ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

Afternoon tea…มาจิบน้ำชายามบ่ายกัน

เริ่มโดย minkspeed, 15:33 น. 24 ม.ค 61

minkspeed


วันนี้สเปเชี่ยล ฟู้ด ขอพาเพื่อนๆ แปลงร่างมาเป็นผู้ดีอังกฤษ จิบน้ำชายามบ่ายกันสักวันค่ะ เคยได้ยินมานานแล้วนะคะ
เกี่ยวกับเรื่องของการจิบชาแบบคนอังกฤษ ถึงขนาดในห้างใหญ่ๆ ก็มีร้านน้ำชาฝรั่ง ให้พวกเราได้เข้าไปลิ้มลองรสชาติของชา และ ขนมอร่อยๆยามบ่าย ดังนั้น สเปเชี่ยล ฟู้ด จึงนำข้อมูลดีๆมาบอกเล่าให้เพื่อนๆได้รู้จักกับวัฒนธรรมดื่มชากันค่ะ


อย่างที่ทราบกันดีนะคะว่า ชาวอังกฤษนั้น ชื่นชอบการดื่มชากันมาก วัฒนธรรมนี้เริ่มต้นเมื่อสมัยปลายศตวรรษที่ 18 ชาวอังกฤษนิยมรับประทานอาหารเพียงแค่ 2 มื้อหลัก คือ มื้อเช้า และ มื้อเย็น พอช่วงบ่ายระหว่างวันก็เกิดความหิวขึ้นมา จนในที่สุด เลดี้ แอนนา มาเรีย (Anna Maria, the Duchess of Bedford)
ดัชเชสของเบดฟอร์ด ก็เลยสั่งให้นางสนมรับใช้ จัดน้ำชา และ ของว่างเบาๆ อย่างสโคนกับ ครีม คุกกี้ชิ้นเล็กๆ และ แซนวิชพอดีคำ มารับประทานแก้หิว และยังได้เชิญเหล่าขุนนางมาร่วมจิบน้ำชาด้วย
รวมถึงมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน นับตั้งแต่นั้นการจิบน้ำชายามบ่ายพร้อมของว่างชิ้นเล็กๆ ก็กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวอังกฤษมาจนถึงปัจจุบัน

ประเทศอังกฤษแบ่งการดื่มน้ำชาออกเป็นช่วงเวลาดังนี้

1. เวลาประมาณ 11.00 น. จะเรียกการดื่มชาในช่วงนี้ว่า Elevenes Tea เสิร์ฟหลังอาหารมื้อเช้า
2. เวลาประมาณ 15.00 – 17.00 น. เรียกว่า Afternoon Tea หรือ Low Tea เพราะจัดวางบนโต๊ะทรงเตี้ย
3. เวลาประมาณ 19.00-20.00 น. เรียกว่า High Tea เพราะจัดวางบนโต๊ะอาหารทรงสูง เสิร์ฟหลังอาหารเย็น

หลักการ และ มารยาท บนโต๊ะน้ำชา

1. ผ้าเช็ดปาก (Napkins) สังเกตว่าถ้าเจ้าของบ้าน หรือ เจ้าภาพในงาน คลี่ผ้าเช็ดปาก แล้วนำไปวางบนตัก ก็คือสัญญาณให้รู้ว่าแขกจะต้องทำตามโดยการพับผ้าครึ่งหนึ่งให้เป็นทรงสามเหลี่ยม และ หัน ด้านสันเข้าตัวของเราเสมอ ห้ามวางผ้าบนโต๊ะอาหารระหว่างมื้อน้ำชา จะวางต่อเมื่องานเลี้ยงน้ำชาเลิก โดยให้เจ้าภาพเป็นผู้วางก่อนเสมอ เป้นสัญญาณว่างานน้ำชานั้นสิ้นสุดลง

2. การคนน้ำชา (Proper Stirring) ถ้าเราเติมน้ำตาล หรือ นม ลงในชาของเรา ควรคนให้งียบที่สุด มึควรเอาช้อนไปกระทบข้างแก้ว ให้เกิดเสียง เมื่อคนเสร็จเรียบร้อยควรวางช้อนด้านหลังแก้ว บนที่รองแก้วของตัวเองเท่านั้น ห้ามวางกลับไปบนโต๊ะ

3. การใส่นม (Milk in Last) การใส่นมนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของบุคคล แต่มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรใส่นมทีหลังน้ำชา เพราะจะได้รู้ว่าเราต้องการความเข้มของชาแค่ไหนถ้าเราใส่นมก่อน เราไม่จะสามารถควบคุมความเข้มของชานั้นได้

4. ผู้เชี่ยวชาญแนะนำมารยาทบนโต๊ะน้ำชาว่า (Ask the Expert)

- เราควรเลือกทานเฉพาะขนมชิ้นเล็กๆเท่านั้น
- ไม่ควรยื่นมือข้ามหน้าแขกคนอื่น เมื่อต้องการหยิบขนม
- ควรสำรวมกิริยาเสมอ
- ควรฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูด
- กล่าวขอบคุณ เมื่อผู้อื่นมีน้ำใจให้เสมอ

5. การเสิร์ฟน้ำชา (Serving) เมื่อเราถูกเลือกให้เป็นผู้เสิร์ฟชาให้กับแขกในงาน ควรเสิร์ฟทางขวาของแขก เทชาปริมาณ 3ใน 4 ของแก้ว หรือ เกือบเต็มแก้ว เสมอ ถ้ากาน้ำชา ไม่ได้มีที่กรองอยู่ในนั้น สามารถวาง strainer ไว้บนปากแก้ว ของแขกก่อนรินได้

6. เลม่อน (Lemon) การใส่เลม่อนในน้ำชาจะสามารถเพิ่มกลิ่นหอมชาได้ เมื่อเสิร์ฟเลม่อนควรฝานเป็นแผ่นบางๆ เต็มวง เสิร์ฟพร้อมส้อมเล็กเพื่อให้แขกใช้ตักเลม่อนใส่ในชาถ้าต้องการ ส่วนมากจะใส่เลม่อนหลังจากใส่น้ำตาล แต่ไม่ควรนมกับเลม่อนพร้อมกัน เพราะจะทำให้เกิดไขในน้ำชา

ที่มา : http://specialfood.co.th

กุลนิษฐ์  สุวรรณวงศ์  (มิ้ง)
Kullanit  Suwannawong (Ming)
Marketing Executive
kullanit@qmlcorp.com
097-1788683
*********************
http://www.qmlcorp.com