ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ห้องสมุด ๒ เล หนึ่งในมุมงดงามของเมืองเก่าสงขลา

เริ่มโดย dusit.pitt, 09:33 น. 09 ก.ย 58

dusit.pitt

[attach=1]
[attach=2]
" เรียนลูกค้าทุกท่าน
ขอชี้แจงกฎระเบียบของร้านเราดังนี้

1.สั่งน้ำแก้วเดียวนั่งได้ตั้งแต่ร้านเปิดจนปิด (น้ำเปล่า ชาจีนร้อน แถมฟรี)
2. ขนมไม่มีขายโปรดนำมาเอง (เผื่อเจ้าของร้านบ้าง)
3. ข้าวไม่มีขายโปรดนำมาเอง (มีจานช้อนบริการแถมล้างให้ฟรีด้วย)
4. หนังสืออ่านฟรี ยืมฟรี
5. WiFi ฟรี ชาร์จแบตทุกชนิดฟรี
บริการเสริม ห้องน้ำสะอาดสุด ๆ
เพลงเก่าไพเราะ ง่วงมีมุมแอบนอนบริการฟรี
มีจักรยานให้ยืมปั่นเที่ยวเมืองเก่าฟรี

บริการพิเศษ มีห้องพักปรับอากาศ พักได้ 2-3 ท่าน สำหรับนักอ่านนักเดินทาง
ค่าใช้จ่ายแล้วแต่จะให้
มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย
ไม่มีไม่ต้องให้

จึงเรียนมาเพื่อรับทราบความสุขโดยทั่วกัน
หมายเหตุ กำไรจากการขายเครื่องดื่มใช้เพื่อซื้อหนังสือดีๆไว้ให้อ่านกันต่อไป
ท่านมีส่วนช่วยเราได้เพียงช่วยกันแชร์ ขอบคุณครับ

ห้องสมุด ๒ เล สงขลา
(ร้านชาสั่งศร)
64 ถนนนครใน ต.บ่อยาง
อ.เมือง จ.สงขลา 90000
โทร.093-5809011 "
[attach=3]


                             ข้อความข้างต้น บังเอิญได้อ่านเจอมาจากพี่ชายคนหนึ่งที่แชร์เรื่องนี้ผ่านมาบนหน้าไทม์ไลน์ แน่นอนว่าทำให้สะดุดใจ ชวนให้สืบย้อนหาคนต้นเรื่อง ที่เป็นเจ้าของข้อความนี้ "ตาวัน วิเศษสินธุ์" เจ้าของบทเชิญชวนน่าทึ่งบทนี้บนหน้า Facebook ที่ใช้ชื่อเดียวกัน หนุ่มที่มีแนวคิดในการทำห้องสมุดเอกชนเล็ก ๆ ด้วยทุนส่วนตัว บนต้นทางถนนนครใน เขตเมืองเก่าสงขลา....ตามอ่านตามดูสักระยะ ได้เห็นแนวคิด มุมมองบางมุมที่น่าสนใจจนดึงดูดให้ไปแวะเยือน...

                          แล้วโอกาสก็มาถึง ได้ไปเยี่ยม "ห้องสมุด ๒ เล" ในวันหยุดราชการวันหนึ่ง เราไปถึงตัวเมืองสงขลาค่อนข้างเช้าตรู่ ห้องสมุดยังไม่เปิด ลองเช็คเวลาจากที่บอกไว้ในเพจ 10.00-19.00 น. คงมาถึงเช้าไปหน่อย  งั้นไปเดินเที่ยวชมเมืองเก่าสงขลาก่อนดีกว่า หาข้าวเช้าโซ้ยด้วยเลยก็น่าจะดี อิ่มแล้วค่อยมาหาชาเย็น ๆ "ชาสั่งศร" ที่หน้าห้องสมุดนี้ล้างคอแล้วกัน... แวะชมจุดท่องเที่ยวมุมต่าง  ๆ ของเมืองสงขลา เดี๋ยวนี้มีการสร้างจุดให้เป็นแลนด์มาร์คสำหรับ คอโซเชี่ยลได้ถ่ายรูปเช็คอินมากมาย มีการปรับปรุงสถานที่ต่าง ๆ ทำป้ายบอกประวัติที่มาที่ไป โรงสีแดง "หับโห้หิ้น" แบ่งพื้นที่มาเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนส่วนหนึ่ง อีกมุมสามารถตั้งเวทีแสดงคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ทำได้ดีและมีคุณค่าชวนให้น่าจดจำอย่างยิ่ง

[attach=4][attach=5]

                         สิบโมงแล้ว หลังเดินย่อยอาหารในเขตเมืองเก่า แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ วนกลับมาที่เป้าหมายของเรา สังเกตง่าย ๆ ว่าห้องสมุด ๒ เล จะตั้งอยู่ ณ จุดปากทางเข้าถนนนครใน บริเวณบ้านฝั่งตรงข้ามเป็นกลุ่มแผงล็อตเตอรี่ใหญ่ประจำเมืองสงขลา... นอกจากได้ความรู้ความสนุกจากหนังสือที่ห้องสมุดนี้แล้ว ใครชอบเสี่ยงโชคอาจมีดวงถูกเป็นเศรษฐีได้..เพียงแค่ข้ามฝั่งถนนไป..

                         เดินเข้าไป เสียงเพลงไทยเดิมจากเครื่องเสียงดังสะท้อนก้องออกมาจากห้องด้านหลัง ที่อยู่ลึกเข้าไป มองตามเสียงเห็นเด็กน้อยสองคนกำลังเล่นอยู่ มีของเล่นเด็กวางกองอยู่ ท่ามกลางหนังสือเด็กมากมาย เราทักทายกับ "ตาวัน" แนะนำตัวและบอกเล่าว่าติดตามเรื่องของเขามาได้สักระยะผ่านทางเฟสบุ๊ค สนใจและอยากรู้ว่าทำไม และคิดอย่างไรถึงอยากทำห้องสมุดนี้ขึ้นมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากำไรแทบไม่ต้องพูดถึง เอาแค่จุดที่จะคุ้มทุนก็แทบจะไม่เห็นเลย.. ตาวันเล่าให้ฟังว่า เรื่องมันเริ่มจากตัวเขาเองประสบอุบัติเหตุระหว่างขับมอร์เตอไซค์แถวบ้านบริเวณสวนตูล แล้วมีรถพุ่งข้ามเกาะมาชนเขา ทำให้ร่างกายซีกขวาของเขาเละ... พร้อมกับยกมือขวาที่ผิดรูปจนเห็นได้ชัดประกอบ..
[attach=6][attach=7]

                            "ผมใช้เวลารักษาที่โรงพยาบาลอยู่เกือบปี เวลานั้นหนังสือเป็นเครื่องช่วยจรรโลงจิตใจ ไม่ทำให้ผมเหงา ตะลุยอ่านมันทุกอย่างทุกประเภทเท่าที่จะอ่านได้ งานที่เคยทำประจำของแบงค์ใหญ่ก็ต้องลาออกมาเพื่อรักษาร่างกาย ถึงทุกวันนี้มันยังก็ไม่เหมือนเดิม.... ตอนนั้นหลังจากร่างกายเริ่มดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลได้ก็เริ่มเดินทางท่องเที่ยว ไปยังที่ ๆ คนไม่รู้จัก หมกตัวอยู่เป็นเดือน ๆ เพื่อครุ่นคิดและค้นหาความหมายอะไรบางอย่างของชีวิต จนที่สุดเมื่อสองปีก่อนได้มาเจอบ้านที่ตรงนี้และคิดว่าหนังสือนี่แหละที่จะเป็นเครื่องมือนำพาสังคมได้ เพราะมันช่วยนำพาผมมาจนถึงวันนี้ได้..."

                             เราเดินสำรวจรอบ ๆ บ้าน หนังสือเต็มทุกซอกทุกมุม เจ้าตัวเล่าว่าส่วนหนึ่งเป็นของตัวเองที่ซื้ออ่านในช่วงเจ็บป่วย อีกส่วนหนึ่งจากการจัดซื้อจัดหา และการบริจาคของผู้ที่เข้าใจและอยากมีส่วนช่วยเหลือทั้งที่เป็นเงินและตัวหนังสือ..หนังสือมีหลากหลายประเภท หนังสือเด็ก นิตยสาร สารคดี วรรณกรรม หนังสือรางวัล ห้องด้านหลังมีของเล่นเด็กที่ช่วยเสริมจินตนาการและความคิด และชั้นที่เต็มไปด้วยหนังสือเด็กท่วมท้น...ด้านบนชั้นสองของตัวบ้าน  "ตาวัน" เปิดให้คนมาแวะเวียนมาพักได้ ค่าใช้จ่ายให้ตามศรัทธา ในห้องมีอุปกรณ์ยังชีพในการพักค้างคืนครบถ้วน..ตามข้อความเชิญชวนน่าทึ่งในย่อหน้าแรกของบทความนั่นเอง..
[attach=8][attach=9]



                         เราตั้งคำถามว่า ห้องสมุดนี้จะสามารถอยู่ได้อย่างไร จะหารายได้จากไหนมาช่วยสนับสนุนกับรายจ่ายในแต่ละเดือน ในเมื่อจำเป็นจะต้องเช่าอยู่แบบนี้และหนังสือจำต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ทันสมัย ..เขาบอกว่า รายได้ส่วนหนึ่งมาจากการขาย "ชาสั่งศร" ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน  ส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกห้องสมุด แน่นอนว่ามันคงไม่สามารถครอบคลุมรายจ่ายได้ทั้งหมด ซึ่งอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือทุนส่วนตัวของเขานั่นเอง และมันก็กำลังลดน้อยร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ..... หากมีผู้เข้ามาใช้บริการไม่มากพอ....
[attach=10]


                      เราเดินดูรอบ ๆ ห้องสมุดอีกครู่ใหญ่ก่อนจะขอตัวลากลับ ระหว่างทางสมองสับสนครุ่นคิดไปไกลถึงอนาคตของห้องสมุดแห่งนี้ ใจหนึ่งก็เอาใจช่วยให้สามารถดูแลตัวเองยืนหยัดได้อย่างมั่นคงแข็งแรง ด้วยหวังว่าจะมีคนที่เข้าใจถึงแนวทางของห้องสมุด ๒ เล อีกใจก็แอบห่วงถึงความรุนแรงของระลอกคลื่นสื่อ Social ที่ ณ ห้วงเวลานี้ข้อมูลหลากหลายถูกนำเสนอผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ดึงความสนใจทั้งหมดทั้งมวลจนกลบกระแสการอ่าน...จนแสงเทียนแห่งความหวังในการพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้วูบหายไปกับ   "คลื่นแห่งสังคม"...
[attach=11][attach=12]


credit ภาพและข้อความบางส่วนจาก FฺB : ตาวัน วิเศษสินธุ์
ที่มา : www.hatyaireview.com