ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เคล็ดลับได้งาน แม้สาขาที่เรียนจะไม่ตรง

เริ่มโดย Marketing, 11:32 น. 24 ม.ค 60

Marketing

เมื่อปริญญาที่จบมาไม่ตรงกับสายงานที่คุณต้องการ อาจถึงเวลาต้องเรียนรู้สิ่งใหม่แล้ว
โดยปกตินักศึกษาชั้นปีที่สองจะเริ่มเลือกวิชาเอกเพื่อให้เรียนจบตามเวลาปกติในแต่ละปีการศึกษา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณต้องการทำงานที่ไม่ตรงกับวิชาเอกที่เรียนมา คุณไม่จำเป็นต้องกังวลต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดนัล แอชเชอร์ นักเขียนหนังสือ How to Get Any Job with Any Major  ได้กล่าวไว้ว่า "เป็นธรรมชาติของนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนเป้าหมายทางอาชีพของพวกเขา นอกจากนี้นายจ้างไม่ได้ตัดสินคุณจากวิชาเอกที่จบมาอย่างที่คิด เมื่อคุณก้าวออกจากมหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่สรรหาว่าจ้างให้ความสนใจวิชาเอกของคุณน้อยมาก พวกเขาสนใจเรื่องที่คุณจบปริญญาแล้วมากกว่า" และนี่ก็คือ 5 ขั้นตอนที่จะช่วยให้เริ่มต้นอย่างถูกวิธี

เลือกอาชีพอะไรก็ได้ ไม่เกี่ยงงาน
เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เราไม่อยากทำ ก่อนเริ่มหางาน จึงควรลองสำรวจว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการจะทำ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือลิสต์ออกมาให้ได้ว่าแต่ละงานต้องการคนที่มีลักษณะแบบไหน ทักษะที่จำเป็นคืออะไร ซึ่งข้อคิดนี้กล่าวโดย แอนน์ บราวน์ นักเขียนร่วมของหนังสือ Grad to Great: Discover the Secrets to Success in Your First Career  อ้างอิงจากสถิติแรงงานในคู่มือการหางานที่ได้รับการตีพิมพ์รายละเอียดอาชีพต่างๆ พร้อมข้อมูลเงินเดือนกว่า 300 อาชีพ
คิดเสมอว่าตัวเองมีคุณสมบัติ
เมื่องานที่มองหาเป็นงานเฉพาะทาง(เช่น อาชีพพยาบาล) บางทีคุณอาจต้องไปทำการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มเติมจากวิทยาลัยก่อนจะสมัครงานงานนั้น แต่บางอาชีพก็ไม่จำเป็น ดังที่สตีเฟ่น เวทท์ รองผู้อำนวยการอาวุโสประจำสำนักงานกลยุทธ์ทางอาชีพ มหาวิทยาลัยเยลล์กล่าวไว้ว่า " 9 ใน 10 ของอาชีพต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเรียนเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกงานมาก่อน)
ถ้าหากต้องการทำงานที่มีความเฉพาะทาง สิ่งแรกที่จำเป็นคือประสบการณ์การฝึกงาน ปัจจุบันมีบริษัทหลายบริษัทที่ใช้ระบบรับเด็กฝึกงานบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการได้บรรจุเป็นพนักงานในระยะยาว หรือถ้าไม่ต้องการฝึกงานระยะยาว การเลือกฝึกระยะสั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไป ก็จะทำให้คุณได้เรียนรู้ลักษณะงานและสร้างเครือข่ายกับผู้คนได้เช่นเดียวกัน

สร้างเครือข่ายของตัวเอง
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนจบมาตรงกับสายงานที่ต้องการ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเริ่มสร้างเครือข่ายจากศูนย์ ลองเข้าไปดูข้อมูลศิษย์เก่าของโรงเรียนเพื่อดูว่ามีรุ่นพี่คนไหนอยู่ในสายงานที่คุณต้องการบ้าง โดยแอชเชอร์ได้แนะนำเรื่องนี้ไว้ว่า "ไม่จำเป็นต้องมองหารองประธานที่มีอายุงานเป็น 10 ปี แต่การมองหารุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนั้นสัก 5 ปีก็เพียงพอแล้ว"
ถ้างานที่กำลังมองหาอยู่ในเมืองเดียวกับพวกเขา การพบปะพูดคุยต่อหน้าจะดูเป็นมืออาชีพมากกว่าการโทรศัพท์หรือสไกป์ การเข้าหาผู้ที่เป็นมืออาชีพเพื่อสร้างเครือข่ายของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรละเลยในการมองหางาน อย่าลืมให้ความสำคัญกับจุดนี้

ยกระดับความสามารถของทักษะที่จำเป็น
เมื่อปริญญาที่เราจบมาเป็นคนละสายกับสิ่งที่เราเลือกจะทำ คุณอาจลองมองหาคอร์สเรียนประเภทศิลปศาสตร์ทั่วไป คลาสเหล่านี้จะช่วยเสริมทักษะหลายประเภท เช่น การเขียน การแก้ปัญหา การสื่อสารและการบริหารจัดการ
เคลลี่ เคนเนดี้ ผู้แนะแนวด้านอาชีพประจำมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียกล่าวว่า ถ้าคุณลองได้รับบทบาทผู้นำในโปรเจคสักโปรเจค คุณอาจจะได้ทักษะการบริหารจัดการโปรเจคติดตัวมาด้วย ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน  ส่วนแอนน์ บราวน์แนะนำว่า ให้เขียนทักษะที่ตรงตามตำแหน่งลงในจดหมาย สมัครงาน

ขัดเกลาความรู้เกี่ยวกับงานนั้นๆ
เพื่อแสดงให้นายจ้างเห็นว่าเรามีค่าพอที่จะได้งานนั้น คุณต้องพิสูจน์ว่าตัวเองมีความรู้เกี่ยวกับงานที่จะทำมากพอ เคนเนดี้กล่าวว่า สำหรับคนที่ไม่ได้จบมาตรงสายงานหรือไม่มีประสบการณ์ฝึกงาน การติดตามจดหมายข่าวของบริษัท อ่านข้อมูลบริษัทจากสื่อต่างๆ รวมถึงติดตามข้อมูลบริษัททางโซเชียลมีเดีย นับเป็นไอเดียที่ดีสำหรับคนที่กำลังหางานในการทำความรู้จักกับงานรวมถึงบริษัทที่ตนต้องการไปทำงานด้วย

การเลือกไปทำงานคนละสายกับที่เรียนมาไม่ใช่เรื่องผิดแปลก และเกิดขึ้นได้ในชีวิตของทุกๆ คน แต่คุณต้องมีความพยายาม ฝึกฝนและหาความรู้ใหม่ๆ ให้ตัวเองเสมอ เชื่อว่าการเริ่มที่ตามเคล็ดลับที่เรานำมาฝากจะเป็นแนวทางให้คุณได้เป็นอย่างดี