สั่งปิดท่าเทียบเรือ-โป๊ะไม่พร้อมใช้ 53 แห่ง สคบ.ตรวจร้านขายดอกไม้ไฟ-ลอยกระทง

[ทีมงานบ้านเรา]

ที่มา ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th/

กรุงเทพมหานครสั่งปิดท่าเทียบเรือและโป๊ะริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่พร้อมใช้งาน 53 แห่ง เพื่อความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ลงพื้นที่ย่านป้อมมหากาฬ ตรวจสอบร้านจำหน่าย พลุ ปะทัด และดอกไม้เพลิง พบผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าไม่ติดฉลากตามที่กฎหมายกำหนดเป็นจำนวนมาก

วานนี้ (23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัฒน์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงเรือตรวจความเรียบร้อยและความแข็งแรงของท่าเทียบเรือและโป๊ะริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งติดป้ายจำกัดน้ำหนักในระดับความปลอดภัยไม่เกิน 60 คน และจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งสมาชิก อปพร. พร้อมเสื้อชูชีพและห่วงยาง ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกท่าเทียบเรือ นอกจากนี้ยังได้สั่งปิดท่าเทียบเรือและโป๊ะริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่พร้อมใช้งานจำนวน 53 แห่ง จากทั้งหมด 436 แห่ง

ส่วนการจัดงานเทศกาลลอยกระทง บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด คาดว่าจะเป็นจุดที่ประชาชนเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก กรุงเทพมหานครจะตั้งกองอำนวยการ 6 จุด ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มที่  ทั้งนี้ได้สั่งคุมเข้ม ห้ามจำหน่าย เล่น หรือ ปล่อยโคมลอยแบบมีไฟ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 26 พ.ย. ในเขตพื้นที่กทม. ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตพระราชวัง วัด โบราณสถาน หน่วยงานราชการ และพื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อการบิน หากพบผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบร้านจำหน่ายพลุ ปะทัด และดอกไม้เพลิงแหล่งใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ใกล้ป้อมมหากาฬ ถ.มหาไชย เขตพระนคร พบร้านจำหน่ายดอกไม้ไฟไม่ปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับ ว่าด้วยเรื่องการควบคุมฉลากและคำเตือน โดยเฉพาะฉลากเตือนอันตรายที่เกิดจากการเล่นพลุ ประทัด ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 36 ปี 2556 ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับฉลากให้ชัดเจน เช่น ผู้เล่นดอกไม้เพลิงที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี ต้องอยู่ในการกำกับดูแลของผู้ใหญ่ ไม่ควรเก็บประทัดไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิที่สูง และควรเล่นประทัดในที่โล่งกว้างห่างไกลจากวัตถุไวไฟ   เบื้องต้นส่งเรื่องให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ดำเนินคดี

ส่วนเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ จัดกิจกรรมจุดผางประทีปและโคมไฟประดับเมืองเนื่องในเทศกาลยี่เป็ง หรือลอยกระทง บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และรอบเมืองเชียงใหม่ โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า ต๋ามผางประทีปส่องฟ้า ฮักษาเมืองเจียงใหม่ ครั้งที่ 4 เพื่อร่วมรักษาและสืบสานประเพณีแบบดั้งเดิมของชาวล้านนา ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ต้องการที่จะฟื้นฟูอัตลักษณ์ของวิถีชีวิตของชุมชนเมืองเชียงใหม่ให้กลับมาเหมือนในอดีต ขณะที่จังหวัดเชียงราย บรรยากาศเทศกาลลอยกระทงเริ่มขึ้นแล้ว โดยเฉพาะทางอ.เชียงแสน ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน จัดกิจกรรมตั้งแต่ช่วงค่ำ นำด้วยขบวนแห่กองหลวง หรือกองบูจาของวัดต่างๆ กว่า 10 วัด ขบวนแห่หนูน้อยนพมาศและขบวนแห่กระทงใหญ่จากชุมชนต่างๆ อย่างสวยงาม รวมไปถึงการแสดงฟ้อนรำของชาวล้านนาและการแสดงของชนเผ่าต่างๆ