ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร

เริ่มโดย deam205, 14:42 น. 26 ก.ค 63

deam205

    สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารการสอบคัดเลือกกระทำเป็นสองรอบ  ดังนี้

                การสอบรอบแรก เป็นการสอบภาควิชาการ วิชาที่สอบได้แก่ คณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์  ภาษาอังกฤษ  ภาษาไทยและสังคมศึกษาตามหลักสูตรไม่เกินชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม. 3) ของกระทรวงศึกษาธิการ มีรายละเอียดดังนี้
    1. คณิตศาสตร์ (คะแนนเต็ม 250 คะแนน)  
    2. วิทยาศาสตร์ (คะแนนเต็ม 250 คะแนน)  
    3. ภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) การใช้ไวยากรณ์พื้นฐาน, ความสามารถในทักษะการอ่าน, ความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารคำศัพท์และสำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
    4. ภาษาไทยและสังคมศึกษา (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
                
              โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะคัดเลือกผู้ที่สอบภาควิชาการผ่าน โดยคัดเลือกจากผู้ที่ได้คะแนนภาควิชาการรวมสูงสุดมาตามลำดับ ไว้จำนวนหนึ่ง  แล้วประกาศรายชื่อเพื่อให้เข้าสอบรอบสองต่อไป

                การสอบรอบสอง เป็นการตรวจร่างกาย ตรวจสอบประวัติ ทดสอบบุคลิกภาพ สอบพลศึกษา สอบสัมภาษณ์ และวัดขนาดร่างกาย มีรายละเอียดดังนี้
    1. การตรวจร่างกายและตรวจสอบประวัติ ผู้สมัครจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกาย ตามสถานที่ วัน เวลา ที่จะประกาศให้ทราบ  ผู้ไม่ไปรับการตรวจร่างกายถือว่าสละสิทธิผลการตรวจร่างกาย ถือความเห็นของคณะกรรมการคัดเลือกเป็นเด็ดขาด  
    2. การสอบพละศึกษา เป็นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย มีคะแนนเต็ม 50 คะแนน
    [list=1]
    • ดึงข้อราวเดี่ยวถ้าทำได้ 20 ครั้ง จะได้คะแนนเต็ม
    • ลุกนั่ง 30 วินาทีถ้าทำได้ 25 ครั้ง จะได้คะแนนเต็ม
    • ยึดพื้นหรือดันข้อถ้าทำได้ 54 ครั้ง จะได้คะแนนเต็ม
    • วิ่งระยะสั้น (50 เมตร) ถ้าทำได้ไม่เกิน 5.5 วินาที จะได้คะแนนเต็ม
    • วิ่งระยะไกล (1000 เมตร) ถ้าทำได้ไม่เกิน 3.18 นาที จะได้คะแนนเต็ม
    • ยืนกระโดนไกลถ้าทำได้ 2.5 เมตร จะได้คะแนนเต็ม
    • ว่ายน้ำ 50 เมตรถ้าทำได้ 40 วินาที จะได้คะแนนเต็ม
    • วิ่งกลับตัว (วิ่งเก็บของ) ถ้าทำได้ 9.5 วินาที จะได้คะแนนเต็ม
                การวัดขนาดร่างกายและสอบสัมภาษณ์ เป็นการพิจารณารูปร่าง ลักษณะท่าทาง ความสมบูรณ์ของร่างกาย ความองอาจ ว่องไวและปฏิภาณไหวพริบ ตลอดจนคุณลักษณะอื่น ๆ ผลการสอบถือเกณฑ์ ได้ หรือ ตก เท่านั่นไม่มีคะแนน

    ข้อดีของการเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
           1. การเข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร นักเรียนจะผ่านการสอบคัดเลือกเพียงครั้งเดียว แล้วจะได้เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเลย โดยมิต้องสอบคัดเลือกอีก และได้รับเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงในขณะศึกษาด้วย
           2. เมื่อจบจากโรงเรียนเตรียมทหารจะได้เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก ไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน อีกทั้งมีเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้ในระหว่างที่ศึกษาอยู่
           3. โรงเรียนของเหล่าทัพ มีทุนการศึกษาระยะยาวในต่างประเทศให้แก่นักเรียน ที่เรียนดีในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ทุกเหล่า
           4. เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนของเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว จะได้รับพระราชทานยศร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี และร้อยตำรวจตรี ได้รับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร ตามสาขาวิชาและได้รับการบรรจุเข้ารับราชการทันทีโดยมิต้องหางานทำอีก
           5. จะได้รับราชการในอาชีพที่มีเกียรติ เป็นที่ยอมรับ สมศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายชาวไทย

    หลักสูตรเตรียมทหาร   
                แต่ละเหล่าทัพจะออกข้อสอบเอง เพื่อคัดเลือกบุคคล เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เมื่อผ่านการสอบคัดเลือก นักเรียนก็ต้องมาเรียนที่ โรงเรียนเตรียมทหาร จนจบหลักสูตร จากนั้นจึงแยกย้ายกัน ขึ้นเหล่าทัพที่เลือกไว้ตั้งแต่ต้น ถ้าเลือกเหล่าตำรวจ เรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ   เหล่าทหารบกเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เหล่าทหารเรือเรียนโรงเรียนนายเรือ  และเหล่าทหารอากาศเรียนโรงเรียนนายเรืออากาศ

            หลักสูตรของโรงเรียนเตรียม ทหาร จะเป็นหลักสูตรเดียวกับของ กระทรวงศึกษาธิการ ที่สอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) แต่ที่นี่จะมีเพียงสายวิทย์-คณิต จบจากโรงเรียนไปแล้ว ถ้าไม่ขึ้นเหล่าทัพที่เลือกตั้งแต่ต้น ก็สามารถไปสอบเอ็นทรานซ์ หรือไปเรียนต่อต่างประเทศได้ แต่มีเงื่อนไขอยู่นิดว่า ถ้าลาออก หรือไม่ขึ้นเหล่า ก็ต้องจ่ายค่าปรับ
     
            นอกจากจะสอนหลักสูตร ตามกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ทางโรงเรียนยังต้องสอนนักเรียน ตามที่แต่ละเหล่าทัพเน้นมาเป็นพิเศษด้วย ว่าต้องการให้นักเรียนที่จะขึ้นเหล่านั้นๆ เสริมความรู้วิชาไหนบ้าง อย่างเหล่าทัพอากาศ อาจเน้นวิชาฟิสิกส์ คอมพิวเตอร์ หรือคำนวณ ขณะที่เหล่าอื่นอาจเน้นต่างกันไป โรงเรียนก็ต้องสอนเพิ่มเติม ส่วนโรงเรียนเตรียมทหารเองจะเน้นเรื่องไอที  และภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเน้นศัพท์เกี่ยวกับตำรวจ ทหาร ทั้งยังเน้นการเรียนภาคปฏบัติเรื่องระเบียบวินัยและความประพฤติ