ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ศิล 5 ถือได้บ้างไหม ถือได้กันกี่ข้อ

เริ่มโดย กิมหยง, 16:12 น. 27 ธ.ค 54

กิมหยง

ก่อนบวชเนี๊ย ต้องถือศิล 5 ศิล 8

เพิ่งรู้ว่าแค่ศิล 5 เนี๊ย ถ้าทุกคนถือได้

โลกคงวุ่นวายน้อยกว่านี้มาก ๆ เลย
สร้าง & ฟื้นฟู

tayphone

ผมก่่อนบวชถือศีล10 ครับ ก็เหมือน ๆ กับศีล 8 นั้นแหล่ะครับ

โกนหัวอยู่วัดก่อนบวช 7 วันและใส่ชุดขาวตลอด

ผมบวชสายธรรมยุต ฉัน 1 มื้อ อยู่วัดไม่มีไฟฟ้า ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี ไม่มีพัดลม

ใช้เทียนและตะเกียง ไฟฉายทั้งที่กุฏิ โบสถ์ ศาลา

กิมหยง

ครับ มาว่าถึงเรื่องศิลกันต่อ

ข้อ 1 ปาณาติปาตา ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
จริง ๆ แล้วน่าจะรวมถึงไม่ประทุษร้ายทั้งร่างกายและจิตใจต่อชีวิตอื่นด้วยหนา
สร้าง & ฟื้นฟู

tayphone

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 17:43 น.  27 ธ.ค 54
ครับ มาว่าถึงเรื่องศิลกันต่อ

ข้อ 1 ปาณาติปาตา ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
จริง ๆ แล้วน่าจะรวมถึงไม่ประทุษร้ายทั้งร่างกายและจิตใจต่อชีวิตอื่นด้วยหนา


แม้แต่ มด ยุง แมลงสาบ หนู ก็ห้ามฆ่าครับ ถ้าฆ่าก็ผิดศีลข้อนี้ครับ

dopasniper

ศีล ๕ ข้อ ต้องไม่ยินดีกับผู้ละเมิดศีล ๕ และไม่ยุยงส่งเสริมให้ละเมิดศีล
ที่แน่ ๆ ต้องไม่ละเมิดศีลด้วยตัวเองนะครับ(ความเห็นของผมเอง) ส.สั่งสอน

คุณหลวง

สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

นกฮูกตาโต

ผมเคยถือศีล ข้อ 3 ได้ 2 วันครับ ว่าแต่ท่านกิม ถือศีลข้อนี้ได้นานสุดกี่ชั่วโมงครับ 

ส.หัว ส.หัว


บ่าวมัน

ผมถือได้ทุกข้อครับทุกวัน ยกเเว้นข้อเดียวที่ทุกวันนี้ยังทำไม่ได้คือ ข้อ4ห้ามมุสา นี้แหละ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ

tayphone

ศีล 5 แบบที่ถูกต้อง เรียงตามนี้ครับ เอาแบบง่าย ๆ น่ะครับ

1. ไม่ฆ่าสัตว์
2. ไม่ลักทรัพย์
3. ไม่ผิดลูกเมียคนอื่น
4. ไม่พูดโกหก
5. ไม่ดื่มสุรา ยาเสพติด

กิมหยง

แล้วถ้าอย่างนั้น มหานิกาย กับ ธรรมยุติ

มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

คุณหลวง

ต่างกันที่ความยึดครับท่าน

จะศึกษาธรรมเอาอะไร นิกายรึ ลาภรึ ยศรึ ตำแหน่งหรือ โก้หรือ......

เมื่อเห็นว่าที่นั้นๆมีครูบาอาจารย์ดี มีแนวปฏิบัติตรงจริตเราก็เข้าไปรับการศึกษาเถิดครับ อย่าถือตัวว่าเป็นอะไรๆ หากจะค้นหาความต่างของมหานิกายกับธรรมยุติก็ลองค้นหาจากจิตใจตัวเอง ว่าเมื่อเกิดความเป็นธรรมยุติในจิตใจ เป็นมหานิกายในจิตใจแล้ว พ้นทุกข์หรือไม่

สิ่งสมมติก็มีประโยชน์อย่างสมมติ ไม่รู้จักสมมติก็หลงสมมติจึงสู่วิมุติไม่ได้ วิมุติเกิดขึ้นได้เพราะรู้จักสมมติอย่างแจ่มแจ้ง วิมุติเป็นประโยชน์สูงสุด ก็มีสมมติอยู่ในนั้น ยึดวิมุติก็เท่ากับหลงสมมติ มันเลยมุดๆกันต่อไปในวัฏฏะ

ท่านหลวงพ่อชา สุภัทโท เทศนาเรื่องสมมติ วิมุติตอนหนึ่งว่า

    "...ท่านจึงให้เป็นผู้ฉลาดสมมุติก็ให้รู้จักวิมุตติก็ให้รู้จักให้รู้จักใน คราวที่เราจะใช้ถ้าเราใช้ให้ถูกต้องมันก็ไม่เป็นอะไรถ้าใช้ไม่ถูกต้องมันก็ ผิดมันผิดอะไรมันผิดกิเลสของคนนี่แหละมันไม่ผิดอันอื่นหรอกเพราะคนเหล่านี้ อยู่กับกิเลสมันก็เป็นกิเลสอยู่แล้วนี่เรื่องปฏิบัติของสมมุติปฏิบัติเฉพาะ ในที่ประชุมในบุคคลในกาลในเวลาก็ใช้สมมุติบัญญัติอันนี้ได้ตามความเหมาะสมก็ เรียกว่าคนฉลาดให้เรารู้จักต้นรู้จักปลายทั้งที่เราอยู่ในสมมุตินี้แหละมัน ทุกข์เพราะความไปยึดมั่นหมายมั่นมันแต่ถ้ารู้จักสมมุติให้มันเป็นมันก็เป็น ขึ้นมาเป็นขึ้นมาได้โดยฐานที่เราสมมุติแต่มันค้นไปจริงๆแล้วไปจนถึงวิมุตติ มันก็ไม่มีอะไรเลย

    อาตมาเคยเล่าให้ฟังว่าพวกเราทั้งหลายที่มาบวชเป็นพระนี้แต่ก่อนเป็น ฆราวาสก็สมมุติเป็นฆราวาสมาสวดสมมุติให้เป็นพระก็เลยเป็นพระแต่เป็นพระเณร เพียงสมมุติพระแท้ๆยังไม่เป็นเป็นเพียงสุมมติยังไม่เป็นวิมุตตินี่ถ้าหากว่า เรามาปฏิบัติให้จิตหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเหล่านี้เป็นขั้นๆไปตั้งแต่ขั้น โสดาสกิทาคามีอนาคามีไปจนถึงพระอรหันต์นั้นเป็นเรื่องละกิเลสแล้ว

    แต่แม้เป็น พระอรหันต์แล้วก็ยังเป็นเรื่องสมมุติอยู่นั่นเองคือสมมุติอยู่ว่าเป็นพระอรหันต์อันนั้นเป็นพระแท้ครั้งแรกก็สมมุติอย่างนี้คือสมมุติว่าเป็นพระแล้ว ก็จะละกิเลสเลยได้ไหม?ก็ไม่ได้เหมือนกันกับเกลือนี่แหละสมมุติว่าเรากำดิน ทรายมาสักกำหนึ่งเอามาสมมุติว่าเป็นเกลือมันเป็นเกลือไหมล่ะ?ก็เป็นอยู่แต่ เป็นเกลือโดยสมมุติไม่ใช่เกลือแท้ๆจะเอาไปใส่แกงมันก็ไม่มีประโยชน์ถ้าจะว่า เป็นเกลือแท้มันก็เปล่าทั้งนั้นแหละนี่เรียกว่าสมมุติ

ทำไมจึงสมมุติ?เพราะว่าเกลือไม่มีอยู่ที่นั่นมันมีแต่ดินทรายถ้าเอา ดินทรายมาสมมุติว่าเป็นเกลือมันก็เป็นเกลือให้อยู่เป็นเกลือโดยฐานที่สมมุติ ไม่เป็นเกลือจริงคือมันก็ไม่เค็มใช้สำเร็จประโยชน์ไม่ได้มันสำเร็จประโยชน์ ได้เป็นบางอย่างคือในขั้นสมมุติไม่ใช่ในขั้นวิมุตติ

ชื่อว่าวิมุตตินั้นก็สมมุตินี้แหละเรียกขึ้นมาแต่ว่าสิ่งทั้งหลาย เหล่านั้นมันหลุดพ้นจากสมมุติแล้วหลุดไปแล้วมันเป็นวิมุตติแล้วแต่ก็ยังเอา มาสมมุติให้เป็นวิมุตติอยู่อย่างนี้แหละมันก็เป็นเรื่องเท่านี้จะขาดสมมุติ นี้ได้ไหม?ก็ไม่ได้ถ้าขาดสมมุตินี้แล้วก็จะไม่รู้จักการพูดจาไม่รู้จักต้น ไม่รู้จักปลายเลยไม่มีภาษาจะพูดกัน... "


สะบายดี...ในช่วงอากาศร้อนฉ่าท่าทางฝนจะตก
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

เอเลี่ยน

..




...รู้แต่ทำไม่ด้าย...



การโกงงบประมาณบ้านเมือง การลัก การปล้น การทำร้าย หรือฆ่าคน



คิดหรือว่า คนทำไม่รู้ว่าผิด แต่ก็ยังทำ เพราะอะไร และจะแก้อย่างรัย.... ส.โอ้โห ส.โกรธอย่างแรง

ก.ไก่ทอด

ใจเย็นฯเวรกรรมมีจริง................จากก.ไก่ทอด
พรุ่งนี้ก็ทอด วันนี้ก็ทอด มะลือก็ทอด อนาคตก็ยังทอด  ร้าน ก.ไก่ทอด      

นายไข่นุ้ย

 ส-เขินใช่ครับ ไม่รอดหรอก กรรมจ้องอยู่
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

คุณหลวง

อ้างจาก: เอเลี่ยน เมื่อ 15:40 น.  05 มี.ค 55
..




...รู้แต่ทำไม่ด้าย...



การโกงงบประมาณบ้านเมือง การลัก การปล้น การทำร้าย หรือฆ่าคน



คิดหรือว่า คนทำไม่รู้ว่าผิด แต่ก็ยังทำ เพราะอะไร และจะแก้อย่างรัย.... ส.โอ้โห ส.โกรธอย่างแรง

    หลังจากที่พระเงื่อม อินทปัญโญ กับนายยี่เก้ย พานิช สามารถอธิบายให้แม่เข้า่ใจได้แล้วว่าการแจกธรรมะดีกว่าการสร้างโบสถ์อย่างไร เพราะหวังทุนก้อนแรกในการตั้งมูลนิธิธรรมทาน ท่านทั้งสองก็ต้องตอบคำถามของแม่อีกหลายคำ มีคำหนึ่งแม่ถามว่า

    "คิดว่าสิ่งที่ลูกทำจะเป็นการพลิกแผ่นดินได้หรือ" พระเงื่อม ซึ่งต่อมาคือท่านพุทธทาส มหาคุรุแห่งโลกองค์หนึ่งได้ตอบแม่ไปว่า

    "ไม่คิดว่าจะเป็นการพลิกแผ่นดินหรอก แต่จะทำไปตามกำลัง ถึงวันหนึ่งหากมีคนที่มีอำนาจมากมีกำลังมากมาสนใจ มาร่วมกันทำก็อาจจะเป็นการพลิกแผ่นดินได้"


    ขอบคุณคุณเอเลี่ยนครับ

    คำถามแบบนี้เจอค่อนข้างบ่อย ซึ่งไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใด แต่เป็นอุปสรรคในการเข้าสู่ธรรมอย่างหนึ่ง ปัญหาจากคำถามของคุณหากผมจะย้อนถามกลับ ผมก็จะถามว่า

    "ที่คุณว่ารู้แต่ทำไม่ได้นั้น คุณหรือคนอื่นที่ทำไม่ได้"

    การปฏิบัติธรรมนั้น มันเป็นเรื่องปัจเจกและเป็นสาธารณะไปด้วยกัน แม้แต่คนที่หลบเข้าป่าปฏิบัติธรรมผู้เดียวก็ยังเป็นการปฏิบัติเพื่อสาธารณะส่วนหนึ่ง แต่ไม่อาจเข้าใจด้วยการมองเพียงผิวเผินขั้นตอนเดียว หรือการมองด้วยวัตถุ แต่เป็นเรื่องจิตใจที่มองได้ยากเข้าใจได้ยาก

    แต่การปฏิบัติธรรมนั้นจะต้องเพ่งตนเป็นหลักครับ คนอื่นชั่วเลวอย่างไรก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องไปสนใจ ใจเราต้องไม่เศร้าหมองไปเพราะความชั่วเลวเหล่านั้น ต้องทำใจเราให้เข้าใจให้ได้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นของคู่โลก เป็นเรื่องของโลก เป็นทุกข์ของโลก และคนส่วนใหญ่ก็นิยมทุกข์แห่งโลก สร้างสมุทัย ไม่สนใจมรรคนิโรธ

    เมื่อพูดประเด็นนี้ ก็อาจมีการแย้งว่า เพราะไม่สนใจอย่างนี้ไงเล่า โลกมันถึงได้วุ่นวายนัก ก็ตอบว่า เพราะแต่ละคนไม่สนใจจะรักษาใจของตนนั้นแหละโลกจึงวุ่นวายนัก เมื่อคนอื่นไม่รักษาใจแล้วเราก็โกรธเกลียดหรือทำตามๆไปก็เท่ากับเราสร้างโลกที่วุ่นวายมากขึ้น เป็นปัจจัยแห่งความทุกข์ของโลกอีกคนหนึ่ง

    ทำใจตนให้ได้ครับ อย่าเอาการกระทำของคนอื่นมาทำให้เราเศร้าหมองอันเป็นการปิดกั้นปัญญาตน แล้วร่วมกันเผยแพร่ความสุขนี้ออกไปในวงกว้าง เผยแพร่ธรรมออกไป เผยแพร่ความถูกต้องออกไปให้คนอื่น คนใกล้ชิด สั่งสอนลูกหลานของเราให้ทรนงในธรรม ไม่ยอมใจฝักใฝ่ชั่ว ไม่ยอมเปิดโอกาสให้คนชั่วครองเมือง

    การร่วมสร้างสังคมดีเริ่มจากเรา เริ่มจากตัวเองครับผม ขอจบด้วยพระบรมราโชวาทครับ

   
        "ใน บ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"

   พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๑๒

   
สะบายดี...
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

กิมหยง

งั้นถามกันต่อไปครับ

แล้วคณะธรรมยุติกับคณะมหานิกายนั้น

ชาวบ้านเป็นคนแยก หรือพระท่านเป็นคนแยกกันเองครับ

ท่านแยกด้วยเหตุผลกระการใดหรือครับ

ทำไมไม่เป็นพระให้เหมือน ๆ กันทั้งหมด

ต่างกันเพียงชื่อวัดก็น่าจะเพียงพอ
สร้าง & ฟื้นฟู

หมดน้ำยา

.



...เมืองพุทธ แต่ปล้น จี้ ข่มขืน. ขายตัว เหล้า บุหี่ เต็มเมือง.. ส.โกรธอย่างแรง ส.โอ้โห




PoPoz

ถือได้ซักสามข้อ ก้อบุญจังแร้ว นิ  ข้อ 5 ผิดตั้งแต่ออกจากบ้าน  พอเมาๆถึงผิดข้อ 3 หร่าวว  หัวรุ่งหลบมาบ้านพอเมียถาม ผิดเอาข้อ 4 หร่าว  ฮ่ะโหร่ยยย..

คุณหลวง

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 11:16 น.  06 มี.ค 55
งั้นถามกันต่อไปครับ

แล้วคณะธรรมยุติกับคณะมหานิกายนั้น

ชาวบ้านเป็นคนแยก หรือพระท่านเป็นคนแยกกันเองครับ

ท่านแยกด้วยเหตุผลกระการใดหรือครับ

ทำไมไม่เป็นพระให้เหมือน ๆ กันทั้งหมด

ต่างกันเพียงชื่อวัดก็น่าจะเพียงพอ

ก็คนที่ยึดนั่นแหละครับที่เป็นคนแยก คนที่เป็นชาวบ้านยึดก็ชาวบ้านแยก คนที่บวชเป็นพระยึดก็พระเป็นคนแยก ก็ไม่ต่างมากกับที่เกิดเสื้อเหลือง แดง หลากสี ขึ้นมาเท่าไหร่

พอตั้งขึ้นมา คนที่ยึดติดมากก็ว่ากูดีกว่ามึง มึงเลวกว่ากู อีกฝ่ายก็ไม่ยอม คนที่เข้าใจเขาก็รู้ว่ามันเป็นเพียงสิ่งภายนอก ยึดถืออะไรไม่ได้ เป็นสังขาร เป็นสมมติอีกอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง บรมธรรมเข้าได้เพราะผู้นั้นมีอริยมรรคมีองค์แปด มิใช่นิกายหรือสิ่งห่อหุ้ม ยิ่งยึดติดมากก็ยิ่งขวางกั้นทางนิพพานมาก

ที่ร.สี่ท่านแยกมานั้นอาจเพื่อประโยชน์พระศาสนา และอาจมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วยก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ที่เข้าใจธรรมย่อมมีความต่างเพียงภายนอกเท่านั้น ภายในมิแตกแยก

อย่างหลวงปู่มั่นก็มีศิษย์มหานิกายหลายรูป และหลายรูปที่ท่านไม่ให้ญัตติธรรมยุติ ก็เพื่อประโยชน์ทางธรรม แก่คนวงกว้าง แก่คนที่ติดสมมติ อย่างท่านพุทธทาสก็มีศิษย์เป็นธรรมยุติหลายรูป แต่เปลือกนอกเท่านั้น

หากท่านเหล่านั้นบ้านิกาย ประโยชน์ที่พึงมีต่อคนหมู่มาก ต่อโลกคงจะเสียไปอย่างน่าเสียดายที่สุด แต่คนที่หลงก็แยกเพื่ออวดตัว ทั้งๆที่บางทีโสมมภายในและปกปิดด้วยกิริยาภายนอกเท่านั้น ซึ่งมันก็คงไม่งามเอามากๆทีเดียว ยิ่งไม่แหนงใจตนก็ยิ่งทราม


อ้างถึงข้อความโดย: หมดน้ำยา « เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:57 »

...เมืองพุทธ แต่ปล้น จี้ ข่มขืน. ขายตัว เหล้า บุหี่ เต็มเมือง.. ส.โกรธอย่างแรง ส.โอ้โห


ส่วนที่ท่านว่านี้ ผมไม่ตอบ แต่ขอยกประวัติตอนหนึ่งที่หลวงพ่อชาท่านไปแสดงธรรมที่อังกฤษมีคนอังกฤษถามว่า

"เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ แล้วทำไมโจรขโมยเยอะ" หลวงพ่อชาท่านตอบว่า
"ที่ขโมยนั้นเป็นคนมิใช่ศาสนา ศาสนาไม่ได้สอนให้ขโมย แต่คนมันทำเอง ดังนั้น มันจึงขึ้นอยู่ที่คน มิใช่ศาสนา" แล้วท่านย้อนถามว่า "ที่อังกฤษมีขโมยเยอะไหม?"

คนถามก็ยิ้มอายๆไม่ยอมตอบแต่ประการใด



สะบายดี...กันนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ.
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

Tee Service

อ้างจาก: PoPoz เมื่อ 17:35 น.  06 มี.ค 55
ถือได้ซักสามข้อ ก้อบุญจังแร้ว นิ  ข้อ 5 ผิดตั้งแต่ออกจากบ้าน  พอเมาๆถึงผิดข้อ 3 หร่าวว  หัวรุ่งหลบมาบ้านพอเมียถาม ผิดเอาข้อ 4 หร่าว  ฮ่ะโหร่ยยย..
ส.ยกน้ิวให้  ส.หัว ส.หัว

puiey

พยายามทำครับ แต่ก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง อยู่ในสังคม ยังไงก็ศีลขาดได้ตลอดเวลา
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

คุณหลวง

เหตุแห่งสังฆเภท

    ปัญหา ได้ทราบว่า การทำลายสงฆ์ให้แตกกันเป็นอนันตริยกรรมอย่างหนึ่ง อยากทราบว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้สงฆ์แตกแยกกัน ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนอุบาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมแสดง

        สิ่งที่ไม่ใช่ธรรมว่าเป็นธรรม ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่าไม่ใช่ธรรม ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่ไม่ใช่วินัยว่าเป็นวินัย ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นวินัยว่าไม่ใช่วินัย ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้กล่าวไว้ ไม่ได้บอกไว้ว่าตถาคตกล่าวไว้บอกไว้ ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตกล่าวไว้บอกไว้ ว่าตถาคตไม่ได้กล่าวไว้ไม่ได้บอกไว้ ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่เคยประพฤติมาว่า ตถาคตเคยประพฤติมา ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตเคยประพฤติมาว่าตถาคตไม่เคยประพฤติมา ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ ว่าตถาคตบัญญัติไว้ ๑

        ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ ว่าตถาคตไม่ได้บัญญติไว้ ๑

    ภิกษุเหล่านั้นย่อมทอดทิ้งกันแยกจากกัน ทำสังฆกรรมแยกกัน สวดปาติโมกข์แยกจากกันด้วยวัตถุ ๑๐ ประการนี้ ดูก่อนอุบาลี สงฆ์จะเป็นผู้แตกกันด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล ฯ"

                                                                                                อุปาลิสังฆเภทสูตร

    ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอเสนอความเห็นของตัวเองต่ิออีกทีเกี่ยวกับเรื่องที่มีพระภิกษุหรือคนบางคนกล่าวว่า องค์ท่านรัชกาลที่๔ ตกนรกอเวจีด้วยเหตุทำสังฆเภท คือการแยกสงฆ์เป็นคณะเป็็นฝักฝ่าย

    ส่วนตัว ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นนั้น (แต่ไม่เข้าไปตัดสินว่ารู้หรือไม่แต่อย่างไร เพราะเหตุผลว่า ไม่รู้) เพราะว่า พระองค์ท่านมิได้ทำผิดองค์แห่งสังฆเภทแต่อย่างใด ยังคงถือพระไตรปิฎก พระวินัย เดียวกัน มีเพียงการตีความบางอย่างเท่านั้นที่ผิดกัน อย่างที่เคยกล่าว เช่น เรื่องนม ครีมเทียม เมล็ดทานตะวัน บ๊วยเค็ม เป็นต้น

    เมื่อเราเข้าไปสู่พระมหานิกายสายปฏิบัติก็จะพบว่ามีการประพฤติในหลักใหญ่เหมือนกัน ต่างแค่ปลีกย่อยอย่างที่กล่าว ซึ่งไม่น่าจะถือเป็นการบิดเบือนพระพุทธพจน์แต่อย่างใด เพราะเป็นข้อวินัยเล็กน้อยที่อาจตีความต่างกันได้

    เพียงแต่ปัญหามันเกิดเพราะความถือเนื้อถือตัวของพระบางรูปที่ยึดมั่นในนิกาย อวดดีในนิกายตนว่าถูกต้องกว่า ดีกว่า ประเสริฐกว่าด้วยเหตุผลต่างๆนานา(ซึ่งล้วนนอกเหนือธรรมวินัย) และมีการกระทบกระทั่งกันขึ้น จึงเป็นเหตุให้เกิดความแตกร้าวกันในระดับหนึ่ง เกิดความแบ่งข้างกันในหมู่พระสงฆ์และญาติโยมบางส่วน

    ซึ่งผมเห็นว่ามิใช่ความผิดของพระองค์ท่านแต่อย่างใด แต่เป็นความผิดของปุถุชนคนหนาที่เอาเปลือกมาห่อหุ้มตนแล้วอวดตัวเอง ประดุจหมาจิ้งจอกที่ได้ห่มหนังเสือแล้วคิดว่าตัวเป็นเสือแล้วจริงๆกระนั้น

    แต่ก็ยอมรับว่า กฏหมายปกครองคณะสงฆ์ให้สิทธิ์แก่พระสงฆ์นิกายธรรมยุติมากกว่า แต่ก็นั่นแหละทุกวันที่เป็นอยู่ก็ล้วนอยู่กันด้วยธรรมวินัย มิใช่กฏหมาย พระแม้ระดับสังฆาธิการก็อาจไม่รู้และไม่สนใจกฏหมายปกครองคณะสงฆ์เลยก็ได้

    การที่ภิกษุคุยข่มกันด้วยนิกายหรือเปลือกนอกประกอบอื่นๆนั้นย่อมแสดงให้เห็นว่า ภิกษุนั้นมิได้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ แต่กลับมีอามิสอุปาทานเป็นเครื่องอยู่ ซึ่งหมายถึงว่า ภิกษุนั้นมิได้ใส่ใจในคำสอนของพระพุทธองค์สักเท่าไหร่ แม้น่านับถือก็คงไม่มากนักเพราะคงอยู่อย่างให้ความสำคัญแก่เกียรติ หน้าตามากกว่าธรรม

    ก็เสริมต่อมาตามข้อสงสัยของท่านกิมฯ ซึ่งพาออกนอกเรื่องศีลไปบ้างแล้วกระมัง  ส.อืม


สะบายดี...หลังฝนตกที่อบอ้าวน่าดูชม
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป