เร่งลงหินพื้นตีนเขื่อนเเละหินสโลปกันคลื่นเซาะฝั่งหาดเก้าเส้ง

[JaY_SoniC]

วันนี้ (7 พ.ย. 54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะชายหาดบ้านเก้าเส้ง  อ.เมือง จ.สงขลา แบบเรียงหินใหญ่ ความยาว 140 เมตร ได้เร่งทำการก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงนี้ไม่มีฝนตกและไม่มีคลื่นลมในทะเล ทำให้สามารถลงหินขนาดใหญ่พื้นตีนเขื่อน และหินสโลปด้านหน้าบริเวณชายหาดบ้านเก้าเส้ง เพื่อเป็นฐานเขื่อนป้องกันคลื่นซัดชายหาดเรียงไปตามแนวยาวชายหาดไปจนถึงปากคลอง โดยใช้รถแบ็คโฮขนาดใหญ่ 2 คัน ช่วยกันลงหินแนวชายหาด ทำให้งานเดินหน้าไปได้ด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สำหรับเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะชายหาดบ้านเก้าเส้งแบบเรียงหินใหญ่ความยาว 140 เมตร เป็นโครงการเดียวกันกับการก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์  แหลมสมิหลา สงขลา ตอนที่ 3 ของกรมโยธาธิการและผังเมือง  ความยาว  1,000  เมตร  โดยแยกเป็นเขื่อนป้องกันตลิ่ง (แบบเรียงถุงทราย) ที่ชายหาดชลาทัศน์ ความยาว 860 เมตร และ เขื่อนป้องกันตลิ่งแบบเรียงหินใหญ่ที่บ้านเก้าเส้ง ความยาว 140 เมตร ใช้งบประมาณ 54 ล้านบาท

นายกิตติพงศ์  บานโรย วิศวกรโยธาผู้ควบคุมงานก่อสร้าง เปิดเผยว่า จะพยายามเร่งก่อสร้างเพื่อให้ทันมรสุมปลายปีนี้ โดยช่วงนี้ได้เร่งเอาหินและเครื่องจักรเข้ามา เพื่อลงหินตีนเขื่อนให้ได้ ส่วนสโลปด้านหน้าก็ลงพร้อมกันไปด้วย ส่วนสันเขื่อนอาจจะยังไม่เสร็จในช่วงนี้ สำหรับในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรงจะเป็นอุปสรรคในการก่อสร้างแน่นอน ซึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้จะทำงานได้ไม่เต็มที่ และเขื่อนอาจจะเสร็จไม่ทันในช่วงมรสุมปลายปีนี้นี้ แต่การลงหินสโลปด้านหน้าเขื่อนก็จะป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งได้ในระดับหนึ่ง
/////

[ภัทราภรณ์]

ขอให้สร้างเสร็จเร็วๆ นะคะ  เสียดายหาดแถวนั้นมากเลยค่ะ

[ข้าวเหนียวมะม่วง]

ชายหาดบริเวณนี้ก็คงจะไม่มีการงอกของผืนทรายอีกต่อไปแล้ว เป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก ซึ่งการลงหินแบบนี้จะยิ่งทำให้น้ำบริเวณนั้นมีความลึก คลื่นจะยิ่งปะทะแรงขึ้น แต่ถ้าจะไม่ทำเลยก็คงจะทำให้เกิดการกัดเซาะมากยิ่งขึ้น ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง


ผมว่าบริเวณนี้ถ้าพัฒนาให้เป็นที่นั่ง สวนสาธารณะเล็กๆ คงจะสวยมิใช่น้อย เพราะจุดนี้ถือเป็นจุดแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นถึงความงดงามของหาดสมิหลา ถนนชลาทัศน์ อาจจะทำเป็นป้ายยินดีต้อนรับ รึทำแบบคล้ายที่นั่งเหมือนบริเวณคนอ่านหนังสือก็เป็นได้

[ป.โรจน์]

รัฐบาลไทยคิดช้ากว่าเขาประจำเลย
เรื่องหมวกกันน็อคกับเข็มขัดนิรภัย เห็นชาวมาเลย์ใส่ก็หัวเราะเยาะเขามาตั้ง20ปี ตอนนี้ออกกฏบังคับให้คนไทยใส่แล้ว
ขับมอไซค์กลางวันต้องเปิดไฟหน้า นี่ก็ขำคนมาเลย์มาหลายปีก่อนที่จะคิดได้แล้วทำตาม
เรื่องน้ำเซาะทรายชายหาด ปินังเขาตัดใจสร้างกำแพงดักน้ำตั้งนานแล้ว ยังไงก็สู้น้ำไม่ได้ ยอมเสียชายหาดดีกว่าเสียแผ่นดินไปทั้งหมด พอทำเป็นเขื่อนกั้นดูสวยไปอีกแบบ ตอนนี้Gurney Driveกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญไปเลย

[Phung gold]

อิได้ผล หรือว่าแรงหวาเดิมเหรย อิทำไอไหร่ช่วยศึกษาสักหิ๊ด หาดไปเหม็ดแล้ว 

[อยากเห็นหาดใหญ่ดีขึ้น]

ได้ที่ตกปลาเพิ่มขึ้นอีก แนวหินก็คล้ายๆแนวประการัง จะมีปลาเข้ามาหากินและอยู่อาศัยเพิ่ม