ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เกิดไม่เกิด มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา กับความหวังการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา

เริ่มโดย กกต., 19:41 น. 08 มิ.ย 54

ดอจริงแระ

ให้ทักษิณกับมาได้ คงบ้าไปแล้ว ถ้ากับมาแต่กระดูกง่ายกว่าเยอะ 555


เพราะคนไทยไม่ใช่ขี้ข้าทักษิณ คนเก่งๆมีเยอะแยะไป

ธรรมในใจ

ทำไมเราก้าวข้ามไอ้คนชื่อนี้ไม่ได้ซักที

lplayboyl

ได้หรือไม่ได้ลุ้นเอาเอง 555

bao_insurance

โครงการมอเตอร์เวย์หาดใหญ่ – สะเดา
โครงการศึกษาเรื่องการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์เส้นทางหาดใหญ่-ด่านสะเดาระยะทางประมาณ 47.2 กิโลเมตร เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2543 โดยกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เป็นผู้ดำเนินการ แต่มีผลการศึกษาออกมาจริงๆ ในปี 2548 โดยมีวงเงินลงทุนตามผลการศึกษาขณะนั้น มูลค่าประมาณ 10,055 ล้านบาท

นายชูศักดิ์ เสวี ผู้อำนวยการสำนักแผนงานกรมทางหลวง(ทล.) เหตุที่มอเตอร์เวย์หาดใหญ่ – ด่านสะเดา สายนี้ยังไม่ได้ก่อสร้าง เนื่องจากผลการศึกษาขณะนั้น ระบุว่า ยังไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจจึงไม่เร่งผลักดันโครงการ แต่ผลการศึกษาระบุว่า จะเริ่มเห็นผลได้ในปี 2558

"แม้ผลการศึกษาดังกล่าว ระบุว่าจะเห็นผลในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่ขณะนี้ได้เริ่มมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์เส้นทางหาดใหญ่ - ด่านสะเดาแล้ว เพียงแต่ต้องมาวิเคราะห์งบประมาณในส่วนต่างๆ ใหม่อีกครั้งเท่านั้น โดยเฉพาะการเปิดสัมปทานภายใต้งบประมาณการลงทุนระยะเวลา 30 ปี" นายชูศักดิ์ กล่าว

ปัจจุบันสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้รื้อแผนโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หาดใหญ่ – ด่านสะเดาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ปรับระยะทางเป็น 55 กิโลเมตร เพื่อรองรับการจราจรที่แออัดในถนนกาญจนวนิช ซึ่งเป็นถนนสายหลักสายเดียวจากหาดใหญ่ไปยังด่านสะเดา

แม้ สนข.ได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางจากเดิมไปบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่เส้นทางใหม่ก็ยังผ่านบริเวณนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ หรือนิคมฉลุง อำเภอหาดใหญ่ เชื่อมกับเส้นทางเดิม โดยมีการเสนอให้สร้างอุโมงค์ลอดทางแยกสำคัญๆ

ขณะเดียวกันต้องสอดคล้องกับการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ด้วย เนื่องจากด่านพรมแดนไทย – มาเลเซียที่บ้านด่านนอกปัจจุบัน ก็มีความแออัดเช่นกัน

ส่วนข้อมูลโครงการเดิม ระบุว่า การก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายนี้จะลดจุดตัดสำคัญ 3 จุด ในอำเภอหาดใหญ่ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา และที่ด่านสะเดา เพื่อให้รถใช้ความเร็วได้สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียผ่านด่านสะเดา

สำหรับจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อยู่ใกล้กับ ไปสิ้นสุดที่ด่านสะเดาติดกับชายแดนประเทศมาเลเซียระยะทางประมาณ 47.2 กิโลเมตร มีทั้งส่วนที่เป็นถนนระดับพื้นและทางยกระดับ เขตทางกว้าง 70 เมตร ทิศทางไป-กลับฝั่งละ 2 ช่องจราจร

โดยมีแนวเส้นทางเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ตำบลฉุลง อำเภอหาดใหญ่ ใกล้ๆ กับที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ หรือ นิคมฉลุง ผ่านพื้นที่ใกล้กับสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เข้าไปในเขตอำเภอคลองหอยโข่ง แล้วเชื่อมต่อกับถนนกาญจวนิชก่อนถึงด่านสะเดา แต่อาจมีการเปลี่ยนแนวในบริเวณนี้ เพื่อรองรับด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่

ตลอดเส้นจะมีการติดตั้งรั้วกั้นระหว่างทางหลวงพิเศษและทางบริการชุมชนอื่นๆ จะมีการจัดส่วนไว้รองรับบริการ(Service Track) จะมีทางเข้า – ออก บริเวณที่ผ่านพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สีเขียวจะต้องมีการเวนคืนบางส่วน

สำหรับวงเงินลงทุนเดิม 10,055 ล้านบาทนั้น แบ่งออกเป็นค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 641 ล้านบาท ค่าออกแบบรายละเอียด 120 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 120 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 6,875 ล้านบาท ค่าบริหารจัดการโครงการ 1,456 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษาประจำปี(รวม 26 ปี) 312 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา (ทุกๆ 7 ปี) 531 ล้านบาท

ระยะเวลาตั้งแต่การออกแบบจนก่อสร้างแล้วเสร็จใช้เวลา 4 ปี และเปิดใช้เส้นทางอีก26 ปี รวมเป็น 30 ปี


###############################################################
รัฐทุ่มพัฒนาด่านสะเดาพันล้าน-ปัดฝุ่น "มอเตอร์เวย์" หนุนค้าชายแดน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2552

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ประธานหอฯสงขลาเผย หลังรอมานานล่าสุด รัฐบาลให้ความสนใจทุ่มงบขยายและพัฒนาด่านสะเดารวมมูลค่า 970 ล้านบาทแล้ว โดยในปีนี้อนุมัติ 100 ล้าน ดำเนินการช่วงแรก เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวและการค้าชายแดนที่เพิ่มสูงขึ้น ด้าน สนข.ปัดฝุ่นโครงการมอเตอร์เวย์ เชื่อมด่านสะเดา-หาดใหญ่ ระยะทาง 55 กม. ที่มีการศึกษามานานกว่า 10 ปี คาด ใน 5 ปีจะมีรถตู้คอนเทนเนอร์วิ่งเข้าออกชายแดนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตู้ และจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เชื่อมต่อแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ที่รองกับการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกจะนะ-ปากปารา เพื่อขนส่งสินค้าข้ามทวีปในอนาคต

จากความร่วมมือของสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ หรือ IMT-GT ระหว่าง 3 ประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ได้ครอบคลุมทั่วภาคใต้แล้ว และยังมีความร่วมมือในกรอบอาเซียนที่ระบุว่า แต่ละประเทศต้องเร่งพัฒนาเส้นทางคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาบริเวณชายแดน

ดร. สุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ล่าสุดรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 100 ล้านบาท ในการขยายด่านสะเดาชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเป็นโครงการต่อเนื่องมูลค่าทั้งหมด 970 ล้านบาท ด้วยเป็นประตูหลักในด้านเศรษฐกิจค้าชายแดนของ จ.สงขลา ที่มีมูลค่านำเข้าส่งออกแต่ละปี 230,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัญหาที่สะสมมานาน คือ ด่านสะเดามีความคับแคบ แออัด โดยเฉพาะภายหลังจากที่ไม่มีสายการบินต่างชาติเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ หาดใหญ่ ทำให้กลายเป็นเส้นทางหลักของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา จ.สงขลา แต่ต้องรอแถวเป็นเวลานับชั่วโมงโดยเฉพาะช่วงวันหยุดและเทศกาลท่องเที่ยว แม้แต่การขนส่งสินค้าผ่านรถคอนเทนเนอร์ก็กระทบไปด้วย โดยเฉพาะของสดที่ต้องส่งวันต่อวัน

"ปัญหา การขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ผ่านด่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะผ่านการตรวจสอบจุดนี้ได้กินเวลา 5-6 ชั่วโมง ทำให้ของสดได้รับความเสียหาย เป็นเพราะทั้งการค้าและการท่องเที่ยวได้ขยายตัวเร็วกว่าการเตรียมสถานที่ นั่นเอง คณะพัฒนาการค้าชายแดนจึงได้มีการประชุมแก้ปัญหาดังกล่าว และเห็นควรจะต้องขยายด่านเสียที และเพิ่งจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลชุดนี้" ดร.สุรชัย กล่าว

ทั้งนี้ จากข้อมูลด่านศุลกากรสะเดา ระบุว่า สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์จากยางพารา เช่น ถุงมือ เครื่องจักร ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง ยานพาหนะ

สถิติการนำเข้าส่งออกปี 2552 ระหว่างเดือนตุลาคม 2551-กรกฎาคม 2552 พบว่า สินค้าส่งออกสูงสุด 5 อันดับได้แก่ ยางธรรมชาติ มูลค่า 18,598.15 ล้านบาท ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักร มูลค่า 11,866.64 ล้านบาท เครื่องประมวลข้อมูลอัตโนมัติ (คอมพิวเตอร์ PC Notebook PDA เป็นต้น) มูลค่า 6,585.11 ล้านบาท มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มูลค่า 6,009.80 ล้านบาท และสื่อบันทึกข้อมูลที่ยังไม่ได้บันทึก (ซีดี เทปสมาร์ทการ์ด เป็นต้น) มูลค่า 5,008.26 ล้านบาท

ดร.สุรชัย กล่าวต่อด้วยว่า นอก จากการขยายด่าน ซึ่งทำให้การเข้าออกผู้โดยสารและสินค้ามีความคล่องตัวแล้ว สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ยังได้รื้อแผนโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์เเชื่อมด่านสะเดา-หาดใหญ่ ระยะทาง 55 กิโลเมตร เพื่อรองรับการจราจรที่แออัดในเส้นทางสายหลักกาญจนวานิชอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ใช้เวลาเดินทางได้รวดเร็วขึ้น และรองรับการเติบโตของการค้าชายแดน ที่มีการประมาณการว่าภายใน 5 ปีจะมีตู้คอนเทนเนอร์ผ่านเข้า-ออกชายแดนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตู้ และเป็นเส้นทางเครือข่ายที่รองรับโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล เส้นทาง 5A อีกด้วย

สำหรับโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เคยมีการศึกษาเมื่อกว่า 10 ปีก่อน โดยกระทรวงคมนาคมเสนอให้มีการศึกษาเส้นทางมอเตอร์เวย์วิ่งเลียบทางรถไฟ โดยว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ที่ไม่สามารถเดินหน้าได้เนื่องคณะผู้ทำการศึกษาระบุว่ายังไม่มีความจำ เป็นที่จะต้องก่อสร้าง ทว่าการขยายตัวของการคมนาคมจากชายแดนสู่ตัวเมืองหาดใหญ่เติบโตมากกว่าที่มี การคาดการณ์ ทำให้เกิดปัญหาการแออัด เพราะมีเส้นทางหลักคือถนนกาญจนวานิชเท่านั้น นั่นเป็นที่มาของการต้องฟื้นโครงการดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ปัจจุบันนี้เส้นทางของการขนส่ง มี 3 เส้นทาง เส้นทางมอเตอร์เวย์ ที่ สนข.ได้ทำการศึกษาครั้งนี้ ได้เปลี่ยนจากเดิมเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ที่มีความเป็นไปได้สูงคือเส้นทางตัดใหม่ที่ผ่านบริเวณนิคมอุตสาหกรรมฉลุง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ แต่จะเชื่อมเส้นทางเดิมที่เคยศึกษาและเป็นทางแยก ซึ่งมีการเสนอให้สร้างอุโมงค์มุดเลี่ยงทางแยกดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ดร.สุรชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า การ พัฒนาภาคใต้ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศนั้นยังมีความ ล่าช้าอยู่มาก ทั้งที่มีการศึกษาเส้นทางเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศเพื่อลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ขนส่งสินค้าสู่ต่างประเทศ แต่พบว่าความคืบหน้าน้อยมาก และหลายโครงการถูกเก็บไว้หลังจากทำการศึกษาเสร็จแล้ว เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ สงขลา-สตูล ที่มีท่าเรือน้ำลึกจะนะ-ท่าเรือน้ำลึกปากบาราเป็นจุดขึ้นลงสินค้า ที่จะพลิกเส้นทางการค้าข้ามทวีปแห่งใหม่ ทดแทนการอ้อมช่องแคบมะละกาในอนาคต ซึ่งหอการค้าจังหวัดสงขลาจะเร่งติดตามและผลักดันให้เดินหน้า ไม่ว่าการเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตาม

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

bao_insurance

ช่วงหาดใหญ่-ด่านสะเดา ชายแดนมาเลเซีย รอลุ้นงบประมาณปี2556 กว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดประตูการค้าเพิ่มรองรับเออีซีภาคใต้
อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวอีกว่าส่วนโครงการมอเตอร์เวย์ช่วงหาดใหญ่-ด่านสะเดา(ชายแดนมาเลเซีย)ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นประตูการค้าเพิ่มและรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียนโซนพื้นที่ภาคใต้ของไทย เพื่อรองรับการจราจรที่แออัดในถนนกาญจนวนิช ซึ่งเป็นถนนสายหลักสายเดียวจากหาดใหญ่ไปยังด่านสะเดาที่เชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งต้องรอลุ้นงบประมาณปี 2556 จากรัฐบาลดำเนินโครงการดังกล่าวโดยปีนี้ทล.ได้ขออนุมัติงบประมาณ 30 ล้านบาทเพื่อทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม

"มอเตอร์เวย์สายนี้จะลดจุดตัดสำคัญ 3 จุด ในอำเภอหาดใหญ่ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา และที่ด่านสะเดา เพื่อให้รถใช้ความเร็วได้สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียผ่านด่านสะเดา จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปสิ้นสุดที่ด่านสะเดาติดกับชายแดนประเทศมาเลเซีย มีทั้งส่วนที่เป็นถนนระดับพื้นและทางยกระดับ เขตทางกว้าง 70 เมตร ทิศทางไป-กลับฝั่งละ 2 ช่องจราจร โดยมีแนวเส้นทางเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ ใกล้ๆ กับที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ หรือ นิคมฉลุง ผ่านพื้นที่ใกล้กับสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เข้าไปในเขตอำเภอคลองหอยโข่ง แล้วเชื่อมต่อกับถนนกาญจวนิชก่อนถึงด่านสะเดาที่กำลังก่อสร้างด่านสะเดาแห่งใหม่"

ทางด้านนายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลาเปิดเผยว่า วันที่ 27 เมษายน 2555 ได้จัดสัมมนาเรื่องมอเตอร์เวย์เส้นทางหาดใหญ่-สะเดา(เชื่อมชายแดนมาเลเซีย) เพราะหอการค้าจะต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ภาคธุรกิจและภาคประชาชนเพื่อร่วมกันผลักดันงบประมาณตรงจุดนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากสิ่งที่หอการค้ายังเป็นกังวลและพยายามผลักดันมาโดยตลอดคือมอเตอร์เวย์ เนื่องจากถนนกาญจนวนิชที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีปัญหาในการใช้เส้นทางสัญจร ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหาเส้นทางที่จะวิ่งตัดตรงไปยังหาดใหญ่-สะเดารวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท

"มั่นใจว่ามอเตอร์เวย์เส้นทางนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยการอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งสินค้าชายแดนทางบกระหว่างไทย-มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าการค้านำเข้า-ส่งออกรวมกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าสู่ประเทศไทยให้กับตลาดนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นการสร้างความตื่นตัวด้านการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่อีกด้วยโดยเฉพาะช่วงนี้ภาคใต้กำลังประสบปัญหาด้านความไม่สงบจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว"


เด็กใต้รักจริง

'กรมทางหลวง' เปิดเวทีรับฟังความเห็นครั้งที่1 โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา

สำนักแผนงาน กรมทางหลวง ส่งหนังสือเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมประชุม การรับฟังความเห็นครั้งที่ 1 โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ระบุความคืบหน้าอีกขั้น มั่นใจเกิน 50 เปอร์เซ็นต์มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น

สำนักแผนงาน กรมทางหลวง โดยนายสุรชัย ศรีเลณวัติ ผู้อำนวยการสำนักแผนงาน มีหนังสือลงวันที่5 ต.ค.2555 เชิญเข้าร่วมการประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนาครั้งที่1) เรื่องการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม และแผนการลงทุน ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่ (มอเตอร์เวย์) สาย อ.หาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย (สะเดา)  วันที่ 25 ต.ค.2555 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้องกรุงเทพ 3 โรงแรมบีพี แกรนด์ทาวเวอร์ หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

โดยรายละเอียดหนังสือเชิญ ระบุว่า ตามที่สำนักแผนงาน กรมทางหลวง ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัทปัญญาคอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัททรานส์ คอนซัล จำกัดให้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม และแผนการลงทุน ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่ สายอ.หาดใหญ่ ?ชายแดนไทย - มาเลเซีย และต้องดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มี ส่วนร่วมในโครงการด้วยนั้นในการดำเนินงานโครงการดังกล่าว กรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่โครงการ ตลอดจนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการประชุมปฐมนิเทศโครงการ (การสัมมนาครั้งที่1) เพื่อนำเสนอความเป็นมา วัตถประสงค์ และแผนการดำเนินงานโครงการ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการศึกษาดังกล่าวอันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบการศึกษาให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่

ดร.สุรชัย จิตภักดีบดินทร์  ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ยังไม่ได้หนังสือเชิญ  แต่เข้าใจว่าเป็นการสัมมนาแบบรับฟังความเห็นโครงการ มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา ที่ทางหอการค้าจังหวัดสงขลาเป็นผู้ผลักดันโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่อง

"ผมว่านี่เป็นอีกก้าวหนึ่งของความคืบหน้าโครงการมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาและภาคใต้ ในฐานะประตูการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่สำคัญของประเทศไทย"

ซึ่งที่ผ่านมาทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ได้ลงพื้นที่และรับปากว่าโครงการมอเตอร์เวย์หาดใหญ่ - สะเดาจะต้องเกิดขึ้น รวมถึงการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก็ลงมาในพื้นที่ พร้อมทั้งบอกว่าการทางพิเศษสนใจลงทุนในโครงการนี้ รวมถึงดร.โอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทยและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เคยเชิญไปให้ข้อมูลโครงการนี้เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งท่านเชื่อว่าเป็นโครงการที่ประโยชย์ต่อประเทศชาติ แม้จะต้องใช้เงินลงทุนสูงประมาณ 20,000 ล้านบาทก็ตาม

"ผมคิดว่าเกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้วที่โครงการมอบเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา มีโอกาสสำเร็จ เพราะทุกฝ่ายเห็นด้วยกับความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงการนี้"

และก่อนหน้าที่ทางหอการค้าจังหวัดสงขลา ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อใช้สำหรับการทำการแบบสอบถามความเห็นจากประชาชนในแนวก่อสร้างโครงการ ซึ่งผลออกมาคือประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการนี้  เพื่อใช้เป็นข้อมูลให้กับกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  และที่สำคัญเป็นการช่วยให้การพิจารณาโครงการมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันกับเออีซี ในปี 2558 ที่จ.สงขลา จะเป็นประตูการค้าสำคัฐกับประเทศเพื่อนบ้าน

"คงไม่มีด่านชายแดนด้านไหนของประเทศไทยที่มีมูลค่าการส่งออก-นำเข้าสูงที่สุด เมื่อเทียบกับด่านฯสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลาที่มีสูงกว่า 500,000  ล้านบาท/ปี" ดร.สุรชัย กล่าว

โดย : ภาคใต้โฟกัส
by Dorn.Skyblue @22-10-2555 15.04

ที่มา : http://songkhlatoday.com/paper/96686
...น้ำหมึกปลายปากกา ไม่ได้สอนประสบการณ์ชีวิต...

symsum

อ้างจาก: same same เมื่อ 08:58 น.  31 พ.ค 55
ที ปชป. เป็นรัฐบาล ก็ไม่เห็นทำไรเหมือนกัน เป็นมากี่สมัย ๆ ก็ไม่เห็นทำอะไร กับภาคใต้
ที่เห็นก็มี สุราษฎร์ กับตรัง  แค่นั้น

เห็นด้วย 1000 เปอร์เซนต์
ขอเหน็บมั่ง ครั้งต่อไปไม่รู้จะเลือกใครแล้วนิ    พรรคเดิมก็เห็นโหมเราเป็นของตาย  ยังไงยังไงก็เลือกเขา  เขาก็เลยคิดว่าไม่ต้องไปทำอ้ายไหลให้หมันหรอก   ส.ร้อง

เซ็ง

symsum

ถามเพิ่มอีกหีด   แล้วถนนเขาจะกั้นรั้วด้านข้างเหมือนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ - ชลบุรี หรือเปล่า  ถ้าเป็นพันนั้น สงสารชาวบ้านข้างทาง เหมือนโดนแบ่งประเทศเลย

ลูกปลาเค็ม

คนใต้ต้องแสดงให้เห็นว่า ฐานเสียงของเราสามารถเจาะได้   คนใต้ไม่ใช่ของตายของใคร  เมื่อครั้งที่ ปชป ได้เป็นรัฐบาล  ถ้าตามดูงบไทยเข้มแข็งก็จะรู้เลย ภาคใต้ได้น้อยที่สุด ภาคใต้เป็นของตาย  เลยไปเอาใจภาคเหนือ กับอิสาน หวังว่าจะเจาะฐานเสียงได้ได้ เพื่อจะได้เป็นรัฐบาลอีก   

นานๆที่ปชป.จะได้เป็นรัฐบาล  ควรจะเอางบมาทุ่มให้กับฐานเสียง เพราะภาคใต้ขาดการดูแลมานาน   แต่นี้เปล่าเลย  เพราะภาคใต้เป็นของตาย  ขนาดเสาไฟฟ้ายังลงได้    ดูเขาดูถูก  สุดท้ายก็ควรโทษตัวเองเถอะ

สุดยอดดดดดดดดดดด

ถ้าเป็นแบบนี้ก็เอาแบบชลบุรีสิ  ตั้งพรรคพลังสงขลาขึ้นมาเลย  แล้วเอาสส.ในพรรค 9 คน หรือ 12 คนหว๋า เข้าร่วมรัฐบาล น่าจะดึงงบประมาณได้เยอะอยู่

สาวสุราษ

ขอให้ได้ ขอให้ผ่านนะค่ะ เป้นกำลังใจให้เสมอค่ะ เอกชน คนในสงขลาช่วยกันผลักดันเยอะนะค่ะ  (นักการเมืิองที่เป็นคนใต้บางคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่อนาจของตัวเองทั้งนั้น ทุกวันนีั้คงใช้ไม่ได้แล้วว่าคนใต้รักพวกพ้อง คนใต้รักกัน ดิฉันแหละค่ะ คนหนึ่งที่จะไม่รีกคนใต้ที่ลืมกำพืดตัวเอง ดูถูกคนใต้ด้วยกัน ดูถูกภาคใต้  ไม่ว่าจะเป้นนักการเมืองหรือคนใต้ ดิฉันรับไม่ได้ค่ะ ขอให้พวกนั้นจนล้มสะลายตายจากไป)

ฅนสองเล

[attach=1]

เสนอ 3 เส้นทางจัดสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่หาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลย์ เปิดระยะทาง 57 กม.เริ่มต้นจากสายเอเชีย บางกล่ำ ถึงชายแดนใหม่ สะเดา หากศึกษาสำเร็จคาดสามารถสร้างได้ภายใน 5 ปี 

(24 ต.ค.56) กรมทางหลวง จัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม และแผนการลงทุนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่ สายอำเภอหาดใหญ่ – ชายแดนไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส์ แอนด์ รีสอร์ท โดยมี นายเสรี พาณิชย์กุล นายอำเภอหาดใหญ่ เป็นประธานเปิดการประชุม นายสำราญ สินธูระหัฐ ผู้อำนวยการแขวงการทางสงขลา กล่าวรายงาน

นายอำเภอหาดใหญ่ กล่าวในช่วงเปิดการประชุมว่า การศึกษาเส้นทางเชื่อมระหว่างหาดใหญ่กับสะเดา ซึ่งเป็นที่ตั้งของด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่มีมูลค่าการขนส่งสินค้าผ่านแดนสูงเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค วันนี้เส้นทางสายหลักมีการจราจรหนาแน่นมากและมีชุมชนเกิดขึ้นมากมาย มีการกล่าวถึงมานานแล้วเกี่ยวกับแนวคิดการสร้างทางสายใหม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

[attach=2]
นายสำราญ สินธูระหัฐ ผู้อำนวยการแขวงการทางสงขลา เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท ทรานส์คอนซัลท์ จำกัด ให้ดำเนินการความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม และแผนการลงทุนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่ สายอำเภอหาดใหญ่ – ชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทำให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าเกิดความคล่องตัว สะดวก ปลอดภัย ตลอดจนสามารถแก้ไขปัญหาจราจรได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวกรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่โครงการ ตลอดจนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดประชุมกลุ่มย่อยในวันนี้ขึ้น เพื่อพิจารณาแนวเส้นทางเลือกและรูปแบบที่เหมาะสม ครั้งที่ 1 ในการนำเสนอรายละเอียดเส้นทางและรูปแบบที่เหมาะสม พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการศึกษาฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบการศึกษาให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ หลังจากการประชุมในวันนี้จะมีการจัดประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (25ต.ค.56) ณ ห้องประชุมศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในพื้นที่ดังกล่าว

[attach=3]
3 เส้นทางที่ศึกษาซึ่งแนวอยู่ใกล้เคียงกันเกือบตลอดสาย

สำหรับโครงการศึกษาการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย เป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจตอนใต้ของประเทศ ก่อนหน้านี้ในปี 2548 เคยมีการศึกษาการก่อสร้างทางหลวงสายใหม่ระยะทาง 47 กิโลเมตร แต่ได้มีการยกเลิกไปเนื่องจากไม่มีงบประมาณเพียงพอและไม่คุ้มค่าทางการลงทุน ปัจจุบันการจราจรบนถนนกาญจนวนิช ช่วงหาดใหญ่-สะเดา ซึ่งมีรถสัญจรมากกว่า 3 หมื่นคันต่อวันและ 25-30 % เป็นรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ รวมถึงรถทัวร์ รถนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จากข้อมูลในปี พ.ศ.2554 การค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียมีมูลค่ารวม 560,655 ล้านบาท โดยการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยสู่ประเทศมาเลเซีย ทางจุดผ่านแดนสะเดา มีมูลค่าถึง 307,220 ล้านบาท และถนนกาญจนวนิช ตลอดสายคับแคบไม่สามารถขยายช่องจราจรเพิ่มได้อีกแล้ว 

เพื่อรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มมากขึ้น ลดปัญหาการติดขัดของการจราจรและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและช่วงเทศกาลต่างๆ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการศึกษาการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่ สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย ระยะทางประมาณ 57.5 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นจากทางหลวงสายเอเชีย ช่วงตำบลท่าช้าง อ.บางกล่ำ ผ่านอำเภอหาดใหญ่ คลองหอยโข่ง และสิ้นสุด ณ ด่านชายแดนใหม่ อ.สะเดา โดยเป็นเส้นทางปิดมีการจัดทำทางข้าม ทางแยกต่างระดับตลอดสาย ทั้งนี้ ในการก่อสร้างนั้นต้องดูความคุ้มค่าการลงทุน การบริหารจัดการ รัฐลงทุนบริหารเอง รัฐลงทุนให้เอกชนบริหาร หรือให้เอกชนลงทุนและบริหารเอง และหากการศึกษาประสบความสำเร็จผ่านความเห็นชอบจากทุกภาคส่วน การศึกษาในทุกขั้นตอนบรรลุเป้าหมายการดำเนินโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 5 ปี

[attach=4]
โครงการเมื่อปี 48 ใช้งบศึกษาไปเท่าไหร่แต่สุดท้ายก็พับเข้ากรุ

[attach=5]
กรอบสีเขียวคือพื้นที่แนวการดำเนินโครงการ

[attach=6]
อนาคตมอเตอร์เวย์

ฅนสองเล

วีดีโอแนะนำโครงการ

http://youtu.be/B2kCo1IbxF0

ติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ทาง www.hatyaimotorway.com

เด็กใต้รักจริง

ครั้งนี้คงศึกษาผ่านหมดนะครับ ที่เหลือมาลุ้นกันว่าจะสร้างตอนไหน
...น้ำหมึกปลายปากกา ไม่ได้สอนประสบการณ์ชีวิต...

Puiey2521

สมควรสร้างนะ โครงการนี้ แต่ถ้าไม่คุ้มทุนหรือเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก ๆ ก็ไม่สนับสนุนครับ
ทำดีแล้วโดน "ด่า" ดีกว่าพวกไม่ทำ "ห่า" แล้วด่า "คนอื่น"


Probass

คงเป็นกรณีศึกษา ทำข้อมูลแล้วก็พับเก็บไว้

รถบรรทุกตู้สินค้าที่วิ่งไปสะเดาแล้วแยกไปด่านนอก +ปาดัง  จริงๆแล้วทำลานพักตู้สินค้าและเชื่อมต่อกับท่าเรือน้ำลึก   ก่อสร้างแถวๆบางกล่ำแล้วลากด้วยรถไฟดีกว่า

ส่วนโรงงานใหม่ก็ให้ไปตั้งในนิคมอุตสาหกรรม สินค้าที่ออกมาหรือนำเข้า ก็ถ่ายขึ้น-ลง ที่ลานพักตู้สินค้าที่บางกล่ำ รถบรรทุกก็วิ่งเข้าออกแค่โรงงานลดปริมาณรถบรรทุกที่จะออกมาบนถนน  ถนนจุดไหนที่มีทางรถไฟตัดผ่านก็ทำทางยกระดับหรือลอดใต้ เพื่อไม่ให้มีปัญหารถติดระหว่ารถขบวนรถไฟ

ส่วนบริษัทขนส่ง ปัจจุบันได้ย้ายออกไปโซนนอก แถวๆโคกเมากันหมดแล้ว สามารถเชื่อมต่อ ถ่ายลำสินค้าลงรถปิคอัพได้ทันที
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

เด็กใต้รักจริง

อ้างจาก: Probass เมื่อ 10:03 น.  25 ต.ค 56
คงเป็นกรณีศึกษา ทำข้อมูลแล้วก็พับเก็บไว้

รถบรรทุกตู้สินค้าที่วิ่งไปสะเดาแล้วแยกไปด่านนอก +ปาดัง  จริงๆแล้วทำลานพักตู้สินค้าและเชื่อมต่อกับท่าเรือน้ำลึก   ก่อสร้างแถวๆบางกล่ำแล้วลากด้วยรถไฟดีกว่า

ส่วนโรงงานใหม่ก็ให้ไปตั้งในนิคมอุตสาหกรรม สินค้าที่ออกมาหรือนำเข้า ก็ถ่ายขึ้น-ลง ที่ลานพักตู้สินค้าที่บางกล่ำ รถบรรทุกก็วิ่งเข้าออกแค่โรงงานลดปริมาณรถบรรทุกที่จะออกมาบนถนน  ถนนจุดไหนที่มีทางรถไฟตัดผ่านก็ทำทางยกระดับหรือลอดใต้ เพื่อไม่ให้มีปัญหารถติดระหว่ารถขบวนรถไฟ

ส่วนบริษัทขนส่ง ปัจจุบันได้ย้ายออกไปโซนนอก แถวๆโคกเมากันหมดแล้ว สามารถเชื่อมต่อ ถ่ายลำสินค้าลงรถปิคอัพได้ทันที

มันไม่ใช่แค่สินค้าน่ะสิครับ เส้นกาญจนวนิชมันแออัดเกินไปแล้วครับ ขยายก็ไม่ได้ นี่เป็นเส้นทางเข้า-ออกประเทศ AEC นะครับ ล้าหลังมากเลยบ้านเรา อายเพื่อนบ้านไหมล่ะ
...น้ำหมึกปลายปากกา ไม่ได้สอนประสบการณ์ชีวิต...

Jobie

ดูจากเส้นทางแล้ว  ถ้าอยู่ในเมืองกว่าจะแหวกการจราจรไปขึ้นมอเตอร์เวย์ ก็ใช้เวลาโขอยู่นะ  น่าจะต้องมีทางเชื่อมขึ้นลงใกล้ๆ เมืองด้วย       ว่าไปหาดใหญ่เองไม่ค่อยได้มีการวางผังเมืองเท่าไหร่  ขยายเมืองไปตามมีตามเกิด จะสังเกตุว่าทางเชื่อมเข้าเมืองจากถนนรอบนอกเนี่ยจะแคบและคดเคี้ยวมาก

แค่ผ่านมาทักค่ะ


Puiey2521

จะกี่ปีก็จะรอ เพราะถนนกาญจนวนิชเส้นเดียว ไม่พอแล้ว
ทำดีแล้วโดน "ด่า" ดีกว่าพวกไม่ทำ "ห่า" แล้วด่า "คนอื่น"