนที่ทหาร โครงการ น.ส.3 ฟิล์มม้วนที่ 39 ภาพที่ 105 มาตราส่วน 1:15,000 ถ่ายเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2517
ตรวจพบอาคารลึกลับ อยู่บริเวณต้นถนนรามวิถี ในเขตเทศบาลเมืองสงขลา
อยู่ที่พิกัด 7°12'21.32"N,100°35'30.18"E

อาคารนี้ ผมได้ทำแรเงาสีน้ำเงินไว้
อยากทราบว่า เป็นอาคารของหน่วยงานใดครับ ?

หม่องวิน มอไซ

จากเวทีเสวนาภาพเก่าสงขลา ในงานถนนคนเดินสงขลาแต่แรก เมื่อคืนวันที่ ๑๐ เม.ย. ๒๕๕๓
โดยมี อ.วุฒิชัย เพ็ชรสุวรรณ (อ.ก้อย) เป็นผู้ดำเนินรายการ และคุณมาซาโอะ เซโตะเป็นแขกรับเชิญพิเศษ
ได้สนทนาเกี่ยวกับกงสุลญี่ปุ่นที่สงขลา ซึ่งมีภาพถ่ายลงพิมพ์ในหนังสือ ชีวิตของมาซาโอะ เซโตะ ผู้ถูกพ่อและญี่ปุ่นทอดทิ้ง เล่ม 2 หน้า 291
และท่านคนเขารูปช้างได้ตั้งคำถามว่าสถานกงสุลแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ใด
คุณมาซาโอะ เซโตะบอกรายละเอียดว่า อยู่ที่ถนนที่มีลิงเยอะ ๆ
แต่ก็ยังไม่ทราบพิกัดที่แน่ชัด

หม่องวิน มอไซ

เมื่อ อ.ก้อย ฉายภาพนี้ขึ้นบนจอ ผู้เข้าฟังการเสวนาท่านหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลว่า ลักษณะของอาคารกงสุลญี่ปุ่นในภาพ คล้ายกับโรงแรมแสนสำราญ
ผมจึงค้นหาข้อมูลของโรงแรมแห่งนี้ พบรายละเอียดในหนังสือ นำเที่ยวสงขลา พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๐๔ บอกไว้ในหน้า ๒๘ ว่า

โรงแรมแสนสำราญ ตั้งอยู่เลขที่ ๒ ถนนรามวิถี โทรศัพท์ ๙๐
ลักษณะอาคาร ๒ ชั้น เป็นเรือนไม้หลังเดียว มีบริเวณสนามหญ้า
จำนวนห้องพักเดี่ยว ๙ ห้อง พักคู่ ๔ ห้อง รวม ๑๓ ห้อง
เตียงเดี่ยวราคา ๑๕-๒๐ บาท เตียงคู่ราคา ๔๐ บาท
ไม่มีห้องน้ำ-ส้วมในตัว

ทำให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาคารปริศนาในภาพถ่ายทางอากาศปี ๒๕๑๗ นี้ คือ โรงแรมแสนสำราญ

หม่องวิน มอไซ

ลองขยายภาพถ่ายทางอากาศ ปี ๒๕๑๗ ดู โดยหันทิศทางให้สอดคล้องกับภาพอาคารสถานกงสุลญี่ปุ่น
พบว่ารูปร่างหลังคาสอดคล้องกัน (บริเวณที่แรเงาสีน้ำเงิน)

นอกจากนี้ หน้าอาคารยังมีร่อยรอยกลม ๆ ที่สอดคล้องกับวงกลมที่ปลูกต้นศรนารายณ์ (อากาเว่) ในภาพถ่ายของคุณมาซาโอะอีกด้วยครับ


คนเขารูปช้าง

อจ. หม่องฯครับ ความเห็นผมคิดว่าใช่เลยครับ โรงแรมแสนสำราญ คือ อาคารกงศุลญี่ปุ่นในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อมองจากภาพถ่ายทางอากาศปี ๒๕๑๗ และภาพถ่ายจากหนังสือที่คุณ มาซาโอะ เซโตะ เขียน ลักษณะของหลังคาอาคารไม้เหมือนกันทุกอย่าง
ปีกอาคารทั้งทางเหนือและใต้ของจั่วหน้าสมมาตรกัน หน้าอาคารไม้สองชั้นของภาพในหนังสือมีลักษณะเป็นวงเวียนเล็กๆปลูกต้นไม้ตรงกลางวงเวียน

ในยุคที่คุณ มาซาโอะ โซเตะ ยังเด็กบริเวณนั้นคงเต็มไปด้วยต้นไม้จากบริเวณหน้าสถานกงศุลฯไปถึงเชิงเขาน้อยบริเวณถนนสุขุม มากกว่าในภาพทางอากาศปี ๒๕๑๗ ทำให้ฝูงลิงจากเขาน้อยออกหากินกระจายเป็นบริเวณกว้างกว่าในปัจจุบันนี้ และทางตะวันออกของโรงแรมแสนสำราญ คงยังไม่มีอาคารบ้านเรือนใดสูงกว่าอาคารไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่บนเนินที่ลาดสูงขึ้นไปยังเชิงเขาน้อย ทำให้มองเห็นไปถึงชายทะเลใกล้หาดสมิหลาได้

ส่วนที่เคยบอกว่ารถเมล์รอบเมืองวิ่งผ่านนั้น ผมจำผิดไปครับ จริงแล้วรถเมล์รอบเมืองวิ่งตามลูกศรสีส้มที่ผมลงไว้ในภาพทางอากาศที่ อจ.หม่องฯ นำมาให้ดู

พื้นที่ที่ อจ.หม่องฯ ลงแรเงาสีเหลืองไว้คือบ้านพักของกรมทางครับ  อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมแสนสำราญ และบริเณที่เคยเป็นร้านอาหารมัคร์
ขอแก้ไขใหม่ครับ (ตัวอาคารสถานีตรวจสอบเฝ้าฟังทางวิทยุนั้น อยู่ริมถนนสุขุม เชิงเขาน้อย ตรงข้ามสำนักงานกระทรวงวัฒนธรรมในปัจจุบัน ผมสับสนอีกแล้วขออภัยครับ ขอให้ลืมที่บอกไว้เดิม)

หม่องวิน มอไซ

ขอบคุณท่านคนเขารูปช้างครับ ที่จุดประกายกระทู้นี้และช่วยเสริมยืนยันข้อมูลครับ  ;D

น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่โรงแรมแสนสำราญกลายเป็นอดีตไปแล้ว และยังหาภาพถ่ายเก่ามายืนยันไม่ได้ครับ
จากการส่องดูภาพถ่ายทางอากาศโดยท่านคนเขารูปช้าง ภาพหมายเลข DSCF0015
ถ่ายเมื่อวันที่ ๕ ส.ค. ๒๕๕๑ พบว่าไม่มีร่องรอยให้เห็นอีกแล้วครับ

ตรงที่วงกลมสีน้ำเงินไว้ คือที่ตั้งของโรงแรมแสนสำราญในอดีต
ไม่ทราบว่ารื้อไปตั้งแต่เมื่อใด แต่ต้องหลัง พ.ศ. ๒๕๑๗ ครับ

ส่วนอาคารในวงกลมสีเหลืองยังอยู่ ลองเข้าไปสำรวจกันครับ

หม่องวิน มอไซ

ผมและทีมงาน (เรียกให้หรูไปอย่างนั้นเองครับ  ;D) มายืนอยู่ที่หัวถนนรามวิถี ในตอนสาย ๆ ของวันที่ ๑๑ เม.ย. ๕๓ ครับ
ตรงไปเป็นถนนสุขุม มองเห็นเขาตังกวน
ขวามือคือถนนไทรงาม

หม่องวิน มอไซ

ยืนอยู่ที่เดิม แล้วค่อย ๆ หันทวนเข็มนาฬิกาไปทางทิศตะวันตก
เห็นรถตุ๊กตุ๊กสีแดงมุ่งหน้าไปตามถนนไทรงาม (ส่วนที่เคยเป็นถนนกลันตันในอดีต)
รถซาเล้งสีน้ำเงินมาจากถนนสุขุม


หม่องวิน มอไซ

หันไปทางทิศตะวันตกแล้วครับ
ถนนที่เห็นคือถนนไทรงาม หรือในอดีตคือถนนกลันตันนั่นเอง
ซ้ายมือคือถนนรามวิถี
ตรงนี้เองคือ ต้นถนนรามวิถีอย่างแท้จริง
ผมเองก็เคยเข้าใจผิดมานานว่า ถนนรามวิถีเริ่มจากหอนาฬิกา
เพราะสร้างแข่งกับทางรถไฟในสมัย ร.๖ ครับ  ;D

เมื่อเงยหน้าขึ้นดูก็เห็นป้ายยืนยันอย่างชัดเจน

หม่องวิน มอไซ

หมุนต่อไปทางทิศใต้ มองตรงไปตามถนนรามวิถี
เห็นซุ้มประตูวัดแจ้งอยู่ไกล ๆ
ผมยืนอยู่ฝั่งตะวันออกของถนนรามวิถี ฝั่งเดียวกับโรงแรมแสนสำราญในอดีตครับ

ขวามือที่เห็นต้นไม้ร่มครึ้ม คือ ที่ตั้งของอาคารเก่าแก่ ที่ผมแรเงาสีเหลืองไว้นั่นเองครับ


หม่องวิน มอไซ

ฝั่งโรงแรมแสนสำราญ ปัจจุบันมีอาคารริมถนนรามวิถีหนาแน่น ไม่เห็นทางที่จะเข้าไปยังที่ตั้งโรงแรมในอดีตได้เลยครับ
หัวถนนเป็นร้านอาหาร ถัดมาทางทิศใต้เป็นโรงยิมฝึกเทควันโด


หม่องวิน มอไซ

สงสัยว่าทำไมโรงยิมเทควันโดเงียบเหงาผิดปกติ เข้าไปดูก็พบว่า...


หม่องวิน มอไซ

ประตูทางเข้าโรงแรมแสนสำราญในอดีต จะอยู่ตรงกับต้นหูกวางและต้นไม้ใหญ่รกทึบ ด้านทิศใต้ของโรงยิมเทควันโดนี่แหละครับ
ดูแล้วเป็นที่รกร้าง ไม่แน่ใจว่าเดินเข้าไปได้หรือไม่ แต่เนื่องจากไม่มีอาคารโรงแรมให้เห็นแล้ว
การเดินเข้าไปคงค่อนข้างอันตราย และเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล

ถัดไปทางด้านทิศใต้เป็นแบบนี้ครับ ทางเข้าโรงแรมแสนสำราญ อยู่ตรงขอบภาพด้านซ้ายครับ
(ลืมถ่ายภาพดงต้นไม้รก ๆ มาครับ)
เห็นโรงเรียนแจ้งวิทยาอยู่ไกล ๆ



หม่องวิน มอไซ

จากจุดที่ผมยืน มองย้อนกลับไปทางทิศเหนือ เห็นภาพแบบนี้ครับ
มีป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะสระบัว (SRA BUA PARK) ด้วยครับ

หม่องวิน มอไซ

ไหน ๆ ก็ไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปดูโรงแรมแสนสำราญได้อีกแล้ว
เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เข้าไปชมอาคารฝั่งตรงข้ามกันดีกว่าครับ

เข้ามาแล้วรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็น วังเวง
เอ๊ย เย็นสบาย ร่มรื่นครับ
เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังสงขลาเมื่อ ๖๐ ปีที่แล้ว  :D

หม่องวิน มอไซ

อาคารยังคงความสวยงามทางสถาปัตยกรรม
น่าเสียดายที่กระเบื้องมุงหลังคาเป็นกระเบื้องลอนสมัยใหม่ ไม่ใช่กระเบื้องว่าว (กระเบื้องเกาะยอ) ครับ


หม่องวิน มอไซ

มองด้านฝั่งเหนือของอาคารครับ

หม่องวิน มอไซ

พยายามอ่านป้ายที่ติดไว้กับตัวอาคาร แต่อ่านออกไม่สมบูรณ์ครับ
วันนั้นอ่านออกหมดแล้ว พอถ่ายภาพมา กลับอ่านไม่ออกครับ
ได้เพียง บ้านพัก....ช่างแขวงการทางสงขลา  :-[

หม่องวิน มอไซ

สำหรับรั้วด้านนอก ขณะนี้กำลังก่อสร้าง ตามประกาศฉบับนี้ครับ


หม่องวิน มอไซ

บริเวณบันไดทางขึ้น พบว่ายังรักษาความเก่าแก่ไว้ น่าสนใจเป็นพิเศษครับ


หม่องวิน มอไซ

บันไดคอนกรีต เก่าคร่ำคร่า มีตะไคร่น้ำจับ


หม่องวิน มอไซ

พื้นปูด้วยกระเบื้องดินเผา ที่หาดูได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ