''ใหม่'' หวนคืนบทอารมณ์ดีตลกหลายรสในหนัง ''ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน''

[หาดใหญ่ใหม่]

ข่าวโดย สยามดารา

[attach=1]

เป็นไงมาไงถึงได้มาเล่นเป็นนางเอกในหนังเรื่องนี้ได้?
''คือจริงๆ ตอนนั้น ใหม่ ได้มีโอกาสไปเจอกับคุณโหน่ง   คุณโหน่งก็พูดขึ้นมาว่าเพิ่งพูดถึงพี่ไม่กี่วันเอง ยังคุยกับ พี่หม่ำ อยู่เลยว่า กำลังมองหานางเอก  มองแล้วว่า อยากจะทาบทามเรา ก็ย้อนหลังกลับไปก็สักประมาณ 5-6 เดือนได้ตอนนั้น  เราก็นี่โหน่งขำละมาพูดเม้าท์กับเราแบบตลกๆ หรือเปล่า  ตอนที่เจอกันตอนนั้นก็ยังบอกกับ โหน่ง เลยว่า โหน่งเอาจริงๆ นะอย่ามาโกหกเรานะอะไรประมาณ เลยมีการแลกเบอร์กัน แต่พอเหตุการณ์ผ่าน 5-6 เดือน  จนกระทั่งวันนั้นได้รับโทรศัพท์จากทีมงานพี่หม่ำ ว่า พี่หม่ำอยากจะคุยด้วย แล้วก็มีโอกาสได้ไปเจอกัน  ตอนที่ได้ไปเจอกันครั้งแรกก็ประทับใจเลย  ประทับใจคือใหม่ก็เคยดูผลงานของพี่หม่ำ งานที่พี่หม่ำ ทำอยู่ หรือภาพยนตร์  เราก็จะมองภาพเขาในแบบๆ หนึ่ง พอมาเจอตัวเขาไม่เหมือนกับที่เราเห็นในทีวี  ถ้าถามว่า จริงๆ ใหม่ก็ไม่น่าจะตกใจ เราทำงานอยูในแสงสี บางทีมันก็บ่อยๆ เลยที่คนอาจมองเราเป็นอีกแคแรกเตอร์หนึ่ง พอเจอตัวเรา ทุกคนก็จะเซอร์ไพรส์ที่เราเป็นอีกแบบหนึ่ง  ซึ่งมันไม่น่าตกใจ เพราะเราเองก็อยู่ในสายงานเดียวกัน   เรากลับเข้าใจแล้วว่า ทำไมคนตกใจ เพราะ พี่หม่ำ ไม่ได้เป็นคนตลกโปกฮาอย่างที่เห็น    แต่เขากลายเป็นคนเรียบร้อย เป็นคนสุภาพแล้วก็นุ่มนวลมากอัธยาศัยดี  เรายังกลับไปคุยกับคุณแม่เลยว่า เออแปลกดีนะ   คือยังไงแกก็เป็นคนตลกล่ะนะ แต่จะมีใครมานั่งตลกตลอดเวลา  คือเขามาไม่ได้โหวกเหวก เขามาแบบสุขุมนุ่มลึก''

ถ้างั้นต้องเล่าให้ฟังแล้วละว่าบทบาท และแคแรกเตอร์ที่ได้รับในหนังเรื่อง ''ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน'' เป็นอย่างไร?
''สำหรับบทบาทและแคแรกเตอร์ที่ใหม่ได้รับในหนังเรื่อง ใหม่กะหม่ำ นะคะ ก็ตัวเองจะเป็นคนที่อกหักรักคุดตลอด  เจอคนที่รัก เขาก็ไม่รักเรา พอเจอคนที่เขารักเรา เราก็ไม่รักเขา  เจอคนที่ใช่มันก็ไม่โดน เจอคนที่โดนมันก็ไม่ใช่ เป็นคนที่มั่นใจตัวเองมาก  สวย  เริ่ด  เชิด  แต่จริงๆ รอรักแท้อยู่อะไรประมาณนี้'' ''แคแรกเตอร์ของ ใหม่ ในเรื่องก็จะเป็นปาร์ตี้เกิร์ล  เป็นผีเสื้อราตรีทุกๆ คืน  กลางคืนก็ไปหารักแท้ คิดว่าคงไม่มีนะคะ  เพราะตรงนั้นมันมืดไปหน่อย(หัวเราะ)  ส่วน พี่หม่ำ คือจะสนิทกันมาก ค่ำไหนไปหาใหม่ ไม่มีไม่เจอ ประมาณว่า พี่หม่ำจะมาเก็บใหม่เหมือนมูลนิธิ  เรียกว่าไปเก็บศพเราได้ตลอด   ไม่ว่าเราจะไปเมาอยู่ตรงไหน แล้ว พี่หม่ำ ก็จะเป็นได้ทุกอย่างในชีวิตของเพื่อนคนนี้ไม่ว่าจะเป็น  เป็นพี่  เพื่อน  น้า  อา  เว้นไม่เป็นแฟนกันเท่านั้นเอง แต่เป็นเพื่อนที่ซี้กันมาก''

พูดได้ว่าเป็นบทที่เราจะได้เห็น ใหม่ เจริญปุระ ในแบบผ่อนคลาย สบายๆ โรแมนติกๆ คอมเมดี้มากๆ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน?
''อย่างที่บอกเราก็เป็นคนที่ขี้เล่นอยู่แล้ว พอพี่เขาขี้เล่นมามันก็ได้ตอบรับกับ เขาเป็น พี่หม่ำ นะ เขาเป็นดาวตลกตัวพ่อนะ ถ้าเราเกร็งตรงนี้เราก็จะอึดอัดแล้วก็ไม่ลื่นไหล ก็อยากให้ประชาชนคนดูได้เห็นเราอีกมุมหนึ่ง เพราะจริงๆ  เราก็ไม่ได้เป็นแนวโหด หรือว่าดรามาจัดขนาดนั้นอย่างเพื่อนที่รู้จักใหม่ ก็จะพูดเสมอว่า จริงๆ ใหม่ตลกนะ ทะลึ่งเนอะ  เฮฮา แต่ไปเล่นหนังอะไรก็ตาม ก็จะเป็นบทโหด บทเครียด ทำไมไม่เล่นเป็นตัวเองแบบเนี่ย ก๊งๆ  เออฉันก็ไม่ได้มีโอกาสได้แสดงแบบนี้ พอมาครั้งนี้ก็เลยคิดว่าเป็นทีของเราแล้วที่มีโอกาสได้เล่นอะไรบ้าๆ บอๆ บ้าง  และก็ไม่ต้องอินมากไม่ต้องซีเรียส มาก เพราะโลกใบนี้ก็ซีเรียสจะแย่อยู่แล้ว  ไปทำอะไรที่มันคึกคัก และทำให้คนดูได้หัวเราะด้วยดีกว่า''

แต่ถ้าย้อนกลับไปในรอบ 15 ปีหลัง พูดได้ว่า บทที่พี่ใหม่ เล่นจะเข้มข้น ซีเรียส เครียดดรามาตลอด คือไม่มีรัก ไม่มีกุ๊กกิ๊ก ตลกเลย?
''อย่างที่บอก  15 ปีหลังได้รับบทที่มันดรามามากๆ คนก็เริ่มที่จะจำภาพใหม่ ที่มันโหดๆ  พอมาเป็นตลกสำหรับ ใหม่ มันก็คือเป็นเรื่องใหม่เหมือนกัน   เพราะเขาไม่ได้เห็นนานแล้ว เพราะฉะนั้นอยากจะบอกว่า นอกเหนือจากความเป็นหนังตลกแล้ว มันยังมีมุมซึ้ง ทุกวันนี้คุณวิ่งหาความรัก ซึ่งจริงๆ แล้วรักมันอาจจะอยู่ข้างตัวคุณก็ได้  รักแท้อาจจะเป็นตัวเราเองก็ได้ ซึ่งต้องบอกว่าจริงๆ ในส่วนของการทำงานที่มีบทซึ้งๆ ใหม่ชอบอยู่แล้ว ไอ้เรื่องเจ้าบทเจ้ากลอน มีคำพูดอะไรที่มันโดนใจเรา เพราะบางทีใหม่คิดว่า คนในสมัยนี้ก็อาจจะละเลยคนข้างๆ และเราก็มัวมองหาแต่คนข้างหน้า  แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆ แล้วคนข้างๆ คือคนที่จริงใจกับเรา ที่รักเราที่สุด และก็ไม่มีวันทอดทิ้งเรา และอย่างในเรื่อง พี่หม่ำก็คือเพื่อนที่โตมาด้วยกัน รักกัน แต่ก็จะพูดจาไม่ค่อยดีใส่กันเสมอ เพราะความที่เป็นเพื่อนกัน แต่ในยามที่เราทุกข์ ที่เราท้อ เขาก็อยู่เสมอ และไม่เคยหนีไปไหน ก็จะมีอยู่ซีนหนึ่งบนดาดฟ้า ใหม่จะชอบมาก พี่หม่ำ ก็จะเขียนเป็นบทยาวมาก ตอนที่ถ่ายทำก็หนาวมากเป็นช่วงที่กรุงเทพฯ หนาวมากเลย ตอนนั้น และมันก็ได้บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอก ถ่ายเห็นมุมกรุงเทพฯ หมด และคำพูดมันก็ซึ้งๆ ด้วย ประมาณว่าไม่ต้องไปตามหารักแท้หรอก ควรจะอยู่เฉยๆ และปล่อยให้รักวิ่งเข้ามาหาเราดีกว่าไหม  ก็เลยรู้สึกว่าชอบซีนนี้ที่สุดเลย นอกเหนือไปจากนั้นถามว่าตัวละครใหม่เริ่มรักเพื่อนหม่ำตอนไหน คือถ้าเปรียบความรักครั้งนี้เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ คือมันก็ค่อยๆ ต่อทีละชิ้น ที่มันจะบ่งบอกว่าพ่อแม่เราก็รักเขา และเขาก็คือคนเก่า คนแก่ จะยามทุกข์ เขาก็เป็นคนคอยเก็บศพนะ หรือจะเป็นยามไหน ยามที่ท้อแท้ สุดท้ายแล้ว ก็มีเขานี่แหละ และเราก็ได้มีโอกาสตอบแทนเขาในยามที่เขาเศร้า  มันได้แลกเปลี่ยนความรักกัน มันไม่ได้ออกมาเป็นในแง่ชู้สาว แต่มันเป็นความรักที่อุ่นๆ อบอุ่นดีค่ะ เรื่องนี้ต้องเล่นเป็นทั้งคนท้องด้วย แล้วเราก็ยังไม่เคยท้องเราก็เลยต้องกลับไปทำการบ้าน  เพราะอย่างไอ้ที่ต้องท้องเราก็เคยเล่นมาบ้าง แต่ตอนคลอดลูก  คือเราไม่เคยเล่นแบบคลอดจริงจัง เรียกว่าต้องไปหาหนังมาดูเกี่ยวกับคลอดลูก เป็นหนังดรามาชีวิต ก็จะหนักหนาแค่ตรงนี้ แต่พอเป็นหนังพี่หม่ำ เป็นคอมเมดี้โรแมนติกแบบพี่หม่ำ มันก็จะเป็นอะไรที่แตกต่างในสไตล์พี่หม่ำ ซึ่งจริงๆ แล้วตลอดการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่กะหม่ำ เราก็ขำกันมาแล้วเกือบทุกซีน แล้วยิ่งมาเจอพี่หม่ำเข้าคู่กับพี่ค่อม จะขำมาก เพราะพี่หม่ำ จะป้อนไดอาล็อกให้ พี่ค่อม แต่ละเรื่องให้พูดกับหมอคือจี้มาก และเราก็จะหลุดอาการของเราเองไม่ได้ เพราะคนจะคลอด มันจะต้องแบบเลือดลม อาการ การหายใจต้องใช้กำลังเต็มที่ แต่โคตรขำเลย!! แต่ก็ต้องเก็บอาการ ก็จี้ดี มันดีค่ะ''

ฟังๆ ดูแล้วนี่ ถือได้ว่าเป็นเสน่ห์ของความแตกต่างจากหนังเรื่องนี้ที่กำกับโดยพี่หม่ำ เลยรึเปล่า?
''ถือว่าเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้เลย คิดว่าน่าจะใช่เลยนะ เพราะใหม่คิดว่า ปกติแล้วพี่หม่ำ อาจจะทำอะไรที่มันตลกไปเลย จะเป็นฮาเฮอะไรกันไป แต่ ใหม่ ไม่แน่ใจว่าไอ้ตลกซึ้งๆ แบบนี้ และมีความรักอุ่นๆ เจืออยู่ จะเคยเห็นพี่หม่ำกะใหม่ในมุมนี้บ้างไหม รวมทั้งพี่โหน่ง อีก ก็เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ที่มีรสชาติแบบหม่ำๆ''

ร่วมงานในฐานะนักแสดง และผู้กำกับฯ กับ พี่หม่ำ เป็นครั้งแรก รู้ซึ้งกับความเป็นผู้กำกับฯ ถั่วงอก ที่พร้อมงอกเงยมุกหรือไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
''จริงๆ มันเป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้มันก็สบายๆ เบา ไม่ต้องมาฟิกซ์บทกัน บางทีพี่หม่ำ งอกอะไรออกมากลายเป็นขำด้วยซ้ำไป  สมมติ take 1  แล้วเราไปถึง  take 3-4  ทำซ้ำเรื่อยๆ มันอาจกลายเป็นไม่ขำพอ take 2-3 แกมีอะไรใหม่ๆ มาเรื่อยๆ มันก็สดไง  เรายังรู้สึก แล้วยังต้องกลั้นยิ้ม เวลาเราถ่าย เพื่อไม่ให้ตัวเองขำ  เราก็ถามว่าจริงหรอพี่ ให้พูดอย่างนี้เหรอ  บางทีพูดๆ กัน อย่างใหม่ กับ แม่แดง กำลังคุยๆ กันแล้วจังหวะมันกำลังจะลงตัว คือ เล่นโรแมนติกคอมเมดี้ มันต้องมีจังหวะของมัน ว่าเราจะเอาทิศทางไหน อยู่ดีๆ แกไปเสริม Take 3-4 เอาเป็นว่าเพิ่มเข้าไปอีก  แต่จริงๆ แล้วด้วยความที่ใหม่ ก็เป็นคนทะลึ่งๆ ตลกโปกฮาด้วยก็รับได้ เราก็ไปตามน้ำกับแก คนดูแล้วน่าจะชอบเพราะมันเป็นอะไรที่ไม่น่าคาดเดาได้  แต่มันขำมันมาเนิบๆ ของมันเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่''

ทราบมาว่าเราจะได้ฟังเพลงประกอบหนังจากเสียงร้องของ พี่ใหม่ ด้วย?
''ค่ะก็อย่างเพลงของใหม่ เองก็มีบทบาท  ก็ไม่ถึงขั้นเป็นเพลงของใหม่ เองซะทีเดียว เป็นเพลงของคุณแหนม ก็ พี่หม่ำ ได้มีโอกาสเอามาทำ MV ประกอบภาพยนตร์เรื่อง ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน ก็ดีใจมากนะคะ เพราะ ใหม่ เองก็เป็นนักร้อง และมีโอกาสได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย และนักร้องก็น่าจะเอาเพลงของเขาอยู่แล้วด้วย มันก็เลยกลายเป็นสองเด้ง และที่รู้สึกดีใจเป็นพิเศษ เพราะว่า หนังของพี่หม่ำ ส่วนใหญ่ จะออกมาในแนวแหยมๆ แนวขำๆ มันๆ กัน กลายเป็นเพลงที่พี่หม่ำ เลือกมาครั้งนี้มันซึ้ง และก็ให้ความรู้สึกโรแมนติกจริงๆ เข้ากับเนื้อหา อย่างที่ใหม่ บอกจริงๆ รักแท้จะอยู่ใกล้ๆ ตัว รักกันไม่ต้องฟูมฟายอะไรมากมาย เป็นความรู้สึกจากหัวใจ ที่เราอยากจะดูแล ซึ่งกันและกันจริงๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่  ก็เลยรู้สึกว่ามันให้ความรู้สึกมาก และดีใจมากที่พี่หม่ำเลือกเพลงนี้''

ท้ายนี้อยากฝากอะไรกับหนังเรื่องใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน กับแฟนๆ?
''ความรู้สึกที่มีกับหนังเรื่องนี้ อย่างที่ใหม่บอก โลกทุกวันนี้ ก็รู้สึกว่าจะเพี้ยนกันไปใหญ่แล้ว รักแท้จริงๆ ก็หาค่อนข้างยาก และทุกคนก็มัวแต่วิ่งตามไปกับโลกร้อนอะไรต่างๆ นาๆ เทคโนโลยีที่เข้ามา เพราะฉะนั้นใหม่ก็เชื่อว่าอย่างน้อยๆ หนังเรื่องนี้ทำให้คุณยิ้มได้  เพราะบางทีความสุขมันอาจจะมากับสิ่งเล็กๆ ที่เราอาจจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำไป  เพราะฉะนั้นก็อยากให้หนังเรื่องนี้ เป็นเพื่อนคุณ เป็นกำลังใจให้คุณ ทำให้คุณยิ้มได้ เมื่อคุณกลับออกมาจากโรงภาพยนตร์ ยังไงก็ฝากหนังเรื่อง ใหม่กะหม่ำ และโดนกะโดน ด้วยนะคะ 23 มิ.ย. นี้ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ''