ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ท่าแหลมทราย อยู่ที่ไหน

เริ่มโดย หม่องวิน มอไซ, 23:42 น. 01 ก.พ 53

พี่

ในส่วนของนิทรรศการที่จัดหน้าศาลเจ้ากวนอู บริเวณอาคารเก้าห้อง
นับว่าทีมงานทำได้ดีเยี่ยม มีภาพถ่ายทางอากาศเมืองสงขลา พ.ศ.2517 ขนาดใหญ่

ที่สำคัญคือป้ายไวนิล ภาพสถานีรถไฟสงขลา สมัยใช้ภาษาอังกฤษว่า SINGORA 
หลายคนเห็นเข้ารีบไปยืนถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก


หม่องวิน มอไซ

 ;D ;D :D

ประทับใจมากครับกับภาพนี้
กำลังตามล่าหาภาพถ่ายแบบชัด ๆ อยู่ครับ
ท่านใดมีไฟล์ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ภาพนี้แบบเต็ม ๆ แบบไวด์สกรีน เห็นถังน้ำอยู่ รบกวนขอบริจาคให้ผมด้วยครับ จักเป็นกุศลอย่างยิ่ง

พี่

จำนวนผู้ที่ร่วมชมภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองสงขลา เพิ่มมากขึ้นทุกคืน เรียกว่า แทบไม่มีเก้าอี้นั่งเหลือเลย
น่ายินดีที่ผู้ชมส่วนหนึ่ง เป็นหนุ่มสาว นิสิตนักศึกษา ให้ความสนใจ ไม่แพ้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นแฟนพันธุ์แท้อาจารย์ก้อย

หลายคนยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพที่ทรงคุณค่าและหายากไว้ เพราะภาพเหล่านี้ถ้าซื้อขายกันในตลาดมืด จะมีราคาสูงมาก

จึงอยากขอความอนุเคราะห์อาจารย์ก้อย คุณณัฏฐ์ ลุงพล อาจารย์จรัส อาจารย์มงคล อาจารย์เมธี ได้ประสานกับท่านนายกพีระ
จัดพิมพ์รูปภาพ และเรื่องราวเมืองสงขลา เผยแพร่ให้กว้างขวาง
เพราะลำพังหนังสือที่คุณเอนก นาวิกมูล รวบรวมไว้ ยังอยู่ในวงจำกัด เฉพาะชาวมหาวชิราวุธเท่านั้น และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ก็อาจไม่สะดวกเท่า

หม่องวิน มอไซ

ตัวอย่างที่ดีของหนังสือแบบที่ท่าน"พี่"เสนอแนะมาคือ
หนังสือ แลหลัง...เมืองตรัง ใต้ร่มพระบารมี ครับ
ซึ่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครตรังได้ริเริ่มจัดพิมพ์ เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๕๔๙

http://www.ryt9.com/s/bmnd/712086

มีภาพถ่ายที่มีคุณค่าหลายภาพ ชมได้ที่นี่ครับ

http://wich.clicktodesign.net/board/view.php?id=610

http://www.youtube.com/watch?v=6rEkez3Y-M0


หม่องวิน มอไซ

รูป

Singoraman

๑. ขอบคุณแทน อ.ก้อย และทีมงาน
๒. อ.เมธี   นามสกุล "ชาญเชาว์"  เป็นบุคลากรของ บ.เชฟรอน  เป็น "ลูกที่" ย่านเก้าห้อง
๓. นายกพีระ มีเจตนารมณ์ เช่นที่ "พี่"  ว่าไว้  และแนะนำให้ "ภาคีเครือข่ายคนรักเมืองสงขลา" ทำต้นฉบับ
๔. ขอบคุณจริง ๆ จากใจ สำหรับทุกท่านที่ติดตามกิจกรรมเสวนาภาพเก่าเล่าสงขลา
๕. เสียดาย "อ.หม่องวินฯ" มาแค่คืนเดียว และไม่มีโอกาสร่วมเสวนา

หม่องวิน มอไซ

ดีใจมากครับที่สมุดภาพเมืองสงขลา จะเริ่มเป็นจริงแล้ว
งานสงขลาแต่แรก ครั้งต่อไป ผมคงต้องเตรียมลางาน สะสางงานไว้ล่วงหน้าแล้วครับอาจารย์ Singoraman
จะได้ชมงาน ชมภาพถ่ายอย่างจุใจ

ลูกแมวตาดำๆ

น่าจะบริเวณนี้

หม่องวิน มอไซ

นี่แหละครับ ทางเทศบาลหรือ ททท. น่าจะทำป้ายบอกไว้ที่ริมถนนก็ได้ ว่าจุดนี้ ร.6 เคยเสด็จฯ มาเมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว

ลูกแมวตาดำๆ

อ้างจาก: หม่องวิน มอไซ เมื่อ 14:46 น.  27 ก.พ 53
นี่แหละครับ ทางเทศบาลหรือ ททท. น่าจะทำป้ายบอกไว้ที่ริมถนนก็ได้ ว่าจุดนี้ ร.6 เคยเสด็จฯ มาเมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว
เมื่อวานผมก็คุยกับพี่ฟาเรื่องนี้แหละครับ อ.เอก

ผมมีไอเดียว่าถ้าจำลองท่าเรือขึ้นมา รวมถึงจำลองสถานที่สำคัญๆ ต่างในสงขลาทั้งหมด

แล้วจัดงานใหญ่ ลักษณะ ย้อนยุคเมื่อสงขลา ในอดีตที่ผ่านมา อะไทำนองเนี่ยอ่ะครับ

วรชาติ

ในเมื่อมีข้อมูลเรื่องพลับพลารับเสด็จริมทะเล  และมีตำแหน่งที่ตั้งพลับพลานี้ด้วย  จึงพอจะอนุมานได้ว่า  พลับพลานั้นน่าจะเป็นพลับพลารับเสด็จคราวล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสเมืองสงขลา  ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคราวเสด็จฯ กลับจากประพาสชวา   พ.ศ. ๒๔๔๓  และเมื่อรัชกาลที่ ๖ เสด็จประพาสสงขลาเมื่อเดือนเมษายน ๒๔๕๔  ก็มีกล่าวถึงพลับพลานี้ในข่าวเสด็จพระราชดำเนินประพาสชายทะเลตะวันตกซึ่งลงในราชกิจจานุเบกษา  เมื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลแล้วน่าจะระบุที่ตั้งแหลมทรายนี้ได้ชัดเจนครับ

ขอถือโอกาสนี้ประชาสะทพันธ์ด้วยว่า ในปีนี้เป็นปีที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เสด็จขึ้นครองราชย์ครบ ๑๐๐ ปี  จึงมีการเตรียมการจัดเสวนาวิชาการเฉลิมพระเกียรติ  และมีกำหนดว่าจะยกทีมมาจัดเสวนากันที่โรงเรียนมหาวชิราวุธด้วย  สำหรับหัวข้อและกำหนดเวลาที่แน่นอนจะเรียนให้ทราบอีกครั้งครับ  และอาจจะต้องรบกวนเรียนเชิญสมาชิกในเวบนี้สัก ๑ หรือ ๒ ท่านเข้าร่วมในการเสวนาครั้งนี้ด้วยครับ

หม่องวิน มอไซ

ร.๖ เสด็จขึ้นครองราชย์ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ ใช่ไหมครับ

วรชาติ

ถูกต้องแล้วครับ

เมื่อรัชกาลที่๕ สวรรคต  รัชกาลที่ ๖ ก็ทรงรับรัชทายาทต่อทันทีครับ  เรื่องนี้ทรงพระราชบันทึกไว้ใน "ประวัติต้นรัชกาลที่ ๖" ว่า ในยุโรปเมื่อพระมหากษัตริย์สวรรคต  เขาจะประกาศว่า "The King Died 3 Long Live The King"  ซึ่งมีความหมายว่า พระมหากษัตริย์สวรรคตแล้ว  พระราช (พระองค์ใหม่) ทรงพระเจริญ

หม่องวิน มอไซ

ในหนังสือ พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้ากรุงสยาม (บางตอน) และพระราชนิพนธ์อันเป็นสุดที่รัก เรื่อง พระนล คำหลวง, หน้า 23


ระบุว่าดังนี้ครับ

เมื่อสมเด็จพระบรมชนกนาถเสด็จสวรรคตลงเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ทั้ง ๆ ที่พระองค์นั้นได้รับการสถาปนาตั้งไว้ในพระรัชทายาทสืบพระราชสันตติวงศ์มา ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๓๗ แต่ก็ทรงเศร้าสลด ไม่มีพระราชประสงค์ที่จะแลกสิริราชสมบัติสำหรับพระองค์เองกับการสูญเสียพระ ชนมชีพของสมเด็จพระบรมชนกนาถ จนกระทั่งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ซึ่งทรงเป็นทูลกระหม่อมอาแท้ ๆ ทูลเชิญเสด็จลงที่ห้องแป๊ะเต๋งบนชั้น ๒ พระที่นั่งอัมพรสถาน และท่ามกลางพระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดี ผู้ใหญ่ องคมนตรี และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ที่ชุมนุมอยู่ ทูลกระหม่อมอา ได้คุกพระชงฆ์ลงกับพื้นกราบถวายบังคมอัญเชิญเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมเด็จ เป็นพระเจ้าแผ่นดินสืบสนองพระองค์สมเด็จพระบรมชนกนาถ และทันใดทุกท่านที่ชุมนุมอยู่ที่นั้น ก็ได้คุกเข่าลงกราบถวายบังคมทั่วกัน