ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

แน่ใจว่าหาดใหญ่ ...เมืองในสวน!??

เริ่มโดย Mr.No, 08:50 น. 05 ต.ค 57

Mr.No

[attach=1]
ภาพการตัดแต่งกิ่งไม้ของเมืองในสวนที่ถูกต้อง

สองสามอาทิตย์ก่อน  ผมขับรถผ่านไปเส้นถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 5 หลังจากผ่านด้านข้างสยามนครินทร์ตรงไปถึงสามแยกที่จะเลี้ยวซ้ายมุ่งไปไปรษณีย์ ก็พบว่าข้างหน้ามีการนำแผงกั้นมาปิดถนนนิพัทธ์สงเคราะห์5 บอกว่ามีการตัดต้นไม้ซึ่งเป็นต้นจามจุรีขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่หลายต้นในที่ดินของเอกชนในย่านถนนเส้นนั้น

สอบถามคนแถวนั้นทราบว่า มีการร้องขอให้เทศบาลมาช่วยตัด ซึ่งเหตุผลในการตัดก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุมันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนใช้ถนนด้านนอก หรือเป็นการขอให้ตัดโดยเอกชนเอง?

โดยทั่วไปในการตัดต้นไม้นั้น เราจะพบสองหน่วยงานคือ การไฟฟ้าหรือเทศบาล ซึ่งในส่วนของการไฟฟ้านั้นค่อนข้างชัดเจนถึงการตัดและเล็มเพียงเฉพาะกิ่งปลายที่ยื่นขึ้นไปจนอาจไปพาดพิงเอาสายไฟแรงสูงและก่อให้เกิดปัญหาด้านไฟฟ้าได้ (ซึ่งหลายกรณีก็พบว่าการไฟฟ้าเองก็สร้างปัญหาให้ต้นไม้จำนวนมากจากกรณีแต่งกิ่งโดยปราศจากความรู้ความเข้าใจต้นไม้)

ในกรณีเอกชนขอให้มีการตัดต้นไม้เป็นการส่วนตัวนั้น   เทศบาลบางแห่งจะไม่ตัดให้หากไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องความปลอดภัยสาธารณะ แต่เทศบาลบางแห่ง (อย่างกรุงเทพ หรือนนทบุรี ) ซึ่งมีเครื่องไม้ เครื่องมือเค้าก็อนุเคราะห์บริการมาตัดให้ซึ่งจะคิดค่าบริการกับเจ้าของที่ดินหรือเจ้าของต้นไม้ โดยคิดตาม ขนาดวัดรอบของต้นไม้ ฯลฯ

บนนิพัทธ์สงเคราะห์5 วันนั้น ผมเห็นมีการนำรถเครนขนาดใหญ่เอกชนรายหนึ่ง มาใช้ในการช่วยตัด ซึ่งผลก็คือ  เจ้าฉำฉา หรือจามจุรีอายุอานามหลายสิบปีต้นนั้นถูกบั่นเหี้ยนจนแทบเหลือแต่ตอ ..ไม้ใหญ่น้อยเกลื่อนกล่นถนนถูกตัดเป็นท่อนใส่รถปิ๊กอัพนำไปขายหรือเข้าโรงงานที่ไหนก็มิทราบ... อันนี้ชาวบ้านต่างอมยิ้มกันเอง

ไม่กี่วันต่อมา ..บนถนนเส้นเดิมถัดจากเจ้าตอฉำฉาเดิมมาถึงบริเวณหน้าโบสถ์คริสต์ ตรงข้ามหมูบ้านไทยสมุทร  ก็มีการปิดถนนและตัดเจ้าฉำฉาใหญ่จนเหี้ยนไปอีกต้น   ส่วนอีกต้นถัดไปโชคดีที่ทราบว่าทางโบสถ์ไม่อนุญาตให้ ตัด(โค่น) แต่ให้ตัดเพียงบางส่วนที่ยื่นออกมาบริเวณถนน ดังนั้น จามจุรีต้นนี้จึงยังแผ่ร่มเงาให้แก่คนในย่านนั้นได้ยืนหยัดต่อไป
อีกวันก็มีการปิดถนนเส้นนี้(อีก) เพราะมีภาระกิจไปช่วยตัดต้นจามจุรีใหญ่ที่อยุ่ในที่ดินเอกชนถัดไปอีกสัก 50 เมตร ..เบ็ดเสร็จ จัดการจามจุรีใหญ่ในที่เอกชนไปสองสามต้นเป็นที่เรียบร้อย

[attach=2]
[attach=3]
[attach=4]
[attach=5]

ประเด็นเรื่องการตัดต้นไม้คนอื่น ผมไม่ติดใจว่า ค่าใช้จ่ายมหาศาลทั้งค่าเช่ารถเครนซึ่งปกติเฉลี่ยวันละ 5-6 พันบาท ค่าแรงคนงานตัด,ขน ฯลฯ เหล่านั้นเป็นค่าใช้จ่ายคิดตรงกับเจ้าของต้นไม้หรือตั้งงบประมาณของทางเทศบาล  และเจ้าไม้ที่ถูกตัดเหล่านั้นจะถูกนำไปจำหน่ายจ่ายแจกให้ใครเงินที่ได้เป็นรายรับเข้ารัฐหรือใคร? อันนี้ไม่ใช่ประเด็นที่อยากคุยในวันนี้


แต่ที่อยากนำประเด็นเรื่องนี้มาเขียนให้หลายท่านอ่าน ผ่านไปยังท่านด๊อกเตอร์ไพร ให้ได้ทราบด้วยความเคารพว่า นโยบายหนึ่งที่ท่านประกาศเหลือเกินว่าจะทำให้หาดใหญ่เป็นเมืองในสวน...แถมยังถูกชักชวนให้เป็นหนึ่งในก๊วนเทศบาลที่จะทำให้เป็นเมือง "คาร์บอนต่ำ" นั้น ตกลงว่าท่านเข้าใจความหมายและคุณค่าของ "ต้นไม้" โดยเฉพาะนิยามของ "ต้นไม้ในเมือง" ได้ดีเพียงใด?

[attach=6]
[attach=7]

ถ้าใครพอจะจำเรื่องราวของ  ต้นจามจุรียักษ์อายุนับร้อยปีที่ขึ้นในที่ดินเอกชนบนถนนสุขุมวิท 35หลายต้น และกำลังจะมีการถูกตัดทิ้ง   เรื่องนั้นเป็นประเด็นถึงขนาดคนรักต้นไม้ในกรุงเทพ ต้องออกมาขอให้หน่วยงานรัฐเจรจากับเอกชนเพื่อขอให้ระงับการตัดต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นไว้ และมีการตั้งกองทุนเพื่อหาเงินในการเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับจ้างผู้เชี่ยวชาญในการย้ายต้นฉำฉาต้นไม้หากเจ้าของมีความประสงค์จะพัฒนาที่ดินตรงนั้นจริงๆ  แต่สุดท้ายจามจุรีหลายต้นในนั้นก็ต้องถูกตัดเพราะเป็นสิทธิของเจ้าของที่ดิน ซึ่งเมื่อพิจารณาด้านความคุ้มค่าด้านเงินทองโดยเฉพาะการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คงไม่สามารถมาเทียบได้กับแค่ต้นไม้ไม่กี่ต้น

และเมื่อครั้งที่ท่านด๊อกเตอร์ไพรประกาศนโยบายที่จะทำให้หาดใหญ่เป็นเมืองในสวนเมื่อหลายปีก่อน ..ความรู้สึกร่มเย็นและความหวังร่มรื่นของเมืองในห้วงเวลานั้นเกิดขึ้นในใจของคนที่รักต้นไม้และใส่ใจสุขภาพจำนวนไม่น้อย และหลายคนทุ่มเทใจเลือกติ๊กถูก..ท่านเข้ามาเพราะเรื่องนี้ด้วยส่วนหนึ่ง

เพราะนี้ หากใครที่เข้าใจเรื่อง "สุขอนามัย" ในเชิงลึกจะตระหนักเห็นถึงพิษภัยของหาดใหญ่ที่กำลังจะกลายเป็นเมืองที่ฝรั่ง เค้าเรียกว่า Urban Heat Island หรือแปลไทยๆ ได้ว่า "สภาวะเกาะร้อน"

[attach=8]

สภาวะเกาะร้อน คือการที่เมืองใหญ่ต่างพ่นต่างปล่อยมลพิษให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะเป็น ไอความร้อน,ไอพิษร้อนจากเครื่องยนต์,ท่อไอเสีย,โรงงาน,เครื่องปรับอากาศ,การสะสมความร้อนที่เกิดบนถนน ไม่ว่าจะเป็นแอลฟัสท์หรือคอนกรีต ความไม่สามารถถ่ายเทหรือมีการซึมซับความร้อนได้ ทำให้ความร้อนถูกกระจายกลายเป็นคลื่นความร้อนครอบเมืองที่เราอยู่กันเอง.... ผลคือ  5 ประการนับแต่  โรค..ภัย...ไข้...เจ็บ...และสุดท้าย ตาย!!

ประโยชน์ของต้นไม้ไม่น้อยกว่า 25 ประการ อาทิ ช่วยลดความร้อนให้เมืองได้ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์, ช่วยดูดซับมลพิษให้แทนที่มนุษย์จะสูดเข้าไป, หรืออย่างที่ท่านอาจจะไม่เชื่อว่า ต้นไม้ใหญ่ในเมือง ช่วยชะลอและช่วยระบายปริมาณน้ำฝนให้แก่เมืองได้ทันจนไม่ลดคูออกมาจนชาวบ้านก่นอยู่ในเวลานี้ได้ด้วย!   ฯลฯ  เหล่านนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ผมคิดว่า นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมของเทศบาลและตัวท่านด๊อกเตอร์เองก็พอจะทราบและควรจะพอทราบบ้าง

ตัวอย่างการบั่นยอดต้นไม้อย่างไร้ความรู้ด้านวิชาการ อย่างบนถนนิพัทธ์สงเคราะห์1 เส้นทางไปบิ๊กซีคลองแห เป็นตัวอย่างของการทำงานแบบไร้ประสิทธิภาพ และแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการแสดงออกถึงความรักและเข้าใจในต้นไม้อย่างจริงจัง ...ดังนั้นการคาดหวังจะให้หาดใหญ่เป็นเมืองในสวน คงยังไม่ใช่ยุคนี้...หรือโดยเฉพาะ  ท่านนี้!

อ.เดชา บุญค้ำ  ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านภูมิสถาปัตย์เมือง ที่เชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้ในเมือง ..ท่านเคยเขียนเรื่องความเลวร้ายของการตัดไม้ที่ผิดวิธี..แทนที่จะเป็นเรื่องของ "รุกขกรรม" แต่กลับเป็น "รุกขฆาต" เพราะตัดแล้วท้ายสุดต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นจะกลายเป็นภัยทั้งตัวต้นไม้เองและมนุษย์ เพราะการตัดผิดวิธีจะกลายเป็นแหล่งเพาะของแมลง,โรคร้าย,เชื้อรา จนสุดท้ายกลายเป็นพุโพรง หักโค่นล้มครืนสร้างปัญหาให้ชีวิตทรัพย์สิน และในที่สุด...ต้นไม้กลายเป็นจำเลย..ทั้งที่ก่อนหน้าเกิดน้ำมือของคนไปสร้างแผลให้ต้นไม้เหล่านี้ในที่สุดจำนวนไม่น้อย

ดังนั้น...ถ้าจะเดินหน้าเรื่อง "เมืองในสวน"  เพื่อชวนให้คนหาดใหญ่กลับมาใส่ใจเรื่อง "สุขภาพ" คนคิด..ผู้บริหารต้องผ่านบททดสอบของการเป็นคน รักหวงแหนและเห็นคุณค่าของต้นไม้ก่อนเป็นเบื้องต้น
จากนั้นสิ่งที่จะต้องมีสำหรับ "เมืองในสวน" ก็คือ  กองการป่าไม้หรือ แผนกดูแลต้นไม้ หรือติดขัดเรื่องกฎหมายจัดตั้งหรืองบน้อยอีกนิดก็ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญด้าน "รุกขกรรม" ไว้ประจำเทศบาล

"รุกขกรรม" หรือ ที่ฝรั่งเรียกว่า Arboriculture แผนกนี้จะมีหน้าที่คอยดูแลเยียวยา,ซ่อมแซมรักษาต้นไม้ที่ปลูก..วางแผนการปลูก ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ที่ปลูกใต้สายไฟจะตัดแต่งหรือเทรนต้นไม้อย่างไรให้โตขึ้นมาและเลี้ยวหลบสายไฟได้โดยไม่ต้องให้คนงานพม่าหรือคนไทยหน้าไหนมาบั่นจนกิ่งก้านใหญ่ฉีกขาดจนสุดท้าย กลายเป็นแผลลึกยืนตายโพรง!

ท้ายบทความผมนำประโยชน์ของ ต้นไม้ในเมืองมาฝาก ซึ่งหากยังไม่ค่อยเชื่อว่ามันช่วยได้จริง ..ก็ขออิงเรื่องโบร่ำโบราณเกี่ยวกับความเชื่อเรื่อง เทพารักษ์ที่ปกปักรักษาต้นไม้ต้นนั้นๆ  หรือเมื่อมีหลายต้นรวมกันก็มี "รุกขเทวา" ที่ดูแลเยียวยาหมู่ต้นไม้ใหญ่ทั้งหลาย .... ถ้าไม่เชื่อ  ลองสั่งการให้ไปเล็มกิ่งเจ้าแม่จามจุรีหน้าโรงพักดู...นั่นยิ่งง่ายเพราะเป็นต้นไม้บนทางเท้าของท่านเต็ม ๆ ...แถมร่มครึ้มจะล้ำไปบนสะพานลอยอยู่รอมมอร่อ  ก็ยังไม่มีใครร้องว่า มันอันตราย และถึงร้องก็อยากรู้ว่าใครจะกล้าขึ้นไปตัดหรือโค่นท่านทิ้ง!

ดังนั้น...เมื่อท่านให้ร่มเงา..ก็ต้องดูแลท่านให้ดี  ในลำต้นท่านมีเทพารักษ์...เทศบาลนครหาดใหญ่มี "รุกขกร" ช่วยดุแลตรวจตราท่านว่ามีแมลงมาชอนไช..กิ่งก้านใบของท่านสมบูรณ์แข็งแรงดีหรือไม่  ทำด้วยรักและศรัทธาในต้นไม้ได้ดังนี้   เมืองในสวน ..หาดใหญ่น่าอยู่  ก็ยังพอมีหวังครับ.


.........................................................................................................................................

[attach=9]

ประโยชน์ของ " ไม้ใหญ่ในเมือง "
1. ลดความร้อนได้ถึง 10%
2. รถที่จอดในลานจอดที่ร่ม 50% จะปล่อยน้ำมันเบนซินระเหยน้อยกว่า 8% ของรถที่จอดในที่จอดที่มีที่ร่ม 8%
3. ใบและกิ่งของต้นไม้ชะลอตัวลงในอัตราที่น้ำฝนตกกระทบพื้นดินและนี้จะช่วยให้เพื่อลดโอกาสในการเกิดน้ำท่วมแบบฉับพลัน
4. ลดผลกระทบของมลพิษทางอากาศและทำให้พื้นที่กลางแจ้งมากสะดวกสบายมากขึ้น
5. ต้นไม้จะ ช่วยคายออกซิเจนในช่วงกลางวัน ทำให้เราได้อากาศบริสุทธิ์ ซึ่งการได้สูดอากาศบริสุทธิ์ มีผลดีต่อสุขภาพ ของเราต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์
6. ลดอัตราการเกิดภาวะโลกร้อน
7. ชีวิตมีสุขภาพดีขึ้นจากการกรองอากาศเสีย และลดหมอกควันสารเคมี รวมถึงรังสีดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตราย
8. สร้างบรรยากาศให้มีเสน่ห์,ความสงบ และการนันทนาการ ต้นไม้ยังสามารถมีผลบวก ในการลดโรคหอบหืด, โรคมะเร็งผิวหนังและความเครียดมาก
9. ต้นไม้ช่วยในการสร้างงานและเพิ่มผลผลิต นวัตกรรมและ โดยการลงทุนและสามารถเพิ่มค่าทรัพย์สินได้ถึง 18%
10. รากของต้นไม้ช่วยในการผูกดินเข้าด้วยกันและป้องกันการพังทลาย และต้นไม้บางคนยังสามารถทำความสะอาด
ที่ดินที่ปนเปื้อน
11. เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของระบบสนับสนุนการมีชีวิตตามธรรมชาติของเราโดยมีบทบาทสำคัญในการเล่นใน
12. เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์นานาชนิด อาทิ นก เพิ่มมูลค่าระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติ ให้กลับคืนมา
13. ต้นไม้และป่าช่วยในการปรับปรุงคุณภาพของ ชีวิตของคนนับล้านคนที่อาศัยและทำงานในบริเวณที่มีต้นไม้
14. ต้นไม้มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศเขตเมืองโดยช่วยในการสนับสนุนความหลากหลายของสัตว์ป่าที่ดีซึ่งผู้คนสามารถเพลิดเพลินใกล้บ้าน
15. พืช ผล สามารถนำมารับประทานเป็นอาหาร หรือ ยารักษาโรคได้
16. เป็นแนวป้องกัน การเกิดน้ำท่วม เนื่องจาก เมื่อเกิดสภาพที่น้ำเกินสมดุล ท่วมลงมาจากยอดเขา จะมีแนวป่า ต้นไม้ ช่วยชะลอความแรง จากเหตุการณ์น้ำท่วม
17.เป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธาร เนื่องจากที่บริเวณราก ที่ดูดซับน้ำ และ แร่ธาตุ เป็นการกัก เก็บน้ำไว้บริเวณผิวดิน
18. เมื่อเจริญ สามารถนำไปขายได้ราคา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก
19. คุณประโยชน์ของต้นไม้ใหญ่ในเมืองนั้นมีมากมายซึ่งรวมถึงความสวยงาม การลดปรากฏการณ์เกาะความร้อน (urban heat island) การลดปริมาณการระบายน้ำฝนของเมือง การลดมลพิษทางอากาศ การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานด้วยการเพิ่มเงาต้นไม้กำบังอาคารให้มากขึ้น
20. เพิ่มมูลค่าทางราคาแก่อสังหาริมทรัพย์
21. ต้นไม้ให้ร่มเงานขนาดใหญ่สามารถลดอุณหภูมิรวมๆ ภายใต้ร่มเงาได้ระหว่าง 3-50C
22. ผลการวิจัยของเขตซาคราเมนโตในแคลิฟอร์เนียปรากฏผลว่าการปลูกต้นไม้ใหญ่ใน เมืองเพิ่มอีกเท่าตัวคือรวมได้ 5 ล้านต้นจะสามารถช่วยลดอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนได้ถึง 3 °C และการลดอุณหภูมิในระดับนี้สามารถลดโอโซนลงได้ 7% และลดวันที่มีหมอกควันลงได้ 50%
23. การศึกษาที่นครชิคาโกในปี พ.ศ. 2534 พิสูจน์ให้เห็นว่าต้นไม้ใหญ่สามารถดักจับอนุภาคมลพิษขนาดเล็กกว่า 10 ไมโครเมตรได้ถึงปีละ 234 ตัน
24. ต้นไม้ใหญ่ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 เซนติเมตร สามารถขจัดอนุภาคมลพิษได้มากเป็น 70 เท่า (1.4 กก./ปี) ของต้นไม้ชนิดเดียวกันที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 10 เซนติเมตร (0.02 กก./ปี)

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

เด็กใต้รักจริง

ตรงนั้นเจ้าของที่เขาจะสร้างอะไรเหรอครับ น่าเสียดายต้นไม้จัง อายุคงหลายสิบปี น่าจะตัดแต่งนิดหน่อยแล้วใช้การย้ายต้นไม้แบบต่างประเทศ
...น้ำหมึกปลายปากกา ไม่ได้สอนประสบการณ์ชีวิต...

ตนชอย5

เค้าตัดนะถูกเเล้วกิ่งไม้ยื่นออกมา กลางถนนจะรอให้มันเกิดเหตุกับผู้ใช้ถนนก่อนหรือ พอเกิดเหตุขึ้นก็ว่าเค้าอีก เเล้วที่เค้าตัดก็เเค่กิ่งที่มันยื่นออกมาเท่านั่น ไม่ได้ไปโค่นต้นมันเรยครับ

Mr.No

อ้างจาก: เด็กใต้รักจริง เมื่อ 13:37 น.  05 ต.ค 57
ตรงนั้นเจ้าของที่เขาจะสร้างอะไรเหรอครับ น่าเสียดายต้นไม้จัง อายุคงหลายสิบปี น่าจะตัดแต่งนิดหน่อยแล้วใช้การย้ายต้นไม้แบบต่างประเทศ

ไม่ทราบครับว่าเจ้าของที่จะสร้างอะไร..แต่ที่แน่ ๆ เค้าต้องอนุญาตให้ตัดน่ะครับ  และถึงเค้าจะโค่นทิ้งเลยมันก็เป็นสิทธิของเค้าครับ เพียงแต่อยากนำเสนอมุมมองว่า  เมืองในสวนและภาระในการทำให้เป็นจริง จะต้องปรับความคิดให้เห็นความสำคัญของต้นไม้เป็นเบื้องต้นก่อน โดยเฉพาะการปลูก,ตัดแต่ง ต้องสอดคล้องเพื่อให้ ต้นไม้ยังอยุ่ได้อย่างแข็งแรง
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

อ้างจาก: ตนชอย5 เมื่อ 13:48 น.  05 ต.ค 57
เค้าตัดนะถูกเเล้วกิ่งไม้ยื่นออกมา กลางถนนจะรอให้มันเกิดเหตุกับผู้ใช้ถนนก่อนหรือ พอเกิดเหตุขึ้นก็ว่าเค้าอีก เเล้วที่เค้าตัดก็เเค่กิ่งที่มันยื่นออกมาเท่านั่น ไม่ได้ไปโค่นต้นมันเรยครับ

[attach=1]
แบบนี้เรียกว่า ตัดกิ่งที่ยื่นหรือครับ?

ลองเปรียบเทียบเทศบาลนครขอนแก่นดูครับ ว่าเค้าปลูกต้นไม้อย่างไร และเมื่อเค้าจะต้องตัดแต่งกิ่งมีการแจ้งให้ประชาชนทราบและวิธีการตัดแต่งอย่างไร อ่านดูครับ

"เทศบาลขอนแก่นจะดำเนินการตัดแต่งกิ่งต้นไม้ใหญ่ในบริเวณถนนกัลปพฤกษ์
ต่อจากบริเวณที่ตัดยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนต้นไม้ที่เหลืออยู่มีกิ่งก้านยืดยาว
ทรงพุ่มไม่สวยงาม ปกคลุมเข้ามาในถนน อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้สัญจรไปมา
ส่วนต้นไม้ที่ตัดแต่งกิ่งก่อน ขณะนี้เริ่มแตกกิ่งก้าน แตกใบใหม่และมีทรงพุ่มที่สวยงาม
มีความเป็นระเบียบและบางต้นยังมีดอกออกมาให้เห็นบ้างแล้ว


ลักษณะของการตกแต่ง
1.ตัดเปิดให้ด้านล่างโล่งสูง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล
2.ตัดแต่งกิ่งแท้ง/กิ่งเป็นโรค และกิ่งกระโดงในทรงพุ่มใบโปร่งแสงแดดสามารถส่องลงได้ทั้วถึง
3.ตัดซอยกิ่งที่ยื่นออกจากทรงพุ่มและที่ปกคลุมถนนให้มีทรงพุ่มที่สวยงามเหมือนกัน "

[attach=2]
[attach=3]

เห็นเค้าปลูกต้นไม้..และดูแลกันมั้ยครับ อีกหน่อยถนนเส้นนี้คงร่มรื่นน่าสัญจร...  แต่ถ้ากลัวต้นไม้เพราะแค่ มันจะหัก  จะคิดปลูกต้นไม้..หรืออยากเป็น เมืองในสวนกันทำไมละครับ



..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

หรอยหราว

คนละบริบทครับอย่าเอาต้นไม้ในเขตพื้นที่ส่วนบุคคล ไปเปรียบเทียบกับต้นไม้ที่ปลูกบนเขตทางหลวง (ในภาพที่หยิบยกมาเสนอก็เลือกของต่างประเทศ) ซึ่งมีการจัดการวางผังเมืองได้ดีกว่าประเทศไทยหลายขุม

ถ้าอยากเสนอประเด็นเรื่องต้นไม้ตามแนว Sidewalk และเกาะกลางถนนโดยเฉพาะในเมือง ต้องกลับไปเริ่มที่ผังเมือง การออกแบบต้องเปลี่ยนใหม่หมด ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มันไม่สามารถทำได้ในเขตเมืองที่เกิดมานานแล้ว นอกจากจะเป็นถนนเส้นตัดใหม่ เมืองใหม่

อันนี้เราพูดกันบนพื้นฐานความจริง ไม่ต้องมามโนโลกสวย อยากได้นู้นได้นี้ โดยไม่คำนึงถึง Reality (โลกความจริง) ต่อให้เจตนาดี เจตนาสวยอย่างไร แต่ถ้า Environment ทางกายภาพมันไม่เอื้อก็แก้ไขลำบากครับ

ตัวอย่างเช่นมหานครโรม (Rome), Italy.






Nu mon

เป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับการตัดต้นไม้ที่นิพัทธ์สงเคราะห์ 5 ค่ะ เนื่องจาก กิ่งไม้ ใบไม้ หล่นลงมาใส่หลังคาบ้านบ้าง ปีก่อนฝนตกหนักต้นไม้ล้มลงมาทับรถยนต์เสียหายทั้งคัน โดยไม่มีใครรับผิดชอบ ต้นไม้ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่การปลูกโดยไม่ดูแลรักษาปล่อยให้ที่ดินรกร้างควรมีโทษปรับเจ้าของที่ดินบ้างค่ะ

แมวพง

เห็นด้วยครับกับการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่แบบนี้
หลายครั้งที่กิ่งไม้ร่วงลงมาสร้างความเสียหาย แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ


Zenki

มันก็แล้วแต่มุมมองแต่ละคนละคับจะมานั่งเถียงกันทำไม แต่ผมเข้าใจนะคับว่าคนที่นำเรื่องนี้มาตั้งประเด็นเค้ายากจะสื่อถึงต้นไม้ที่ให้ร่มเงา และช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ดีคับ ต้องค่อยๆแก้ปัญหากันไปคับทุกคนต้องช่วยกันไม่ใช่แคใครคนใดคนหนึ่งคับ

ฟานดี้

รมรื่นดีครับ..หากมันยื่นออกมารกรุงรังก็ตัดให้มันสวยงาม
อย่ากีดขว้างจรจรเป็นอันใช้ได้


ส.ยกน้ิวให้ ส.โบยบิน


Mr.No

อ้างจาก: หรอยหราว เมื่อ 15:18 น.  05 ต.ค 57
คนละบริบทครับอย่าเอาต้นไม้ในเขตพื้นที่ส่วนบุคคล ไปเปรียบเทียบกับต้นไม้ที่ปลูกบนเขตทางหลวง (ในภาพที่หยิบยกมาเสนอก็เลือกของต่างประเทศ) ซึ่งมีการจัดการวางผังเมืองได้ดีกว่าประเทศไทยหลายขุม

ถ้าอยากเสนอประเด็นเรื่องต้นไม้ตามแนว Sidewalk และเกาะกลางถนนโดยเฉพาะในเมือง ต้องกลับไปเริ่มที่ผังเมือง การออกแบบต้องเปลี่ยนใหม่หมด ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มันไม่สามารถทำได้ในเขตเมืองที่เกิดมานานแล้ว นอกจากจะเป็นถนนเส้นตัดใหม่ เมืองใหม่

อันนี้เราพูดกันบนพื้นฐานความจริง ไม่ต้องมามโนโลกสวย อยากได้นู้นได้นี้ โดยไม่คำนึงถึง Reality (โลกความจริง) ต่อให้เจตนาดี เจตนาสวยอย่างไร แต่ถ้า Environment ทางกายภาพมันไม่เอื้อก็แก้ไขลำบากครับ

ตัวอย่างเช่นมหานครโรม (Rome), Italy.








  อืมม...ที่คุณบอกว่า  เค้าตัดต้นไม้ในที่ดินของเค้า จริงๆ ผมก็ไม่ได้แย้งอะไร..แถมยังบอกว่า เป็นสิทธิของเค้า 
แต่สิ่งที่อยากให้เทศบาลท่านช่วยแจกแจงก็คือ  แนวคิดของการทำให้หาดใหญ่เป็นเมืองในสวนนั่นน่ะ มันคือการให้บริการหรือรับจ้างตัดต้นไม้ให้เอกชนหรือไง?

เพราะแนวคิดกับการทำงานดูเหมือนจะขัดกัน...

ปกติถ้าเป็นการร้องขอว่า ต้นไม้ต้นใดมันล้ำมาบนถนน ก็ตัดเอาจำเพาะส่วนที่ล้ำออกมา (ซึ่งเรื่องนี้ผมว่า การไฟฟ้าเค้าก้าวหน้าไปมาก ทั้งในเรื่องการตัดอย่างไร ตัดแบบตัววี หรือตัดข้าง เลือกวิธีตัดเพื่อให้ต้นไม้สามารถงอกงามได้ต่อไป) แต่ไม่ใช่ตัดกันแบบไล่ดะกันจนโกร๋น! 

ตัดแบบโกร๋น...มีค่าใช้จ่ายมหาศาล เอาเฉพาะค่ารถเครนวันละ 5-6 พัน ไม่รวมค่าแรงคนงาน,ใช้เวลาตัด 2-3 วัน มีคำถามว่า  เจ้าของที่ดินเค้าออกให้ หรือตั้งงบประมาณของเทศบาลซึ่งเป็นภาษีของประชาชนแต่ไปตัดต้นไม้ให้บางคน!

ผมพยายามไม่เอาเรื่องนี้มาพูด..เพราะไม่ใช่เรื่องที่ผมสนใจ  และไม่มีเจตนาไปดิสเครดิตอะไรเทศบาลเค้าให้เสียหาย  เพียงแต่อยากนำเสนอเรื่องราวในมุมแตกต่างกับบางท่าน แต่เป็นเรื่องสำคัญที่นานาอารยะประเทศกำลังฉุกคิดและทำกันอย่างจริงจัง

ผมเองก็งงที่คุณบอกว่า ผมเอาภาพที่เค้าปลูกต้นไม้เมืองนอกมาเปรียบเทียบกัน และบอกว่ามันคนละบริบทกับหาดใหญ่!!!???  และพยายามจะสรุปว่า มันแก้ไม่ได้แล้วเพราะเป็นเรื่อง ผังเมือง!!!

ผมอยากบอกว่า...ไม่มีสิ่งใดที่เราแก้ไข,ปรับปรุงมันไม่ได้  ...ถ้าเรามีความเข้าใจเรื่องของการสร้างเมืองในอนาคตอย่างถูกต้องและยอมรับตรงกันว่า เราทำลายและเหินห่างธรรมชาติจนกระทั่ง หายนะที่กำลังเริ่มก่อที่ละน้อยอันเกิดมาจากปัญหา น้ำท่วม,ปริมาณน้ำฝนที่ตกผิดปกติ,ลมแรงผิดธรรมชาติ ฯลฯ และที่สำคัญปัญหาความร้อนในเมืองและโรคภัยไข้เจ็บที่จะทำให้คุณ ๆ ทั้งหลายมีชีวิตอยู่ในเมืองหาดใหญ่ได้น้อยกว่าที่คิด!! เหล่านี้คือสัญญานอันตราย

ทำไมคิดว่าหาดใหญ่ ต้องเป็นกรุงโรม....นั่นมันคนละเรื่อง  แต่ใกล้ตัว..ใกล้บ้าน อย่างสิงค์โปร์ เมืองที่ ท่านนายกไพร อุตส่าห์จะเดินตามเค้าในหลายอย่าง ผมคิดว่าน่าจะเอามาเปรียบเทียบมากที่สุด

สิงค์โปร์ประกาศที่จะเป็น  เมืองในสวน (City in a Garden) เพราะเค้าตระหนักแล้วว่า การมุ่งสร้างแต่ตึกรามวัตถุ จนเมืองทั้งเมืองมีแต่แท่งคอนกรีตแล้วสำคัญว่ามันคือนิยามของคำว่า "เจริญ"   สุดท้ายก็พบว่า คนสิงค์โปร์กลายเป็นเหมือน มนุษย์หุ่นยนต์ที่ไร้วิญญาณ

คนสิงค์โปร์เคยได้รับฉายาจากคนยุโรปว่า เป็นพวก "ยิ้มยาก" และ  "ต่างคนต่างอยู่"   เพราะชีวิตวัน ๆ ก็คือ ทำงาน ๆ ๆ แล้วก็เอาแต่อยู่ในคอนโดและอพาทเม้นท์ ..และเสพสารพันจากสื่อแบบไม่เคยเงยหน้ามองใคร  ...นี่คือเรื่องจริงของคนสิงค์โปร์เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน

ปัญหาอุณหภูมิที่สูงขึ้นผิดปกติ....ปริมาณน้ำฝนที่ตกผิดธรรมชาติ และความรุนแรงของน้ำท่วมสิงค์โปร์ในปี 1980 ทำให้สิงค์โปร์หันมายอมรับความจริงที่ว่า  ความเขียวขจีของธรรมชาตินั่นต่างหากคือสิ่งที่จะสร้างสมดุลทุกสิ่งให้ สิงค์โปร์ ร่มรื่น,ลดมลพิษ..เพิ่มปริมาณออกซิเจน  และที่สำคัญ ต้นไม้ร่มรื่น ช่วยให้คนสิงค์โปร์ จอดรถและเดิน ๆๆๆๆ ได้มากขึ้น!

เมื่อมีร่มไม้...มีทางเท้า คนก็อยากเดิน...เมื่อชีวิตมันช้าลง  คนเดินมากขึ้น.. คนขายของตามร้านค้ามันก็ได้อานิสงค์ ขายของได้ เพราะคนมันเดินแล้วดู นี่เป็นพลวัตรของความเข้าใจเรื่องง่าย ๆ


แนวคิดเมืองในสวนของสิงค์โปร์ จึงเป็นเรื่องจริงที่ผู้บริหารเค้าทำจริง...และพร้อม ๆ ไปกับการสร้างแนวร่วมภาคประชาชนให้เห็นถึงพิษภัยของ "ตึก" ทุกคนจึงร่วมแรงร่วมใจทำให้ "สิงค์โปร์เขียว" ได้จริง ๆ
[attach=1]
ถนนเส้นทางไปสนามบิน
[attach=2]
ถนนออชาร์ด
[attach=3]
ถนนไฮเวย์
[attach=4]
ร่มรื่นในตึกใหญ่
[attach=5]
โรงแรม Park Hotel

ตึกแต่ละตึก..ปลูกต้นไม้บนดาดฟ้าที่เรียกว่า "Green Roof"  ข้างอาคารปลูกไม้ทั้งในและนอกอาคารไม่ใช่เพื่อสวยงามอย่างเดียว แต่ เขียว ๆ ของต้นไม้เหล่านี้คือเกราะกำบังชั้นดีทีช่วยซับเสียงจากภายนอก, ลดอุณหภูมิในตึกได้เห็น ๆ ซึ่งนั่นทำให้ช่วยลดพลังงานไปได้มาก

ผมเข้าใจว่า...เทศบาลหาดใหญ่ท่านอาจคิดเพียงแต่ว่า เมืองในสวนก็คือ "สวนสาธารณะ!"
แต่สิงค์โปร์เค้าเน้นสร้างทุกที่ ๆ ที่เป็นที่ว่างให้เป็นสวนสาธารณะและเชื่อมสวนสาธาณะที่เขียวขจีเข้ากับเมืองใหญ่และสร้างเครือข่ายสีเขียวเชื่อมกันไปจนกระทั่งเป้าหมายสำคัญคือ  สิงค์โปร์จะกลับมาเป็น  "เกาะสีเขียว"  อีกครั้ง

ส่วนเรื่องที่หลายท่านเห็นด้วยว่า ควรตัดไม้ เพราะจะหักมาถูกรถรา...ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็น่าสนใจ เพราะถ้ากลัวรถจะถูกกิ่งไม้ก็คงต้องเลิกปลูกต้นไม้กันเลยกระมัง....

ไม้ใหญ่ในหลายประเทศถูกพายุโค่นล้ม....กิ่งไม้ใหญ่หลายแห่งหักโค่นหล่นใส่ผู้คนและทรัพย์สิน !!!  เหล่านี้ไม่มีใครเคยคิดว่า  สาเหตุมันมาจากอะไร?

การตัดกิ่งไม้..แบบไม่รู้เรื่อง...กิ่งฉีกขาด สุดท้ายต้นไม้ก็เป็นโรค ผุโพรงข้างใน และหักโค่นในวันข้างหน้า
ถ้าจะตัดกิ่งไม้ให้ถูกวิธี....ไม่ต้องไปไกล  ลองติดต่อไปที่สิงค์โปร์ ก็ได้ ที่นั่นเค้ามี อาชีพ "รุกขกร"  มีหน้าที่ดูแลตรวจสอบเยียวยาต้นไม้...ทั้งปลูกทั้งย้าย หรือตัดแต่งแบบต้นไม้ยังอยู่แข็งแรงได้เป็นร้อย ๆ ปีครับ.

[attach=6]
[attach=7]

ปิดท้ายด้วยภาพ  "แม่พฤกษชาติ" จามจุรีใหญ่หน้าโรงพักที่หลายคนไปถู ๆ ถาก ๆ เพราะอยากได้เลข

ผมอยากให้เห็นว่า เค้าตัดแบบตัว V ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า  "ตัดแต่งเป็น"  ส่วนใครที่เป็นผู้ตัด เทศบาล..หรือ การไฟฟ้าฯ  ใครทราบวานอนุเคราะห์บอกที่นะครับ.

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

พื้นฐานความจริง มิมโน

เอาสิงคโปร์มาเทียบมันไม่เหมาะหรอกครับ สิงคโปร์เค้าเมืองเกิดใหม่พร้อมกับผังเมืองแบบสมัยใหม่ ไม่ใช่แบบไทย

ต่อให้คุณเอาเมืองซิดนีย์มายก เอาแคนเบอร์ร่ามาอ้าง เมืองไทยก็ไม่มีวันเป็นแบบในรูปที่คุณฝันหรอกครับ เพราะอะไร....

เพราะผังเมืองมันไม่เอื้อ ที่เห็นเมืองนอกต้นไม้เยอะๆ เพราะเค้าเผื่อที่เว้นไว้ ทางเท้า+ต้นไม้

จะให้เป็นเหมือนเค้า เออออ คงต้องเวียนที่คืนทั้งเมืองอะครับ แล้ววางผังเมือง ตีถนนใหม่หมด

ถามว่าเป็นไปได้มั๊ย? เออสงสัยคงต้องรอให้คนย้ายไปดาวอังคารกันหมดก่อนอะครับ

อันนี้คือเราพูดกันบนพื้นฐานความจริง ซึ่งต่อให้ทางเทศบาลมีนโยบายอยากเป็นนู้นเป็นนี้ ให้เค้าทำได้ซักครึ่ง น้ำไม่ท่วมเวลาฝนตกหนักๆ แค่นี้ก็บายใจฉาบแล้วหลวงเห้อ

Probass

มีต้นนึงคงไม่กล้าตัดหรอกครับ
ต้นใหญ่ๆ ข้างๆสนามยิงปืนรุจิรวงศ์ ขึ้นสะพานลอยก็จะเห็นชัดเจน(ขวดน้ำแดง+ผ้าหลากสี)
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

เพลีย

ตัดออกไปเยอะๆ  ต่อไปก็หาดใหญ่ก็เป็นเมื่องที่มี Heating island เยอะๆแล้ว

เวรกรรม  ส.ชิชิ

เอกะ ซาโน่

อ้างจาก: ตนชอย5 เมื่อ 13:48 น.  05 ต.ค 57
เค้าตัดนะถูกเเล้วกิ่งไม้ยื่นออกมา กลางถนนจะรอให้มันเกิดเหตุกับผู้ใช้ถนนก่อนหรือ พอเกิดเหตุขึ้นก็ว่าเค้าอีก เเล้วที่เค้าตัดก็เเค่กิ่งที่มันยื่นออกมาเท่านั่น ไม่ได้ไปโค่นต้นมันเรยครับ
ขอโทษครับ...ดูรูปที่ จขกท.เขาลงให้ดูหรือยังครับ เข้าใจตรงกันนะ อย่างนี้เทศบาลต้องออกมาชี้แจงให้เข้าใจแล้วล่ะครับ

เอาแต่โทษ

ให้เทศบาลมาชี้แจงอะไรละคับ ต้นไม้มันอยู่ในที่ส่วนบุคคล เผลอๆเจ้าของที่เรียกให้มาตัดในแบบที่เจ้าของต้องการ

อะไรๆก็เทศบาล ผมนี่บาร์โค้ตเลย

จ่าหรอย

ตัดต้นไม้หมด เวลาน้ำท่วม ใครต้องรับกรรม ล่ะครับท่าน

มะขามข้อเดียว

มีคนฉลาดบางคนบอกว่า ต้นไม้ตัดได้ ก็ปลูกใหม่ได้
เอาปัญญาที่ไหนมาคิด ปลูกใหม่ กว่าต้นไม้จะเจริญเติบโต
ต้องใช้ระยะเวลาอีกกี่ 10 กี่ 100 ปี ถึงเวลานั้น
เมืองไทย จะเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ อีกสักเท่าไหร่?
...ปลอด ประสพ...

ไพร่แดง

ต้นไม้หมด น้ำไม่ท่วม ก็ให้มันรู้ไป  ส.โขกกำแพง

อ่านมั่งตะตน

บางคนสักแต่ด่า ต้นไม้มันอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล คุณจะห้ามเค้าตัดแต่งกิ่งได้ยังไง พอกิ่งเจอลมแรงๆหล่นใส่คนใส่รถ คุณไปชดใช้แทนเจ้าของที่ไหม?

ดูบริบทของพื้นที่ด้วย ถ้าเป็นต้นไม้ในเขตของหลวง คุณด่าผมจะไม่ว่าเลย

คนไทยอ่านหนังสือกันสองบรรทัด แล้วออกตัวล้อฟรีประจำ เงิบกันกี่หนแล้ว

Chatchai Ehia

อ่านที่ จขกท. ตั้งกระทู้ ดูมั่งสิครับ เขาว่า แน่ใจหรือว่า หาดใหญ่ เมืองในสวน???
ไม่ได้บอกว่า พื้นที่ส่วนตัวใครสักหน่อย เจตนา เขาตั้งกระทู้นี้เพื่อส่วนรวมครับท่าน
สงสัยจะอ่านมาก จนแยกแยะ ประเด็น ไม่ได้ ว่างๆ ไปหาหมอเช็คสมองบ้างนะครับ  ส.หลกจริง