เกมลุ้นที่ด่านสุดท้าย!

[itplaza]

อ้าว เลื่อนไปปีหน้าอีกแล้ว

ตามการทำนายทายทักล่าสุดของนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสการเมืองชื่อดังที่ฟันธงเลยว่า วันที่ 8 ตุลาคมนี้ไม่น่าจะมีอะไรในกอไผ่

แต่ปี  2557 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพี่ชายอย่างอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะเจอกับปัญหา

เป็นปีเข้าเคราะห์ ช่วงเดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคม

โดยเฉพาะนายกฯยิ่งลักษณ์ จะประสบเคราะห์กรรมถึงขั้นต้องไปอยู่ต่างประเทศ

ดวงอาเพศของผู้นำหญิงเลื่อนไปอีกปี มันก็เป็นอะไรที่น่าจะมาเก้อหรือไม่ กับจังหวะเคลื่อนไหวของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่เคลื่อนพลมาปักหลักชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

ลุ้นตามคำทำนายของโหรจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้

นั่นคือมองกันในมุมขบขัน ม็อบพึ่งฤกษ์โหรล้มรัฐบาล

แต่โดยปรากฏการณ์ "ของจริง" แกะรอยตาม "พิมพ์เขียว" ที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแบไต๋วิเคราะห์ปัจจัยที่จะทำให้เกิดการล้มล้างรัฐบาลได้ คือการที่นายกรัฐมนตรี นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ขึ้นทูลเกล้าฯ

และเมื่อครบกำหนด 90 วันแล้ว ยังไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าฯ ลงมา

นายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไร

ตามเส้นทางถ้าสภามีการลงมติยืนยันให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ แล้วถ้าศาลวินิจฉัยออกมาว่า การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ขัดมาตรา 68 และเป็นโมฆะ

หากรัฐบาลไม่ยอมรับปัจจัยเหล่านี้ก็จะทำให้มีการชุมนุมใหญ่ได้

โดยภาคประชาชนทั้ง 12 องค์กร จะออกมาชุมนุมอย่างแน่นอน ในนามส่วนตัวหากพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วย ก็จะเข้ามาร่วมชุมนุมทันที

นี่แหละ "คำตอบสุดท้าย"

ไล่ตามฉากที่วางหมากไว้เป็นช็อตๆ งานนี้ทีมงานฝ่ายล้มรัฐบาลเตรียม "อุ่นเครื่อง"ม็อบไว้

รอแค่เงื่อนไข "เข้าล็อก" ก็จุดพลุอาละวาดทันที

มันจึงเป็นอะไรที่ไม่กล้าประมาท ต้องควบคุมม็อบให้อยู่ในวงจำกัดไว้ก่อน

ตามเกมที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ได้เรียกประชุมด่วน ครม.นัดพิเศษ เพื่อหารือและขอมติที่ประชุม ครม.ในการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551

ก่อนมีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ตั้งแต่วันที่ 9-18 ตุลาคม ในพื้นที่ 3 เขตของ กทม. คือ เขตป้อมปราบฯ เขตพระนคร และเขตดุสิต

ตามเหตุผลเพื่อป้องปรามเพราะหวั่นจะเกิดเหตุการณ์บานปลาย เนื่องจากจะมีโปรแกรมที่นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเยือนประเทศไทย อีกทั้งจะมีการนำกฎหมายสำคัญเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมสภาฯด้วย

โดยสถานการณ์ รัฐบาลงัดดาบ พ.ร.บ.มั่นคงมาบล็อกกันด้วยข้อกฎหมาย

มุกที่ใช้ได้ผลมาตลอดในการเลี่ยงเงื่อนไขการปะทะกับม็อบต้าน ไม่ให้เกิด "น้ำผึ้งหยดเดียว"

ไม่พลาดเข้าเหลี่ยม "หน่วยวางเพลิง" โหมไฟง่ายๆ

และก็เป็นอะไรที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้หายใจโล่งไปอีกเปลาะ

ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา ส่งความเห็นของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กับคณะ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กับคณะ

ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 (1) ว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว. มีความขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 (1) ใช้กับร่างพระราชบัญญัติเท่านั้น แต่คำร้องทั้ง 2 คำร้อง เป็นคำร้องที่ให้ตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ศาลจึงเห็นว่าไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 (1) จึงไม่รับไว้พิจารณา

ก็เหลือลุ้นอีกปม ตามคำร้องที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ด้วยว่า ประธานรัฐสภากับสมาชิกรัฐสภา รวม 310 คน ซึ่งร่วมกันเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 วรรคหนึ่ง หรือไม่

ตามเงื่อนไขของฝ่ายต้าน "ทักษิณ" ที่ยื้อเกมรื้อรัฐธรรมนูญ "หน้าแหลมฟันดำ" มาจนถึงด่านสุดท้าย

ถ้าหลุดไปได้ ก็หมายถึงทะลุ "สุดซอย" แล้ว.

ขอบคุณเนื้อหา  : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=30257&page=1