“เทพเทือก” ลงจชต.วางแผนป้องกันเหตุร้าย-แก้ปัญหายาเสพติด

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    27 ธันวาคม 2553 15:10 น.
   
ยะลา - "สุเทพ เทือกสุบรรณ" พร้อมด้วย ผบ.ทบ.และคณะนายทหารระดับสูงลงพื้นจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อหารือเกี่ยวกับ แนวทางการควบคุมเหตุร้ายและปัญหายาเสพติด พร้อมเตรียมรับมือเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ด้วย
       
       วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะนายทหารระดับสูง เดินทางเข้าร่วมประชุมกับหน่วยกำลังในพื้นที่ เกี่ยวกับภาพรวมความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงที่ผ่านมา
       
       โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 สน. พล.ต.ทไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบ.ศชต.) นายภาณ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชาย (ผอ.ศอ.บต.) ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร ในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม
       
       ซึ่งในที่ประชุมจะมีการรายงานสรุปแนวทางการควบคุมวัตถุระเบิด ควบคุมการก่อเหตุร้ายรายวัน และงานด้านการข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ในพื้นที่ การป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมาตรการป้องกันการก่อเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
       
       หลัง จากเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ทำพิธีมอบของขวัญปีใหม่ และให้โอวาทเพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 819 นาย
       
       นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนเองติดตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกลงมาในพื้นที่ เพราะผู้บัญชาการทหารบกมาตรวจราชการ มาติดตามผลการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมทั้งมาให้นโยบาย เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจในการทำงานในรูปแบบใหม่ ในส่วนตนเองนั้นมาเป็นตัวแทนของท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มาขอบคุณพี่น้องข้าราชการทุกส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้เสียสละทุ่มเททำหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับชาติบ้านเมือง และพี่น้องประชาชน
       
       ซึ่งก็เป็นผลดีต่อสถานการณ์บ้านเมือง สถานการณ์ดีขึ้น แต่ว่าก็ต้องพยายามให้ดีขึ้นกว่านี้โดยรวดเร็ว ซึ่งตนเองได้ตั้งปณิธานร่วมกันกับทุกส่วน ว่า ในปี 2554 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นปีมหามงคลของคนไทย ที่จะตั้งใจทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน โดยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การทำงานต่างๆ ได้ยึดแนวทางยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน เป็นหลักในการปฏิบัติงานมาโดยตลอด
       
       เพราะฉะนั้นตนเองจะให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ได้เห็นว่า ทางรัฐบาลสามารถทำได้จริง และมีความสำเร็จจริง ซึ่งจะเป็นผลดีกับพี่น้องประชาชนจริง ส่วนเรื่องพิเศษที่ตนเองได้มีการพูดคุยกับข้าราชการทุกภาคส่วนในวันนี้ คือเรื่องปัญหายาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นจังหวัดเป้าหมายที่จะต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ทุกๆ ฝ่าย ยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่ดูแลและแก้ไขปัญหายาเสพติดกันอย่างเต็มที่ ให้พี่น้องประชาชนได้เบาใจหลุดพ้นจากปัญหายาเสพติดให้ได้
       
       ส่วนมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทางผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับเจ้าหน้าที่แล้วว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติงานดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าต้องเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ประมาท สร้างความปลอดภัยให้กับชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งตัวเจ้าหน้าที่เอง ส่วนการเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลพื้นที่นั้นไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพียงอย่างเดียว ต้องเข้มข้นในทุกพื้นที่ ที่จะมีการเพิ่มความเข้มข้นเหมือนกันทุกพื้นที่
       
       สำหรับ การประเมินสถานการณ์ห้วงปีที่ผ่านมา พบว่า เมื่อเทียบกับปี 2552 ปี 2553 เกิดเหตุลดลงมาก ซึ่งตนเองก็ต้องขอขอบคุณท่านแม่ทัพภาคที่ 4 และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกๆ ฝ่าย ที่ร่วมกันทำงาน จนทำให้เหตุการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก สำหรับการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่นั้นก็เป็นนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้แจ้งให้ยกเลิกทั้งหมด จะต้องมีการพิจารณาเป็นที่ละอำเภอ โดยฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่จะเป็นผู้ดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะว่าในปี 2553 ที่ผ่านมา ถึงแม้จะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ในพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความนิ่มนวลอยู่แล้ว