ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ชาวไทยมุสลิมนราธิวาส ปลาบปลื้มที่ในหลวงร.9 ทรงพระราชทานมัสยิดประจำจังหวัด

เริ่มโดย ฅนสองเล, 15:57 น. 24 ต.ค 59

ฅนสองเล

 พสกนิกรชาวไทยมุสลิมนราธิวาส ปลาบปลื้มที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานมัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมใจเรียกมัสยิดแห่งนี้ว่า "มัสยิดรายอกีตอ หรือมัสยิดพระราชา"
   
มัสยิดรายอกีตอ (รายอกีตอ หมายถึง ในหลวงของเรา) หรือมัสยิดพระราชา เป็นชื่อที่ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ใช้เรียกมัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส หรืออีกชื่อหนึ่งว่ามัสยิดมนารุลฮูดา ตั้งอยู่ที่ตรงหัวถนนพิชิตบำรุง เชิงสะพานปรีดาใกล้กับหาดนราทัศน์ อำเภอเมืองนราธิวาส ลักษณะเป็นอาคารตึก 3 ชั้น แบบอาหรับ หลังคาทำเป็นรูปโดมโดมเดียว ยอดเป็นโดมขนาดใหญ่ มีหอสูงสำหรับส่งสัญญาณอาซานเรียกชาวมุสลิมเข้ามาละหมาด

นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เล่าให้ฟังว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีกระแสพระราชดำรัสให้ทางรัฐบาลสร้างมัสยิดประจำจังหวัดในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงมัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2524 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2526 บนเนื้อที่ 10 ไร่ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 18 ล้าน 7 แสนบาท

ในขณะนั้นมีนายอาหามัด อับดุลรอมัน เป็นอิหม่ามประจำมัสยิด และในปี พ.ศ.2527 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอาคารมัสยิดแห่งนี้ ซึ่งพสกนิกรที่ต่างมาเฝ้าฯ รอรับเสด็จในครั้งนั้น ต่างรู้สึกดีใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพสกนิกรชาวไทยมุสลิม

"พระองค์ทรงทราบดีเกี่ยวกับเรื่องศาสนาอิสลาม เมื่อมุสลิมเข้าเฝ้า ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้ปฏิบัติตนตามบัญญัติของศาสนาอิสลาม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับพสกนิกรที่นับถือศาสนาอิสลาม"

นายซาฟีอี กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า พระองค์ท่านยังได้พระราชทานคัมภีร์อัลกุรอ่านที่แปลเป็นภาษาไทย ให้กับทุกมัสยิดทั่วราชอาณาจักรด้วย ส่วนเงินเหลือจ่ายจากการก่อสร้างมัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส ได้นำไปใช้ในการก่อสร้างอาคารที่ทำการคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส

ด้าน นายอบูนูฟัยล์ มาหะ สัปบุรุษ หรือชาวบ้านในละแวกมัสยิด ซึ่งชาวมุสลิมจะเรียกว่า มะมุม กล่าวเสริมว่า เดิมทีจังหวัดนราธิวาสมีมัสยิดกลางตั้งอยู่ที่ถนนพิชิตบำรุง ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส แต่ค่อนข้างจะคับแคบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงมีรับให้สร้างมัสยิดอีกหลังหนึ่ง พระองค์ท่านเข้าใจถึงคำว่ามัสยิดถึงเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวไทยมุสลิม ทรงรับสั่งให้สร้างและเสด็จฯ มาเปิดอาคารมัสยิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2527 ด้วย

"ในฐานะสัปบุรุษในมัสยิดนั้นก็รู้สึกปลื้มปิติในพระมหกรุณาธิคุณ ซึ่งทำให้สามารถเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาใกล้บ้านมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นต้องเดินทางไปไกลมาก พื้นที่ก็คับแคบ เมื่อมีการสร้างมัสยิดหลังใหม่ ก็ทำให้ชาวมุสลิมมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการประกอบศาสนกิจทุกๆ 5 เวลา และจะมารวมตัวใหญ่ในวันศุกร์ ซึ่งมัสยิดหลังนี้สามารถจุสัปบุรุษได้กว่า 3,000 คน มีกิจกรรมมากมายที่มัสยิดได้ทำขึ้นมา ตรงตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9"

สำหรับมัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส นอกจากจะใช้เป็นสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว ยังใช้ทำการเรียนการสอนของศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด หรือตาดีกา ซึ่งลูกหลานของสัปบุรุษในละแวกนั้นก็จะเดินทางมาศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ เป็นการเรียนเสริมวิชาทางศาสนา เน้นวิชาอาหรับและวิชาภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 200 คน โดยเก็บค่าเล่าเรียนเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลสนับสนุน เพียงเดือนละ 300 บาทต่อคน

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทรงอุปถัมภ์ทุกศาสนา มุสลิมสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ทุกพิธีกรรมในแผ่นดินนี้ สามารถที่จะละหมาด ถือศีลอด รวมถึงการไปแสงบุญ ณ มหานครมักกะห์ ชาวไทยมุสลิมนราธิวาสทุกคน มีความรักต่อพระมหากษัตริย์ พร้อมใจมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธาน โดยใช้มัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส มัสยิดของพระราชาแห่งนี้ เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจและเรียนรู้หลักศาสนาอิสลาม เพื่อหล่อหลอมจิตใจให้เป็นคนดี ให้เป็นคนที่สามารถนำประโยชน์มาสู่ประเทศชาติต่อไป


ที่มา : สวท.นราธิวาส

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พิมพ์คำว่า กิมหยง ลงในคำตอบ:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง