หมอประกิตเผยร่างกม.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ล่าช้า เหตุถูกบริษัทบุหรี่ค้านต่อเนื่อง

[ทีมงานบ้านเรา]

ที่มา สำนักข่าวอิศรา
http://www.isranews.org/thaireform-other-news/item/47341-newscig_47341.html

หมอประกิตเผย คนไทยสูบบุหรี่ลดลง ขณะที่ร่างพ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ ยังล่าช้า เหตุบริษัทบุหรี่ค้าน กลัวกระทบรายได้ ยอดขายจะลดลง

[attach=2]

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า วันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก 1.มีขึ้นเพื่อให้ภาคประชาชนตระหนักว่า บุหรี่เป็นอันตราย และให้เลิก สูบ 2.เพื่อสื่อสารไปกับรัฐบาลว่า นโยบายมาควบคุมยาสูบ ซึ่งปีนี้ทั่วโลกรณรงค์เรื่องซองบุหรี่แบบเรียบ ไทยเราก็ทำตาม เพราะมีกำหนดในอนุสัญญาควบคุมยาสูบ ซึ่งมี 180 ประเทศเป็นภาคี และแต่ละประเทศก็ไปออกกฎหมายลูก ซึ่งเรามีอยู่ แต่ก็ยังเดินหน้าไปอย่างล่าช้า

ศ.นพ.ประกิต กล่าวถึงตัวเลขในประเทศไทย มีประชากรวัยสูบบุหรี่ (คือตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป) 55 ล้านคน และคนสูบบุหรี่ 11 ล้านคน ในขณะที่หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2534 ไทยมีประชากรวัยสูบบุหรี่ 38.5 ล้านคน มีคนสูบบุหรี่ 12.3 ล้านคน หมายความว่า การทำงานด้านรณรงค์ที่ผ่านมาค่อนข้างเห็นผล เพราะเรามีประชากรเพิ่มมา 17 ล้านคน แต่จำนวนคนสูบของไทยไม่ได้เพิ่มขึ้น

เมื่อถามถึงร่างพ.ร.บ.ควบคุมควบคุมการบริโภคยาสูบฉบับใหม่ ที่เพิ่มอายุขั้นต่ำสำหรับคนซื้อบุหรี่ไปถึง 20 ปี คนจะขายบุหรี่ได้ ต้องอายุเกิน 18 ปี แต่ยังค้างอยู่ในสภามาตั้งแต่ปีที่เเล้ว  ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า มีฝ่ายที่คัดค้านว่ากฎหมายจะสร้างผลกระทบกับเขา สมาคมการค้ายาสูบไทย ซึ่งสนับสนุนบริษัทบุหรี่อย่าง ฟิลิป เมอร์ริส  สมาคมชาวไร่ยาสูบ ซึ่งสนับสนุนบริษัทบุหรี่อีกที โดยอ้างว่า กฎหมายนี้จะกระทบกับร้านค้าปลีก โชว์ห่วย

"เราพยายามอธิบายว่า กฎหมายฉบับนี้แทบจะไม่กระทบเลย ตัวเลขที่ให้มา 8.5 แสนล้านบาท ไปคำนวนดูได้เลยว่าบุหรี่ขายได้ปีละ 2 พันล้านซอง โดยเฉลี่ยร้านหนึ่งขายบุหรี่ 7-8 ซองต่อวัน เพราะฉะนั้นการที่บอกว่ากฎหมายไปทำความยุ่งยากให้กับเขา อย่างการห้ามตั้งซองบุหรี่ที่จุดขาย เรื่องซองบุหรี่แบบเรียบทำให้สต็อกของลำบาก ข้ออ้างเหล่านี้ไร้เหตุผล แล้วการที่บอกว่าห้ามแบ่งมวนขาย ทำให้ลำบาก ซึ่งจริงๆ เขาห้ามกันเเล้ว ทั่วโลก รอบบ้านเรา ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ห้ามหมดเเล้ว ตรงนี้ต้องถามกันไปว่า พวกคุณไปอยู่ที่ไหนมา"

เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวด้วยว่า สมาคมชาวไร่ยาสูบ มาคัดค้านแทนบริษัทบุหรี่ อย่างที่บอกว่า ชาวไร่มาเกี่ยวอะไรกับซองบุหรี่แบบเรียบ เพราะกฎหมายนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับชาวไร่เลย มาคัดค้านว่ากฎหมายนี้ทำให้ขายได้น้อยลง ขาดรายได้ ตรงนี้ไม่มีหลักฐาน เพราะว่า 20 ปี ที่ผ่านมายอดขายไม่ได้ลดลง

"เรามีประชากรเพิ่มอีก 17 ล้านคน แต่ประชากรคนสูบเท่าเดิม" ศ.นพ.ประกิต กล่าวย้ำ และว่า ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เมื่อกฎหมายฉบับนี้ออกมาแล้วจะทำให้การขายลงฮวบฮาบ จนบอกว่ากระทบชาวไร่  ในส่วนบริษัทบุหรี่เอง ที่บอกว่าซองแบบเรียบขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ตอนนี้ก็เริ่มเงียบเพราะ ศาลอียู ศาลอังกฤษ ศาลฝรั่งเศส ตัดสินแล้วว่าไม่ได้ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ นายทุนก็ยังบอกว่าอย่าเข้มงวดเกินไป เสียภาพลักษณ์ประเทศ กระทบประเทศอื่นจะมาลงทุน ความจริงเหตุที่ยาสูบต้องเข้มเพราะไม่ได้เหมือนสินค้าอื่น ยาสูบเป็นสิ่งเสพติดและทำให้คนเสียชีวิตด้วย และไม่มีสินค้าอื่นที่มีอนุสัญญา ระหว่างประเทศเข้ามาควบคุม เวลากฎที่ออกมาก็ได้สัดส่วนกับสินค้าตัวนี้ เพราะยาสูบทำความเสียหายให้แก่สังคม

" จริงๆ ควรห้ามขายด้วยซ้ำ ถ้าจะให้ได้สัดส่วน เพราะขนาดว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหากพบสารเคมีเพียงตัวเดียวก็ห้ามขาย แต่บุหรี่มีสารเคมีกว่า 70 ตัว เพราะฉะนั้นการที่มีกฎอะไรที่เข้มงวด อย่างน้อยก็ได้สัดส่วนกับอันตรายที่ทำต่อผู้บริโภค" ศ.นพ.ประกิต กล่าว และว่า ความพยายามไปบอกว่าออกกฎหมายควบคุมยาสูบ แล้วจะไปควบคุมสินค้าอื่น เป็นไม่ได้ เพราะสินค้าอื่นไม่มีคุณลักษณะเหมือนบุหรี่ เหตุนี้เองที่ทำให้เรื่องกฎหมายตัวใหม่ล่าช้า เพราะมีการทำหนังสือค้านเข้าไปตลอด