ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

การใส่บาตรควรนั่งหรือยืนครับ

เริ่มโดย The Knack, 23:54 น. 16 เม.ย 55

ฅนข้างวัด

ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่ว่ากันด้วยเหตุและผล นำเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้มาปฏิบัดิให้พ้นทุข ทำไปทำมา ทุกวันนี้อารายก็ไม่รู้ เหตที่ต้องตักบาตรเพื่อให้พระสงฆ์ ผู้ถ่ายทอดพระธรรมคำสอนดำรงอยู่ได้ ไปๆมาๆ ต้องตักกันทีเป็นพันเป็นหมื่นรูป คำสอนก็งัีนหากเจอหลังเตารีดล่ะก็เป็นบุณสุดๆ งง จังเลย ไกลจากที่ท่านสอนมากมาย

Destiny

ยืนใส่บาตร ไม่สวมรองเท้า ด้วยกิริยาอาการสำรวม แต่งตัวสุภาพค่ะ
อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
"ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจหนึ่ง
ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์"  พระบรมราชปณิธานของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: Destiny เมื่อ 00:43 น.  02 ก.ย 55
ยืนใส่บาตร ไม่สวมรองเท้า ด้วยกิริยาอาการสำรวม แต่งตัวสุภาพค่ะ
ใช่แล้ว
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

คุณหลวง

อ้างจาก: ไก่ฟักด้าม เมื่อ 03:00 น.  31 ส.ค 55

อีกอย่างธรรมเนียมปฎิบัติบางอย่างเกี่ยวกับศาสนามันเปลี่ยนไปจากสมัยพุทธกาลเยอะมาก  อย่างเช่น การบิณฑบาต  ในสมัยพุทธกาลก็บิณฑบาตรของข้าวเหลือแกงเหลือ  ("บิณฑบาต" แปลตรงตัวว่า  ข้าวตก)  ต่อมาภายหลังก็กลายเป็นการประดิดประดอยสิ่งที่จะถวายพระภิกษุอย่างปราณีต  ข้าวก็ต้องเป็นข้าวปากหม้อ  แกงก็ต้องสุกใหม่


    การแปลโดดๆอย่างนั้นก็ดูจะไม่ใช่กระมังครับ อย่าลืมความแตกต่างทางภาษานะครับ แปลตรงตัวว่าข้าวตกก็ไม่ได้แปลว่าข้าวเหลือแกงเหลือครับ เวลาแปลบาลีท่านจึงสอนทั้งแปลยกศัพท์(ที่ฟังแล้วเข้าใจไม่ได้)กับแปลใจความนะครับ

    ประเพณีนักบวชนั้น เป็นเรื่องของผู้สละตัวเองเพื่อค้นหาสัทธรรม ชาวบ้านจะยกให้เป็นผู้นำทางสว่างแก่ตน จึงให้ความเคารพเป็นอย่างยิ่ง จึงสละปัจจัยสี่ที่ตนหามาด้วยแรงถวายนักบวชเพื่อนักบวชมีกำลังค้นหาสัทธรรมมาเผื่อแผ่แก่ตน

    ดังนั้น ข้าวแกงที่ถวายผู้บวชจึงแตกต่างจากข้าวแกงที่ให้แก่ขอทาน ผู้บวชต้องเลี้ยงชีพเนื่องด้วยชาวบ้านก็จริง แต่มีธรรม และการปฏิบัติธรรมที่ยิ่งกว่าชาวบ้านเป็นข้อแลกเปลี่ยน ส่วนนักบวชที่ทำตัวเหมือนชาวบ้านมันก็คือขอทานดีๆนี่เอง


สะบายดี...
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

Gemini

อ้างจาก: Destiny เมื่อ 00:43 น.  02 ก.ย 55
ยืนใส่บาตร ไม่สวมรองเท้า ด้วยกิริยาอาการสำรวม แต่งตัวสุภาพค่ะ
ที่บ้านทำแบบนี้เหมือนกัน
แต่อาจเป็นธรรมเนียมของแต่ละพื้นที่ เลยทำให้แตกต่างกัน
ส.สู้ๆ
"ไม่สวย ไม่หล่อ หาหมอศัลยกรรม  ความคิด จิตต่ำ ศัลยกรรมช่วยไม่ได้จริง ๆ"

ไก่ฟักด้าม

อ้างจาก: คุณหลวง เมื่อ 11:35 น.  15 ก.ย 55
    การแปลโดดๆอย่างนั้นก็ดูจะไม่ใช่กระมังครับ อย่าลืมความแตกต่างทางภาษานะครับ แปลตรงตัวว่าข้าวตกก็ไม่ได้แปลว่าข้าวเหลือแกงเหลือครับ เวลาแปลบาลีท่านจึงสอนทั้งแปลยกศัพท์(ที่ฟังแล้วเข้าใจไม่ได้)กับแปลใจความนะครับ

   ประเพณีนักบวชนั้น เป็นเรื่องของผู้สละตัวเองเพื่อค้นหาสัทธรรม ชาวบ้านจะยกให้เป็นผู้นำทางสว่างแก่ตน จึงให้ความเคารพเป็นอย่างยิ่ง จึงสละปัจจัยสี่ที่ตนหามาด้วยแรงถวายนักบวชเพื่อนักบวชมีกำลังค้นหาสัทธรรมมาเผื่อแผ่แก่ตน

   ดังนั้น ข้าวแกงที่ถวายผู้บวชจึงแตกต่างจากข้าวแกงที่ให้แก่ขอทาน ผู้บวชต้องเลี้ยงชีพเนื่องด้วยชาวบ้านก็จริง แต่มีธรรม และการปฏิบัติธรรมที่ยิ่งกว่าชาวบ้านเป็นข้อแลกเปลี่ยน ส่วนนักบวชที่ทำตัวเหมือนชาวบ้านมันก็คือขอทานดีๆนี่เอง


สะบายดี...

ในเรื่องภาษาศาสตร์คงต้องไปตีความกันอีกหลายชั้นหลายขั้นตอนอยู่นะครับ  แต่ถ้าจะเอาความจริงว่าในสมัยพุทธกาลว่าพระในสมัยนั้นบิณฑบาต กันอย่างไรก็คงไม่มีใครทราบ  เพราะเราในภายหลังก็เพียงแต่อ่านตามที่บันทึกที่ถ่ายทอดต่อกันมาเท่านั้น  ไอ้ครั้นจะไปถกเถียงเอาเป็นเอาตายก็คงไม่ใช่ทางหลุดพ้นจากวัฎฎะสักเท่าไหร่

เพียงแต่ว่าทั้งฝ่ายสงฆ์หรือฝ่ายฆราวาสเอง ก็ต้องเข้าใจในสาระของการตักบาตรว่าทำเพื่ออะไร

อีกอย่างในปัจจุบันคงไม่มีใครอุตริไปเอาข้าวเหลือแกงเหลือเอาถวายพระหรอกครับ

หากการแสดงความคิดเห็น เป็นที่ไม่พอใจของท่านผู้รู้ด้านธรรมมะก็ขออภัยด้วยครับ

ส.ฉันเอง ส.ฉันเอง ส.ฉันเอง ส.ฉันเอง ส.ฉันเอง

ชาวพุทธตาใส

ตอบกระทู้นี้....ควรตั้งสติก่อนครับ จะยืนก็ไม่แปลกถ้าใส่บาตรพระแท้ได้บุญเท่ากัน ทำนองเดียวกัน ถึงแม้จะนั่งพับเพียบเรียบร้อย ใส่บาตรหัวโล้นห่มเหลือง น่าจะบาปเพราะไปส่งเสริมคนเลวที่อาศัยศาสนาหากิน...ครับ

คุณหลวง

อ้างจาก: ไก่ฟักด้าม เมื่อ 20:56 น.  25 ก.ย 55


หากการแสดงความคิดเห็น เป็นที่ไม่พอใจของท่านผู้รู้ด้านธรรมมะก็ขออภัยด้วยครับ



    ก็เป็นเสียอย่างนี้แหละ

    การเห็นต่างหาใช่ความไม่พอใจนะครับ เพียงแต่แตกประเด็นให้เห็นกันทุกทางเท่านั้น และไม่ใช่เป็นการหาว่าใครผิดถูก แต่เพื่อการพินิจที่รอบคอบ

    เรียนธรรมะอย่าขี้น้อยใจสิครับ มันไม่ใช่ทางหลุดพ้นสักเท่าไหร่เช่นกัน


     สะบายดี...
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

เด็กใหญ่

เมื่อครั้งยังเป็นนักเรียน มศ1- มศ3 ครูให้นักเรียนทุกคน ที่ส่วนมากไม่ได้เป็นลูกผู้มี แต่ครูต้องการให้นักเรียนได้เรียนรู้สมบัติผู้ดี ยังจำได้จนขึ้นใจ มีข้อหนึ่งกล่าวว่า
"ผู้ดีต้องรู้สมควรนั่งในที่ที่ควรนั่ง และไม่สมควรนั่งในที่ไม่สมควรนั่ง เช่น บริเวณที่เป็นทางเดินของคนก็ไม่สมควรไปนั่ง. สถานที่บุคคลทั่วไปยืน ก็ไม่สมควรนั่ง"

ไก่ฟักด้าม

อ้างจาก: คุณหลวง เมื่อ 08:36 น.  28 ก.ย 55
    ก็เป็นเสียอย่างนี้แหละ

     การเห็นต่างหาใช่ความไม่พอใจนะครับ เพียงแต่แตกประเด็นให้เห็นกันทุกทางเท่านั้น และไม่ใช่เป็นการหาว่าใครผิดถูก แต่เพื่อการพินิจที่รอบคอบ

    เรียนธรรมะอย่าขี้น้อยใจสิครับ มันไม่ใช่ทางหลุดพ้นสักเท่าไหร่เช่นกัน


     สะบายดี...

น้อมรับคำวิจารณ์ก็แล้วกันครับ
ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

Destiny

อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
"ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจหนึ่ง
ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์"  พระบรมราชปณิธานของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

อยากหายมึน

ขอถามผู้รู้หน่อยและต้องช่วยให้ข้าพเจ้าให้มึนด้วยนะจ๊ะ  คือว่า เวลาพระมายืนบาตร แล้ว ของได้มาก พระถือไม่ไหว  แต่มีญาติพี่น้อง มาเอาของที่ชาวบ้านใส่บาตร โดยที่ยังไม่ถึงวัด พระก็รู้ ถามว่า แทนที่จะเลี้ยวเข้าวัดก่อนแต่กลับเลี้ยวหัวรถที่มารับของเลี้ยวเข้าบ้าน  ของที่ชาวบ้านใส่บาตรไป ในเทื่อไม่ถึงวัด ชาวบ้านได้บุญไหม และบุญสำเร็จตอนไหน ในเมือพระไม่เอาของที่ตักบาตรเข้าวัดที  แล้วทำแบบนี้ใครผิดใครถูก  เห็นแล้วทำใจไม่ได้  ไม่เชื่อมาพิสูจน์ได้ที่ซอย 11 เพชรเกษมก่อนถึง โรงเรียน บุญเลิศ ร้านของชำ  เวลา 6.30 น  แล้วทำแบบนี้นรก สวรรค์จะพิพากษาว่ากระไร  ขอคำชี้แนะจากผู้รู้หน่อยนะจ๊ะ ต้องการเครีย เพราะมันอยู่ในหัวอยู่ตลอด

พระต้องอยู่สูงกว่าเรา

ทำยังไงก็ได้ที่ดูแล้วสุภาพอ่อนน้อม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่ายืนหรือนั่งค้ำหัวพระ (สูงกว่าศรีษะพระ) พระคือตัวแทนของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นพระต้องอยู่สูงกว่าเรา

คนพุทธ

เคยดูรายการทีวีหลายเดือนแล้วจำช่องไม่ได้ มีเจ้าอาวาสวัดไหนก็จำไม่ได้เหมือนกันออกทีวีพูดถึงการใส่บาตรว่า
การใส่บาตรผู้ใส่บาตรไม่จำเป็นต้องถอดรองเท้า เพราะการถอดรองเท้าท่านถือว่าผู้นั้นแต่งกายไม่สุภาพ ไม่ให้ความ
เคารพ ท่านไม่ถือว่าผู้ใส่รองเท้าอยู่สูงกว่าท่าน

คุณหลวง

อ้างจาก: ไก่ฟักด้าม เมื่อ 00:06 น.  11 ต.ค 55
น้อมรับคำวิจารณ์ก็แล้วกันครับ
ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

     สวัสดีครับท่านพี่ไก่ฟักด้าม

    ก่อนอื่นผมต้องขอคารวะท่านพี่หนึ่งจอกด้วยความจริงใจ เพราะโดยส่วนตัวแม้ว่าผมจะเป็นคนตอบเอง ผมก็ยังคิดว่าหากผมเป็นท่านพี่ ผมจะต้องตอบไอ้คุณหลวงให้หนักสักหน่อยในฐานที่มันค้านแบบไม่กระจ่างแถมยังมาว่ากันอีก

    ด้วยความเคารพครับ ผมก็ตอบไปตามความรู้ที่มีไม่มากนักของผม หวังว่าจะเป็นการเปิดหัวข้อการแลกเปลี่ยนที่ยิ่งๆขึ้นไป เพราะเราไม่ได้เข้ามาเพื่อการเอาชนะ แต่เราต้องการความรู้ความเห็นที่น่าจะดีที่สุดออกมาจากการแบ่งปันกันของทุกๆคน เมื่อตอบท่านพี่ไป ผมก็ยังคิดว่าผมตอบแบบขาดๆไปสักหน่อย อันนี้ ต้องขอโทษด้วยครับ บางทีอยากตอบละเอียดๆแต่ลูกอ่อนน่ะครับ ลูกร้องขึ้นมาก็ต้อง พอก่อนล่ะกัน ๕๕๕(หัวเราะเป็นภาษาไทย)

    และผมเองก็ออกจะมองมุมเดียวมากไปหน่อย ทั้งยังมองสิ่งที่พี่เขียนผิดแง่ที่พี่ต้องการสื่ออยู่พอสมควร มันเลยกลายเป็นเรื่องต่างประเด็นไปเสีย ขอบคุณน้ำใจท่านพี่ที่ไม่มุ่งชนะ แต่พี่กลับชนะใจตนเองได้อย่างน่าชื่นชม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่กิมหยงจะมีนักการศึกษาเช่นท่านพี่มาให้และแลกเปลี่ยนความรู้กันต่อไป

    กลับมาว่าเรื่องในกระทู้กันต่อไป เมื่อกลับมาคิดๆอีกทีหนึ่ง อินเดียนั้นให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณเป็นอย่างมากมาแต่โบราณ ดังนั้น จึงมีนักบวชมากมายหลากหลายลัทธิ และผู้แสวงหาอิสระอีกมากมาย ซึ่งผู้คนจะให้การเคารพนับถือยิ่ง สังเกตจากประวัติของพระพาหิยะ ซึ่งเป็นคนเรือแตก น้ำซัดมาติดฝั่งด้วยสภาพเปลือยเปล่า ผู้คนมาเห็นคิดว่านักบวช คิดว่าพระอรหันต์จึงพร้อมกันถวายอาหาร ที่อยู่ และการสักการะเป็นอย่างดี จากเริ่มสมอ้างเพราะหิวก็กลายเป็นความหลงผิดไปจริงๆของท่าน ต่อมาเมื่อได้สำนึกและไปหาพระพุทธองค์นั่นแหละ ท่านจึงได้ชื่อว่าผู้บรรลุธรรมเร็วที่สุดด้วยคาถาสั้นๆ

    แต่ทีนี้ นักบวชจะมีสองประเภท คือประเภทที่มีที่อยู่ประจำ กับที่จรไปเรื่อยๆ ประเภทจรไปเรื่อยๆนี่เอง บางครั้งการรับอาหารจึงเป็นข้าวแกงที่เหลือจากการกินแล้วของชาวบ้าน แต่เหลือในที่สมควรเช่น ข้าวในหม้อ แกงในหม้อ (มิใช่ข้าวแกงเหลือในจานกินอย่างที่ผมเข้าใจ แห่ะๆๆๆสำนึกผิดแล้วค้าบบบ)

    เรื่องนี้ จึงทำให้ผมนึกถึงพี่คนหนึ่งซึ่งอยู่ในที่กันดารยิ่งกว่าผมเสียอีก เล่าว่ามีพระธุดงค์มาบิณฑบาตตอนเก้าโมงกว่า พี่แกว่า"ผมกับครอบครัวกินแล้ว มีแต่ข้าวเหลือในหม้อจะถวายได้หรือ" พระท่านตอบว่าได้ เพราะมิใช่เหลือจากการกิน

    ภิกษุสมัยนั้นส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้ คือไม่อยู่ที่ แม้อยู่ที่ก็บิณฑบาตไม่เป็นเวลา ดังนั้นการได้ข้าวเหลือก็คงจะไม่แปลก

    ขอบคุณน้ำใจของท่านพี่ ที่ทำให้ผมได้คิดครับ ขอบคุณจริงๆ

สะบายดี...
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

คุณหลวง

อ้างจาก: คนพุทธ เมื่อ 20:28 น.  12 ต.ค 55
เคยดูรายการทีวีหลายเดือนแล้วจำช่องไม่ได้ มีเจ้าอาวาสวัดไหนก็จำไม่ได้เหมือนกันออกทีวีพูดถึงการใส่บาตรว่า
การใส่บาตรผู้ใส่บาตรไม่จำเป็นต้องถอดรองเท้า เพราะการถอดรองเท้าท่านถือว่าผู้นั้นแต่งกายไม่สุภาพ ไม่ให้ความ
เคารพ ท่านไม่ถือว่าผู้ใส่รองเท้าอยู่สูงกว่าท่าน

    เป็นความเห็นส่วนตัวกระมังครับ ท่านอาจจะเกิดในยุควัฒนธัมม์
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

ฅนหลง

...




....ถ้าเห็นชื่อคุณหลวง ต้องไปอ่านทุกที่...



ทำให้ผมคิดอะไรได้หลายเรื่อง หลายอย่างเหมือนกัน ส.ก๊ากๆ ส.ยกน้ิวให้ ส.โบยบิน