นายกส.บ้านชี้5เดือนอสังหาฯบูม บ้านเดี่ยว-ทาวเฮ้าส์ แห่เปิดขาย

[ทีมงานบ้านเรา]

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 5 เดือน(ม.ค.-พ.ค.) ว่า มีอัตราการเติบโตดีทุกตลาด ทั้งโครงการจัดสรร ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ซึ่งขยายตัวสูงทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมีปัจจัยเอื้อจากการกระจายตัวของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยเฉพาะทำเลรอบสถานีรถไฟฟ้าในรัศมี 5-8 กิโลเมตร อีกทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง ธนาคารพาณิชย์ยังเน้นปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งล้วนกระตุ้นตลาดได้อย่างดี

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดโครงการจัดสรรจะกลับมาคึกคักมากขึ้น หลังจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมค่อนข้างมาก จึงเชื่อว่าปีนี้โครงการจัดสรรจะมีจำนวนยูนิตเปิดขายในสัดส่วน 45% ใกล้เคียงกับคอนโดมิเนียม 55% เทียบกับ ปีก่อน คอนโดมิเนียมมีสัดส่วนครองตลาดสูงถึง 60% และโครงการจัดสรรมีสัดส่วนเพียง 40% เท่านั้น

"ยอดซื้อ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ของ ที่อยู่อาศัยในช่วง 5 เดือน เดินหน้าไปค่อนข้างดี ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะ หัวเมืองใหญ่ๆ ที่การขยายตัวของภาค อสังหาฯบูมมาก จึงเชื่อมั่นว่าปีนี้ธุรกิจ อสังหาฯ จะเติบโตได้ 10% เทียบกับปีก่อน แต่ต้องไม่มีปัจจัยลบรุนแรงเข้ามา กระทบ"

ส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจอสังหาฯ รวมถึงภาวะต้นทุนที่พุ่งขึ้น จากราคาที่ดินโดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้าที่เริ่มก่อสร้าง ส่วนราคาที่ดินในต่างจังหวัดก็ปรับสูงขึ้นมากเป็นเท่าตัวหรือมากกว่า 1 เท่าตัว ภายใน 1 ปี เป็นผลจากความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น

"กำลังซื้อไม่มีปัญหาเลย ผู้ประกอบการ ไม่ได้กลัวเรื่องการขายไม่ได้ แต่กลัว ว่าจะก่อสร้างไม่ได้มากกว่า เพราะเผชิญวิกฤติแรงงานขาดแคลนและราคาที่ดิน พุ่ง ส่งผลต่อต้นทุนค่าก่อสร้างให้ปรับตัว สูงขึ้น โดยคอนโดมิเนียมต้นทุนเพิ่ม 10% และบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นราว 6%" นายอธิป กล่าว

[attach=1]

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ