ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ซุ้มรับเสด็จจำลอง ในหลวงฯ เสด็จพระราชดำเนิน จ.สงขลา 17–19 มีนาคม 2502

เริ่มโดย ฅนสองเล, 10:32 น. 20 มี.ค 57

ฅนสองเล

ซุ้มรับเสด็จจำลอง ในหลวงฯ เสด็จพระราชดำเนิน จ.สงขลา 17–19 มีนาคม 2502

[attach=4]

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในจังหวัดภาคใต้เป็นครั้งแรก เริ่มต้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2502 เป็นเวลา 20 วัน ในการเสด็จครั้งนั้นโดยขบวนรถไฟพิเศษจากสถานีจิตรลดาในเวลา 06.45 น.ของเช้าวันที่ 6 มีนาคม ถึงสถานีชุมพร ซึ่งถือเป็นประตูสู่ภาคใต้ ในเวลา 17.45 น. ของวันเดียวกัน โดยพระองค์เสด็จประทับที่ชุมพร 1 คืน

วันรุ่งขึ้นก็เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งต่อไปยังจังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟจากนราธิวาสสู่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นจังหวัดสุดท้าย

[attach=5]

ในส่วนของจังหวัดสงขลานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 17 – 19 มีนาคม 2502

อำเภอรัตภูมิ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสงขลา มีเขตติดต่อระหว่างจังหวัดสตูล และจังหวัดพัทลุง แต่สิ่งที่ชาวอำเภอรัตภูมิมิเคยลืมเลือนไปจากความทรงจำ คือ การเสด็จประภาสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันขึ้น 8 ค่ำ อังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2502 ณ.ที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ (หลังเก่า) สร้างความปลาบปลื้มให้กับพสกนิกรในอดีตจนถึงปัจจุบัน

จากจังหวัดพัทลุงตามทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม อำเภอรัตภูมิคืออำเภอแรกที่เป็นเขตรอยต่อของจังหวัดสงขลากับจังหวัดพัทลุง ได้มีการจัดสร้างจำลองซุ้มรับเสด็จในหลวงฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาส จ.สงขลา ณ สำนักสงฆ์ดอนขี้เหล็ก (พรุพ้อ) ม.2 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

บริเวณซุ้มประตูมีบทร้อยกรองบันทึกไว้ว่า
"พระบาทแรก ทรงเหยียบย่าง บ้านพรุพ้อ, แผ่นดินพ่อ รัตภูมิ เมืองสงขลา,
เมื่อวันที่ สิบเจ็ด เดือนมีนา, ปีสองห้า สูญสอง ก้องแผ่นดิน,
สองพระองค์ ทรงเสด็จ เยี่ยมภาคใต้, ปวงไทยได้ ชื่นชม สมถวิล,
พระเกียรติยศ ปรากฏ ทั่วธานินทร์, องค์ภูมินทร์ ภัทร- มหาราชา"


ร.ต.อ.เยื้อง สมถวิล/ประพันธ์/5 พ.ย.56

ขอขอบคุณ
เกษม ลิมะพันธุ์ /ข้อมูล/บันทึกภาพ http://www.facebook.com/kasemnews