ขนมจีนหาดใหญ่ขายดีทุกร้าน

[คนเมืองอื่น]

คนหาดใหญ่นิยมกินขนมจีนกันเยอะจริงๆ แน่นทุกร้าน ขนาดร้านติดกันยังขายดีทั้งคู่ เออลี่แล้วจะลงสนามประลองฝีมือดูบ้าง ของเรามีน้ำยาอีกหลายสูตรที่อยากให้คนหาดใหญ่ลอง

[susuperlove]

แน่นอน
จน ไม่รู้จะกินไร
หวังพึ่งผักกับน้ำลูบท้อง
เพราะมันคล้ายบุฟเฟต์ผัก

[ตั้งต้น]

กลางวันขายหนมจีนหวา 555+

[Kungd4d]

  กินขนมจีนก็ดีนะได้กินผักเยอะๆดี 

[นายไข่นุ้ย]

กินขนมจีนก็ดีนะได้กินผักเยอะๆดี 

ระวังเวลากิน น้ำแกงติดแก้มนะ ซู๊ดๆ ส.ก๊าก

[ช่างกั้ง]

(ผมทำงานกองโภชนาการฯ)กินขนมจีนได้กินผักเยอะๆ ถูกต้องนะคร้าบบบ แต่ขอบอกให้เป็นวิทยาทาน
1.เส้นขนมจีนของโรงงานหลายแห่ง กว่าจะได้เข้าปากผู้บริโภคต้องเดินทางนานมาก
เริ่มจากเอาข้าวสารแช่น้ำ
โม่ให้เป็นน้ำแป้ง
ทำให้แห้ง
นวดให้เหนียว
รีดเป็นเส้น
ต้มให้สุก
(ขั้นตอนนี้อันตราย)แล้วแช่ในน้ำเย็น หลายแห่งใช้น้ำไม่สะอาด เป็นที่สะสมเชื้อโรค แล้วใช้มือหยิบเป็นจับบรรจุพร้อมส่ง
กว่าจะได้ออกจากโรงานไม่รู้กี่ชั่่วโมง? แล้วไปตั้งรอให้คนมาซื้ออีกกี่ชั่่วโมง?
เท่าที่สุ่มสำรวจมาเจอแบคทีเรียเกือบทุกร้าน กินวันนี้ไม่เป็นไรหรอกครับ สำหรับคนที่ไม่มีภูมิต้านทาน อาทิตย์หน้าหรือเดือนหน้าอาจจะแผลงฤทธิ์เป็นโน่นเป็นนี่ แต่หาสาเหตุไม่เจอ เพราะวันๆกินสารพัดจำไม่หมด
2.ผักสด นี่ก็สุ่มสำรวจเจอเชื้อสารพัดเกือบทุกร้าน ล้างไม่สะอาดก็เป็นได้ กว่าจะเข้าปากเราไม่รู้ผ่านมือใครต่อใครมาเยอะแยะ มีสักกี่ร้านที่"ใจป้ำ"เอาไปล้างฆ่าเชื้อโรคให้ใหม่ เสียเวลา ยิ่งร้านขายดีอย่าหวังว่าเขาจะมีน้ำใจ เอ๊ยจะมีเวลาทำเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี เอาเวลาไปโกยเงินไม่ดีกว่าหรือ?
ยอมรับว่าคนไทยกินง่าย ไม่เรื่องมาก และพร้อมจะจ่าย(ค่ารักษา)ง่ายๆ
ถึงมือหมอแล้วนี่หว่า เท่าไหร่ก็ต้องจ่าย ใช่มะ?

[นายไข่นุ้ย]

(ผมทำงานกองโภชนาการฯ)กินขนมจีนได้กินผักเยอะๆ ถูกต้องนะคร้าบบบ แต่ขอบอกให้เป็นวิทยาทาน
1.เส้นขนมจีนของโรงงานหลายแห่ง กว่าจะได้เข้าปากผู้บริโภคต้องเดินทางนานมาก
เริ่มจากเอาข้าวสารแช่น้ำ
โม่ให้เป็นน้ำแป้ง
ทำให้แห้ง
นวดให้เหนียว
รีดเป็นเส้น
ต้มให้สุก
(ขั้นตอนนี้อันตราย)แล้วแช่ในน้ำเย็น หลายแห่งใช้น้ำไม่สะอาด เป็นที่สะสมเชื้อโรค แล้วใช้มือหยิบเป็นจับบรรจุพร้อมส่ง
กว่าจะได้ออกจากโรงานไม่รู้กี่ชั่่วโมง? แล้วไปตั้งรอให้คนมาซื้ออีกกี่ชั่่วโมง?
เท่าที่สุ่มสำรวจมาเจอแบคทีเรียเกือบทุกร้าน กินวันนี้ไม่เป็นไรหรอกครับ สำหรับคนที่ไม่มีภูมิต้านทาน อาทิตย์หน้าหรือเดือนหน้าอาจจะแผลงฤทธิ์เป็นโน่นเป็นนี่ แต่หาสาเหตุไม่เจอ เพราะวันๆกินสารพัดจำไม่หมด
2.ผักสด นี่ก็สุ่มสำรวจเจอเชื้อสารพัดเกือบทุกร้าน ล้างไม่สะอาดก็เป็นได้ กว่าจะเข้าปากเราไม่รู้ผ่านมือใครต่อใครมาเยอะแยะ มีสักกี่ร้านที่"ใจป้ำ"เอาไปล้างฆ่าเชื้อโรคให้ใหม่ เสียเวลา ยิ่งร้านขายดีอย่าหวังว่าเขาจะมีน้ำใจ เอ๊ยจะมีเวลาทำเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี เอาเวลาไปโกยเงินไม่ดีกว่าหรือ?
ยอมรับว่าคนไทยกินง่าย ไม่เรื่องมาก และพร้อมจะจ่าย(ค่ารักษา)ง่ายๆ
ถึงมือหมอแล้วนี่หว่า เท่าไหร่ก็ต้องจ่าย ใช่มะ?

อ่าว แบบนี้ก้กินไม่ได้สิ หรือว่ากินยังไง บอกด้วย บอกด้วย อย่าช้า

[นายไข่นุ้ย]

อ่าว แบบนี้ก็กินไม่ได้สิ หรือว่ากินยังไง บอกด้วย บอกด้วย อย่าช้า

[ช่างกั้ง]

กินอาหารให้อร่อยต้องปลอดภัยด้วย ใช่ไหม? แต่คนส่วนใหญ่เห็นเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่เอาดีกว่า เช่นขนมจีน ผมเองก็ช้อป ชอบ แต่วิธีกินของผมเป็นแบบขั้วโลกเหนือ(คนละขั้วกับคนอื่นๆ)ผมจะซื้อกลับบ้าน เส้นขนมจีนเอาไป"นึ่ง"ใหม่ ผักเอาไปล้างใหม่ แค่นี้เอง สำหรับผมและครอบครัวทำจนชินแล้ว คนอื่นๆคงส่ายหน้า ทำไมถึงเรื่องมากขนาดนี้?
ต้องไปถามหมอตามคลีนิคหรือตามโรงบาลเอกชนดีกว่าว่า...ทำไมสถานพยาบาลมีเยอะแยะ แต่คนไข้มีแต่เพิ่มไม่มีลดลงเลย 

[ช่างกั้ง]

และด้วยนิสัยของคนไทยส่วนมาก ไม่รู้จัก"ตัดใจ"หรือระงับใจตัวเองไม่ไหว เห็นสิ่งยั่วยุ(ทุกชนิด)เป็นต้องวิ่งเข้าหา แล้วก็ต้องเจอสิ่งแปลกปลอมทุกที อย่างที่เราเห็นในข่าวแทบทุกวัน คนไทยถูกหลอกเพราะกิเลสตัณหา มีแล้วอยากได้อีก เห็นแล้วอดไม่ไหวต้องกินให้ได้
มันอยู่ที่ใจ

[นายไข่นุ้ย]

และด้วยนิสัยของคนไทยส่วนมาก ไม่รู้จัก"ตัดใจ"หรือระงับใจตัวเองไม่ไหว เห็นสิ่งยั่วยุ(ทุกชนิด)เป็นต้องวิ่งเข้าหา แล้วก็ต้องเจอสิ่งแปลกปลอมทุกที อย่างที่เราเห็นในข่าวแทบทุกวัน คนไทยถูกหลอกเพราะกิเลสตัณหา มีแล้วอยากได้อีก เห็นแล้วอดไม่ไหวต้องกินให้ได้
มันอยู่ที่ใจ

พูดได้ดีครับ เหมือนท่านว่าจริงๆ ต้องระวังมองข้ามไม่ได้ เรื่องเล็กน้อย  แต่บอกอะไรให้อย่างนะ  ผมไม่ชอบกินขนมจีน 555  แต่เป็นความรู้สำหับบุคคลทั่วไปพึงระวัง หากมีเวลาก็ทำเหมือนท่านว่า   คงไม่ต้องถึงกับระแวงจนไม่ต้องกินอะไร จริงแมะ 

[น้ำเน่า]

ผมเคยฝึกทำขนมจีนข้างบ้าน...ไม่เห็นอีมีขั้นตอนอัตตรายอะไรเลย พูดซะ...เวลาเค้าซ็อคน้ำเย็น (คำว่าเย็น) น้ำ มันต้องถูกเปลี่ยนบ่อยๆ ทุกครั้งเสมอ เพราะเส้นเวลามันขึ้นมาจากวิธีการต้มจะร้อนมาก น้ำที่เอามาซ๊อคต้องเปลี่ยนทุกครั้ง เพราะน้ำจะร้อนไปตามเส้นขนมจีน รึไม่จริง.....ส่วนเส้นจะเสียไม่เสีย...ถ้ามีจมูกก็ดมเหมือนกะข้าวนั้นแหละ บูดหรือไม่บูดคงไม่ต้องสอน....มันก็อยู่ได้หลายชั่วโมงแหละเพราะไม่ว่าที่ไหนเค้าก็ใส่สารกันบูดแน่ๆ...ไม่งั้นมันบูดเร็วคับผม

[นายไข่นุ้ย]

ผมเคยฝึกทำขนมจีนข้างบ้าน...ไม่เห็นอีมีขั้นตอนอัตตรายอะไรเลย พูดซะ...เวลาเค้าซ็อคน้ำเย็น (คำว่าเย็น) น้ำ มันต้องถูกเปลี่ยนบ่อยๆ ทุกครั้งเสมอ เพราะเส้นเวลามันขึ้นมาจากวิธีการต้มจะร้อนมาก น้ำที่เอามาซ๊อคต้องเปลี่ยนทุกครั้ง เพราะน้ำจะร้อนไปตามเส้นขนมจีน รึไม่จริง.....ส่วนเส้นจะเสียไม่เสีย...ถ้ามีจมูกก็ดมเหมือนกะข้าวนั้นแหละ บูดหรือไม่บูดคงไม่ต้องสอน....มันก็อยู่ได้หลายชั่วโมงแหละเพราะไม่ว่าที่ไหนเค้าก็ใส่สารกันบูดแน่ๆ...ไม่งั้นมันบูดเร็วคับผม

อีก1ข้อมูล

[ช่างกั้ง]

โรงงานที่เปลี่ยนน้ำเย็นก็มี ไม่เปลี่ยนน้ำเลยก็มี ทิ้งให้เย็นแล้วใ้ช้ต่อก็มี บางโรงงานเอาไปล้างในคลอง เพราะสะดวกของฟรีไม่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ แต่น่ากลัว ส่วนสารกันบูดไม่ต้องพูดถึง เส้นก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ เส้นอะไรก็ใส่ทั้งนั้น แต่เส้นเหล่านี้ต้องลวกก่อนกิน ดีกว่าหน่อย ผิดกับเส้นขนมจีนกินทั้งเย็นๆ บางคนบอกว่าน้ำแกงร้อนๆคงช่วยฆ่าเชื้อโรคได้
มาเตือนเฉยๆ ไม่ต้องเชื่อก็ได้

[นายไข่นุ้ย]

กินอาหารให้อร่อยต้องปลอดภัยด้วย ใช่ไหม? แต่คนส่วนใหญ่เห็นเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่เอาดีกว่า เช่นขนมจีน ผมเองก็ช้อป ชอบ แต่วิธีกินของผมเป็นแบบขั้วโลกเหนือ(คนละขั้วกับคนอื่นๆ)ผมจะซื้อกลับบ้าน เส้นขนมจีนเอาไป"นึ่ง"ใหม่ ผักเอาไปล้างใหม่ แค่นี้เอง สำหรับผมและครอบครัวทำจนชินแล้ว คนอื่นๆคงส่ายหน้า ทำไมถึงเรื่องมากขนาดนี้?
ต้องไปถามหมอตามคลีนิคหรือตามโรงบาลเอกชนดีกว่าว่า...ทำไมสถานพยาบาลมีเยอะแยะ แต่คนไข้มีแต่เพิ่มไม่มีลดลงเลย 

แบบนี้แสดงว่า ท่านไม่สามารถไปนั่งกินข้างนอกได้สิ 

[ช่างกั้ง]

คุณไข่นุ้ยคิดไปไกลมาก ไม่ถึงขนาดนั้น แต่จะเลือกร้านที่ไม่เสี่ยงมาก จะว่าเรื่องมากก็ได้ ตั้งแต่เลิกบุหรี่พ.ศ.2535จนถึงปัจจุบันไม่เคยหาหมอ กินยาแก้ปวดบ้างรวมแล้วไม่เกิน50เม็ด ตอนสูบบุหรี่เป็นหวัดเฉลี่ยเดือนละครั้ง หาหมอบ่อยด้วย นอนเปิดพัดลมก็หายใจขัดๆ ผมว่าเราจ่ายเงินเราน่าจะมีสิทธิ์เลือก ยิ่งของที่ต้องเอาใส่ร่างกายยิ่งสำคัญกว่าเสื้อผ้ารองเท้าหรือเครื่องประดับ
ทางใครทางมันครับ ไม่มีใครหนีความเจ็บป่วยได้ แต่ทุกคนมีสิทธิ์"ชะลอ"ให้มันเกิดขึ้นช้าหน่อยหรือช้าที่สุดได้ครับ ผมคิดแบบนี้

[นายไข่นุ้ย]

คุณไข่นุ้ยคิดไปไกลมาก ไม่ถึงขนาดนั้น แต่จะเลือกร้านที่ไม่เสี่ยงมาก จะว่าเรื่องมากก็ได้ ตั้งแต่เลิกบุหรี่พ.ศ.2535จนถึงปัจจุบันไม่เคยหาหมอ กินยาแก้ปวดบ้างรวมแล้วไม่เกิน50เม็ด ตอนสูบบุหรี่เป็นหวัดเฉลี่ยเดือนละครั้ง หาหมอบ่อยด้วย นอนเปิดพัดลมก็หายใจขัดๆ ผมว่าเราจ่ายเงินเราน่าจะมีสิทธิ์เลือก ยิ่งของที่ต้องเอาใส่ร่างกายยิ่งสำคัญกว่าเสื้อผ้ารองเท้าหรือเครื่องประดับ
ทางใครทางมันครับ ไม่มีใครหนีความเจ็บป่วยได้ แต่ทุกคนมีสิทธิ์"ชะลอ"ให้มันเกิดขึ้นช้าหน่อยหรือช้าที่สุดได้ครับ ผมคิดแบบนี้

ok ครับ