ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

นกหงส์หยกเลี้ยงไว้ ไข่แล้วจร้าา

เริ่มโดย pa_เฟี๊ยว, 14:37 น. 18 มี.ค 58

pa_เฟี๊ยว

มือใหม่หัดเลี้ยงจร้าา .   ส.ตากุลิบกุลิบ

แรกเริ่มก็เลี้ยงคลายเหงา คือได้นกตัวเมียเชื่องๆอายุ4เดือนมาเลี้ยงหลังวันปีใหม่ ทำกรงเองไรเอง ใช้หน้ากากพัดลมครอบด้านบน ด้านล่างใช้ฝาถังมาเป็นที่รอง ซื้อตะข่ายมา2เมตร ป๋องอาหารโน่นนั่นทั้งหมดก็ไม่เกิน 250บาทจร้าา   ส.ดุดุขำขำ

เลี้ยงได้2อาทิตย์ คิดเองว่าเค้าจะเหงา ก็เลยฝากให้คนแก่ที่ทำกรงให้ไปซื้อตัวผู้ที่ร้านบังหนานหาดใหญ่ใน ได้นิสัยดื้นๆมา1ตัว 150บาท ครบคู่แล้วก็เลี้ยงตามที่รู้มา ตั้งๆแขวนๆ เติมอาหารเช้าเย็น ซื้อหมึกที่มีกระดอง มีข้าวโพดบ้าง  ส.หัว

                   

นกชอบสงสัยคนดู ชอบส่งเสียงประหลาดๆเหมือนมนุษย์ต่างดาวสื่อสารกัน ตลกดีจร้าา  อิอิ  ...  ส.หัว

แต่ตอนนี้หลังจากจับคู่ได้ประมาณ 2เดือน นกก็ไข่แล้วจรา้าา  ยังไงต่อละทีนี้ (ฮา) ...  ส.หัว
ไข่ฟองแรกวันจันทร์ที่16มีนา
ฟองที่สองเมื่อวาน 17มีนา
วันนี้วันที่18 ยังไม่รู้เลยว่าจะ 3  4  5 ... อีกหรือเปล่า อิอิ

    ต่อไปยังไงต่อดีละทีนี้จ๊ะ  ....
ลูกนกจะเกิดทั้งหมดมั๊ย
อีกกี่วันถึงจะเกิด เกิดแล้วจะกินอาหารอะไร
ลูกนกจะตกจากมะพร้าวหรือเปล่า
   ฯลฯ  ...  ฯ ล ฯ  ... 
                                 ไม่อยากให้ลูกนกตายเลย ทำยังไงต่อดี   ส.แย่จัง



















วันอังคารที่17มีนา ไข่ฟองที่สองจร้าา ...
                                               วันนี้จะขอแอบดูอีกที อิอิ

Mr.No

 

ปกติพวกหงษ์หยก จะไข่ค่อนข้างเยอะ(ถ้านกสมบูรณ์) แต่เฉลี่ยที่พบบ่อยก็ประมาณ 6-8 ฟอง
ระยะเวลาที่แม่นกฟักไข่จะอยู่ประมาณ 20-21 วัน ส่วนว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น  ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ

   1. ดูจากการตั้งกรงเลี้ยงแล้ว ตำแหน่งถ้าตามรูป แม่นกจะเครียดมั้ย?? เพราะอาจมีการรบกวนมาก ดังนั้นหากเปลี่ยนมุมไปไว้ในส่วนที่ สงบขึ้น และมีการรบกวนน้อยลงทั้งจากคนหรือที่สำคัญคือพวก แมว,สุนัข เช่นมุมของบ้านที่ไม่โล่งแบบ 360 องศา  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหา นกอาจฟักไม่ฟักไข่ หรืออาจเขี่ยไข่หรือจิกไข่ทิ้งได้   

   2.  ปกติถ้าเลี้ยงแบบไม่ซีเรียส (แบบที่เลีี้ยงทั่วไปเล่น ๆ) ส่วนใหญ่อาจได้ลูกนกประมาณ 1-2 ตัว ก็นับว่าเก่ง เพราะองค์ประกอบอย่างที่บอก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกรงเลี้ยง,สถานที่ตั้ง,อาหารที่ถูกต้อง,ความสะอาด และที่สำคัญ สุขภาพซึ่งรวมถึงวัยเจริญพันธุ์ของพ่อแม่นก

  มุมบนที่แขวนเปลือกมะพร้าวควรหาพวกผ้าหรือวัสดุมาคลุมกันแสงไว้เพื่อให้เป็นส่วนที่ปลอดภัยสำหรับนกที่จะเข้าออกโพรงเปลือกมะพร้าว (ระวังพวกวัสดุที่นกจะจิกแล้วาอาจเป็นอันตรายด้วยครับ)

3. อาหารที่เสริมนอกจากจะพวกกระดองปลาหมึก(ซึ่งถูกต้องแล้วที่จัดไว้ แต่ให้ระวังถ้ามีขี้นกต้องทำความสะอาดด้วย) ควรหาพวกข้าวโพดสด,ใบกระเพรา,หญ้าขน (ตามที่จะหาได้) สลับสับเปลี่ยนวางไว้บนพื้นกรงล่างให้นกทุกวัน โดยมีข้อกำหนดคือ

พวกอาหารสด จะต้องให้เฉพาะช่วงเช้าและเอาออกให้หมดเมื่อใกล้เที่ยง (ไม่ควรทิ้งค้างไว้เกินบ่าย) เพราะอาหารพวกนี้ก่อให้เกิด fermintation และทำให้พวกแมงหวี่ยกโขยงกันมาเป็นพาหะนำโรคอื่น ๆ ให้แก่นกหรือ คน!

ส่วนบ่ายๆ ให้อาหารหลัก เช่นพวก เมล็ดพืชต่าง ๆ  ตามปกติ

น้ำดื่มหรืออาบต้องเปลี่ยนทุกวัน..และช่วงนี้ในน้ำควรเติมพวกวิตามินรวมต่าง ๆลงไป (ร้านขายนกจะมีขายเป็นขวา ลักษณะเป็นน้ำสีแดง ๆ หยดเพียง 1-2 หยด)

ไข่ต้ม (ของวิเศษ)  1 ลูก ตัดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 
1 ส่วน ให้นก
  อีกสองส่วน  ..อนุญาตให้เจ้าของ เหยาะแม๊กกี่เล็กน้อยแล้วใส่ปากตัวเองตุ้ย ๆ ได้ ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ

ส่วนนี้ให้สัปดาห์ละสองครัั้งเว้นวัน จนกว่านกจะไข่ครบแล้ว

ทั้งหมดนี้..เป็นข้อแนะนำครับ  ส่วนหากจะก้าวไปสู่การเลี้ยงแบบเอาจริง...เช่นพวกที่เลี้ยงนกหงษ์หยกอังกฤษขายตัวละหลาย ๆ ร้อยถึงหลักพัน หรือนกชนิดอื่นๆ ก็ค่อยว่ากันนะครับ

ขอให้สนุกกับการเลี้ยง...และได้ลูกนกที่สมบูรณ์ครับ.


..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

pa_เฟี๊ยว

เว็บน่าจะมีปุ่มให้กดไลก์  ต้องขอขอบคุณนะจ๊าา เมื่อวานทำตามคำแนะนำ แบบนี้ ...

1. กลัวนกไม่ฟักไข่เลยทำที่แขวนไว้ส่วนตัวแล้วจร้าา เอาลงมาทำความสะอาดกรง1ครั้งต่อวัน คงจะได้หนา

2. เลี้ยงแบบไม่ซีเรียสจร้าา ไม่ขายลูกนกด้วย เมื่อวานได้ไข่มาอีกฟอง รวมเป็น3ฟองแล้ววันนี้ อ ิอิ

3. ข้อนี้สำคัญมากเลย ทุกครั้งจะแขวนข้าวโพด หรือบางวันก็มีกระเพรา แต่แขวนตั้งไว้จนเย็นค่ำเหี่ยวเลยถึงจะเอาทิ้ง
    ช่วงบ่ายๆก็มีเห็นแมงหวี่ตอมข้าวโพดทุกครั้งเลยจร้าา แต่ไม่ได้นึกว่าอาจจะเกิดโรคได้อะ   ส-เขิน

วันนี้จะไปหาซื้อวิตามินที่ร้านขายอุปกรณ์จร้าา หยดใส่ในกระป๋องน้ำ1-2หยด ok
วันนี้จะเพิ่มที่ใส่ไข่ต้ม 1/2ส่วน ของ 1/2ลูกตามที่เข้าใจ ให้นกวันเว้นวัน อิ อิ

ลูกนกออกจากไข่เมื่อไหร่ ขอถามใหม่อีกครั้งน๊าาา ว่ายังไงต่อดี ...


วันที่19มีนา ไข่ฟองที่3ออกมาแล้วๆ จะมีอีกมั๊ยน๊าา  ...   ส-ดีใจ ส-ดีใจ

pa_เฟี๊ยว

21 หรือ22มีนา ไม่แน่ใจ ไข่ฟองที่สี่จร้าา ...   ส-ดีใจ

pa_เฟี๊ยว

24มีนา ไข่ฟองที่ห้า ชัดเจนๆ ...  ส-ดีใจ

pa_เฟี๊ยว

27มีนา ไข่หลงฟองที่6    ส.หัว
ถ้าตามที่คุณmr.noแนะนำ วันจันทร์นี้น่าจะออกมาลืมตาดูโลกละ อิอิ

เตรียมกรงเด็กอนุบาล

Mr.No

อ้างจาก: pa_เฟี๊ยว เมื่อ 09:08 น.  31 มี.ค 58
27มีนา ไข่หลงฟองที่6    ส.หัว
ถ้าตามที่คุณmr.noแนะนำ วันจันทร์นี้น่าจะออกมาลืมตาดูโลกละ อิอิ

เตรียมกรงเด็กอนุบาล

เห็นกรงอนุบาลแล้วผมนึกว่า คุณ pa_เฟี้ยว นี่คงจะลุ้นน่าดู  ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ

ผมอธิบายเพิ่มเติมนะครับว่า  การนับวันที่ลูกนกจะฟักตัวออกมา โดยเฉพาะนกหงษ์หยกนั้น เฉลียอยู่ที่ 20-21 หรือบางครั้งอาจกินเวลาไปถึง 23-24 วัน ตามสภาพอากาศ,อุณหภูมิ

วิธีนับคือ กรณีไข่ใบแรกถูกวางวันที่ 16 มีนาคม และใบต่อไปก็วางหลั่นกันไป วันเว้นวันบ้าง ก็ต้องนับวันจากที่ไข่ใบแรกวางแล้ว 16 นับไปอีกประมาณ 21 วัน ก็จะฟักออกมา ก็น่าจะประมาณ (วันที่ 6-7 เมษายน) และใบต่อ ๆ มา ก็จะทะยอยฟักออกมาตามหลังกันเรื่อย ๆ

กรณีแม่นก ไข่แล้วไม่ฟักทันที คือประเภทไข่แล้วออกมาเจื้อแจ้วแล้วพอถึงเวลาก็กลับเข้าไปไข่อีก แบบฟักบ้างไม่ฟักบ้างแบบนี้ อาจบวกวันเข้าไปอีก 2-3 วัน

ปกติเมื่อลูกนกฟักออกมา กรงอนุบาลนั้นจริงๆ  ไม่มีความจำเป็นครับ เพราะลูกนกทั้งหมดจะขลุกตัวอยู่ในมะพร้าวจนกระทั่งตัวโตบางตัวก็ยังไม่ค่อยออก ซึ่งบางทีพ่อแม่นกต้องไล่จิกไล่ออกกันบ่อย (ประมาณไม่รู้จักโต)

ดังนั้นเรื่องกรงอนุบาล คงไม่จำเป็ตต้องใช้ครับ ถ้าจะใช้ก็เพื่อการถ่ายลูกนกย้ายออกไปเลี้ยงต่างหาก นั่นก็อาจต้องกินเวลาประมาณ 1-2 เดือนนับจากลูกนกฟักแล้ว

แต่หากนับเวลาผ่านไปกว่า 25-30 วัน แล้วไข่ยังไม่ฟัก ก็เป็นอันสิ้นหวัง ส.อืม... แสดงว่า ไข่ไม่มีเชื้อ หรือ ตายโคม (มีเชื้อแต่อาจมีปัญหาไม่ฟักจากหลายสาเหตุ)

เอาเป็นในเบื้องต้นช่วยกันลุ้นนะครับว่า..ขอให้ฟักสัก 2-3 ตัว หรือสักตัว ก็อาจทำให้คุณ pa_เฟี้ยว อาจมีกำลังใจและนึกสนุกอยากเลี้ยงแบบเอาจริงเอาจังมากขึ้น ซึ่งถึงเวลานั้น ผมจะแนะนำให้ว่า ควรต้องทำอย่างไร โดยเฉพาะอาจต้องปฎิรูปเรื่องกรงเลี้ยงกันใหม่ครับ...เพราะนกหงษ์หยก ต้องการพื้นที่ในแนวราบมากกว่ากว่าแนวตั้ง  เพราะมันเป็น "นก" นะครับ ไม่ใช่ "เฮลิคอปเตอร์" ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ (ผมเย้าเล่นนะ)


..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

pa_เฟี๊ยว

ขอบคุณน๊าาา ...
                      ขอทำความเข้าใจ แยกเป็นข้อๆน๊าา ...  ส-ดีใจ

เห็นกรงอนุบาลแล้วผมนึกว่า คุณ pa_เฟี้ยว นี่คงจะลุ้นน่าดู  ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ
:   ส-เขิน


ผมอธิบายเพิ่มเติมนะครับว่า  การนับวันที่ลูกนกจะฟักตัวออกมา โดยเฉพาะนกหงษ์หยกนั้น เฉลียอยู่ที่ 20-21 หรือบางครั้งอาจกินเวลาไปถึง 23-24 วัน ตามสภาพอากาศ,อุณหภูมิ

วิธีนับคือ กรณีไข่ใบแรกถูกวางวันที่ 16 มีนาคม และใบต่อไปก็วางหลั่นกันไป วันเว้นวันบ้าง ก็ต้องนับวันจากที่ไข่ใบแรกวางแล้ว 16 นับไปอีกประมาณ 21 วัน ก็จะฟักออกมา ก็น่าจะประมาณ (วันที่ 6-7 เมษายน) และใบต่อ ๆ มา ก็จะทะยอยฟักออกมาตามหลังกันเรื่อย ๆ

: น่าจะประมาณอาทิตย์หน้า ตั้งแต่วันที่6เมษาเป็นต้นไปนะจ๊ะ อะเครๆ  ส.สู้ๆ


กรณีแม่นก ไข่แล้วไม่ฟักทันที คือประเภทไข่แล้วออกมาเจื้อแจ้วแล้วพอถึงเวลาก็กลับเข้าไปไข่อีก แบบฟักบ้างไม่ฟักบ้างแบบนี้ อาจบวกวันเข้าไปอีก 2-3 วัน
: อันนี้สังเกตเห็นว่า ออกมาจากมะพร้าววันละประมาณ4ครั้งจร้าา  (กลางวัน-ค่ำ
  ครั้งละไม่เกิน10นาที ออกมาส่ายก้นอึ กินอาหาร กินข้าวโพด kissกัน หรือป้อนอาหารไม่แน่ใจ อิอิ

 
 


ปกติเมื่อลูกนกฟักออกมา กรงอนุบาลนั้นจริงๆ  ไม่มีความจำเป็นครับ เพราะลูกนกทั้งหมดจะขลุกตัวอยู่ในมะพร้าวจนกระทั่งตัวโตบางตัวก็ยังไม่ค่อยออก ซึ่งบางทีพ่อแม่นกต้องไล่จิกไล่ออกกันบ่อย (ประมาณไม่รู้จักโต)

ดังนั้นเรื่องกรงอนุบาล คงไม่จำเป็ตต้องใช้ครับ ถ้าจะใช้ก็เพื่อการถ่ายลูกนกย้ายออกไปเลี้ยงต่างหาก นั่นก็อาจต้องกินเวลาประมาณ 1-2 เดือนนับจากลูกนกฟักแล้ว

: อิอิ ไม่ต้องใช้ตอนนี้ จนกว่าจะโตนิดนึง อะเครๆ   ส-เขิน
  ให้เตรียมใช้หลังจากลูกนกลืมตาได้ประมาณ1เดือนขึ้นไป แต่สงสัยว่าเราจะแยกลูกออกมานะถูกแล้วใช่หรือเปล่าจ๊ะ
  และ ลูกนกจะตกออกจากมะพร้าวหรือเปล่าจ๊ะ ตกแล้วเป็นอะไรมั๊ย กรงสูงจัง ถ้าตกก็จับใส่ที่เดิมเลยใช่ป่าวจ๊ะ


แต่หากนับเวลาผ่านไปกว่า 25-30 วัน แล้วไข่ยังไม่ฟัก ก็เป็นอันสิ้นหวัง ส.อืม... แสดงว่า ไข่ไม่มีเชื้อ หรือ ตายโคม (มีเชื้อแต่อาจมีปัญหาไม่ฟักจากหลายสาเหตุ)
: อะเครๆ แต่เราขอตั้งเลทเอาไว้ที่30วันหลังจากที่ไข่ก็แล้วกันหนา อาจจะมีปฏิหาร อิอิ   ส.ดุดุขำขำ


เอาเป็นในเบื้องต้นช่วยกันลุ้นนะครับว่า..ขอให้ฟักสัก 2-3 ตัว หรือสักตัว ก็อาจทำให้คุณ pa_เฟี้ยว อาจมีกำลังใจและนึกสนุกอยากเลี้ยงแบบเอาจริงเอาจังมากขึ้น ซึ่งถึงเวลานั้น ผมจะแนะนำให้ว่า ควรต้องทำอย่างไร
: ทำไมคุณMr.no ประมาณไว้น้อยจังอะ  ไข่6ฟองจะเป็นตัวประมาณ50%แค่นี้เองหรือจ๊ะ   ส.อืม
  อาทิตย์หน้าห้ามไปไหนน๊าา  ฟักเป็นตัวแล้วยุ่งเลยทีนี้ อิอิ  ส.หัว


โดยเฉพาะอาจต้องปฎิรูปเรื่องกรงเลี้ยงกันใหม่ครับ...เพราะนกหงษ์หยก ต้องการพื้นที่ในแนวราบมากกว่ากว่าแนวตั้ง  เพราะมันเป็น "นก" นะครับ ไม่ใช่ "เฮลิคอปเตอร์" ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ (ผมเย้าเล่นนะ)
:  ที่เค้าทำกรงแบบนี้ให้นี่ ถือว่า "ผิด" อะหรอกหรือ 555555555+         


                           ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ

ปล. ขอเป็นเพื่อนในเฟส ไปแล้วจร้าา ...   ส.หัว ส.หัว

pa_เฟี๊ยว

วันนี้วันที่3เมษา ...
                         


ลูกนกดุ๊กดิ๊กๆ ออกมาแว๊วววววววว 2 
                ยังไงต่อละทีนี้ อจร้าาาาาาาาาาาาาา

ลูกนกกินอะไรเป็นอาหารอะเหรอ ...    ส.โอ้โห

Mr.No

 
  ดีใจด้วยครับ...ด่านแรก ผ่านแล้ว ส.สู้ๆ

  ลูกนกที่เหลือก็จะทะยอยเจาะเปลือกออกมาตามลำดับ ..ส่วนว่าจะออกมาครบหรือไม่ก็ต้องลุ้นกันครับ

  ถ้าจะมีคำถามว่า จากนี้ต่อไปต้องทำอย่างไร  ก็แนะนำว่า   ในส่วนของลูกนกนั้นคงไม่ต้องไปทำอะไร เพราะนับจากนี้จนขนขึ้นเต็ม ลูกนกจะอยู่แต่ในมะพร้าว (ด้วยสัญชาตญาน) ราว ๆ 2-3 สัปดาห์ พ่อแม่นกจะทำหน้าที่ป้อนอาหารให้ลูกนก ซึ่งตรงนี้มาสู่ประเด็นของผู้เลี้ยงที่จะมีหน้าที่สรรหาอาหารให้นก เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณ และคุณภาพ!

  วันนี้แนะนำสูตรเด็ดสำหรับทำให้ลูกนก ขนเต็มเร็ว,สวยและอ้วน ด้วยเมนู อาหารไข่ (Egg food) ครับ

   ส่วนผสม(ที่ผมเคยใช้)  ประกอบด้วย ไข่ต้ม,เปลือกไข่,เกล็ดขนมปัง,ขนมปังแผ่นแบบแคล็กเกอร์ ,ข่าวไรน์+มิลเลต,น้ำมันตับปลาเจ็ดทะเล (Seven Seas สูตรธรรมชาติ) ผักโขมหรือพวกยอดตำลึง

  วิธีทำ  เริ่มจากเอาไข่ต้ม 1 ลูก ใช้ส้อมบี้ๆ ยี ๆๆ ในจานจนเกือบจะเป็นผง ส่วนเปลือกไข่ห้ามทิ้งครับเพราะเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี และสร้างภูมิต้านทานให้ลูกนกเกี่ยวกับพวกเชื้อซาโมนเนล่า ได้ดี

  ให้เอาเปลือกไข่ที่ต้มไปตำ ๆๆ จนเป็นชิ้นย่อย ๆ เล็กขนาดนกกินสบาย ๆ  เอาขนมปังแคล็กเกอร์(ที่เป็นแผ่นกลม ๆ แบบที่เด็ก ๆชอบเอามาจุ่มโอวัลตินนั่นละครับ) สักครึ่งแผ่น ขยำ ๆ โรยลงไป ตามด้วยเกล็ดขนมปัง หยดน้ำมันตับปลาค๊อดเจ็ดทะเลลงไปสัก 1 ช้อนชา และโรยด้วยข้าวไรน์และมิลเลตขาว (มิลเลตดำนกจะไม่ชอบกิน) ซักเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันทุกอย่าง (หากใช้ไม่หมดเก็บในตู้เย็นได้ 1 วันครับ)

ก่อนให้นกใช้พวกผักโขมหรือยอดตำลึงสับละเอียด ลงไปด้วย ให้เฉพาะมื้อเช้า และเอาออกช่วงเที่ยง (บ่ายให้อาหารเมล็ดปกติ)

ข้าวโพดให้สลับได้บ้าง แต่ในหน้าร้อนนั้น ข้าวโพดสด สร้างปัญหาเรื่องแบคทีเรียมาก ต้องระมัดระวังให้แต่น้อย ๆ และเอาออกให้เร็ว

คำถามต่อมาคือ ทำไมต้องแยกลูกนก ..นี่เป็นธรรมชาติครับ เพราะหลังจากที่ลูกนกขนเต็มแล้ว (ประมาณ 1 เดือน) พ่อแม่นกจะเริ่มไล่ลูกลงรัง และบางครั้งอาจถึงจิกลูกนกได้รับบาดเจ็บถึงตายได้!

เพราะหลังจากลูกนกโตแล้ว แม่นกอาจจะต้องวางไข่ชุดต่อไปครับ...



     
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

pa_เฟี๊ยว

5เมษา  ออกจากไข่มาตัวที่สามแล้วจร้าา mr.no ...   ส-ดีใจ ส-ดีใจ ส-ดีใจ ส-ดีใจ ส-ดีใจ

4วัน มีขนาดเล็ก กลาง ใหญ่   ส.โอ้โห

pa_เฟี๊ยว

  ดีใจด้วยครับ...ด่านแรก ผ่านแล้ว ส.สู้ๆ
  ลูกนกที่เหลือก็จะทะยอยเจาะเปลือกออกมาตามลำดับ ..ส่วนว่าจะออกมาครบหรือไม่ก็ต้องลุ้นกันครับ

  ถ้าจะมีคำถามว่า จากนี้ต่อไปต้องทำอย่างไร  ก็แนะนำว่า   ในส่วนของลูกนกนั้นคงไม่ต้องไปทำอะไร เพราะนับจากนี้จนขนขึ้นเต็ม ลูกนกจะอยู่แต่ในมะพร้าว (ด้วยสัญชาตญาน) ราว ๆ 2-3 สัปดาห์ พ่อแม่นกจะทำหน้าที่ป้อนอาหารให้ลูกนก ซึ่งตรงนี้มาสู่ประเด็นของผู้เลี้ยงที่จะมีหน้าที่สรรหาอาหารให้นก เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณ และคุณภาพ!


  วันนี้แนะนำสูตรเด็ดสำหรับทำให้ลูกนก ขนเต็มเร็ว,สวยและอ้วน ด้วยเมนู อาหารไข่ (Egg food) ครับ

   ส่วนผสม(ที่ผมเคยใช้)  ประกอบด้วย ไข่ต้ม,เปลือกไข่,เกล็ดขนมปัง,ขนมปังแผ่นแบบแคล็กเกอร์ ,ข่าวไรน์+มิลเลต,น้ำมันตับปลาเจ็ดทะเล (Seven Seas สูตรธรรมชาติ) ผักโขมหรือพวกยอดตำลึง

  วิธีทำ  เริ่มจากเอาไข่ต้ม 1 ลูก ใช้ส้อมบี้ๆ ยี ๆๆ ในจานจนเกือบจะเป็นผง ส่วนเปลือกไข่ห้ามทิ้งครับเพราะเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี และสร้างภูมิต้านทานให้ลูกนกเกี่ยวกับพวกเชื้อซาโมนเนล่า ได้ดี

  ให้เอาเปลือกไข่ที่ต้มไปตำ ๆๆ จนเป็นชิ้นย่อย ๆ เล็กขนาดนกกินสบาย ๆ  เอาขนมปังแคล็กเกอร์(ที่เป็นแผ่นกลม ๆ แบบที่เด็ก ๆชอบเอามาจุ่มโอวัลตินนั่นละครับ) สักครึ่งแผ่น ขยำ ๆ โรยลงไป ตามด้วยเกล็ดขนมปัง หยดน้ำมันตับปลาค๊อดเจ็ดทะเลลงไปสัก 1 ช้อนชา และโรยด้วยข้าวไรน์และมิลเลตขาว (มิลเลตดำนกจะไม่ชอบกิน) ซักเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันทุกอย่าง (หากใช้ไม่หมดเก็บในตู้เย็นได้ 1 วันครับ)

ก่อนให้นกใช้พวกผักโขมหรือยอดตำลึงสับละเอียด ลงไปด้วย ให้เฉพาะมื้อเช้า และเอาออกช่วงเที่ยง (บ่ายให้อาหารเมล็ดปกติ)

: หยดน้ำมันตับปลาค๊อดเจ็ดทะเลลงไปสัก 1 ช้อนชา และโรยด้วยข้าวไรน์และมิลเลตขาว
  สูตรขนสวย 3อย่างนี้ หาซื้อที่ไหนเหรอจ๊ะ!?


ข้าวโพดให้สลับได้บ้าง แต่ในหน้าร้อนนั้น ข้าวโพดสด สร้างปัญหาเรื่องแบคทีเรียมาก ต้องระมัดระวังให้แต่น้อย ๆ และเอาออกให้เร็ว
: ข้าวโพดเราให้ทุกวันเลย จากที่เมื่อก่อนให้ทั้งฝัก แขวนไว้เช้า-เย็น ตอนนี้เปลี่ยนมาแบ่งให้เป็นท่อนๆจร้า
  เช้า-เที่ยงแล้วเอาทิ้ง แล้วก็ให้ใหม่อีกท่อน บ่าย-เย็น ไม่มีแมงหวี่แล้วด้วย ...   ส-ดีใจ



คำถามต่อมาคือ ทำไมต้องแยกลูกนก ..นี่เป็นธรรมชาติครับ เพราะหลังจากที่ลูกนกขนเต็มแล้ว (ประมาณ 1 เดือน) พ่อแม่นกจะเริ่มไล่ลูกลงรัง และบางครั้งอาจถึงจิกลูกนกได้รับบาดเจ็บถึงตายได้!

เพราะหลังจากลูกนกโตแล้ว แม่นกอาจจะต้องวางไข่ชุดต่อไปครับ...

: เข้าใจแล้วจร้าา  จะสังเกตไม่ให้แม่จิกลูกนก จิกเมื่อไหร่ก็จับแยกใส่กรงอนุบาลที่เตรียมไว้
  หรือรอประมาณ1-2เดือน(ตั้งแต่เดือนพฤษภา) ตามที่แนะนำ   ส.สู้ๆ


เมื่อวานซื้อฟาร์มเฮ้าส์หน้าเนยมาใส่กระป๋องทางด้านซ้ายมือไว้ เผื่อแม่นกจะเอาไปป้อนลูกนกอะ
ส่วนถาดเปล่าสี่เหลี่ยมสีเขียว อันนั้นอยู่ใต้มะพร้าวตรงตำแหน่งปากรัง เรากลัวลูกนกตกลงมาจ๊ะ ...  ส-เขิน
ใช้ได้หรือเปล่า!?

: ขอถามเพิ่มเติมนิดว่า ช่วงระหว่างนี้เราเอาลูกนกมาจับเล่นได้หรือเปล่าจ๊ะ ... ส-เขิน

Mr.No

 ตอบปัญหาจากล่างไปบน ก่อน  เพราะกังวลเรื่อง ฟาร์มเฮ้าส์! 

  ผมไม่แนะนำให้ใช้ขนมปังเนยแบบนั้นครับ ...เพราะเนยที่ทาบนขนมปังนั้น(เนยสังเคราะห์จากพวกน้ำมัน) ไม่ได้เป็นประโยชน์กับนก แถมอาจสร้างปัญหาได้ครับ....

พวกเกร็ดขนมปังดีกว่าครับ..

  น้ำมันตับปลาเจ็ดทะเล ซื้อได้ตามร้านขายยาครับ เด็ก ๆ ก็กินได้มีประโยชน์   ดูภาพประกอบครับ
[attach=1]

เวลาที่เราไปซื้ออาหารให้นก ตามร้าน เราบอกว่า เอาข้าวนกหงษ์หยก ทางร้านจะให้มาเป็นเม็ดขาว ๆกลมๆ  เล็ก ๆ นั่นเรียกว่า มิลเลตขาว 
บางร้านที่เข้าใจเรื่องนกและไม่ขี้เหนียวจะผสมพวกข้าวไรย์ เข้าไปด้วย (มีประโยชน์กว่าพวกมิลเลต เพราะให้ไขมันด้วย)

[attach=2]
นี่เป็นมิลเลตขาว (จะมีอย่างอื่นคือ แดงและดำ เช่นในพวกอาหารนกเขาเล็กจะมี ขาวกับดำปนกัน)

[attach=3]
นี่คือ Canary seed หรือที่ร้านนกมักเข้าใจว่ามันคือ ข้าวไรย์ ครับ

(หมายเหตุ :  ทำความเข้าใจนะครับ จริง ๆแล้ว ข้าวไรย์หรือข้าวไรน์ ที่ร้านนกเข้าใจนั่น ชื่อจริง ๆมันคือ canary seed ส่วนข้าวไรย์ หรือ rye นั้นจะคล้าย ๆ เมล็ดข้าวสาลีแต่เล็กกว่า)

แต่ถ้าหากเราไปบอกร้านขายอาหารนกว่า ซื้อ canary seed ร้านจะไม่รู้จัก เลยต้องเออออ บอกไปผิด ๆ ว่าซื้อข้าวไรย์ (ซึ่งจริง ๆ มันคือ canary seed ครับ...เข้าใจตรงกันเรื่องนี้นะครับ ส.ยักคิ้ว


อาหารนกหงษ์หยก ผมจะผสมใช้เอง เพราะที่ผสมมาบางครั้งก็เก่า และไม่สะอาด   

ลองสังเกตุว่าอาหารนกที่ซื้อมามีสองอย่างนี้มั้ย ส่วนใหญ่จะพบว่า ข้าวไรน์มีน้อยมาก หรือบางรายไม่ใส่ให้เลย ก็อาจขอซื้อข้าวไรน์ที่ร้านต่างหาก มาผสมเพิ่มเข้าไป สัดส่วน ข้าวไรน์ (จริง ๆ คือ canary seed)  1 ส่วน มิลเลตขาว 4 ส่วน ก็น่าจะดีครับ

ยี่ห้อที่ผมเคยใช้คือ อาหารนกผสมของ Beyers Belgium (หาดใหญ่บ้านเราไม่แน่ใจว่ามีขายมั้ย) สะอาดและครบถ้วนดีครับมีข้าวโอ๊ตมาให้ด้วย แต่ราคามันแพงไปเท่านั้นละครับ  ส.โขกกำแพง


ส่วนคำถามจับลูกนกมาเล่นได้มั้ยตอนนี้ ..... คำตอบคือ ถ้าจับแล้ว พ่อแม่นกไม่รับคืนนะครับ  ส-เหอเหอ 

ถ้าต้องการเลี้ยงแบบนกเชื่อง ต้องรอให้ลูกนกขนขึ้นเต็มแล้ว ค่อยแยกออกมาป้อนอาหารเอง (แต่ป้อนลูกนกหงษ์หยกไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน) 

แต่หงษ์หยกที่เชื่อง น่ารักครับ..ยิ่งเจอพวกปากเปราะ  ๆ มันบ่นให้ฟังทั้งวัน (หงษ์หยกนี่พูดได้ และพูดเยอะนะครับ เพียงแต่ เสียงจะเบาประมาณรำพึง แต่ฟังให้ดีจะเป็นคำชัดครับ)




..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

pa_เฟี๊ยว

mr.no ช่วยด้วยจร้าา !!
ลูกนกตกลงมาตายแล้ว ....   

บ่ายโมงกว่าๆวันนี้ ลูกนกตกลงมา2ตัวจ้า
นี่เป็นครั้งแรกจร้าา ...
ลูกตัวเล๊กก ตกอยู่ในถาดสี่เหลี่ยมสีเขียว ที่ใส่ไว้ใต้มะพร้าวเมื่อเช้านี้ จับใส่คืนในรังแล้วตอนนี้
ลูกตัวกลาง ตกลงสู่พื้นข้างล่างเลย ความสูงเกือบ2เมตร ตายแล้วด้วยจ้า
                                                                               ส.ร้อง ส.ร้อง ส.ร้อง
น่าจะตกอยู่ในถาดรอง หรือที่พิ้นกรง แต่นี่ตกลงมาข้างงล่างตายเลย
ตายก่อนตก หรือตายหลังตกก็ไม่รู้จ้าา

ไม่เคยไปจับไปต้อง ก็ถ่ายแต่รูป 
เกิดจากอะไร !?
ตกมาได้ยังไง !?
แล้วจะตกอีกมั๊ย !?

ต้องทำยังไงละทีนี้ !?     เราสังหรใจแล้วเชียว
เสียใจจังเลย   ....      ส.ร้อง ส.ร้อง ส.ร้อง

Mr.No


  ส่วนใหญ่ปัญหาเกิดจาก แม่นกเขี่ยลูกทิ้งครับ....
  ผมเคยเจอปัญหานี้...เอาลูกนกใส่กลับเข้าไป เดี๋ยวแม่นกก็เขี่ยออกมาอีก  สุดท้ายต้องใช้วิธีนำลูกนกออกมาเข้าตู้อบ (ตู้ฟักไข่) แล้วป้อนอาหารเอง

   กรณีลูกนกถูกเขี่ยออก จะสังเกตุว่ามักเกิดจากพ่อแม่นกที่เพิ่งวางไข่ครอกแรก ๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะสัญชาตญานที่จะต้องเหลือลูกนกที่แข็งแรงที่สุดเอาไว้ (อันนี้อ้างอิงตามหลักทั่วไป)

   ลองสังเกตุสักครึ่งวันที่เหลือ ถ้าแม่นกมีปัญหาจริง ๆจะเขี่ยลูกนกออกมาอีก ถึงเวลานั้นก็จำเป็นต้องแยกลูกนกออกมาไว้ในกล่องอนุบาล (อันนี้ค่อยว่ากันอีกที)
   
 

  ใจเย็นนะครับ.. เรื่องพวกนี้เป็นธรรมชาติ ..ธรรมดาครับ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

pa_เฟี๊ยว

ก่อนอื่น ต้องขอขอบพระคุณmr.noจริงๆจร้าา  ที่ให้คำปรึกษา ...   ส.แย่จัง


  ผมไม่แนะนำให้ใช้ขนมปังเนยแบบนั้นครับ ...เพราะเนยที่ทาบนขนมปังนั้น(เนยสังเคราะห์จากพวกน้ำมัน) ไม่ได้เป็นประโยชน์กับนก แถมอาจสร้างปัญหาได้ครับ....   พวกเกร็ดขนมปังดีกว่าครับ..
  น้ำมันตับปลาเจ็ดทะเล ซื้อได้ตามร้านขายยาครับ เด็ก ๆ ก็กินได้มีประโยชน์   ดูภาพประกอบครับ

: เอาขนมปังหน้าเนย ทิ้งตั้งแต่เห็นคำแนะนำเมื่อตอนบ่ายแล้วจร้าา
: มีรูปประกอบแบบนี้ พรุ่งนี้จะไปหาซื้อมาเลย
  น้ำมันตับปลาเจ็ดทะเล เราก็นึกว่าต้องไปหานำ้มันตับปลาแต่ละทะเลมารวมกัน (แปซิฟิก+อาร์กติก ฯลฯ)  ส-เขิน
  แต่มันคือยี่ห้อ เซเว่นซี    ส-เขิน




เวลาที่เราไปซื้ออาหารให้นก ตามร้าน เราบอกว่า เอาข้าวนกหงษ์หยก ทางร้านจะให้มาเป็นเม็ดขาว ๆกลมๆ  เล็ก ๆ นั่นเรียกว่า มิลเลตขาว 
บางร้านที่เข้าใจเรื่องนกและไม่ขี้เหนียวจะผสมพวกข้าวไรย์ เข้าไปด้วย (มีประโยชน์กว่าพวกมิลเลต เพราะให้ไขมันด้วย)

(หมายเหตุ :  ทำความเข้าใจนะครับ จริง ๆแล้ว ข้าวไรย์หรือข้าวไรน์ ที่ร้านนกเข้าใจนั่น ชื่อจริง ๆมันคือ canary seed ส่วนข้าวไรย์ หรือ rye นั้นจะคล้าย ๆ เมล็ดข้าวสาลีแต่เล็กกว่า)

อาหารนกหงษ์หยก ผมจะผสมใช้เอง เพราะที่ผสมมาบางครั้งก็เก่า และไม่สะอาด   
ลองสังเกตุว่าอาหารนกที่ซื้อมามีสองอย่างนี้มั้ย ส่วนใหญ่จะพบว่า ข้าวไรน์มีน้อยมาก หรือบางรายไม่ใส่ให้เลย ก็อาจขอซื้อข้าวไรน์ที่ร้านต่างหาก มาผสมเพิ่มเข้าไป สัดส่วน ข้าวไรน์ (จริง ๆ คือ canary seed)  1 ส่วน มิลเลตขาว 4 ส่วน ก็น่าจะดีครับ
ยี่ห้อที่ผมเคยใช้คือ อาหารนกผสมของ Beyers Belgium (หาดใหญ่บ้านเราไม่แน่ใจว่ามีขายมั้ย) สะอาดและครบถ้วนดีครับมีข้าวโอ๊ตมาให้ด้วย แต่ราคามันแพงไปเท่านั้นละครับ

: นี่คือภาพอาหารนกที่ใช้อยู่จร้าา ...
  คิดว่าน่าจะพอดีกับสัดส่วนที่แนะนำมามั๊ย  ข้าวไรน์(เม็ดเรียวๆ) 1ส่วน มิลเลตขาว(เม็ดกลมๆ) 4ส่วน
  ถ้าใช่นี่ จะทำการผสมเป็นสูตรอาหารเลยน๊าา ...   ส.แย่จัง

   
   



ส่วนคำถามจับลูกนกมาเล่นได้มั้ยตอนนี้ ..... คำตอบคือ ถ้าจับแล้ว พ่อแม่นกไม่รับคืนนะครับ  ส-เหอเหอ

ถ้าต้องการเลี้ยงแบบนกเชื่อง ต้องรอให้ลูกนกขนขึ้นเต็มแล้ว ค่อยแยกออกมาป้อนอาหารเอง (แต่ป้อนลูกนกหงษ์หยกไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน) 
แต่หงษ์หยกที่เชื่อง น่ารักครับ..ยิ่งเจอพวกปากเปราะ  ๆ มันบ่นให้ฟังทั้งวัน (หงษ์หยกนี่พูดได้ และพูดเยอะนะครับ เพียงแต่ เสียงจะเบาประมาณรำพึง แต่ฟังให้ดีจะเป็นคำชัดครับ)

:: สรุปว่าได้จับแล้ววันนี้ ไม่กล้าจับอีกหรอกจร้าา ทำตามวิธีที่แนะนำดีกว่า   ส.แย่จัง

pa_เฟี๊ยว

  ส่วนใหญ่ปัญหาเกิดจาก แม่นกเขี่ยลูกทิ้งครับ....
  ผมเคยเจอปัญหานี้...เอาลูกนกใส่กลับเข้าไป เดี๋ยวแม่นกก็เขี่ยออกมาอีก  สุดท้ายต้องใช้วิธีนำลูกนกออกมาเข้าตู้อบ (ตู้ฟักไข่) แล้วป้อนอาหารเอง

   กรณีลูกนกถูกเขี่ยออก จะสังเกตุว่ามักเกิดจากพ่อแม่นกที่เพิ่งวางไข่ครอกแรก ๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะสัญชาตญานที่จะต้องเหลือลูกนกที่แข็งแรงที่สุดเอาไว้ (อันนี้อ้างอิงตามหลักทั่วไป)

   ลองสังเกตุสักครึ่งวันที่เหลือ ถ้าแม่นกมีปัญหาจริง ๆจะเขี่ยลูกนกออกมาอีก ถึงเวลานั้นก็จำเป็นต้องแยกลูกนกออกมาไว้ในกล่องอนุบาล (อันนี้ค่อยว่ากันอีกที)
   
    ใจเย็นนะครับ.. เรื่องพวกนี้เป็นธรรมชาติ ..ธรรมดาครับ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ


: มันจะใจเย็นไม่ไหวอะสิจ๊ะ แต่ถ้าโดยธรรมชาติของเค้า ก็จะพยายามจร้าา

  หลังจากที่เอาเจ้าตัวเล็กสุดที่ตกในถาด ใส่กลับไปในรังเมื่อตอนบ่าย2 ก็ไม่ตกมาอีกแล้วนะ
  สังเกตทั้งบ่ายเลยวันนี้ เอากรงลงมาตั้งบนโต๊ะด้วยเลย แต่ไม่อึกทึกครึกโครมจร้าา

: อย่าได้เขี่ยลูกตกลงมาอีกเลย ตู้อบตู้ฟักนี่ จะเกินปัญญามือสมัครเล่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ...  ส.ร้อง

  แต่ลูกกลางนี่โดนโยนบก ตกลงมาถึงพื้นบ้านได้ยังไงกัน สงสารหนึ่งชีวิตอะ          ...  ส.ร้อง ส.ร้อง ส.ร้อง
  ไม่รู้ตายที่พื้นกรง หรือตายที่พื้นบ้าน หรือตายที่ความกดอากาศ3-4ฟุตก่อนถึงพื้น  ...   ส.ร้อง

Mr.No

อ้างจาก: pa_เฟี๊ยว เมื่อ 19:55 น.  05 เม.ย 58
  ส่วนใหญ่ปัญหาเกิดจาก แม่นกเขี่ยลูกทิ้งครับ....

  ผมเคยเจอปัญหานี้...เอาลูกนกใส่กลับเข้าไป เดี๋ยวแม่นกก็เขี่ยออกมาอีก  สุดท้ายต้องใช้วิธีนำลูกนกออกมาเข้าตู้อบ (ตู้ฟักไข่) แล้วป้อนอาหารเอง

   กรณีลูกนกถูกเขี่ยออก จะสังเกตุว่ามักเกิดจากพ่อแม่นกที่เพิ่งวางไข่ครอกแรก ๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะสัญชาตญานที่จะต้องเหลือลูกนกที่แข็งแรงที่สุดเอาไว้ (อันนี้อ้างอิงตามหลักทั่วไป)

   ลองสังเกตุสักครึ่งวันที่เหลือ ถ้าแม่นกมีปัญหาจริง ๆจะเขี่ยลูกนกออกมาอีก ถึงเวลานั้นก็จำเป็นต้องแยกลูกนกออกมาไว้ในกล่องอนุบาล (อันนี้ค่อยว่ากันอีกที)
   
    ใจเย็นนะครับ.. เรื่องพวกนี้เป็นธรรมชาติ ..ธรรมดาครับ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ


: มันจะใจเย็นไม่ไหวอะสิจ๊ะ แต่ถ้าโดยธรรมชาติของเค้า ก็จะพยายามจร้าา

  หลังจากที่เอาเจ้าตัวเล็กสุดที่ตกในถาด ใส่กลับไปในรังเมื่อตอนบ่าย2 ก็ไม่ตกมาอีกแล้วนะ
  สังเกตทั้งบ่ายเลยวันนี้ เอากรงลงมาตั้งบนโต๊ะด้วยเลย แต่ไม่อึกทึกครึกโครมจร้าา

: อย่าได้เขี่ยลูกตกลงมาอีกเลย ตู้อบตู้ฟักนี่ จะเกินปัญญามือสมัครเล่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ...  ส.ร้อง

  แต่ลูกกลางนี่โดนโยนบก ตกลงมาถึงพื้นบ้านได้ยังไงกัน สงสารหนึ่งชีวิตอะ          ...  ส.ร้อง ส.ร้อง ส.ร้อง
  ไม่รู้ตายที่พื้นกรง หรือตายที่พื้นบ้าน หรือตายที่ความกดอากาศ3-4ฟุตก่อนถึงพื้น  ...   ส.ร้อง

ภาพพวกเมล็ดพืชที่ถ่ายมาให้ดู ก็โอ.เค ครับ มีทั้งมิลเลตขาว,แดง และข้าวไรย์ ซึ่งก็คงไม่ต้องลำบากมาผสมกันอีก.

แต่ขอให้มันสะอาดและปลอดฝุ่นก็ใช้ได้ละครับ

ผมเล่าให้เป็นความรู้จากประสบการณ์แบ่งปันนะครับ...

เรื่องแม่นกเขี่ยลูกทิ้ง..สำหรับนก ถือเป็นกลไกการควบคุมตามธรรมชาติที่จะต้องให้โอกาสลูกตัวที่แข็งแรงที่สุดมีโอกาสรอด และลูกตัวที่แข็งแรงก็ไม่ได้หมายถึงลูกตัวที่ใหญ่กว่าเสมอไป !

ซึ่งในกรณีนี้ นักเพาะนกพันธุ์นกโดยเฉพาะนกที่มีราคาแพง ๆ อย่างพวก กระตั๊ว,หรือนกแก้วใหญ่ ๆ อย่างพวกมาคอว์ จะ ทราบกันดี จึงได้ใช้วิธีเก็บไข่นกมาฟักเอง,ป้อนเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับกระบวนการเลี้ยงนกที่อาจเกิดการสูญเสียต่อลูกนกได้   

[attach=1]
ภาพตัวอย่างไข่ปลอม(พลาสติก)ของนกหงษ์หยกที่มีขายในต่างประเทศครับ

ในนกบางชนิด เช่นพวกที่เลี้ยงนกหงษ์หยกสายพันธุ์อังกฤษ,เยอรมัน หรือนกคีรีบูนหรือพวกฟินซ์ ราคาแพง ๆ จึงนิยมใช้ "ไข่ปลอม" หรือที่ฝรั่งเรียกว่า พวก Dummy Egg เพราะมันสามารถช่วยป้องกันปัญหานก "ไข่เกินกำลัง" ได้

ที่ผมบอกว่า  โอกาสที่จะได้ลูกนกจากการเลี้ยงแบบนี้ สัก 2-3 ตัวก็ถือว่าดีมาก ก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ "ไข่เกิน" ครับ!

นักเพาะพันธุ์นกจะใช้วิธีนำไข่ปลอมมาวางเพื่อสองประโยชน์ คือ

   1.เพื่อให้การฟักไข่ของแม่นกฟักไข่พร้อมกัน ซึ่งนั่นหมายถึงขนาดของลูกนกที่ฟักออกจะพร้อม ๆ กันและมีขนาดใกล้เคียง
กัน
   2.เพื่อให้แม่นกหยุดการไข่เกินกำลัง และเริ่มฟักไข่ที่มีอยู่ เช่นกรณี อย่างนกหงษ์หยกบางตัวอาจไข่ได้ถึง 7-8 ฟอง นั่นคือต้องให้เวลายาวนานอาจถึง  15-16 วันที่ไข่ฟองสุดท้ายถูกวาง และไม่นานนักลูกนกตัวแรกก็ฟักออกมาทำให้ไข่ที่เหลือในใบหลัง ๆ อาจกลายเป็นไข่ที่มีปัญหาคือ ฟักแล้วลูกนกไม่แข็งแรง หรือแม่นกหยุดฟักไข่ทำให้ไข่ตายโคม ฯลฯ

   ดังนั้นกรณีนี้ นักเพาะนก ที่ใช้กระบวนการให้แม่นกฟักไข่เอง ก็อาจต้องยอมรับได้กับการมีไข่ที่แข็งแรงคือราว ๆ 3-4 ฟองแล้วใส่ไข่ปลอมเข้าไปเพื่อให้แม่นกหยุดไข่และทำการฟักไข่

  ผมเคยตอบปัญหากระทู้เกี่ยวกับเรื่องมีคนพบลูกนกตกจากรัง แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง...และมีคำถามบ่อยว่า "มันตกลงมาได้อย่างไร?" 

  เรื่องนี้จึงมีคำตอบส่วนใหญ่มากกว่า 70 เปอร์เซนต์คือ  แม่นกเขี่ยลูกตัวนั้นทิ้งเอง!!


  ประโยชน์ของการเลี้ยงนก มันอยู่ตรงนี้ละครับ... มันคือพื้นฐานที่ดีสำหรับเด็ก ๆ ที่จะได้เรียนชีววิทยาในเชิงปฎิบัติ โดยที่โรงเรียนอาจไม่มีโอกาสถ่ายทอดให้

เฉพาะถ้าพ่อแม่ มีพื้นฐานและชอบการเลี้ยงสัตว์ และมีความรู้อยู่บ้าง การสอนให้ลูก ๆ เริ่มสังเกตุ,ถ่ายภาพ (อย่างที่คุณ pa_เฟี้ยว ทำนี่ละครับ) จดบันทึก หัดส่องไข่ดูเชื้อ ,สังเกตุรอบวางไข่,การเจาะไข่ลูกนก,กระบวนการป้อนอาหารของพ่อแม่นก,พัฒนาการของร่างกาย, การเริ่มหัดบิน,พฤติกรรมของพ่อแม่นกต่อลูกนก ฯลฯ

เหล่านี้เป็นความรู้ที่เราสร้างให้เด็ก ๆ เติบโตอย่างรู้ลึกและเข้าใจ...   

เรื่องพวกนี้ ฝรั่งมักสอนให้เด็ก ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมและตัดสินใจ เราจึงไม่สงสัยเลยว่า ทำไม ฝรั่งจึงมีนัก ปักษีวิทยา,มีนักวิทยาศาตร์ด้านสัตว์ต่างๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญกันมากมาย และสุดท้ายฝรั่งเหล่านั้นก็เขียนตำราต่างๆ  และเป็นครูบาอาจารย์ถ่ายทอดให้แก่คนทั่วโลก รวมทั้ง "คนไทย"

เขียนไปเริ่มออกทะเลแยะ.... ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ  เอาเป็นลุ้นกันต่อไปครับ แม้นจะเหลือน้อยหรือไม่เหลือเลย..ก็ยังหวังว่า ครอกต่อไป และต่อไป ก็ยังมี และมันต้องได้สักครอก  (แบบที่ผมเคยประสบ) นั่นละครับ ส.สู้ๆ ส.ยกน้ิวให้


..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

pa_เฟี๊ยว

ออกอาการท้อนิดนึง ...  ส.แย่จัง

หลังจากที่ผ่านมาทั้งคืน 
วันนี้(6เมษา)จนถึงช่วงเวลา7โมงเช้าก็ยังปรกติดี
แต่ตอนแปดโมงลูกตัวเล๊กกๆ ที่เคยโดนเขี่ยตกลงมาอยู่ในถาดสีเขียวแล้วครั้งนึง โดนเขี่ยออกมา ตายแล้วจร้าา!!
ตายอยู่นอกกรงด้วย ขนาดเอากรงวางไว้บนโต๊ะเพื่อป้องกันแล้วนะ ช่วงเวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมงด้วย ... ส.ร้อง
น่าจะตกอยู่ในถาดใต้รังก่อน(เหมือนเมื่อวาน) หรือนกตามมาเขี่ยทิ้งบกอีกครั้งนึง ลงพื้น

ประมาณเที่ยงวัน มีไข่1ฟอง โดนเขี่ยออกมาตกลงในถาดสีเขียวใต้รังด้วย ใส่กลับเข้าไปแล้วจร้าา ...  ส.แย่จัง

เห็นพ่อนกหายเข้าไปในรังด้วยบ่อยครั้ง เป็นเพราะเจ้าตัวพ่อนกหรือเปล่าจ๊ะ จะได้จับแยกออกมา ... ส.แย่จัง
เริ่มจะสงสัยเจ้าตัวนี้แระ

ขอขอบคุณ คุณmr.no ที่แนะนำจร้าา ...

Mr.No

อ้างจาก: pa_เฟี๊ยว เมื่อ 17:16 น.  06 เม.ย 58
ออกอาการท้อนิดนึง ...  ส.แย่จัง

หลังจากที่ผ่านมาทั้งคืน 
วันนี้(6เมษา)จนถึงช่วงเวลา7โมงเช้าก็ยังปรกติดี
แต่ตอนแปดโมงลูกตัวเล๊กกๆ ที่เคยโดนเขี่ยตกลงมาอยู่ในถาดสีเขียวแล้วครั้งนึง โดนเขี่ยออกมา ตายแล้วจร้าา!!
ตายอยู่นอกกรงด้วย ขนาดเอากรงวางไว้บนโต๊ะเพื่อป้องกันแล้วนะ ช่วงเวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมงด้วย ... ส.ร้อง
น่าจะตกอยู่ในถาดใต้รังก่อน(เหมือนเมื่อวาน) หรือนกตามมาเขี่ยทิ้งบกอีกครั้งนึง ลงพื้น

ประมาณเที่ยงวัน มีไข่1ฟอง โดนเขี่ยออกมาตกลงในถาดสีเขียวใต้รังด้วย ใส่กลับเข้าไปแล้วจร้าา ...  ส.แย่จัง

เห็นพ่อนกหายเข้าไปในรังด้วยบ่อยครั้ง เป็นเพราะเจ้าตัวพ่อนกหรือเปล่าจ๊ะ จะได้จับแยกออกมา ... ส.แย่จัง
เริ่มจะสงสัยเจ้าตัวนี้แระ

ขอขอบคุณ คุณmr.no ที่แนะนำจร้าา ...

ดูท่าสัญญานไม่ค่อยดีครับ ส.แหยง  และดูทีว่า ครอกนี้ท่าจะเหนื่อยกันต่อละครับ ส.แย่จัง ส.แย่จัง

ก่อนจะเขียนอะไรต่อไปนี้ มาถึงตอนนี้ผมถึงเห็นประโยชน์ของพวกเวบบอร์ดที่ผมเห็นว่ามันค่อนข้าง มีประโยชน์โดยเฉพาะในรูปแบบสาธารณะหรือการค้นหาข้อมูลเก่า ๆ มากกว่า พวก โซเชียลอย่าง facebook หรืออะไรพวกนั้น ที่ผมยังเห็นว่ามันยังคงฉาบฉวยและไม่จีรังเท่าพวกบอร์ด (อันนี้คิดเห็นส่วนตัวครับ)

มองในทางเลวร้ายคือ นกครอกนี้ในที่สุดอาจสูญเสียได้หมด สาเหตุที่พอจะประมวลจากภาพและการคุยกัน คือ

1. ตำแหน่งที่ตั้งของกรง 
    เรื่องตำแหน่งที่ตั้งบางท่านอาจไม่เห็นความสำคัญ เพราะเพียงแต่คิดว่า "เลี้ยงเล่นๆ" แต่หลังจากที่นกเริ่มไข่ อาจต้องเผชิญความกังวลและเสียดายที่นกอาจไปไม่ถึงฝัน(ของคนเลีั้้ยง)

   - ที่ตั้งของกรงนก ต้องไม่มีสิ่งที่จะถูกรบกวน ทั้งจากมนุษย์,เสียงรบกวน และสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะพวก หนู,แมว สุนัข
ฯลฯ
    - มุมของกรงนกที่จะวางโดยเฉพาะการเลี้ยงเพื่อหวังผลด้านการเพาะพันธุ์นก ต้องไม่อยู่ในมุมที่ มืดจนเกินไป,หรือแสงแดดส่องตรงบริเวณปากโพรงกล่องฟัก หรือทางเข้ารังฟักไข่ และด้านบน,ซ้ายขวา ควรมีวัตถุปิดบังเพื่อมิให้พ่อแม่นกรู้สึกถูกรบกวน

   *** ด้วยเจตนาดี ด้วยการย้ายกรงลงมาในขณะที่แม่นกฟักไข่หรือมีลูกนก อาจเป็นปัญหาที่ไม่อาจมองข้ามครับ ****


2.  ชนิด/แบบของกรงเลี้ยงนกชนิดเพาะพันธุ์ (โดยเฉพาะ นกหงษ์หยก)

แบบกรงเลี้ยงนกที่นักเลี้ยงนกต้องการผลผลิต อาจมีสองแบบคือ

[attach=1]

     2.1กรงเลี้ยงรวมแบบปล่อยหรือที่ฝรั่งเรียกว่า aviary คือกรงเลี้ยงภายนอกที่มีขนาดใหญ่ มีปริมาณนก และรังหรือกล่องสำหรับพ่อแม่นกอยู่ในกรงรวมอย่างพอเพียง ซึ่งกรงใหญ่ขนาดนอกบ้านพวกนี้ และปริมาณนกในกรงรวมทั้งขนาดและกล่องฟักหรือพวกรังมะพร้าว (ถ้ามีพอเพียง) ทำให้ พ่อแม่นกแต่ละคู่ ลดสภาพความเครียดจาก ความกลัวลงได้มาก และผลผลิต (ลูกนก) ก็จะได้ค่อนข้างดี 

[attach=2]

     2.2 กรงเลี้ยงแบบที่เรียกว่า กรงหมอน (Cage) ซึ่งเมืองไทยมีขายตามร้านเพ็ทช้อบ มีขนาดตั้งแต่  เบอร์3 ,2 และ 1 ลักษณะเป็นกรงลวดชุบผสมพวกสังกะสี(กันสนิม) จะเป็นลักษณะกรงแบบแนวนอน ซึ่งเหมาะสำหรับพวกนกหงษ์หยกหรือพวกนกแก้วที่ชอบไต่ ๆ  กรงพวกนี้เหมาะสำหรับใช้กล่องฟักชนิดไม้ติดแนบข้างกรง เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดกล่องฟัก,ตรวจดูไข่หรือพวกลูกนก ฯลฯ  โดยกรงแบบนี้ถ้าไม่สามารถจัดวางในห้องเฉพาะได้ ก็ต้องใช้พวกแผ่น pvc วางปิดด้านบน,ซ้ายและขวา เพื่อให้นกอยู่ในสภาพที่ถูกรบกวนน้อยที่สุด

  ดังนั้น ด้วยปัจจัยที่ผมเล่ามา ..ก็น่าจะสรุปได้ว่า นกครอกนี้มีปัญหาเครียด อาจเพราะสภาพกรง,ตำแหน่งที่ตั้ง และปัจจัยแวดล้อมอาจมีปัญหา ซึ่งสุดท้ายถ้าต้องสูญเสียลูกนกหมด คงต้องพิจารณากันอีกทีครับ

  ข้อแนะนำของผม ก็คือ  หากสิ้นสุดครอกนี้ด้วยการไม่ได้ลูกนกเลย ..จะต้องเอามะพร้าวออกเพื่อให้แม่นกหยุดการวางไข่ เพราะแม่นกที่มีพฤติกรรมจิกหรือเขี่ยไข่,ลูกนกทิ้ง มักจะจำพฤติกรรมและติดเป็นนิสัยในครอกต่อไป ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นแม่พันธุ์ที่ใช้ไม่ได้

  ส่วนพ่อนก ไม่น่าจะใช่ตัวปัญหาครับ เพราะพ่อนกโดยสัญชาตญาน จะมีหน้าที่ป้อนอาหารให้แม่นกในระหว่างวางไข่ หรือป้อนให้ลูกนกด้วย 

  อย่างไรก็ตาม..ถ้าวัตถุประสงค์เราเลี้ยงเพื่่อความเพลิดเพลิน ความสุขของการเลี้ยงคือการเห็นนกที่เลี้ยงมีความสุขตามสภาพ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องปกติ..ไม่ใช่เรื่องผิดพลาดของเราหรือนกที่จะต้องมาทำให้ การเลี้ยงเพื่อคลายทุกข์เป็นการเพิ่มทุกข์ และไม่ใช่เรื่องที่ควรต้องมาคิดหรือกังวลกันจนเกินไปครับ.....  ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.ยกน้ิวให้

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

pa_เฟี๊ยว

ตอนนี้กลับมาที่คอนเซ็ป การเลี้ยงเป็นงานอดิเรก ขำขำ แระจร้าา ...  ส-เขิน

สงสัยย้ายกรงไปมา จู้จี้จุกจิ๊กโน่นนี่มากไป หลังจกที่ได้อ่านก็ย้ายกรงกลับไปแระ อิอิ  ส.ดุดุขำขำ

คนเครียด  นกก็เครียด (ฮา)  ส.หัว

ลูกนกตัวโตออกจากไข่ตัวแรก ตัวใหญ่มากเลยจร้าา มีตอขนเริ่มขึ้นแล้วด้วย แต่ตาเปิดรึยังก็ไม่รู้  ส-ดีใจ
ส่วนอีกสามฟองสุดท้ายยังไม่ออกมาเลย ตั้งแต่วันที่20++(ประมาณ1เดือน) คาดว่าคงหมดวัง    ส.ดุดุขำขำ

วันนี้จะลองผสมสูตรอาหารตามที่แนะนำมานะจร้าา ...   ส-ดีใจ

คุณmr.no ยังเลี้ยงนกหงส์หยกอยู่มั๊ยเอ่ย  ลูกนกตัวโตนี้เราอยากให้คุณmr.noเป็นที่ระลึกจังเลย อิอิ

มารับเอาไปป้อนมั๊ย  ส-เขิน

pa_เฟี๊ยว

วันนี้ 7เมษา คาดว่าเวลากลางวัน ...

ไข่ที่เหลืออยู่สามฟอง ก็ฟักออกมาอีก1ตัว เรียกว่าน้องสี่ อิอิ   ส.หัว
ซึ่งคาดว่า น่าจะโดนเขี่ยตกรังหล่าว เพราะพี่ตัวโต โตมากเลยจร้าา ...

ก็ไม่รู้จะทำยังไง อยากเอาสก็อตเทปไปปิดปากรัง ขังแม่และลูกไว้ด้วยกันเล้ย (ฮา)   ส.หัว ส.หัว

อยากทำจริงๆนะ ...

ปล. รบกวนสอบถามmr.noว่า พรุ่งนี้ถ้าเอาลูกตัวที่สี่ ออกมาใส่ถาดไว้ภายนอกรังจะได้+จะรอดไหมเอ่ย!?