ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ท่องเที่ยวมาเลเซียชวนร่วมเทศกาลเอาใจสาวโสด Chap Goh Mei ที่ปีนัง มาเลเซีย

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 13:13 น. 23 ม.ค 60

ทีมงานประชาสัมพันธ์

เทศกาลเอาใจสาวโสด Chap Goh Mei ที่ปีนัง มาเลเซีย

กรุงเทพฯ, 23 มกราคม 2560: ตรุษจีนปีนี้การท่องเที่ยวมาเลเซียขอเชิญชวนสาวๆ ที่ห้องหัวใจยังว่างมาร่วมดื่มด่ำไปกับเทศกาล Chap Goh Mei อันเป็นเทศกาลของชาวจีนฮกเกี้ยนที่ได้ถ่ายทอดกันมาช้านานท่ามกลางมนตร์เสน่ห์ของรัฐปีนังที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเมืองเก่า สถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุเกสที่ผสมผสานกับศิลปะร่วมสมัยไว้อย่างกลมกล่อม

คำว่า Chap Goh Mei นี้มีรากศัพท์มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยนแปลว่าคืนที่ 15 ของตรุษจีน ซึ่งนับเป็นวันสุดท้ายในการเฉลิมฉลองเทศกาลอันยิ่งใหญ่นี้ อีกทั้งยังถือว่าเป็นวันแห่งความรักอีกด้วย ในประเพณีดั้งเดิมนั้นคนในครอบครัวจะมารวมตัวเพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกันพร้อมทั้งสวดมนต์ขอพรจากสิ่งศักดิสิทธิ์ให้มีสุขภาพที่ดี มีความสุขและมีความมั่งคั่ง บางครอบครัวอาจจะลอยโคมหรือจุดพลุกันเป็นที่สนุกสนานและเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเทศกาล

ในประเทศมาเลเซียสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดงานที่สุดคือเมืองจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง ทั่วทั้งเมืองคุณจะเห็นการประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง เข้ากันดีกับเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเก๋า ในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้เริ่มกำเนิดประเพณีที่ดึงดูดสาวโสดให้ได้มีโอกาสอธิษฐานขอรักแท้ เพราะสภาพสังคมในสมัยก่อนไม่อนุญาตให้ผู้หญิงออกมาเดินเล่นได้อย่างอิสระ คืน Chap Goh Mei จึงเป็นคืนที่สาวๆ จะแต่งตัวสวยออกมาเดินเล่นพร้อมกับเหล่าแม่สื่อ และหนุ่มๆ ก็จะได้มีโอกาสชายตามองสาวงาม อีกทั้งเนื่องด้วยรัฐปีนังเป็นรัฐที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกส้ม หญิงสาวโสดจึงจะเขียนชื่อและที่อยู่บนผลส้มพร้อมกับอธิษฐานให้ได้เจอกับเนื้อคู่ก่อนจะโยนผลส้มลงทะเลหรือแม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนเหล่าชายหนุ่มก็จะไปเก็บผลส้มเพื่อตามหาหัวใจต่อไป ถึงแม้ว่าในปัจจุบันผู้หญิงมีสิทธิที่จะเดินเล่นทั่วเมืองทุกเวลา แต่คืนเทศกาล Chap Goh Mei ก็ยังเป็นคืนที่สาวๆ พร้อมใจกันออกมาเดินเล่นชมความสวยงามของเมืองพร้อมทั้งอิ่มเอมไปกับบรรยากาศหวานๆ อีกด้วย

ใครที่มีโอกาสได้ไปสัมผัสเทศกาลสุดหวานนี้อย่าลืมปิดท้ายด้วยการเที่ยวชมเมืองมรดกโลกอย่างจอร์จทาวน์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง Open Air Gallery ที่น่าจะถูกใจเหล่าอาร์ตติสทั้งหลาย ทั้งเมืองเต็มไปด้วยอาคารที่ถูกสร้างขึ้นในสไตล์ชิโนโปรตุเกสหลากสีสันให้โทนความเรโทร และด้วยการผสมกลมกลืนของผู้คนหลากเชื้อชาติวัฒนกธรรมและภาษาทำให้เห็นวัดไทย มัสยิด วัดแขกตั้งกระจัดกระจาย หากใครเดินสังเกตดีๆ จะเห็นภาพวาดบนฝาผนังตามตึกรามบ้านช่องทั่วทั้งเมือง ซึ่งเป็นผลงานของ Ernest Zacharevic ศิลปินชาวลิทัวเนีย แต่ละภาพจะแฝงไปด้วยเรื่องราวเก่าแก่ของเมืองหรือสะท้อนให้เห็นถึงสังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งภายหลังวาดเหล่านี้กลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญของจอร์จทาวน์ ทั้งยังเหมาะกับการเก็บเป็นภาพฉากหลังสวยๆ ลงอินสตาแกรมหรือเฟซบุ๊คอีกด้วย

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวที่สอง:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง