ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เข้าทำเนียบฯวันแรก'เพชฌฆาตฤกษ์' ประเดิม'ครม.ประยุทธ์'จริงหรือ?

เริ่มโดย itplaza, 16:30 น. 08 ก.ย 57

itplaza


แล้ววันที่ 9 ก.ย.นี้ ครม.ประยุทธ์ จำนวน 33 คน 34 ตำแหน่ง ก็ใช้ฤกษ์วันที่ 9 เดือน 9 ประเดิมเข้าทำเนียบรัฐบาล ด้วยการประชุมครม.นัดแรก เพื่อแบ่งงานอย่างเป็นทางการเสียที อนาคตจากนี้ไป ประเทศไทยจะ"โชติช่วง" หรือ"ร่วงลง" ขึ้นอยู่กับฝีมือบริหารราชการแผ่นดินของ ครม.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควบ ตำแหน่งหัวหน้า คสช. มีอำนาจครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จะเป็นผู้ดูแลแล้ว

อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ


นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวกับ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ฤกษ์ที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ของพล.อ.ประยุทธ์ วันที่ 9 เดือน 9 นั้น เลขนี้เป็นฤกษ์ตัวเลขที่คนไทยเชื่อว่า เลข 9 ดี เป็นเกี่ยวกับเลขศาสตร์ซึ่งมีเลข 9 เป็นเลขมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลขศาสตร์ของไทย ซึ่งออกเสียงเป็น 9 เช่น ก้าวหน้า ก้าวหลัง เน้นเรื่องความก้าวหน้า ความเจริญรุ่งเรือง

แต่ในทางโหราศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องของดวงดาวแล้ว หากดูดวงดาว วันที่ 9 ก.ย. เป็นวันอังคารและเป็น "เพชฌฆาตฤกษ์" ก็ไม่ค่อยดี เป็นเรื่องที่รุนแรง ฤกษ์ขาด โดยปกติเป็นอกุศลฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะกับเรื่องอะไรที่แรงๆ ที่ต้องใช้ความเด็ดขาด โดยฤกษ์ที่เหมาะกับเรื่องชาติ คือ ราชาฤกษ์ แต่ ครม. คงจะเน้นเลขศาสตร์

'ทำเนียบรัฐบาล'สถานที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี ผู้นำอำนาจฝ่ายบริหาร 1ใน3เสาหลัก การปกครองไทย

"อย่างไรก็ตาม หากคิดดี ทำดี จะพัฒนาปฏิรูปประเทศ หากมีความตั้งใจ ตั้งมั่นจริงๆ ก็สามารถที่จะทำได้ และควรระวังอย่าให้เสียของอีกครั้ง ซึ่งเดือนนี้ก็มีฤกษ์ดีอยู่หลายวัน คือ 7 ก.ย. และ 8 ก.ย. แต่ในเมื่อกำหนด เป็นวันที่ 9 ก.ย.แล้วก็ขอให้ตั้งมั่น ก็สำเร็จตามความมุ่งหมายได้ ซึ่งจริงๆ แล้วฤกษ์จะดีหรือไม่ดีก็ตาม ที่สำคัญที่สุดคือต้องทำดี ไม่ใช่ว่าฤกษ์ดีอย่างเดียว แต่ทำไม่ดีก็คงไม่มีทางสำเร็จ ก็อยากให้ระมัดระวัง" นายภิญโญ กล่าว...

อ.ภิญโญ'หมอดู'ที่ต้องยอมรับว่า ดังที่สุดคนหนึ่งในเมืองไทย

กับคำทำนาย นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ก็ชัดเจนในตัวเอง "แม้ฤกษ์อาจไม่ดี แต่ถ้าคนเราตั้งใจทำดีจริงก็สำเร็จได้ ทางกลับกัน แม้ฤกษ์ดีแค่ไหนแต่คิดทำในสิ่งไม่ดีก็ต้องมีอันเป็นไป" ฉะนั้น ครม.ประยุทธ์ ต้องเริ่มเดินหน้าแสดงฝีมืออย่างจริงจัง ให้สมกับที่ประชาชนให้ความคาดหวังไว้สูง เพราะจะว่าไปประเทศไร้รัฐบาลมีเสถียรภาพ มีอำนาจบริหารเต็มมาเป็นเวลามากกว่าครึ่งปี เมื่อมีรัฐบาลใหม่ทั้งทีก็ต้องมีการโชว์ฝีมือ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ กันหน่อย.

ครม.ประยุทธ์ วันร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก หน้าตึกไทยคู่ฟ้า หลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ'ในหลวง'

ผลโพลที่ระบุว่า ประชาชนกว่า 78% เชื่อมั่น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้ภาพลักษณ์การทุจริตคอร์รัปชันไทยดีขึ้น การทุจริตฯค่อยๆ ลดลง จนส่งผลให้เมืองไทยหลังรัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ การทุจริตคอร์รัปชันจะลดน้อยลง ซึ่งหากเป็นอย่างที่คาดหวังจริงถือเป็นบุญของประเทศ เพราะน่าจะทำให้ การเมือง เศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน หรือ แม้แต่ปัญหาสังคม ในทุกด้านน่าจะดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาไปด้วยแน่

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง (ซึ่งก็อยากให้เป็นเช่นนั้น) ประเทศไทยก็จะไปโลด หลังจากต้องตกหล่มมานาน กับปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แต่"ดาบย่อมมีสองคม" เมื่อมัน"สามารถใช้ทำประโยชน์ได้มากมายฉันใด ในทางกลับกัน ก็ใช้ฆ่าหรือทำร้ายซึ่งกันและกันได้ฉันนั้น" ท้ายสุด จึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.

อย่างกรณี คสช.จ่อ ยกเลิกกฎอัยการศึก ที่ใช้มาตั้งแต่ 20 พ.ค.2557 โดยมีพิจารณาเป็นบางพื้นที่ เน้น "เมืองท่องเที่ยว-เมืองเศรษฐกิจ" สำคัญแต่ยังขอดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านก่อน สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตัดสินใจยังไม่ยกเลิก ก็น่าจะอยู่ในตรรกะเดียวกัน "พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ปี 2457" แม้เป็นกฎหมายเก่าแก่ หลายฝ่ายอาจเห็นว่า ล้าสมัย จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ผ่านมา ก็เพราะ พ.ร.บ.อัยการศึกใช่หรือไม่? ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่สามารถหยุดและแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทยที่ใกล้นองเลือดเต็มที อย่างได้ผลชะงัด

ดังนั้น เห็นชัดว่า เงื่อนไขสำคัญขึ้นอยู่กับผู้ใช้ดาบว่า "มีความจริงใจจะใช้แก้ปัญหาโดยเอาผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง โดยคำนึงสถานการณ์และความจำเป็นที่ใช้ในขณะนั้น หรือ จะใช้เพราะเห็นเพียงผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อพวกพ้อง" ส่วนที่สำคัญกว่าคือ เมื่อใช้จนทำให้ทุกอย่างกลับเข้าที่เข้าทางแล้วยังต้องรู้จักจังหวะปล่อยที่เหมาะสม เพื่อให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติโดยบอบช้ำน้อยที่สุดได้ด้วย

อีกมุมมอง'ตึกไทยคู่ฟ้า'หลังปรับปรุงภูมิทัศน์เสร็จ

เช่นเดียวกัน การประชุมครม.ทุกยุคทุกสมัย มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นายกฯและคณะครม.ได้ประชุม หารือ สั่งการ ติดตาม ผลสำเร็จ-ล้มเหลวของโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ทำให้ประชาชน"ได้อยู่ดีมีสุข" แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีครม.บางยุคบางสมัย ไม่ได้ทำตามวัตถุประสงค์นี้ จนส่งผลให้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันมีแต่ขยายตัวมาโดยตลอด

ปืนใหญ่หน้า'ตึกไทยคู่ฟ้า' ขณะตึกอีกหลังที่อยู่ในภาพ คือ'ตึกสันติไมตรี' ทำเนียบรัฐบาล

จากนี้ไป ประเทศไทยจะไปอยู่ตรงไหนในเวทีโลก ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 และหัวหน้าคสช.รวมไปถึงคณะครม.จะเลือกใช้ดาบที่ประชาชนมอบให้ ไปในทิศทางใด "สร้างสรรค์" หรือ "ทำลาย"

'งดงาม' สภาพสนามหญ้าภายในทำเนียบรัฐบาล

ฉะนั้น ก็หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถมควบตำแหน่ง หัวหน้า คสช. ที่มีความตั้งใจ จะปฏิรูปประเทศไทยในทุกด้านอยู่แล้ว จะทำหน้าที่ด้วยความราบรื่น ประสบความสำเร็จผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ตลอดรอดฝั่ง รวมทั้งควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามเป้าหมาย

(บิ๊กตู่) นายกรัฐมนตรีคนที่29 ของไทย วันแต่งชุดขาวเต็มยศ

'ตึกไทยคู่ฟ้า' ทำเนียบรัฐบาล

ขอบคุณเนื้อหา thairath.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=39304&page=1