ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อาหารที่กินบ่อยๆ อาจทำให้คุณเดี้ยงได้ง่ายๆ

เริ่มโดย bandname_11, 09:55 น. 18 เม.ย 55

bandname_11

 ส.โอ้โห ส.โอ้โห ส.โอ้โห  อาหารที่กินบ่อยๆ อาจทำให้คุณเดี้ยงได้ง่ายๆ  ส.โอ้โห ส.โอ้โห ส.โอ้โห

                     [attach=1]

สถาบันวิทยาศาสตร์ The Center for Science in the Public Interest แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับอาหารที่ประชาชนนิยมรับประทาน ว่าอาหารใดบ้างที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อปนเปื้อน และทำให้เกิดความเจ็บป่วยได้ง่าย โอกาสนี้ เราจึงคัดมาเฉพาะอาหารที่บ้านเราก็ฮิตกิน โดยหารู้ไม่ว่ามักมีสารปนเปื้อนซึ่งก่อให้เกิดภัยต่อสุขภาพได้

   
       ไข่ดิบ
       
       อาหารยอดฮิตอย่าง "ไข่" ถูกระบุว่า มีส่วนเชื่อมโยงกับการเกิดโรคระบาดว่า 352 ครั้ง ตั้งแต่ปีคศ.1990 โดยส่วนใหญ่พบว่า ไข่ดิบมักปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา (Salmonella) ที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ร่วมกับท้องเสีย
       
       แต่เชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลาที่แฝงอยู่ในไข่ดิบ ก็สามารถทำลายได้ด้วยความร้อน ดังนั้นการต้มหรือปรุงให้สุก รวมถึงหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไข่ดิบ จึงเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้คุณห่างไกลจากเชื้อโรคดังกล่าว
       
       "ในทุกๆ 3-4 พันคน จะมี 1 คนที่ป่วยด้วยเชื้อซัลโมเนลลาจากการรับประทานไข่ดิบ" ศาสตราจารย์ Craig Hedberg แห่งมหาวิทยาลัย University of Minnesota School of Public Health ระบุ



         
               [attach=2]

ปลาทูน่า
       
       หากปลาทูน่าสดถูกเก็บเอาไว้ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส เนื้อปลาจะเกิดสารพิษสคอมโบรท็อกซิน (Scombrotoxin) หรือฮิสตามีน (antihistamine) ที่เป็นสารพิษซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในลักษณะต่างๆ เช่น ผื่นคัน, คลื่นไส้, อาเจียน, และท้องเสีย
       
       ทั้งนี้มีการระบุว่าปลาทูน่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเกิดโรคระบาด อันเกิดจากสารสคอมโบรท็อกซินมาตั้งแต่ปีคศ.1990
       
       "สคอมโบรท็อกซินเป็นสารพิษที่ทนความร้อนได้ อาหารที่มีสารพิษดังกล่าวอยู่จะดูได้ค่อนข้างยาก เพราะกลิ่นและรสชาติอาหารจะไม่แปลกไปจากปกติ และแม้ว่าตัวเชื้อแบคทีเรียที่สร้างสารพิษสคอมโบรท็อกซินจะถูกทำลายได้ด้วยความร้อน แต่สารพิษที่เกิดขึ้นในอาหารแล้วจะยังคงอยู่ ดังนั้นต่อให้ปรุงทูน่าจนสุก ก็ไม่สามารถทำลายสารพิษสคอมโบรท็อกซินนี้ได้" Sarah Klein คณะทำงานด้านอาหารปลอดภัยของสถาบัน The Center for Science in the Public Interest ให้ข้อมูล



                  [attach=3]

หอยนางรม
       
       ก่อนจะนำมาเสิร์ฟเป็นอาหารอันโอชะของคุณ เจ้าหอยนางรมต้องอยู่ในมหาสมุทร ซึ่งคุณก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า กว่าหอยนางรมตัวนั้นจะมาถึงปากคุณ มันเกิดการปนเปื้อนในทะเลหรือระหว่างขนส่ง..มามากน้อยเพียงใด
       
       การรับประทานหอยนางรมดิบ หรือหอยนางรมที่ปรุงไม่สุกเต็มที่ มีความเสี่ยงที่คุณอาจได้รับเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อในกระเพาะอาหาร จนมีอาการท้องร่วง อาเจียนและปวดท้องอย่างรุนแรง รวมถึงยังอาจได้รับเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มวิบริโอ (Vibriosis) ที่สามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียได้อีกด้วย


                  [attach=4]


ไอศกรีม
       
       ไอศกรีมหวานเย็นเจี๊ยบชื่นใจ ของโปรดของหลายต่อหลายคน ถูกสถาบันวิทยาศาสตร์ The Center for Science in the Public Interest ระบุว่า เป็นตัวการก่อให้เกิดการระบาดของโรคถีง 75 ครั้ง (ตั้งแต่ปีคศ.1990) โดยมีการพบว่า ไอศกรีมมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียอย่าง ซัลโมเนลลา และ สแตฟฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus)
       
       การระบาดของโรคติดเชื้อครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในปีคศ.1994 เมื่อวัตถุดิบที่ใช้ผลิตไอศกรีมถูกขนส่งมากับรถบรรทุกที่ปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลลา และเมื่อวัตถุดิบดังกล่าวนำไปผลิตเป็นไอศกรีม เชื้อโรคจึงแพร่ระบาดไปยังผู้บริโภคไอศกรีมในที่สุด
       
       ศาสตราจารย์ Craig Hedberg อธิบายว่า การปนเปื้อนในไอศกรีม เกิดจากการนำวัตถุดิบที่ไม่สะอาดมาผลิต และการทำไอศกรีมทานเองด้วยการใช้วัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไข่ดิบ ก็มีความเสี่ยง
       
       "คนที่ทำไอศกรีมทานเองที่บ้าน โดยใช้ไข่ดิบ ถือเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เพราะนั่นอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนขึ้นได้"


           [attach=5]

มะเขือเทศ
       
       แม้ว่าในปีคศ.2008 ในช่วงที่โรคระบาดจากผักได้แพร่กระจายไปหลายประเทศ จนทำให้มีผู้ป่วยนับพันนั้น "มะเขือเทศ" จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง (ครั้งนั้นมีการค้นพบว่า ผู้คนติดเชื้อมาจาก "พริก")
       
      ทว่าหน้าร้อนแบบนี้ ก็ถือเป็นช่วงสำคัญ ที่โรคระบาดจากผักจะกลับมาเยือน
       
      "ผักกาดหอมและมะเขือเทศมีโอกาสเกิดการปนเปื้อนได้สูง แต่คุณก็สามารถป้องกันเชื้อโรคที่ติดมาจากผัก ไม่ให้แพร่พันธุ์ หรือมาทำร้ายคุณได้" ศาสตราจารย์ Craig Hedberg กล่าว พร้อมให้คำแนะนำการป้องกันเชื้อโรคจากผักมาว่า
       
      - ควรล้างมือเป็นเวลา 20 วินาที ด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ทั้งก่อนและหลังหยิบจับผักผลไม้สด
       
      - พยายามล้างผักให้สะอาดก่อนรับประทาน รวมถึงหากเป็นไปได้ก็ควรที่จะปอกเปลือกผักผลไม้ก่อนรับประทาน
       
      - ควรแยกเก็บผักผลไม้ดิบ ไม่ให้ปนกับอาหารชนิดอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากพืชผักแพร่กระจายไปสู่อาหารชนิดอื่น
       





             >>>>ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.khanpak.com<<<<

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ซุปเปอร์ฮีโร่


violinpipo