ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มารู้จักโรค ความดัีนที่ มีโอกาศเป็นสูงเมือมีอายุเกิน 30 ปี

เริ่มโดย ่ำpapigga, 15:05 น. 24 พ.ค 55

่ำpapigga


สาเหตุของความดันโลหิตสูง อาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่

   
1.
พวกที่หาสาเหตุได้ เช่น จากโรคไตอักเสบ เส้นเลือดแดงตีบ พิษแห่งครรภ์ เป็นต้น
   
2.
พวกที่หาสาเหตุไม่พบ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงส่วนมากมักจะเป็นชนิดนี้
บุคคลประเภทใดที่มักจะเป็นความดันโลหิตสูง

   
1.
ส่วนมากมักพบได้ในผู้สูงอายุโดยเฉพาะอายุตั้งแต่ 40-50 ปีขึ้นไป
   
2.
พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวัยหมดประจำเดือนพบได้บ่อย
   
3.
พบมากในคนอ้วน แต่คนผอมก็พบบ้างเหมือนกัน
   
4.
อาจเนื่องจากกรรมพันธุ์ประมาณ 30-40 %
   
5.
ในบุคคลที่มีอารมณ์รุนแรง เคร่งเครียด ตื่นเต้น ตกใจง่าย ดีใจง่าย เสียใจง่าย อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจจะกระตุ้นให้ความดันโลหิต สูงขึ้นชั่วคราวในตอนแรก แล้วจะค่อยลดลงเอง แต่ถ้าเกิดบ่อยและนานเข้า ความดันโลหิตก็จะสูงอย่างถาวร ซึ่งถ้าสูงมากก็เป็นอันตรายได้
อาการ

ผู้ป่วยด้วยความดันโลหิตสูงระยะเริ่มแรก ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการอาจตรวจพบ โดยการตรวจเช็คสุขภาพประจำปี หรือเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น แล้วแพทย์วัดความดันของเลือดพบว่าผิดปกติ สำหรับที่รายมีอาการจะมีอาการมึนงง ตาพร่ามัว ปวดศรีษะตรงท้ายทอย มักจะปวดตอนตื่นนอน เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย บางรายเลือดกำเดาออกบ่อยๆ อาการดังกล่าว อาจเกิดจากโรคอื่นได้อีกหลายโรค และที่สำคัญที่สุดความดันโลหิตสูง บางรายอาจไม่มีอาการใดเลยก็ได้ นอกจากตรวจวัดด้วยเครื่องมือแพทย์จึงจะทราบ ฉะนั้น ถ้าท่านสงสัยว่าเป็นโรคนี้ หรือท่านที่มีอายุเกิน 35 ปี ควรตรวจวัดความดันโลหิต อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง

การปฏิบัติตัว

ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ เพื่อรักษาให้ความดันเลือด ลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หัวใจโต หรือการไหลเวียนของเลือดในไตลดลง หลอดเลือดในสมองแข็งและเปราะ ฯลฯ การรักษาความดันโลหิตสูง ต้องเป็นการรักษาของแพทย์ ที่จะตรวจและให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัว การใช้ยา แต่ผู้ป่วยก็ต้องปฏิบัติตัว เพื่อช่วยให้ความดันโลหิตลดลงได้ง่ายขึ้น คือ
   
1.
การพักผ่อนต้องพักผ่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจ พยายามควบคุมอารมณ์และจิตใจไม่ให้ตึงเครียด ขุ่นมัวและวู่วาม
   
2.
คนอ้วนต้องลดน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
   
3.
ระวัง อย่าให้หกล้ม หรือศีรษะ กระทบกระแทก เพราะอาจจะทำให้หลอดเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตได้
   
4.
ไม่ควรวิตกกังวลหรือให้ความสำคัญ กับระดับความดันโลหิตที่วัดไว้แต่ละครั้ง ความดันโลหิตในบุคคลเดียวกัน เปลี่ยนแปลงได้เสมอตามภาวะแวดล้อมต่างๆ ในแต่ละวัน ควรให้แพทย์เป็นผู้ตัดสินว่า ระดับความดันโลหิตที่เปลี่ยนแปลง มีความสำคัญอย่างไรหรือไม่
   
5.
ต้องควบคุมอาหาร
อาหารสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง

   
1.
หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เพราะเกลือทำให้ความตึงตัว ของผนังหลอดโลหิตแดงเพิ่มขึ้น ทำให้ความดันเลือด Diastolic สูงขึ้น
   
2.
อาหารพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ด ซึ่งเป็นอาหารพวกโปรตีน ถ้าไตทำหน้าที่ได้ตามปกติ ก็ไม่ต้องลดลง แต่ถ้ามีอาการทางไตแทรกซ้อน ต้องลดโปรตีน
   
3.
อาหารไขมันอยู่ระดับกลาง ค่อนข้างต่ำ ควรหลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์และพวกกะทิ
   
4.
อาหารหวานจัด เช่น ขนมหวานทุกชนิด พยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะจะทำให้น้ำหนักตัว และระดับไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น
   
5.
เครื่องดื่มต่างๆ เช่น ชา กาแฟ ซึ่งมีสารคาฟอีนสูง กระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น สูบฉีดโลหิตแรงขึ้น เป็นอันตรายสำหรับผู้มีความดันโลหิตสูง
   
6.
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว การไหลเวียนของโลหิตเร็วและแรงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนัก และแรงโลหิตจะพุ่งสูงขึ้น นับว่าเป็นอันตรายยิ่ง ควรงดเด็ดขาด และงดสูบบุหรี่
สรุป

การจัดอาหาร สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ถ้ามีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ จะต้องลดลงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ ก็ต้องระวังไม่ให้เพิ่มมากขึ้น ควรรับประทานอาหารที่มีแรงงานต่ำ ไม่มีไขมันและแป้ง น้ำตาลมากรส อาหารค่อนข้างจืด จะเติมเกลือ ซอส น้ำปลาได้บ้าง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัดทุกชนิด รวมทั้งอาหารที่เก็บถนอม โดยการใช้เกลือ เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม ผักดองเค็ม หมูแฮม เบคอน และขนมปังเค็มชนิดต่างๆ

http://yourslym.wordpress.com/

ผู้เฒ่าเต่า

 ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้  สาระดีมากครับละเอียดดีด้วยกำลังหาข้อมูลเหมือนกัน ขอบคุณครับ  ส.กลิ้ง ส.กลิ้ง
อย่าใช้ภาษาผิด ๆ สะกดผิด ๆ เดี๋ยวภาษาที่ ปู่ ย่า ตา ยาย ใช้กันมานมนานจะวิบัติไปกันหมด   
              พลังคลื่นเต่า..........ปู๊ด !!!!!!



นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: ่ำpapigga เมื่อ 15:05 น.  24 พ.ค 55
สาเหตุของความดันโลหิตสูง อาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่

   
1.
พวกที่หาสาเหตุได้ เช่น จากโรคไตอักเสบ เส้นเลือดแดงตีบ พิษแห่งครรภ์ เป็นต้น
   
2.
พวกที่หาสาเหตุไม่พบ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงส่วนมากมักจะเป็นชนิดนี้
บุคคลประเภทใดที่มักจะเป็นความดันโลหิตสูง

   
1.
ส่วนมากมักพบได้ในผู้สูงอายุโดยเฉพาะอายุตั้งแต่ 40-50 ปีขึ้นไป
   
2.
พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวัยหมดประจำเดือนพบได้บ่อย
   
3.
พบมากในคนอ้วน แต่คนผอมก็พบบ้างเหมือนกัน
   
4.
อาจเนื่องจากกรรมพันธุ์ประมาณ 30-40 %
   
5.
ในบุคคลที่มีอารมณ์รุนแรง เคร่งเครียด ตื่นเต้น ตกใจง่าย ดีใจง่าย เสียใจง่าย อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจจะกระตุ้นให้ความดันโลหิต สูงขึ้นชั่วคราวในตอนแรก แล้วจะค่อยลดลงเอง แต่ถ้าเกิดบ่อยและนานเข้า ความดันโลหิตก็จะสูงอย่างถาวร ซึ่งถ้าสูงมากก็เป็นอันตรายได้
อาการ

ผู้ป่วยด้วยความดันโลหิตสูงระยะเริ่มแรก ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการอาจตรวจพบ โดยการตรวจเช็คสุขภาพประจำปี หรือเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น แล้วแพทย์วัดความดันของเลือดพบว่าผิดปกติ สำหรับที่รายมีอาการจะมีอาการมึนงง ตาพร่ามัว ปวดศรีษะตรงท้ายทอย มักจะปวดตอนตื่นนอน เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย บางรายเลือดกำเดาออกบ่อยๆ อาการดังกล่าว อาจเกิดจากโรคอื่นได้อีกหลายโรค และที่สำคัญที่สุดความดันโลหิตสูง บางรายอาจไม่มีอาการใดเลยก็ได้ นอกจากตรวจวัดด้วยเครื่องมือแพทย์จึงจะทราบ ฉะนั้น ถ้าท่านสงสัยว่าเป็นโรคนี้ หรือท่านที่มีอายุเกิน 35 ปี ควรตรวจวัดความดันโลหิต อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง

การปฏิบัติตัว

ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ เพื่อรักษาให้ความดันเลือด ลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หัวใจโต หรือการไหลเวียนของเลือดในไตลดลง หลอดเลือดในสมองแข็งและเปราะ ฯลฯ การรักษาความดันโลหิตสูง ต้องเป็นการรักษาของแพทย์ ที่จะตรวจและให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัว การใช้ยา แต่ผู้ป่วยก็ต้องปฏิบัติตัว เพื่อช่วยให้ความดันโลหิตลดลงได้ง่ายขึ้น คือ
   
1.
การพักผ่อนต้องพักผ่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจ พยายามควบคุมอารมณ์และจิตใจไม่ให้ตึงเครียด ขุ่นมัวและวู่วาม
   
2.
คนอ้วนต้องลดน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
   
3.
ระวัง อย่าให้หกล้ม หรือศีรษะ กระทบกระแทก เพราะอาจจะทำให้หลอดเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตได้
   
4.
ไม่ควรวิตกกังวลหรือให้ความสำคัญ กับระดับความดันโลหิตที่วัดไว้แต่ละครั้ง ความดันโลหิตในบุคคลเดียวกัน เปลี่ยนแปลงได้เสมอตามภาวะแวดล้อมต่างๆ ในแต่ละวัน ควรให้แพทย์เป็นผู้ตัดสินว่า ระดับความดันโลหิตที่เปลี่ยนแปลง มีความสำคัญอย่างไรหรือไม่
   
5.
ต้องควบคุมอาหาร
อาหารสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง

   
1.
หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เพราะเกลือทำให้ความตึงตัว ของผนังหลอดโลหิตแดงเพิ่มขึ้น ทำให้ความดันเลือด Diastolic สูงขึ้น
   
2.
อาหารพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ด ซึ่งเป็นอาหารพวกโปรตีน ถ้าไตทำหน้าที่ได้ตามปกติ ก็ไม่ต้องลดลง แต่ถ้ามีอาการทางไตแทรกซ้อน ต้องลดโปรตีน
   
3.
อาหารไขมันอยู่ระดับกลาง ค่อนข้างต่ำ ควรหลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์และพวกกะทิ
   
4.
อาหารหวานจัด เช่น ขนมหวานทุกชนิด พยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะจะทำให้น้ำหนักตัว และระดับไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น
   
5.
เครื่องดื่มต่างๆ เช่น ชา กาแฟ ซึ่งมีสารคาฟอีนสูง กระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น สูบฉีดโลหิตแรงขึ้น เป็นอันตรายสำหรับผู้มีความดันโลหิตสูง
   
6.
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว การไหลเวียนของโลหิตเร็วและแรงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนัก และแรงโลหิตจะพุ่งสูงขึ้น นับว่าเป็นอันตรายยิ่ง ควรงดเด็ดขาด และงดสูบบุหรี่
สรุป

การจัดอาหาร สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ถ้ามีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ จะต้องลดลงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ ก็ต้องระวังไม่ให้เพิ่มมากขึ้น ควรรับประทานอาหารที่มีแรงงานต่ำ ไม่มีไขมันและแป้ง น้ำตาลมากรส อาหารค่อนข้างจืด จะเติมเกลือ ซอส น้ำปลาได้บ้าง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัดทุกชนิด รวมทั้งอาหารที่เก็บถนอม โดยการใช้เกลือ เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม ผักดองเค็ม หมูแฮม เบคอน และขนมปังเค็มชนิดต่างๆ

http://yourslym.wordpress.com/
ส.ยกน้ิวให้ ส.สู้ๆ ส-เหอเหอ
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

จุ้นจัง

กินไข่ดิบดองนำ้ส้มสายชูหมักตะ หายแน่นอน เข้าไปกูลเกิ้ล พิมพ์เลย ดูวิธีทำหายเลยครับ