..ขบวนแห่ศพชาวจีนในเมืองสงขลา..

[Big MaHad]

วันนี้มีโอกาสดี เพื่อนของผมได้ไปขุดกรุสมบัติที่บ้านมาให้ดูครับ ซึ่งก็รบเร้ามานานนแล้วในที่สุดก็ได้ดูสะที
ตอนได้รับภาพชุดนี้มาดูขนลุกซู่เลยครับ เพราะเชื่อได้เลยว่าไม่เคยผ่านตาท่านใดมาก่อน เป็นขบวนแห่ศพอากงของเพื่อนครับ ซึ่งเพื่อนก็ไม่ทราบข้อมูลใดใดเลย เนื่องจากอากงเสียไปนานมากแล้ว ดังนั้นผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านทั้งหลายในเวบนี้ได้สั่งสมความรู้มามากพอที่จะมาช่วยกันหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ครับ

ภาพทุกภาพเป็นของคุณเฮ่งอุ๊ยบุ๊ง ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

เริ่มที่ภาพที่ 1 ภาพนี้เห็นแว๊บแรก คิดถึงอาจารย์หม่อง ขึ้นมาทันที สังเกตได้ว่ามีรางรถไฟ ด้านหน้ากับตึกเก่าๆ พอทราบไหมครับว่าน่าจะอยู่ย่านไหน

[Big MaHad]

ขยายความเพิ่มจากภาพเมื่อสักครู่นี้ ตรงหัวมุมเริ่มเห็นป้ายบอกชื่อถนนแล้วครับแต่ยังอ่านไม่ชัดเจนและไม่ครบ มีขบวนสามล้อขบวนยาวแห่ เป็นทิวแถว

[Big MaHad]

มาถึงบางอ้อว่าชื่อถนนอะไรกับภาพนี้ครับ ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ช่วยส่องกันเลยทีเดียวซึ่งเห็นชัดเจนมาก ชื่อว่าถนนกำแพงเพชร์ ครับอยู่ส่วนไหนของเมืองสงขลา รบกวนท่านที่ชำนาญแผนที่ด้วยครับผม

[Big MaHad]

ภาพต่อมาผ่าน ธนาคารมณฑล จำกัด ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหน ยังมีอยู่ หรือกลายเป็นอะไรไปแล้วครับ

[Big MaHad]

ภาพต่อมา จากฉากหลังเห็นเป็นเขา ผมและเพื่อนสันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นถนนจะนะถ่ายลงไปทางทะเลสาบ ไม่ทราบว่าพอเป็นไปได้ไหมครับ และลักษณะของหัวรถด้านหลังเหมือนเลี้ยวออกมา จากหมู่อาคารตรงนั้น คิดกันเล่นๆว่า มีสมาคมจีนอะไรบ้างไหมครับที่จัดกันบริเวณนั้น

[Big MaHad]

มาถึงตรงนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาของภาพเหล่านี้ว่าถ่ายปีไหน เริ่มผุดเข้ามา แต่เพื่อนก็ไม่ทราบเลยจริงๆ ว่าอากงเสียปีไหน แต่จากข้อมูลแวดล้อมในป้ายด้านหลังอันนี้ ทำให้พอเดาคร่าวๆ ได้ครับว่าถ่ายในช่วงปีใด ป้ายข้างหลังผมส่องดุกับกล้องจุลทรรศน์(อีกแล้วครับท่าน)

เขียนไว้ว่า " ท่านมีเสมาพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่ระลึกในงานพระชนมายุครบ ๓ รอบแล้วหรือยัง"
จากข้อความโฆษณานี้ ทำให้ประมาณปีของภาพถ่ายนี้ได้คร่าวๆ ว่าน่าจะปี 2506 เนื่องจากครบ 3 รอบของในหลวงพอดี ถ้าเป็นตามที่ผมคิดไว้ ภาพนี้ก็ถ่ายมาแล้วประมาณ 47 ปีครับ เหตุผลที่ผมไม่กล้าฟันธงเรื่องปีลงไปนั้น เพราะว่า ป้ายโฆษณา บางครั้งจะติดตั้งไว้นาน อาจจะข้ามปีมา หรือติดตั้งไว้ก่อนหน้านี่ก็ได้ครับ

ความหน้าสนใจรายละเอียดอื่นๆก็คือ ภาพทหารด้านหน้านี้ ไม่ทราบว่าสังกัดทหารอะไรครับที่มีเครื่องแบบดังกล่าวนี้

[Big MaHad]

เอาหละครับ ขอลาด้วยภาพนี้ครับ เจอในกล่องใส่รูปถ่ายของเพื่อนเหมือนกัน classic มากๆ

ด้านหลังมาภาษามอญ หรือ พม่าด้วยผมไม่แน่ใจ
และระบุปีที่ผลิตว่าปี 2517

ภาพชุดนี้ของคุณเฮ่งอุ๊ยบุ๊ง ยังมีอีกมากครับ ประมาณ 50 - 60 ภาพ แล้วจะนำมาแสกนให้ชมเรื่อยๆนะครับ ตอนนี้ขอปั่นงานก่อน

[ลูกแมวตาดำๆ]

เห็นภาพแรกก็อ๋อทันทีเลยครับ อยู่ตรงทางแยก ถนนไทรบุรี ตัด ถนนกำแพงเพชร ย่านหน้าสวนเถ้าแก่ครับ

ใกล้ๆกับที่พบเคยพบหลักเขตต์รถไฟหลวงไงครับ

ในภาพมองไปทางถนนไทรบุรีไปทางเขาตังกวน ช่างภาพหันหลังให้ สวนเถ้าแก่ ขวามือ ไปคิวรถระโนด

ซ้ายมือ ไปท่าเรือรถไฟ หรือ สะพานเหล็ก ถนนนครนอก ครับ

พอจะทราบปี โดยประมาณ ของงานได้ไหมครับ เผื่อจะช่วงเวลาใกล้เคียงกับภาพมุมอื่น ครับ

ATSK3.jpg อาจจะเป็นภาพถนนแยกจากถนน วิเชียรชม บริเวณด้านข้างพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ครับ

อาจจะเป็นถนนรองเมือง เขาในภาพคือ เขาแดง ฝั่งสิงหนครครับ

ขอภาพแบบละเอียดส่งมาทางเมล wiriya_aek@hotmail.com ด้วยนะครับ เผื่อจะซูมหาจุดสังเกตได้

[ลูกแมวตาดำๆ]

ป้ายที่น่าสงสัย ซูมไปดูแล้ว เหมือนกับที่ทำการ ที่ราชการ อะไรซักแห่งครับ

เขาด้านหลัง ดูแล้วเขามีขนาดใหญ่ น่าจะเป็นเขาแดง

แล้วทางแยกนั้นในสงขลาทำไมกว้างมากขนาดนั้น

[ลูกแมวตาดำๆ]

พอจะวิเคราะห์ภาพดังกล่าวได้แล้วครับ ขบวนมากจาก ถนนไทรบุรี ผ่านส่วนเถ้าแก่

ทางแยกในปัจจุบันในภาพน่าจะเป็นแยก ธ.ทหารไทยครับ

แล้วทางด้านขวามือคือ ถนนรามวิถี ขบวนคงจะมุ่งหน้าออกเมืองสงขลาไปถนนไทรบุรี

เพื่อไปสุสานจีน ที่ บ้านสำโรง หลัง ม.ราชภัฎ ในปัจจุบันครับ

[คนเขารูปช้าง]

คุณลูกแมวตาดำๆ ครับความเห็นผมคิดว่า ๓ ภาพแรก เป็นบริเวณที่ผมลงภาพทางอากาศฯปี2517 สีเขียวคือตำแหน่งที่ยืนถ่าย
ลูกศรเขียวคือทิศทางที่ถ่ายครับ

[ลูกแมวตาดำๆ]

ใช่เลยครับ พี่คนเขารูปช้าง เพราะว่ามีทางรถไฟสองรางพาดกับถนน

ซึ่งจุดที่ผมบอกตอนแรก ต้องพ้นถนนมากแล้ว ถึงจะมีประแจแยกไปรางสองครับ

มายืนยันคำพูดพี่อีกอย่างครับ ภาพแรก บ้านหลังขวามือสุด บ้านหลังนั้นยังมีอยู่ครับ เคยไปรับคนป่วยบ้านนั้น

แต่มีจุดผิดสังเกตนิดหนึ่งว่าทำไหม รางรถไฟ อยู่ในระบบเดียวกับพื้นดิน

เพราะในปัจจุบัน รางรถไฟจะเป็นเนิน สูงกว่าระดับถนนครับ

[หม่องวิน มอไซ]

ภาพแรกมีทางรถไฟด้วย  :D
ขอบคุณมาก ๆ ครับที่นำมาให้ชมกัน
เห็นรางสองรางขนานกันและอยู่ใกล้ ๆ กันแบบนี้
อาจจะก่อนการสร้างท่าเรือรถไฟใหม่ที่ทำให้ต้องแก้รางให้โค้งเบี่ยงออกทางทิศใต้ก็ได้นะครับ
(ยังหาหลักฐานไม่พบว่าสร้างท่าเรือรถไฟใหม่ปีไหน)

ภาพทุกภาพ ถ่ายหลังปี 2505 อย่างแน่นอน
เพราะเห็นเสาอากาศทีวีครับ

เดิมรางทั้งสองจะขนานกันจนถึงชายทะเลแบบนี้ครับ

[คนเขารูปช้าง]

ครับคุณลูกแมวตาดำๆ ผมก็รู้สึกว่าถนนนครนอก ทั้งด้านเหนือและใต้ของทางรถไฟที่สะพานเหล็กในปัจจุบันนั้นต่ำกว่าระดับทางรถไฟ
มากกว่าทั้งสามภาพแรกในสมัยก่อนค่อนข้างมากครับ

ตรงส่วนกลางซ้ายสุดของภาพ ๒ ที่เห็นป้ายผ้าขาวๆ ของขบวนแห่ศพ ปัจจุบันมีการสร้างซุ้มประตูจำลองไว้

ส่วนธนาคารมณฑล นี่ผมพยามนึก ก็นึกไม่ออกครับว่าน่าจะเป็นบริเวณใดในปัจจุบันครับ

[คนเขารูปช้าง]

คุณ Big MaHad ครับธนาคารมณฑลนี่ผมพยายามนึกๆน่าจะเป็นบริเวณแยกที่ถนนนครในมาสุดทางบรรจบกับถนนนครนอก
ในปัจจุบันกลายเป็นธนาคารกสิกรไทยครับ
ส่วนที่เห็นต้นมะพร้าวและต้นไม้อื่นขึ้นมากน่าจะเป็นหน่วยบริการประชาชนของตำรวจในปัจจุบันครับ
ทางขวามือสุดของภาพน่าจะเป็น หัวมุมสนามมวยชั่วคราวของ หมอวิทยา ทรัพย์ปรุงครับปัจจุบันกลายเป็นธนาคารออมสิน
ต้องรอความเห็นจากท่านอื่นๆมาประกอบกันครับ

[ลูกแมวตาดำๆ]

เป็นไปได้ไหม รูปธนาคารมณฑล คือแยก ธ.ออมสิน ครับ ช่างภาพมองไปทางตลาดทรัพย์สิน

ที่ตั้ง ธนาคารมณฑล ในปัจจุบันคือ ธนาคาร กสิกรไทย สาขา นครใน ด้านขวาภาพคือ ธนาคาร ออมสิน

โดยขบวนจะตรงเข้าสู่ ถนนนครใน ครับ ใช่หรือไม่ครับ

ส่วน ธนาคารมณฑล ชื่อในปัจจุบันคือ ธนาคารกรุงไทย ครับ

[พี่]

เห็นด้วยกับท่านลูกแมว และท่านเขาช้าง
ภาพข้างบนคือ บริเวณแยกที่ถนนนครในมาสุดทางบรรจบกับถนนนครนอก
รถบรรทุกในภาพ อ่านว่า บริษัท แสงเสียงหวน จำกัด

[ลูกแมวตาดำๆ]

ที่มา http://www.thaibankmuseum.or.th/museum304.php

นอกจากนี้ผลของสงครามครั้งนี้ ยังทำให้สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ที่เป็นคู่สงครามของประเทศญี่ปุ่น ต้องปิดกิจการลง การที่บริการของธนาคารพาณิชย์ เกิดขาดหายไปอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดช่องว่างขึ้น จึงมีการตั้ง ธนาคารของชาวไทยขึ้น ดำเนินงานแทนหลายธนาคาร ได้แก่
# ธนาคารมณฑล จำกัด (พ.ศ. 2485)
# ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (พ.ศ. 2487)
# ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (พ.ศ. 2487)
# ธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัด (พ.ศ. 2488)
# และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (พ.ศ. 2488)

ที่มา http://www.krungthai-axa.co.th/th/about_us_KTB.asp

ครั้งแรกที่ธนาคารกรุงไทยเริ่มเปิด ดำเนินกิจการคือ  วันที่ 14 มีนาคม 2509  จากการควบรวม 2  ธนาคารที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนั้น  ได้แก่  ธนาคารเกษตร จำกัด และธนาคารมณฑล จำกัด แล้วก่อตั้งขึ้นเป็น "ธนาคารกรุงไทย จำกัด" 

ที่มา http://guru.sanook.com/enc_preview.php?id=1126&title=%BE%D1%B2%B9%D2%A1%D2%C3%B8%B9%D2%A4%D2%C3%BE%D2%B3%D4%AA%C2%EC%E3%B9%BB%C3%D0%E0%B7%C8%E4%B7%C2

ธนาคารมณฑล จำกัด เดิมชื่อบริษัท ธนาคารไทย จำกัด เปลี่ยนเป็นธนาคารมณฑลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘) แล้วใช้ชื่อว่าธนาคารกรุงไทย จำกัด เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๐๙

[คนเขารูปช้าง]

คุณ Big MaHad ครับ ส่วนรูปที่เห็นฉากหลังเป็นภูเขา และมองไปจากถนนจะนะไปทางทะเลสาบฯ
ผมเห็นว่าน่าจะใช่ตามความเห็นของคุณ Big MaHad และเพื่อนๆ โดยผู้ถ่ายอยู่เลยสี่แยกที่ถนนจะนะตัดกับถนนนครนอกไปทางทะเลสาบเล็กน้อยครับ เลยซ้ายสุดของภาพไปเล็กน้อยจะเป็นร้านหนังสือพิมพ์ หนังสือฯ บุญส่งในปัจุบัน

[คนเขารูปช้าง]

ป้ายที่น่าสงสัย ซูมไปดูแล้ว เหมือนกับที่ทำการ ที่ราชการ อะไรซักแห่งครับ

เขาด้านหลัง ดูแล้วเขามีขนาดใหญ่ น่าจะเป็นเขาแดง

แล้วทางแยกนั้นในสงขลาทำไมกว้างมากขนาดนั้น

ผมเห็นว่าแยกที่ว่ากว้างมากคือแยก "หลาลุงแสง" ครับ หรือเป็นแยกน้ำพุหอยสังข์ในเวลาต่อมา(บางท่านเรียกน้ำพุหอยทากครับ)
เทศบาลฯ ในยุคก่อนได้ริ้อออก(ไม่ทราบว่าเพราะต้องการพื้นผิวจราจรเพิ่มขึ้น หรือเพราะโดนวิจารณ์มาก ว่าหล่อตัวหอยไม่เหมือน
หอยสังข์ แต่คล้ายหอยทากมากกว่าครับ)
ผมเคยเห็นตัวหอยสังข์ไปตั้งทิ้งอยู่บริเวณบ้านพักปลัดเทศบาลฯ ถนนไชยา หลังโรงวรนารีเฉลิม อยู่ระยะหนึ่งก่อนหายไป

ส่วนป้ายที่ว่านั้นถ้าผมจำไม่ผิดคือป้ายบอกบริเวณพื้นที่ของโรงเหล้า (ใช่หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ) สงสัยต้องรอท่านอื่นๆออกความเห็นครับ
ซึ่งสนามกว้างหลังรั้วและป้ายนี้เป็นที่ปักเสาชักรอกนกเขาครับ ไม่ทราบว่าในปัจจุบันมีการนำนกเขามาประชันกันอีกหรือไม่

แยกนี้ปัจจุบันคือแยกหน้าธนาคารทหารไทยครับ ที่ถนนนครนอก ถนนรามวิถี มาบรรจบกับถนนไทรบุรีครับ โดยทั่วๆไป
คนสงขลายังเรียกบริเวณนี้ว่า "หลาลุงแสง" อยู่ครับ

[พี่]

ส่วนรูปนี้ ป้ายขนาดใหญ่ทางขวามือ ข้อความน่าจะทำนองว่า
"การประหยัด เป็นการสร้างอนาคต ไม่มีใครสร้างอนาคตได้ โดยไม่รู้จักประหยัด"
ซึ่งเป็นคำขวัญของรัฐบาลยุคก่อน

[คิคิ]

ดูแล้วได้อรรถรสจริงๆ ครับ สุดยอดๆๆๆ