สถานีแห่งความหลัง_ปากน้ำโพ

[pa_เฟี๊ยว]

หนังสือ"ภาพเก่าเล่าขานตำนานปากน้ำโพ"มีเรื่องและภาพเก่าๆของจังหวัดต้นน้ำเจ้าพระยาเพื่อระลึกความหลังนะค่ะ...
เป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นโดย...โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิมพ์ไว้เมื่อปี2553นะค๊ะ...
ก็เลยขอยกเอาภาพฝีพระหัตถ์พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่5 และเรื่องของ"สถานีรถไฟปากน้ำโพ"มาฝากกันนะค๊ะ...
แหล่งความรู้ถ่ายทอดมาจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ...ขอกระจายความรู้กันนะค๊ะ....

   ในยุคที่รถไฟครองความยิ่งใหญ่และเป็นยานพาหนะสำคัญ ที่จะนำประชาชนไปมาหาสู่กันทั่วประเทศนั้น ต้องยอมรับว่าสถานีรถไฟปากน้ำโพ เป็นสถานีหนึ่งที่คนไทยรู้จักและกล่าวขวัญถึงทั่วประเทศ....
   ท่านที่มีโอกาศอ่านหนังสือว่าด้วยเรื่อง...การเสด็จประพาสต้นของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่5...ก็จะทราบว่า พระองค์เสด็จครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2447ไปยังสมุทรสาคร ดำเนินสะดวก ราชบุรี สมุทรสงคราม และฯลฯ...ต่อมาปี พ.ศ.2449 ทรงเสด็จลงเรือที่ตำหนักแพวังหน้า ทวนแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นเหนือ ไปจนถึวจังหวัดกำแพงเพชรและได้เสด็จประทับที่นครสวรรค์หลายๆจุด อันเป็นความทรงจำที่เล่าขานมิรู้ลืมของชาวนครสวรรค์ ตราบทุกวันนี้....
   จากนั้นในปี พ.ศ.2451 ได้เสด็จประพาสต้นครั้งที่3โดยรถไฟ จนถึงเมืองนครสวรรค์อีกครั้งและทรงฉายภาพ"สเตชั่นนครสวรรค์" ที่มีประชาชนและทหารไปรอเฝ้าฯจำนวนมาก... จากนั้นจึงเสด็จลงเรื่อพระที่นั่ง ล่องลำน้ำเจ้าพระยาเข้าสู่คลองมะขามเฒ่า สู่จังหวัดสุพรรณบุรี...
   "สเตชั่นรถไฟเมืองนครสวรรค์" ก็คือสถานีรถไฟปากน้ำโพนั่นเอง เพราะดูจากภาพฝีพระหัตถ์จะเห็นว่าตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งก็คือแม่น้ำน่าน หรือแควใหญ่ อันเป็นสถานที่เดียวกับสถานีปากน้ำโพปัจจุบัน....





   เนื่องจากตัวเมืองนครสวรรค์อยู่อีกฟากนึงของแม่น้ำ การเดินทางสู่นครสวรรค์ทางรถไฟจะสิ้นสุดที่สถานีปากน้ำโพ แล้วต้องลงเรือจ้างซึ่งสมัยแรกๆอาจเป็นเรือแจว เพื่อเข้าสู่ตลาดนครสวรรค์อีกทอดหนึ่ง....
   สถานีปากน้ำโพเป็นสถานีที่แม้จะไม่ใช่ชุมทาง แต่ก็เป็นสถานีใหญ่ มีหัวรถจักรจอดรออยู่หลายขบวนเพราะนอกจากจะเป็นสถานีสำคัญที่รถไฟขึ้นสู่ภาคเหนือจะหยุดเติมน้ำเติมฟืนที่นี่แล้ว ยังเป็นสถานีต้นทางปลายทางของรถไฟสาย"ปากน้ำโพ-กรุงเทพฯ"อีกด้วย....
   ชาวนครสวรรค์ที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯด้วยภารกิจใดๆก็ตาม จะไปขึ้นรถไฟที่สถานีแห่งนี้ รวมทั้งประชาชนชาวจังหวัดใกล้เคียง ตั้งแต่ ตาก กำแพงเพชร อุทัยธานี ชัยนาท หากจะเข้ากรุงเทพฯโดยทางรถไฟ ก็มักจะไปค้างคืนที่ตลาดปากน้ำโพนครสวรรค์1คืน จากนั้นจะตื่นแต่เช้าตรู่ ลงเรือไปข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่แควใหญ่ เพื่อไปขึ้นรถไฟที่สถานีแห่งนี้...
   ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เรียกว่า"สะพานเดชาติวงศ์"แล้วเสร็จ ทำให้รถยนต์สามารถข้ามแม่น้ำไปมา2ฝั่งได้ จึงมีการตัดถนนเข้าหมู่บ้านเล็กๆหมู่บ้านหนึ่งใกล้ๆค่ายทหาร"จิรประวัติ" ได้แก่ หมู่บ้านหนองปลิง...
   ก่อนหน้านี้ บ้านหนองปลิงเป็นสถานีรถไฟเล็กๆที่รถด่วนหรือรถเร็วจะไม่จอดด้วยซ้ำเพราะเล็กมาก แต่ภายหลังการรถไฟได้ปรับปรุงก่อสร้างเพิ่มเติมให้เป็นสถานีที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น"สถานีนครสวรรค์" ประมาณปี พ.ศ.2501-2502....
   สถานีแห่งใหม่นีจึงกลายเป็นสถานีหลักของจังหวัดนครสวรรค์ แทนสถานีปากน้ำโพ เพราะความสะดวกในการนั่งรถยนต์เข้าจังหวัด ซึ่งสะดวกกว่านั่งเรือ นับแต่นั้น...ส่งผลให้สถานี"ปากน้ำโพ" ค่อยๆเงียบเหงาลงเรื่อยๆ จนแทบจะกลายเป็นสถานีที่ถูกลืม ในปัจจุบัน....
   แต่ถ้าจะว่าไป คงไม่ใช่เฉพาะสถานีนี้เท่านั้น เข้าใจว่าแม้สถานีนครสวรรค์เองก็อาจเงียบเหงาไปด้วยเช่นกัน เพราะเดี๋ยวนี้การเดินทางจากนครสวรรค์เข้ากรุงเทพฯโดยทางรถยนต์สะดวกสบาย ใช้เวลาแค่2ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น....
   การเดินทางโดยรถไฟจึงกลายเป็นอดีตสำหรับชาวนครสวรรค์ไปแล้ว....และอาจจเป็นอดีตของประชาชนชาวไทยทุกจังหวัดด้วย ทำให้การรถไฟฯขาดทุน สถานีต่างๆเลยอยู่ในสภาพทรุดโทรมตามๆกัน....

ความเปลี่ยนแปลง....การเกิดขึ้น....และเสื่อมไป จึงเป็นสัจธรรมของโลกด้วยประการฉะนี้...

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

ขอบคุณมากครับ สุดยอดจริงๆ  มีอีกไหมครับ

[นายไข่นุ้ย]

เช่นกันขอบคุณมากครับ 

[vi_vsเส้นดำๆ]

  ... 

...

[นายไข่นุ้ย]

 

... 

...

  ทำไม ไม่พอใจอะไร หือ

[vi_vs]

 

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

^
^
^
^
เข้ามาแล้วไม่แสดงความคิดเห็น  ต้องการสื่ออะไรหรือครับ

กระทู้นี้สำหรับคนที่ต้องการความรู้ และที่ชอบรถไฟนะครับ

[vi_vsเส้นดำๆ]

 

[ลูกแมวตาดำๆ]

สามภาพสุดท้ายมีที่มาตามนี้ครับ

ภาพแรก จากกระทู้สถานีปากน้ำโพ.... อดีตที่รุ่งเรือง ของคุณmai_cnx_th
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=25364

ภาพสอง จากกระทู้ทางแยกไปท่าข้าวที่ปากน้ำโพ ของคุณpitch
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=728&start=40

ภาพสาม จากกระทู้ประวัติ สรพ. ปากน้ำโพ ภาพจาก เฮียหมี วิศรุต
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1897


แนะนำหากนำภาพมาจาก rotfaithai.com รบกวนลงเครดิตให้ที่มาเจ้าของรูปสักหน่อยนะครับ 

[นายไข่นุ้ย]

^
^
^
^
เข้ามาแล้วไม่แสดงความคิดเห็น  ต้องการสื่ออะไรหรือครับ

กระทู้นี้สำหรับคนที่ต้องการความรู้ และที่ชอบรถไฟนะครับ

สงสัยเป็นรัดดวงท่าน หรือไม่ก็ไม่สบาย นานเจอที 

[นายไข่นุ้ย]

สามภาพสุดท้ายมีที่มาตามนี้ครับ

ภาพแรก จากกระทู้สถานีปากน้ำโพ.... อดีตที่รุ่งเรือง ของคุณmai_cnx_th
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=25364

ภาพสอง จากกระทู้ทางแยกไปท่าข้าวที่ปากน้ำโพ ของคุณpitch
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=728&start=40

ภาพสาม จากกระทู้ประวัติ สรพ. ปากน้ำโพ ภาพจาก เฮียหมี วิศรุต
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1897


แนะนำหากนำภาพมาจาก rotfaithai.com รบกวนลงเครดิตให้ที่มาเจ้าของรูปสักหน่อยนะครับ 

ขอบคุณครับท่าน 

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

รับทราบครับท่านไข่นุ้ย

และ ขอบคุณท่านลูกแมวฯเช่นกันครับ 
(ว่าแต่ว่า ล่าสุดที่รถด่วนนครพิงค์ตกรางในย่านปากน้ำโพ สาเหตุมาจากอะไรครับ )

[vi_vs]

สามภาพสุดท้ายมีที่มาตามนี้ครับ

ภาพแรก จากกระทู้สถานีปากน้ำโพ.... อดีตที่รุ่งเรือง ของคุณmai_cnx_th
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=25364

ภาพสอง จากกระทู้ทางแยกไปท่าข้าวที่ปากน้ำโพ ของคุณpitch
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=728&start=40

ภาพสาม จากกระทู้ประวัติ สรพ. ปากน้ำโพ ภาพจาก เฮียหมี วิศรุต
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1897


แนะนำหากนำภาพมาจาก rotfaithai.com รบกวนลงเครดิตให้ที่มาเจ้าของรูปสักหน่อยนะครับ 

3ภาพหลังปัจจุบัน(ซึ่งไม่รู้ว่านานสักแค่ไหน)หามาจากกูเกิ้ล.... ลงไว้ให้ดูประกอบกระทู้ จะได้ดูแล้วสวยงามค่ะ....
ถ้ารู้แหล่งที่มาจากภาพ สาบานได้ว่า.... จะบอกให้ค่ะคุงพี่.... แต่ที่ไม่ได้บอกก็เพราะไม่รู้เค้าดูกันตรงไหน....เหนื่อยจัง

[vi_vs]

สงสัยเป็นรัดดวงท่าน หรือไม่ก็ไม่สบาย นานเจอที 

ชอบพูดจาแสดงความเห็นตลกๆดี....ขำ....เหง๊อะะ

[ลูกแมวตาดำๆ]

3ภาพหลังปัจจุบัน(ซึ่งไม่รู้ว่านานสักแค่ไหน)หามาจากกูเกิ้ล.... ลงไว้ให้ดูประกอบกระทู้ จะได้ดูแล้วสวยงามค่ะ....
ถ้ารู้แหล่งที่มาจากภาพ สาบานได้ว่า.... จะบอกให้ค่ะคุงพี่.... แต่ที่ไม่ได้บอกก็เพราะไม่รู้เค้าดูกันตรงไหน....เหนื่อยจัง

ภาพสามภาพ คาดว่าไม่ได้นำเสนอที่ใดน่ะครับ เพราะใช้การตรวจด้วย Google น่ะครับ ก็ปรากฎภาพในเว็บ Rotfaithai.com เท่านั้น อีกอย่าง Google เป็นเว็บค้นหาครับ ไม่ใช่เว็บโพสภาพ ดังนั้น จากหาใน Google ก็ย่อมเจอที่มาของภาพครับ ว่าเจอในเว็บอะไร

อนึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพที่สมาชิกของเว็บ Rotfaithai ถ่ายกันเองน่ะครับ ไม่ได้คัดลอกจากเว็บอื่นๆจ้า

[นายไข่นุ้ย]

รับทราบครับท่านไข่นุ้ย

และ ขอบคุณท่านลูกแมวฯเช่นกันครับ 
(ว่าแต่ว่า ล่าสุดที่รถด่วนนครพิงค์ตกรางในย่านปากน้ำโพ สาเหตุมาจากอะไรครับ )

ยังไม่แน่ชัดครับ ไม่แน่ใจว่า พขร.ขับเร็วไปหรือเปล่า ยังต้องรอผลสอบครับท่าน

[Oganoi]

ขอบคุณนะครับ  เล่นเอาคิดถึงบ้านเลยครับ สถานีรถไฟปากน้ำโพ คือสถานีของจังหวัดนครสวรรค์ในอดีตครับ จะมีตลาดอยูหลังสถานี เรียกว่าตลาดใหม่ สภาพคล้าย ๆสามชุกสุพรรณบุรีครับ แต่แย่กว่ามาก  และจะมีทั้งโรงสี โรงเลื่อยที่เลื่อยไม้ที่ลอยแพมาจากทางเหนือ เรียกว่าแพซุง  หากแพซุงจอดหน้าท่าน้ำบ้านใครละก็ ถือเป็นสวรรค์ของเด็ก ๆ เลยครับ จะเล่นน้ำสนุกมาก  หากมาจาก กทม.แล้วลงสถานีนี้และต้องการเข้าเมือง ต้องลงเรือเมล์ครับ ซึ่งคนพื้นถิ่นจะเรียกเรือจ้าง คนบางกอกจะเรียกเรือเมล์ครับ  เรือจะแล่นผ่านศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์ครับ เพื่อเลี้ยวขวา ข้ามปากแม่น้ำเจ้าพระยา ไปขึ้นฝั่งที่หน้าตลาด เรียกว่าตรอกชุณหงส์ ศาลเจ้าพ่อนี้เองที่เป็นที่มาของการจัดงานเทศกาลตรุษจีนที่กระหึ่มไปทั่วโลก จนมีชื่อเสียงมาถึงปัจจุบัน   ส่วนสถานนีของนครสวรรค์ในปัจจุบัน ก็คือสถานีหนองปลิงครับ(คนปากน้ำโพยังคงเรียกหนองปลิงกันอยู่ครับ) ลงสถานีนี้จะมีรถเมล์ รถสองแถวรับเข้าเมือง ระยะทางประมาณ 11กิโลครับ  ต้องวิ่งมาเข้าถนนสายเอเซีย เส้นที่จะขึ้นไปภาคเหนือ(เชียงใหม่)ครับ แล้วก็มาข้ามสะพาน เดชาติวงศ์ แล้วถึงจะเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าตลาด   แหม นึกถึงอดีตจังเลย ผมเองเกิดและโตที่นี่แหละครับ เห็นภาพของ จขกท.แล้ว นั่งยิ้มเลยครับ เป็นภาพสมัยผมเด็ก ๆ เลยครับ คิดถึงบ้านจัง  สงกรานต์ปีนี้จะไปเที่ยวแล้วจะเก็บภาพปัจจุบันมาฝากนะครับ

[pa_เฟี๊ยว]

อาจารย์สัญญานะค๊ะว่า.....กลับไปเดือนหน้าต้องเอารูปสถานีปากน้ำโพ+หนองปลิง ณปัจจุบัน มาฝากกันนะค๊ะ....

แถมๆโป๊ะหรือท่าเรือข้ามฟากมาด้วยนะค๊ะ... ขอจองเก็บรูปล่วงหน้า จะได้ไม่ต้องโดนกะแน๊ะกะแหนอีก

(ปล.รู้สึกว่าวันนั้นอาจารย์จะลืมกระเป๋าใส่ไม้เทนนิสนะค๊ะ....(ถ้าจำไม่ผิด)

[ลูกแมวตาดำๆ]

ถ้าจะคิดแบบนั้นก็เชิญเถอะครับ ตามสบาย ผมเพียงแค่แนะนำ มารยาทในการใช้รูปข้อมูลจากผู้อื่นเท่านั้นแหละครับ แต่ถ้ามองแค่ว่าหาจากGoogle แล้วบอกว่าไม่รู้เว็บ ก็แปลกล่ะครับ ผลการค้นGoogleทุกอย่าง จะมีการบอกเว็บที่มาของข้อมูลภาพนั้นๆไว้อยู่แล้ว

หากไม่มีมารยาทในการนำรูปผู้อื่นมาใช้ ก็ตามสบายครับ เพราะรูปเหล่านั้น สมาชิกของเว็บเค้าไปถ่ายกันมาเอง เดินทางไปเก็บข้อมูลต่างๆกันมาเอง แต่กลับโดยฉกฉวยไปโดยไร้มารยาท มันก็ไม่ไหวครับ แล้วไม่ต้องอ้างว่า ถ้าไม่ให้กอปก็อย่าลงเว็บ ขอตอบไว้ก่อนเลยว่า ภาพที่เค้าลง เค้าไว้ให้ดู ไม่ใช่ให้กอป ถ้าจะกอปไปที่อื่นก็ควรลงที่มาของภาพ ตามมารยาทการใช้ภาพบนเว็บไซต์ทั่วโลก ที่เค้าจะให้เครดิตที่มาของภาพ กรณีที่ภาพไม่ใช่ของตนเอง

การนำภาพผู้อื่นมา แม้จะไม่ได้เอามาแอบอ้างเป็นของตนก็จริง แต่มันเหมือนกันไปหยิบของในบ้านคนอื่น มาอวดให้ผู้อื่นชมกัน โดยไม่ขออนุญาตเจ้าของแล้ว ซ้ำแล้วก็ยังไม่แจ้งว่ามาจากไหน แบบนี้มันเหมาะสมแล้วหรือ

โดยหลักแล้วภาพทุกภาพที่โพสลงเว็บดังกล่าวมีลิขสิทธิ์ของเว็บอยู่น่ะครับ แต่เค้าก็ไม่ได้เข้มงวดถึงขั้นที่ว่า กอปไม่ได้สักทีเดียว แต่ควรให้เกียรติที่มาสักนิด เท่านี้ก็เป็นการแสดงมารยาทที่ดีแล้วล่ะครับ

เอามาให้อ่านครับ
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3768

เว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม ขอแจ้งให้ทราบว่า ข้อความ ภาพ เสียง สื่อผสม เนื้อหา ซอฟต์แวร์ โมเดล และส่วนประกอบใดๆ ทั้งหมดของเว็บไซด์ รวมถึงแต่ไม่จำกัด เฉพาะเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อ ชื่อทางการค้า สิทธิบัตร โนว์ฮาวส์ ฯลฯ ที่ปรากฎบนเว็บไซด์นี้ เป็นงานอันได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมาย ทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งถือเป็นสิทธิ ของเจ้าของผลงาน และ/หรือ ของเว็บไซต์แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งในขณะนี้เว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม ได้รับการรับรอง การจดทะเบียนเครื่องหมายบริการ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บทความ ภาพถ่าย และงานสร้างสรรค์ ภายในเว็บไซต์ อันเป็นผลงานของสมาชิก ถือเป็นงานที่มีลิขสิทธิ์ โดยชอบด้วยกฏหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ เพื่อนำไปใช้งานในเชิงธุรกิจ เช่น ประกอบสื่อสิ่งพิมพ์ ข่าว สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ สื่อโทรทัศน์ สื่ออินเทอร์เน็ต ฯลฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าของผลงาน หรือเว็บไซต์ฯ เป็นลายลักษณ์อักษร แม้แต่การนำไปเผยแพร่ต่อ ในสื่อประชาสัมพันธ์อื่นๆ เว็บไซต์ หรือกระดานข่าวใดๆ ที่ไม่ได้เป็นในเชิงธุรกิจก็ตาม ก็จะต้องทำการอ้างอิงถึงที่มา และชื่อเจ้าของผลงานด้วยทุกครั้ง "กรุณาอย่าทำตัวมักง่าย ไม่ให้เกียรติ ไม่ให้ความเคารพ ในผลงานของผู้อื่น เฉกเช่น ผู้ไร้การศึกษา ไร้ความรับผิดชอบ ไร้จรรยาบรรณ และไร้คุณธรรม" เนื่องจากผู้ที่มีความรู้ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ก็คือบุคคลในระดับปัญญาชน เป็นผู้มีวุฒิภาวะ มีการศึกษา มิฉะนั้น จะถือว่าการละเมิดต่อลิขสิทธิ์ดังกล่าว ไม่ต่างกับพฤติกรรมของขโมย และจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ที่บัญญัติบทลงโทษไว้สูงสุด

เว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการรับรองความถูกต้องในบทความ ข้อมูล เนื้อหา ภายในเว็บไซด์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล รูปภาพ เสียง ซอฟต์แวร์ การเชื่อมโยง(ลิงค์) และ/หรือ บริการอื่นๆ และจะไม่รับผิดชอบในความผิดพลาด ในการใช้เนื้อหาดังกล่าวข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้าน การค้า การกระทำ การคาดการณ์ พยากรณ์ การวิจัย และอื่นๆ ซึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล เฉพาะของสมาชิกแต่ละรายไป ตลอดจนข้อกำหนดทางด้านลิขสิทธิ์ กรณีที่สมาชิกส่งบทความ รูปภาพ หรือสื่ออื่นใด ที่มิได้ขออนุญาต ต่อผู้ครองสิทธิ์แท้จริงนำมาลงไว้ภายในเว็บไซด์นี้

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- เครื่องหมายการค้า,ลิขสิทธิ์ กับเว็บรถไฟไทยดอทคอม

จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Rotfaithai.Com Team

อันที่จริงตัวผมเองไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้หรอก เพราะคิดว่าพี่คงไม่ทราบในเรื่องแบบนี้ แต่การที่พี่ตอบมาว่า หาจาก Google แล้วไม่รู้ที่มา มันตอบไม่สวยอ่ะครับพี่ เพราะอย่างที่บอก Google นั้นเค้ามีที่มาให้หมดครับ

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

เรื่องการนำรูปภาพ หรือ บทความ จากเวปอืนๆมาลงในนี้ ควรให้เครดิตกับแหล่งที่นำมา
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ มารยาท และ จิตสำนึก นะครับ อย่าทำเป็นเล่นไป

บอกๆกันไว้นะครับ รูปภาพ หรือ บทความของเขามีลิขสิทธิ์ มีที่มาที่ไป นะครับ

[ลูกแมวตาดำๆ]

เรื่องการนำรูปภาพ หรือ บทความ จากเวปอืนๆมาลงในนี้ ควรให้เครดิตกับแหล่งที่นำมา
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ มารยาท และ จิตสำนึก นะครับ อย่าทำเป็นเล่นไป

บอกๆกันไว้นะครับ รูปภาพ หรือ บทความของเขามีลิขสิทธิ์ มีที่มาที่ไป นะครับ

ขอบคุณครับท่าน ที่เข้าใจเรื่องนี้ครับ 

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

ไม่ได้ด่า ไม่ได้ตำหนิ  แต่ แนะนำ ครับผม

อย่างเช่น ผมเนี่ย ไปนำรูป หรือ บทความ ที่ไหนมาลงในเวปนี้ ผมก็ระบุว่า นำมาจากที่ไหนเวปไหน ก็เท่านั้นเองครับ

อย่าคิดมาก อย่าคิดไปเองสิครับ