ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

2475-2553 78 ปี 18 ฉบับรัฐธรรมนูญไทยไม่พออีกหรือ

เริ่มโดย ฅนสองเล, 11:51 น. 09 ธ.ค 53

ฅนสองเล

[attach=1]

ประเทศไทยของเรามีการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาตั้งแต่ปี 2475 จวบจนปัจจุบัน พัฒนาการที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดล่วงเลยถึงปีที่ 78 นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 รัฐธรรมนูญฉบับที่ 18

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยมักเกิดควบคู่กับการฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติ รัฐประหาร ยึดอำนาจในรูปแบบใดๆ รัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศกลับกลายเป็นผู้ร้ายเสมอ เพราะอะไร เพราะเกิดเหตุทีไรรัฐธรรมนูญใหม่เกิดขึ้นมาทันที

ปี 2540 เราได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ให้อำนาจกว้างขึ้น ให้เสรีภาพมากขึ้น ให้ฝ่ายการเมืองเข้มแข็งขึ้น จากช่องว่าของการให้อำนาจกลับนำมาซึ่งการทุจริตคอร์รัปชั่น ทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์พวกพ้อง แทรกแซงองค์กรอิสระ สุดท้ายเราต้องล้มล้างรัฐบาลด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญฉบับที่บอกว่าประชาชนเป็นเจ้าของ

ทั้งที่ความผิดทั้งหมดอยู่ที่นักการเมืองหลาย แต่นักการเมืองลอยหน้า สภาลอยตัว รัฐธรรมนูญโดนฉีก

ปี 2550 รัฐธรรมนูญฉบับที่ 18 ที่เกิดขึ้นจาก คมช. ที่มีการอุดช่องโหว่การทุจริตเชิงนโยบาย ลดการผูกอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของคนเพียงกลุ่มเดียว แต่ถึงวันนี้ผ่านมาแค่ 3 ปี รัฐธรรมนูญกำลังโดนตัด แปะ เพิ่ม โดยนักการเมืองคนที่มีข้ออ้างว่าทำเพื่อประชาชน

สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 78 ปี รัฐธรรมนูญ 18 ฉบับ นายก 27 คน ความผิดทั้งหมดอยู่ที่รัฐธรรมนูญหรืออยู่ที่นักการเมืองไทยไม่รู้จักพอ ไม่มีคุณธรรมจริยธรรม คิดแต่เรื่องสนองตัณหาตนเองมากกว่าการแก้ปัญหาส่วนรวม

นักการเมือง อาชีพที่เรียกตัวเองว่าผู้ทรงเกียรติ แต่เบื้องหลังคือนายทุน นายบ่อน ซุ้มมือปืน ค้าของเถื่อน ผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าและหลังอิทธิพลมืดทั้งหลาย เราจะปลดปล่อยพันธนาการเหล่านี่ได้อย่างไรหากคนอาสาในทางการเมือง มองการเมืองเป็นแค่เกมส์ แค่ของเล่นอยู่เช่นนี้

จะต้องแก้รัฐธรรมนูญอีกกี่ครั้ง ปฏิวัติอีกกี่รอบ เปลี่ยนนายกอีกกี่คน ประเทศไทยถึงจะก้าวพ้นจากคำว่า กำลังพัฒนา สู่การเป็นประเทศ พัฒนาแล้ว กับเขาเสียที

10 ธันวาคม ขอคารวะสดุดีวีรชนประชาธิปไตยทุกท่าน และขอสาปแช่งมารประเทศไทยให้มีสำนึกกลับมาทำดีเพื่อชาติด้วยเถิด 

สงสารชาวบ้าน

นักกินเมืองกินไม่สะดวกเมื่อไหร พวกหมันจะแก้อยู่นั้นแหละเช่นฉบับปี2550เป็นต้น และ ยังไม่ถึง 100 ฉบับที พวกหมันยังถือว่ายังน้อยอยู่ พวกนี้แหละถ่วงความเจริญของชาติ ได้ข่าวว่าหมันจะทำปากบารา สตูล ให้เป็นมาบตาพุดแห่งใหม่แต่ชาวบ้านไม่ยอม ฉานว่าชาวบ้านตายหยังเขียดหล่าว น่าเห็นดูจริงๆ

ปชปหัวก้าวหน้า

รัฐประหาร คงมีให้เห็นอีกนั่นแหละ ทราบใดที่อำนาจนอกระบบยังมีอยู่
และเมื่ออำนาจของประชาชนเข็มแข็งและเป็นระบบอีกครั้ง  ก็จะโดนทำลายอีก โดยอ้างปัญหาความมั่นคงและปัญหาทุจริตคอรับชั่นของนักการเมือง
โครงสร้างอำนาจที่ทับซ้อนทีเป็นปัญหาของเมืองไทยคืออำนาจที่มาจากประชาชนโดยผ่านการเลือกตั้งและอำนาจนอกระบบทีฝั่งรากลึกมาเป็น 100 ปี ทับซ้อนทั้งแผนโครงการทำงาน และอำนาจตามรัฐธรรมนูญ เมื่อไหร่อำนาจของประชาชนเข็มแข็ง ก็จะโดนทำลาย โดยใช้เครือข่ายอำนาจของตัวเอง ทำลายศัตรูฝ่ายตรงข้าม โดยสร้างวาทกรรมเดิมๆเช่น นักการเมืองชั่ว โกงกิน ฯลฯ ในที่สุดก็ไม่พ้นยึดอำนาจโดยทหาร หลังยึดอำนาจแล้วก็ร่างรธน.ฉบับใหม่ โดยลดอำนาจของประชาชนลงแล้วไปเพิ่มอำนาจให้กับกลุ่มอำนาจเดิม มากกว่าเดิมทุกครั้ง

ก.ไก่ทอด

  ไม่มีทางมีวันพอหรอกครับ พวกที่ต้องการแก้มากก็ไอ้พวกนักการเมืองตัวดีนี่ละครับ มันต้องแก้ตามยุคสมัยในการกินครับ       จาก.กไก่ทอด
พรุ่งนี้ก็ทอด วันนี้ก็ทอด มะลือก็ทอด อนาคตก็ยังทอด  ร้าน ก.ไก่ทอด      

ปชปหัวก้าวหน้า


เพ็ญ

นักการเมืองเลว  ไม่น่ากลัวหรอก

นักการเมืองถ้าเลว    ครั้งต่อๆไปประชาชนย่อมไม่เลือกเขา  เขาอยู่ได้ไม่นานหรอก 

ขอแต่ให้ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง  อย่าได้มีการปฏิวัติ-รัฐประหาร ซึ่งเป็นการเดินถอยหลังของประชาธิปไตยทุกครั้ง 

การทำรัฐประหารทุกครั้งจะอ้างเหตุผลว่าเพราะนักการเมืองทุจริต คอรัปชั่น  แต่แท้ที่จริงคือการเด็ดยอดพลังประชาธิปไตยที่กำลังเติบโตของประชาชน

ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง  มีลักษณะอย่างหนึ่ง  คือต้องต้องปล่อยให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆเป็นสิ่งที่เปิดเผย

ประชาชนรับข้อมูลหลายๆด้าน  เขาย่อมคัดสรรได้เองว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่ดี  นักการเมืองคนใดดี  นักการเมืองคนใดเลว แล้วเขาย่อมเลือกของเขาได้เอง

แต่ประเทศไทยเรา  มีการปกปิดข้อมูลเต็มไปหมด  สื่อสารมวลชนต่างๆ  ถูกตีกรอบให้ป้อนข่าวสารแก่ประชาชนเพียงด้านเดียว  มีการเสกสรรค์ปั้นแต่งข้อมูล  การโฆษณาชวนเชื่อ ครอบงำความคิดอย่างมากมายในบรรยากาศของสังคมไทย  มีการปิดเวบไซด์ที่เปิดเผยข้อมูลความจริง  และเห็นต่างจากผู้ครองอำนาจหลายพันเวบไซต์

คนเห็นต่าง  คนเปิดเผยความจริงบางเรื่องถูกจับขักคุกมากมายหลายคน  นับได้จำนวนเป็นร้อยๆคนแล้ว ในขณะนี้
 

ด้วยเหตุผลที่ประเทศของเราไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงนี้แหละ  ประเทศเราถึงไม่เจริญสักที


เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญก็เหมือนกัน  รัฐธรรมนูญควรจะแก้ไขได้เรื่อยๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

อย่ากลัวไปเลยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ   การแก้รัฐธรรมนูญย่อมดีกว่าการฉีกรัฐธรรมนูญ    แล้วอย่าคิดทางลบด้านเดียวว่านักการเมืองแก้เพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น 

ถ้าพวกเขาไม่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนบ้าง  เขาก็ไม่มีวันที่จะอยู่ในเวทีการเมืองได้อย่างยาวๆ.....

ข้อนี้นักการเมืองที่มาโดยการเลือกตั้งเขาย่อมรู้ดี

แตกต่างจากผู้ที่เข้าสู่อำนาจ  ด้วยวิถีทางที่ไม่ไช่มาจากการเลือกตั้ง 

พวกนี้ต่างหากที่เป็นอันตราย กับประชาชน

แต่เมืองไทยเรานี้ก็แปลก

เสกสรรค์ปั้นแต่ง  โกหกตอแหล  ให้ข้อมูลด้านเดียว  ปิดข้อมูลด้านอื่น จนคนกลุ่มนี้กลายเป็นคนดี  คนถูก คนที่น่าชื่นชม
ก็เมืองไทยจึงได้ชือว่าเป็นบ้านเมืองแห่งการหลอกลวง  หรือที่เรียกว่า "ตอแหลแลนด์" ไงล่ะ