ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ชื่อบ้านนามเมือง II : สมิหลา

เริ่มโดย Big Beach, 14:58 น. 09 ม.ค 53

Big Beach

หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า คำว่า สมิหลา มีที่มาอย่างไร

บางท่านอาจจะเคยอ่านหนังสือชื่อบ้านนามเมือง ที่เกี่ยวกับภาคใต้มาบ้าง แต่นั่นเป็นการวิเคราะห์แบบนักภาษาศาสตร์

เราลองมาดูที่มาทางประวัติศาสตร์กันบ้างจะเป็นไรไป


จากพงศาวดารสงขลา ของเจ้าพระยาวิเชียรคิรีบุญสังข์

ได้กล่าวเอาไว้ว่า...


รุ่งขึ้น ณ วันอาทิตย์เดือนเก้าแรมแปดค่ำเพลาเช้า เจ้าคุณ ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาให้หลวงอนุรักษ์ภูเบศร์ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา แลนายกล่อมผู้ว่าราชการเมืองเทพา ยกเครืองเกาเหลาลงไป กับสำรับเจ้าจอมหม่อมข้างใน แลราชการที่อยู่ในเรือ พระที่นั้น ๒๐ สำรับพระนายศรีสรรเพธ ก็ยกเครื่องเกาเหลาเข้าไปถวาย ทรงเสวยแล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่นล่องบดลงไปทอดพระเนตร ศิลาเสร็จโลหมู่ แล้วเสด็จกลับมา


ในเอกสารพงศาวดารมีคำอธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ว่า...

เปนศิลาใต้น้ำ ศิลาแปรงหมู ฤๅ ศิลามมิหร่า ก็เรียก




ที่มาของภาพประกอบ : ส.ค.ส.เก่าของสงขลา
http://www.gimyong.com/webboard/index.php/topic,35931.0.html

Singoraman

ผมก็เคยได้ยินและพบเอกสารนี้
แต่ผมยังหาแนวเทียบไม่ได้ จึงยังงง ๆ อยู่
แม้ตอนเขียนบทความเรื่องนี้ผมก็ยังไม่กล้าอ้างถึง
ผมยังให้น้ำหนักไปที่ "แหลมศิลา" หรือ "แหลมหิน"
ที่หัวไทร มีหมู่บ้านหนึ่งชื่อ "ฉิมหลา" ลองพิจารณาดูคล้าย ๆ สิมหลา สมิหลา นะครับ
ผมสนใจคำนี้มาก ๆ มานานเนแล้ว
งานของพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระภัทรศีลสังวร และ อ.เยี่ยมยง ก็เคยพูดถึงที่มาของคำนี้ ใครค้นเจอก่อน
ช่วยนำมาแสดงหน่อยนะครับ

Big MaHad

ตามที่ผมหามานะครับ คำว่าสมิหรา สันนิษฐานว่า มาจากภาษาสันสกฤต (Samira) แปลประมาณว่า สายลมที่พัดพา ในช่วงหน้าร้อนครับ
จาก wiki นะครับ (http://en.wikipedia.org/wiki/Samira)

ขอตัดตอนและยกมาดังนี้ครับ
Samira comes from Sanskrit समीर Samīra, "gust of wind/a cool gentle breeze on a hot summer day",

ซึ่งก็สอดคล้องกับอีกแหล่งที่หามาเจอครับ ท่านขยายความไว้ว่า

สมิ..แปลว่า ..ลม ส่วน.หราแปลว่า..สดชื่น ดังนั้นหาดสมิหรา..คือ ชายหาดที่มีลมพัดมาสดชื่นใจ

แล้วอธิบายเพิ่มไปถึงคำว่ามโนราห์ ดังนี้ครับ
มโนห์รา  มาจาก  มนะแปลว่า  ใจ  หรา..แปลว่าสดชื่น    ดังนั้น มโนห์รา แปลได้ว่า แปลว่า..สิ่งทำใจให้สดชื่น

ที่มา (http://gotoknow.org/blog/kohyor/158079)

ซึ่ง ผมเห็นว่าความหมายดังกล่าวนี้น่าจะสอดคล้องกับภูมิทัศน์ของแหลมสมิหลา ที่เป็นชายหาดและมีลมโชยพัด

ท่านอื่นเห็นว่ายังไงมั่งครับ
อดีตคือรากฐานของปัจจุบัน...ปัจจุบันคือรากฐานของอนาคต

Singoraman

ดูเหมือนว่า ท่านเจ้าคุณฯภัทร์ และ อ.เยี่ยมยง  แสดงทัศนะนี้ไว้เป็นกลุ่มแรก
ในหนังสือ "รำลึกชาติได้" และ "คำที่เกี่ยวกับน้ำในภาษาถิ่นใต้"
ผมยังหาหนังสือไม่เจอ ไม่โร้อยู่ในลังไหน
ดับดีหนักแรง โหมหยิงเรา

หม่องวิน มอไซ

แล้วเอกสารที่เก่าที่สุดที่พบคำว่า "สมิหรา" หรือ "สมิหลา" คือ เอกสารฉบับไหนครับ

คำว่า ศิลามมิหร่า จากพงศาวดารของเจ้าพระยาวิเชียรคิรีบุญสัง ก็เก่าดี
แต่ทำไมชื่ออ่านออกเสียงยากอย่างนั้นล่ะครับ มาจากภาษาชวาหรือครับ

ส่วนถ้ามาจากภาษาสันสฤต คนใต้ได้รับอิทธิพลจากภาษาสันสฤตมากน้อยแค่ไหนครับ
มโนห์รา ชาวบ้านก็เรียก โนรา เฉย ๆ นี่นา
-----------
อย่าง หาดชลาทัศน์ อันนี้มาจากภาษาบาลีแน่ ๆ ถ้าไม่รีบหาข้อมูล บันทึกไว้ว่าใครเป็นผู้ตั้งชื่อ
อีกหน่อยก็หาประวัติกันไม่ได้อีกครับ

อย่างหาดกรงอิตำที่เทพา อยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนชื่อเป็นหาดสร้อยสวรรค์ ผมค้นหาเอกสารชั้นต้น ไม่เจอว่าเปลี่ยนชื่อตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นคนเปลี่ยน

ขอบคุณมาก ๆ ครับ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย

Big MaHad

อ้างจาก: หม่องวิน มอไซ เมื่อ 10:51 น.  11 ม.ค 53
แล้วเอกสารที่เก่าที่สุดที่พบคำว่า "สมิหรา" หรือ "สมิหลา" คือ เอกสารฉบับไหนครับ

คำว่า ศิลามมิหร่า จากพงศาวดารของเจ้าพระยาวิเชียรคิรีบุญสัง ก็เก่าดี
แต่ทำไมชื่ออ่านออกเสียงยากอย่างนั้นล่ะครับ มาจากภาษาชวาหรือครับ

ส่วนถ้ามาจากภาษาสันสฤต คนใต้ได้รับอิทธิพลจากภาษาสันสฤตมากน้อยแค่ไหนครับ
มโนห์รา ชาวบ้านก็เรียก โนรา เฉย ๆ นี่นา
-----------
อย่าง หาดชลาทัศน์ อันนี้มาจากภาษาบาลีแน่ ๆ ถ้าไม่รีบหาข้อมูล บันทึกไว้ว่าใครเป็นผู้ตั้งชื่อ
อีกหน่อยก็หาประวัติกันไม่ได้อีกครับ

อย่างหาดกรงอิตำที่เทพา อยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนชื่อเป็นหาดสร้อยสวรรค์ ผมค้นหาเอกสารชั้นต้น ไม่เจอว่าเปลี่ยนชื่อตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นคนเปลี่ยน

ขอบคุณมาก ๆ ครับ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย

ถึง อ หม่องวิน ครับ
ผมคิดว่าภาษาสันสกฤต น่าจะมีอิทธิพลและบทบาท ในดินแดนแถบนี้มากพอสมควรครับ จากชื่อสถานที่ต่างๆ
อีกทั้งน่าจะเชื่อมโยงเกี่ยงเนื่องกับภาษาเขมรด้วยซ้ำไป เพราะในยุคแรกๆ ดินแดนแถบนี้น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย เป็นส่วนใหญ่

เคยมีการถกกันใน pantip เรื่องที่มาของชื่อเมืองสงขลา ไม่ทราบว่าอาจารย์หม่องวิน เคยอ่านผ่านตามาแล้วยังครับ
ท่านใดสนใจติดตามอ่านได้ตามนี้ครับ
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7296563/K7296563.html
อดีตคือรากฐานของปัจจุบัน...ปัจจุบันคือรากฐานของอนาคต

คนนอกสวน

เข้าไปดูกระทู้ที่คุณ Big MaHad แนะนำแล้วครับ
แค่รูปภาพประกอบอย่างเดียวก็สุดคุ้ม ตอนนี้กำลังเพ่งพิศ พินิจเรื่องราวรายละเอียด
ขอบคุณครับ

หม่องวิน มอไซ

ขอบคุณมากครับท่าน Big MaHad  :D

Singoraman

ขอขอบคุณท่าน Big MaHad ด้วยคนครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ "ปล้ำ" กับเรื่องพันนี้ แต่อยู่นอกวงวิชาการ
เลยขาดการอ้างอิงอย่างเป็นวิชาการ
ได้แต่ครูพักลักจำ
นับเป็นกุศลอย่างยิ่งที่ได้ "ยุงชายวร" กับทุกท่านในกระทู้มหากุศลครั้งนี้
ส่าธุ

Big MaHad

ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่ทุกท่านได้รับความรู้ จากกระทู้ที่แนะนำไป  :)

ในกระทู้ดังกล่าวนั้น มีทั้งข้อมูล และภาพ ที่คุณNavarat.C แห่งห้องสมุด พันทิป ได้นำมาลงไว้ นับว่าเป็นข้อมูลที่มีคุณค่า แก่ผู้ที่สนใจประวัติเมืองสงขลามากทีเดียวครับ มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมากมาย

แม้ว่าในช่วงท้ายๆ กระทู้จะมีการถกกันรุนแรงไปสักหน่อย อันเนื่องมาจากข้อมูลที่มาจากหลายแหล่งที่มา แต่ก็นับได้ว่าให้เราได้รับความรู้ในหลายแง่หลายมุมมากเลยครับ

ท่านใดในที่นี้มีความเห็นอะไรต่างไป หรือข้อมูลอะไรมาสนับสนุนก็จะดีมากเลยครับ
อดีตคือรากฐานของปัจจุบัน...ปัจจุบันคือรากฐานของอนาคต

หม่องวิน มอไซ

อ้างจาก: Singoraman เมื่อ 14:58 น.  11 ม.ค 53
ขอขอบคุณท่าน Big MaHad ด้วยคนครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ "ปล้ำ" กับเรื่องพันนี้ แต่อยู่นอกวงวิชาการ
เลยขาดการอ้างอิงอย่างเป็นวิชาการ
ได้แต่ครูพักลักจำ
ผมว่าทุกท่านที่เข้ามาพูดคุยกันอยู่ในหมวด"เรื่องราวสมัยแต่แรก"นี่ ส่วนใหญ่ก็อยู่นอกวงวิชาการกันทั้งนั้นครับ
ทุกท่านเข้ามาคุยกับด้วยใจรักครับ
ผมเองอยู่ในวงวิชาการก็ไม่ได้สอนวิชาประวัติศาสตร์ แต่สอนวิทยาศาสตร์

และความรู้แบบครูพักลักจำนี่แหละครับ ที่ช่วยสืบทอดมรดกวัฒนธรรมกันมาเป็นร้อยเป็นพันปีแล้วครับ  :)

ดูเหมือนตอนนี้กิมหยง.คอมจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ ที่เป็นเวทีเสวนากันเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่นปักษ์ใต้บ้านเราครับ
แวดวงวิชาการเสียอีก จะต้องเอาข้อมูลที่เราคุยกันไปต่อยอด ทำให้เป็นวิชาการขึ้นมาครับ  ;D

Singoraman

"จับมือที"  อ.หม่องวินฯ
ชาด...สรุปได้โดนใจ