ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

-- นกเอี้ยงสาริกาที่รัก <3

เริ่มโดย nu.jokie, 20:06 น. 19 ก.ย 56

nu.jokie

สวัสดีค่ะ

           วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวที่ประสบพบเจอมา  เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของลูกนกน้อย  ขอย้อนกลับไปตอนเจอมันใหม่ๆ  พอดีหนูเจอมันตกจากรังเมื่อประมาน 4เดือนที่แล้ว  ตอนนั้นมันมีขนขึ้นเต็มตัวแล้วค่ะ  ตอนแรกเอามันกลับขึ้นไปไว้ที่รังต้นที่มันตกลงมาแล้ว สังเกตุดูมันอยู่นานพอสมควร  หนูก็คิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วหายห่วง จึงกลับเข้าไปในบ้าน พออีกสักประมาณ 1ชม. ต่อมาได้ยินเสียงนกร้องเสียงดังมาก อยู่หน้าบ้าน จึงรีบวิ่งไปดู ปรากฎ ว่ามันกำลังถูกแมวขู่ใส่อยู่ด้วยความตกใจขอตัวหนูเองจึงรีบวิ่งไปไล่แมวแล้วอุ้ม มันเข้าไปในบ้านเพราะคิดว่าเอาไว้ข้างนอกคงไม่ปลอดภัย จึงเลี้ยงเอาไว้จนกว่ามันจะบินคล่องแล้วปล่อยมัน

รูปวันแรกที่เจอมันแล้วเอาเข้าบ้านใส่ตะกร้าไว้


พอเลี้ยงมันไว้ได้สองวัน อาการ มันดูซึมๆนิ่งๆ ไม่ร้องเหมือนนกตัวอื่น ทั้งๆที่เมื่อวานมันก็ยังกระโดดไปมาได้ แต่พอมาวันนี้กลับไม่กระโดด ยืนก็ไม่ได้ ทรงตัวด้วยข้อต่อของขา เซไปเซมา เกาะกิ่งไม้ไม่ได้และเกาะอะไรไม่ได้เลย  แถมไม่ยอมกินข้าวหุงที่เอามาป้อน(เพราะไม่ได้เตรียมอาหารนกจึงเอาข้าวให้นกกินก่อน)  .. ด้วยความเป็นห่วงหนูจึงพามันไปหาหมอ  หมอบอกว่ามันขาดวิตามินกับแคลเซียม  มันจึงเดินด้วยเท้าไม่ได้ หมอให้เปลี่ยนที่อยู่ให้มันใหม่จากตอนแรกอยู่ในตะกร้า  หนูเปลี่ยนเอากล่องมาทำเปนรังให้มันอยู่เปลี่ยนทิชชูให้มันทุก วัน


สงสารมันมาก เหมือนนกที่ใกล้จะตาย หมอบอกให้พยายามให้มันกินอาหารเยอะๆ และกินวิตามินและแคลเซียมเป็นอาหารเสริม ที่หมอสั่งยาให้  หนูป้อนมันทุกเช้ากับเย็น ตอนกลางวันแอบโดด รร.เพื่อมาป้อนอาหารมัน (กลัวมันตายมาก) เวลามันนอนมันล้มลงไปนอนเลย ตอนแรกนึกว่ามันตายแล้วพอเอามือไปลูบมันก็ลืมตามอง โล่งใจมาก แต่ความรู้สึกตอนนั้นคืออยากจะร้องไห้ ถึงแม้จะเลี้ยงมันมาเป็นเวลาสั้นๆ แต่มันก็เหมือนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเพราะต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยาดูแลเอาใจใส่ทุกวิถีทางเพื่อให้มันรอด!!   ผ่านมา สองอาทิตย์ อาการไม่ดีขึ้นแถมแย่ลง  น้ำหนักตัวมันลดลงเรื่อยๆ จนน่าใจหายทั้งๆที่ป้อนทุกๆสามมื้อยัดให้มันกินเยอะมากๆ  พาไปหาหมออีกรอบ หมอบอกว่ามันคงไม่รอด หนูหมอตลอดว่ามันต้องรอดยังไงมันก็ต้องรอด หมอจึงลองให้หนูป้อนยาปฏิชีวนะให้มัน หนูก็ต้องป้อนทั้งยาทั้งอาหารเสริมให้มันทั้งวัน แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นเป็นพยาบาลจำเป็น...ให้มันมาเป็นเวลา 1เดือนกว่าๆ มันก็เริ่มกินข้าวเองได้ เริ่มยืนได้และในที่สุดมันก็วิ่งได้ และบินได้ แต่ยังไม่คล่องเท่าไหร่คนในบ้านตกใจมากที่มันรอดมาได้ จนตอนนี้เลี้ยงมันมาเป็นเวลา 4เดือนจะ5เดือนแล้วค่ะและเลี้ยงให้มันอยู่ในบ้านแต่ไม่ได้ขังกรง  เคยปล่อยมันไปแล้วแต่มันไม่ไป หนูจึงเลี้ยงมันเอาไว้และตั้งชื่อมันว่า เจ้าดำมี่  ไปไหนไปด้วยเกาะไหล่แน่นไม่ปล่อยเลย  ไปไหนมีแต่คนอยากจะได้มันเพราะมันค่อยข้างเชื่องคน  แต่นิสัยเสียของมันคือชอบจิก คนที่ไม่รู้จักมันเค้าก็จะกลัวมันจิก  ทั้งๆที่เลี้ยงแบบอิสระตัวหนูเองโดนจิกบ่อยแต่หนูไม่ได้กลัวมัน แต่กลับคนในบ้านไม่มีใครกล้าจับ  มันจิกแรงจิกเจ็บมาก   แต่เรื่องอื่นมันเชื่องมาก เดินตามหนูตลอด เวลาอาบน้ำหนูก็เอาน้ำใส่ถาดแล้ววางไว้มันก็วิ่งไปอาบแถมแกล้งคนชอบสบัดมาทางที่มีคนอยู่  ดื้อมาก ซนมาก แต่ไม่ชอบนิสัยชอบจิกของมันเลยค่ะ -*- อิอิเอาประสบการณ์เลี้ยงนกครั้งแรกมาเล่าให้ฟังคงจะอ่านจนเบื่อแล้วสินะค่ะ 55 ><  ...


     สุดท้ายนี้ก็อยากจะ บอกว่าสัตว์กับคนก็มีชีวิตมีจิตใจเหมือนกับคนมนุษย์เรา  อย่าทิ้งขว้างอย่าเห็นว่ามันเปนแค่สัตว์ที่จะปล่อยให้ตายก็ได้ไม่ได้ก็ดี  ชีวิตมันหนึ่งชีวิต มีค่ามากที่ได้เกิดมาบนโลก มันเป็นสิ่งสวยงามที่ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น  และหนูก็ภูมิใจมากที่สามารถช่วยชีวิตที่มีค่าของมัน....ให้ที่อยู่...ให้ความอบอุ่น รักและดูแลมันเหมือนเพื่อนมนุษย์  และก็อยากจะให้ใครหลายๆคนมองสัตว์เป็นเพื่อน มากกว่ามองเป็นของดูเล่น  ส.กลิ้ง ส.เดี๋ยวโดน ส.โบยบิน


ดำมี่ ณ ปัจุบันค้า ~ ตัวโตมีหางแล้ว แข็งแรงหายห่วง <3

Mr.No



ผมกำลังสงสัยว่าพลาดกระทู้ดี ๆ อย่างนี้อีกแล้ว...

น่าจะเป็นโพส/กระทู้ ดี ๆ ในรอบหลายเดือนสำหรับบอร์ดนี้ทีเดียว...

อ่านแล้วนึกภาพเห็นถึง ความรู้สึก..เจตนา..ของผู้เลี้ยงดูเจ้านกเอี้ยงตัวนี้ได้ดี ซึ่งคิดว่า การมองเห็นคุณค่าของสัตว์ที่มีลมหายใจ..มีเลือดเนื้อ ..เจ็บปวด และมองในเชิง เพื่อนร่วมโลก นั้น น่าจะทำให้ โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นไม่น้อย..

จริงๆ  เจ้านกเอี้ยงสาลิกาตัวนี้ ถ้าจะมองในเรื่องคุณค่าทางด้านมูลค่า คงไม่ต้องพูดเพราะมันกลายเป็นนกเอี้ยงที่ผมคิดว่าน่าจะปลดรายชื่อออกจากสัตว์สงวนได้ทันที เพราะการปรับตัวในการอยู่ร่วมกับเมืองและมนุษย์ทำให้มันคงห่างจากคำว่า "สูญพันธุ์" อีกนาน

ไม่แน่ใจว่าผู้โพส ..ซึ่งใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า "หนู" อายุอานามเท่าไหร่...แต่อ่านจากการเขียน ก็รู้สึกว่า กระชับ เข้าใจง่าย และ "ตรง" ดี

เพราะชื่อเจ้าเอี้ยงสาลิกานี้  เป็นชื่อที่เราเอามาจากอินเดีย (อินเดียเรียกนกเอี้ยงนี้ว่า สาลิกา (Saarika) ถือเป็นนกที่เกิดมาคู่มนุษย์ เพราะมันเลียนเสียงมนุษย์ได้  และในทางไสยฯ ก็เลือกเอานกชนิดนี้มาเป็น หุ่นเสก เรียกเงินเรียกทองจนเป็นที่มาของขลังที่เรียกว่าพวก "สาลิกาลิ้นทอง" ไง

เอาเป็นว่า...รับเลี้ยงไว้ แล้วดีนะ...รวย!
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

คนน้ำตก


win189

อ่านแล้วอมยิ้มตามน้องคนเลี้ยงที่เขียนบรรยายไว้ ส.หัว ส.หัว ส.หัว  ขอให้สนุกกับการเลี้ยงนะครับ  ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

songdagvitaya

น่ารักมาก เลี้ยงไว้นะ ส.โบยบิน

giftiizzzzz

คืออยากทราบว่ามันตัวร้อนเป็นปกติไหมคะ? เเล้วมันเป็นเชื้อราที่หัวควรทำยังไงดีคะ?