ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

'พาณิชย์' แจ้งข่าวดี มาเลเซียพร้อมนำเข้าข้าวไทยเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง

เริ่มโดย Shopd2, 07:58 น. 12 ส.ค 64

Shopd2



กรมการค้าต่างประเทศจับมือสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยหารือ BERNAS กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและติดตามสถานการณ์ข้าว เผยมาเลเซียยันพร้อมนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เหตุข้าวไทยราคาแข่งขันได้ดีขึ้นจากบาทอ่อน และพร้อมร่วมมือกับไทยจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์กระตุ้นการบริโภคช่วง ต.ค.นี้ เตรียมถกคู่ค้าเพิ่ม คิวต่อไปบังกลาเทศ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และสิงคโปร์

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ จัดการประชุมหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของรัฐบาลมาเลเซีย (Padiberas Nasional Berhad : BERNAS) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปยังมาเลเซียในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า หารือเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าข้าว และผลักดันการส่งออกข้าว

ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวของไทยและมาเลเซีย โดยไทยได้แจ้งให้ BERNAS ทราบถึงสถานการณ์การผลิตข้าวของไทยในปี 2564 คาดว่าไทยจะมีผลผลิตข้าวมากขึ้นเนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ รวมทั้งแรงงานในภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีแรงงานกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยผลผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ปัจจุบันราคาข้าวไทยปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับข้าวจากประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย และเวียดนาม ไทยจึงขอให้ BERNAS พิจารณานำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น

ทางด้านผู้แทน BERNAS ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดข้าวในมาเลเซียว่า มาเลเซียมีผลผลิตข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศประมาณปีละ 9 แสนตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30-35% ของปริมาณความต้องการบริโภคทั้งหมด และในปี 2564 คาดว่ามาเลเซียจะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีปริมาณ 1.08 ล้านตัน เนื่องจากมีปัญหาด้านการเพาะปลูกในประเทศ และไทยถือเป็นแหล่งนำเข้าข้าวหลักของมาเลเซียมาโดยตลอด เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวมาเลเซีย แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา BERNAS จำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากแหล่งอื่น เช่น อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม เพิ่มขึ้น แม้ว่าคุณภาพข้าวจะด้อยกว่าไทย แต่เนื่องจากประเทศเหล่านี้สามารถส่งข้าวในราคาที่ถูกกว่าข้าวไทยมาก

ทั้งนี้ BERNAS เห็นว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 อุปสงค์ของข้าวไทยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาข้าวไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อได้ โดยนอกจากปัจจัยด้านราคาที่ปรับตัวลดลง ทำให้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้นแล้ว ผู้บริโภคในมาเลเซียยังเชื่อมั่นในคุณภาพและนิยมข้าวไทยมากกว่าข้าวจากแหล่งอื่น โดยจะเห็นได้จากปริมาณคำสั่งซื้อข้าวจากไทยที่เริ่มมีมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง

ขณะเดียวกัน BERNAS มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในมาเลเซียว่าควรเริ่มดำเนินการในช่วงเดือน ต.ค. 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลาย ประชาชนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงอุปสงค์จากธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้อุปสงค์ข้าวไทยเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ BERNAS แสดงความขอบคุณไทยสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดโดยเฉพาะในฐานะแหล่งนำเข้าข้าวที่มีคุณภาพ และยินดีที่จะร่วมสนับสนุนข้าวไทยในตลาดมาเลเซีย

นายกีรติกล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้กรมฯ ไม่สามารถเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวหลักในประเทศต่างๆ ได้ แต่กรมฯ ยังคงมีแผนจัดการประชุมหารือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของไทยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ข้าวไทยมีส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยที่ผ่านมาได้มีการหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวของฮ่องกงและผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และในระยะต่อไปมีแผนหารือกับบังกลาเทศ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ข้าวไทยมีส่วนแบ่งในตลาดเป้าหมายเพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยตั้งแต่ 1 ม.ค.-29 ก.ค. 2564 ส่งออกแล้วปริมาณ 2.74 ล้านตัน มูลค่า 1,671 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 50,925 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงจากปี 2563 คิดเป็น 17.07% และ 24.84% ตามลำดับ แต่คาดว่าในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ สถานการณ์การส่งออกข้าวน่าจะดีกว่า 6 เดือนแรกตามปัจจัยที่ได้กล่าวไปแล้ว