ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บทความ : ข้าวมันไก่แห่งตำนานจาน(กล่อง)ละร้อย ที่ร้านมุ่ยกี่โอชา / หาดใหญ่

เริ่มโดย คุณาพร., 15:03 น. 25 ก.ค 55

คุณาพร.

บทความ  :  ข้าวมันไก่แห่งตำนานจาน(กล่อง)ละร้อย ที่ร้านมุ่ยกี่โอชา / หาดใหญ่

( หมายเหตุ  :  3 ภาพข้างล่างนี่อ้างอิงจากเว็บกิมหยง)





ที่ตั้งร้านข้าวมันไก่มุ่ยกี่โอชา
ร้านมุ่ยกี่โอชา  : 130 ถนนธรรมนูญวิถี ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทรศัพท์ : 074-238-096



บริบทของความเป็นมุ่ยกี่
กินข้าวมันไก่กันตาย..............ร้านไหนก็ได้
กินข้าวมันไก่ให้อิ่ม................ร้านไหนก็ได้
กินข้าวมันไก่ให้ถึงสวรรค์........ต้องที่มุ่ยกี่โอชาเท่านั้น!!!
(วาทะ  :  จากนักชิมข้าวมันไก่ตัวยงท่านหนึ่งในหาดใหญ่ / คุณ น. / นามสมมุติ)




ร้านมุ่ยกี่โอชา  หาดใหญ่  กล่าวขานกันในหมู่นักชิมว่า "ร้านนี้มีข้าวมันไก่ที่อร่อยที่สุดในหาดใหญ่" (บางคนก็ว่าร้านนี้อร่อยที่สุดในประเทศไทย / ความเห็นนักชิมบางท่าน) ร้านมุ่ยกี่โอชา เปิดขายมานานหลายสิบปีแล้วโดยขายทั้งไก่ดำและไก่ขาว (สนนราคาก็แตกต่างกันออกไป ปกติไก่ดำจะแพงกว่าไก่ขาวอยู่พอสมควร) ร้านมุ่งกี่โอชาเป็นร้านเล็กๆหากขับรถมาจากทางหน้าห้างโอเดี้ยนให้เลี้ยวซ้ายไปทางโรงเรียนแสงทองวิทยาร้านข้าวมันไก่ร้านนี้จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือของท่านครับ สังเกตให้ดีครับร้านนี้จะตั้งอยู่ตรงข้ามกับ "บ้านหมอกระสวย" ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็นร้านขายอาหารแทนแล้ว(ถามคนแถวๆนี้ก็รู้) การที่จะมาทานข้าวมันไก่ที่ร้านแห่งนี้ได้นี่ผมต้องเสียเวลาในการจองโต๊ะข้ามวันเลยทีเดียว เพราะที่ร้านมุ่ยกี่โอชาแห่งนี้มีโต๊ะเอาไว้บริการเพียงแค่ไม่ถึง 10 ตัวโดยแต่ล่ะตัวก็จะมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาใช้บริการกันอย่างไม่ขาดสาย(โดยเฉพาะลูกค้าชาวมาเลเซีย) ผมเคยพยายามจะมานั่งทานข้าวมันไก่ที่ร้านแห่งนี้อยู่ 2-3 ครั้งแต่เป็นเพราะลูกค้าแน่นร้านมากเลยจำต้องสั่งไก่ข้าวมันไปทานที่บ้านแทนซึ่งก็เสียเวลาในการรอคอยกว่าครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว และหากใครจะแวะเวียนมาชิมข้าวมันไก่ในเวลาหลังบ่ายโมงไปแล้วนี้ขอบอกว่าคิดผิดถนัดครับ เพราะของร้านนี้มักขายหมดก่อนเวลาบ่ายโมงทุกครั้งไป  เหตุที่ข้าวมันไก่ของที่นี่มีรสชาติอร่อยกว่าที่อื่นนี่อาจจะมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากการเลือกไก่ที่จะนำมาทำไก่ข้าวมัน เพราะเจ้าของร้านที่เป็นหญิงในวัยกลางคน(จำชื่อไม่ได้แล้ว)บอกเคล็ดลับให้ฟังว่า จะต้องเป็นไก่ที่มีขนาดโตได้พอเหมาะพอเจาะ อายุไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไปนัก(คนส่งไก่ให้ทานร้านมุ่ยกี่ จะต้องเลี้ยงไก่ตามที่ทางร้านสั่ง / บ้างก็เล่ากันว่าคนส่งไก่ในหาดใหญ่มักจะมาส่งให้ทางร้านนี้เลือกก่อนร้านอื่นเสมอๆ เพราะได้ราคาขายดีที่สุด) ส่วนน้ำซุปก็ต้องเป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้านที่ถ่ายทอดมาจากเมืองจีนเท่านั้น อย่างนี้นี่เองที่ข้าวมันไก่ของที่นี่จึงมีรสชาติที่หอมมัน บวกกับไก่เนื้อนุ่มรสหวานจึงพาเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทานเสร็จแล้วล้างคอด้วยน้ำซุปกระดูกไก่ต้มกับเครื่องยาจีนแล้วทำให้ชุ่มคอดีแท้



ต้นกำเนิดข้าวมันไก่แห่งตำนานจานละร้อย ที่มุ่ยกี่โอชา 
ไม่ใช่ว่าคุณมีเงิน 100 บาทแล้วคุณเดินเข้าไปซื้อข้าวมันไก่ที่ร้านแห่งนี้แล้วจะกลายเป็นตำนานนะ  ไม่ใช่  อย่าเข้าใจผิด  คำว่า "ตำนาน" ต้องมีอะไรที่มันพิเศษมากกว่าที่ท่านคิดเสมอๆ(เชื่อสิ)

ข้าวมันไก่แห่งตำนานจานละร้อย ที่มุ่ยกี่โอชา  :  เป็นเรื่องเล่าลือกันในหมู่นักชิมข้าวมันไก่สมัยเก่าก่อน ว่าเคยมีลูกค้าสั่งข้าวมันไก่จานละ 100 บาทมาทานกันในร้าน (สมัยเมื่อราว 10-15 ปีก่อน) สมัยนั้นคาดว่าข้าวมันไก่ที่ทางร้านมุ่ยกี่โอชาทำขายลูกค้าอยู่ที่สนนราคาเพียง 20 -30 บาทต่อจาน การที่มีคนสั่งจานละ 100 บาทจนเป็นที่กล่าวขานกันนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ผู้เขียนจึงไปสืบเรื่องจากคุณ ร. ผู้สร้างตำนานในเรื่องดังกล่าวขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน(คุณ ร.  =  ชื่อย่อ / ขอสงวนนามจริง) ซึ่งทางฝ่ายคุณ ร. ก็กรุณาเล่าให้ฟังอย่างไม่มีการปิดบังว่า......สมัยนั้นหาดใหญ่ยังไม่จอแจแออัดดังปัจจุบัน  ร้านอาหารที่เป็นที่นิยมก็ยังจำกัดกันในวงกว้าง  ร้านข้าวมันไก่มุ่ยกี่เองในสมัยนั้นเป็นที่เลื่องลือด้านรสชาติความอร่อย  คุณ ร. และเพื่อนๆ(ที่ทำงานด้วยกัน)อยากที่จะไปลิ้มรสชาติความอร่อยอันเลื่องลือนั้นบ้าง  จึงขับรถเวียน หลายรอบ(จอดรถยากมาก) พอได้ที่จอดรถ(โชคดีมากๆวันนั้นได้จอดรถข้างๆร้าน)เลยลงไปจองโต๊ะ 4 ที่นั่ง  สั่งข้าวมัน-ไก่สับใส่จานแยก ทานกันอย่างเอร็ดอร่อยสมคำเล่าลือ  โดยมีช่วงหนึ่งที่คุณ ร. ต้องการทานข้าวมันไก่ให้อร่อยตามแบบความพอใจของตน  จึงเดินไปสั่งข้าวมันไก่แบบพิเศษ 1 จาน  ยืนชี้ว่าจะเอาส่วนนั้น ส่วนนี้ ส่วนนี้ ส่วนโน่น.....จนภรรยาเจ้าของร้านบอกว่ากลับมาว่า "ไม่สามารถตัดชิ้นเนื้อไก่ได้ตามที่คุณสั่ง  เพราะไก่ต้องสับตามเจ้าของร้านทำ"  เลยเกิดการโต้เถียงเกิดขึ้นแบบเล็กๆ  จนคุณผู้ชายเจ้าของร้าน(ทราบภายหลังว่าเป็นเพื่อนกับคุณ ร. ) บอกกับภรรยาประมาณว่า "ลูกค้าต้องการกินไก่ตรงส่วนไหน เราก็ทำให้ลูกค้าไปตามความพอใจของเขา  เพราะลูกค้าเป็นผู้ยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้ทานในสิ่งที่อร่อยที่สุด"  สรุปว่าคุณ ร. ได้ทานส่วนที่ชอบของไก่ข้าวมันราดข้าว(ข้าวมัน)สมใจ  ตอนคิดราคาเจ้าของร้านคิดจานละ 100 บาท  โดยจากการสอบถามท่านเจ้าของร้านมุ่งกี่โอชา พอทราบว่าตั้งแต่เปิดร้านมุ่ยกี่โอชามาก็มีคุณ ร. นี่แหล่ะที่ทานมื้อหนึ่งแพงกว่าคนอื่นเขา  ซึ่งบางครั้งคุณ ร. อาจให้ลูกๆมาซื้อข้าวมันไก่  ลูกๆก็จะบอกพ่อค้าว่า "ข้าวมันไก่ห่อละ 100 ของคุณ ร. 1 ห่อ"  เป็นที่รู้กันครับ......ว่าต้องตักข้าวขนาดไหน สับไก่ตรงไหนใส่ลงไปเพื่อบริการคุณลูกค้าพิเศษท่านนี้  กลายเป็นเรื่องเล่ากล่าวขาน / ตำนานถึงข้าวมันไก่จานพิเศษสุดอร่อย จานละ 100 บาทตราบปัจจุบัน  อนึ่ง  ยังมีเสียงเล่าลือกันอย่างหนาหูในจังหวัดสงขลาว่า.......ข้าวมันไก่ร้านมุ่ยกี่โอชานี้มีขาประจำคือพลเอก ป.  นามสกุล ต.  ( จริงหรือเปล่านี่? )


บันทึกเมื่อ  :  เที่ยง / วันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2555

วันนี้พอดีมีธุระแถวในเมืองหาดใหญ่นิดหน่อย  เลยมีเวลาเดินเที่ยวหลังงานเสร็จ  มองไปที่นาฬิกาข้อมือ  มันบอกเวลาว่า 12.55 น. (เกือบบ่ายโมงล่ะ) ยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยง  เลยลองไปเสี่ยงดวงนิด เดินไปที่ร้านข้าวมันไก่ชื่อดังของหาดใหญ่ "มุ่ยกี่โอชา" (ที่ตั้งร้านมุ่ยกี่โอชา:  130 ถนนธรรมนูญวิถี ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทรศัพท์ : 074-238-096) ร้านนี้กล่าวขานกันในหมู่คนที่ชื่นชอบข้าวมันไก่แบบตัวจริงเสียงจริง / รักข้าวมันไก่เข้าเส้นเลือด ว่า  " มุ่ยกี่โอชาเป็นร้านขายข้าวมันไก่ที่ทำข้าวมันไก่ได้อร่อยระดับแถวหน้าของประเทศไทย !!! " 

ไม่ได้ทานข้าวมันไก่ที่ร้านนี้นานพอสมควรเพราะเหตุผลเรื่องที่จอดรถ  ไป-มาลำบาก  ไม่ใช่ทางผ่านประจำ  นานๆจึงได้แค่แวะมาชิมเสียครั้งหนึ่ง......เดินมาถึงหน้าร้านประมาณบ่ายโมงพอดี  เฮียมุ่ยกี่กำลังคุยกับลูกค้าคนไทยอยู่อย่างสนุกปาก(คงรู้จักกันมาก่อน)

ผม  :  ข้าวมันไก่พิเศษห่อละ 100 ห่อหนึ่งครับ
เฮียมุ่ยกี่  :  หมดแล้วครับ มาช้าไปแล้วครับท่าน เหลือไก่+ข้าว ทำข้าวมันไก่แบบพิเศษ 60 บาท สำหรับแค่ 1 ห่อครับ
ผม  :  ได้ครับ  งั้นเปลี่ยนเป็นข้าวมันไก่พิเศษ 60 บาท 1 ห่อครับ
เฮียมุ่ยกี่  :  ได้ครับ  ถ้าน้องอยากทานข้าวมันไก่แบบพิเศษสุดของทางร้าน  ราคาห่อละ 100 บาท  แนะนำนะว่าให้มาช่วงสายๆ  9 โมง – 11 โมง  ช่วงนั้นจะมีวัตถุดิบเหลือเฟือ  มาช่วงท้ายๆแบบนี้ไม่มีของแล้วครับ

สรุป  :  ผมได้ข้าวมันไก่แบบพิเศษห่อละ 60 บาทไปทานที่บ้าน และถือเป็นข้าวมันไก่ห่อสุดท้ายของร้านมุ่ยกี่โอชาที่ขายหมดในวันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2555 อีกด้วย ขณะที่ผมกำลังรับของ-จ่ายตังค์ มีลูกค้าอีกราว 4 – 5 คนกำลังจะเข้ามาชิมข้าวมันไก่ของร้านนี้ ซึ่งต่างก็ต้องผิดหวังกันกลับไป วันนี้โชคดีในความโชคร้ายครับ....หวังเอาไว้ว่าจะมาชิมข้าวมันไก่ในตำนานของร้านนี้ซักหน่อย (ห่อละ 100 / เห็นว่าอร่อยมาก) ผิดหวังเพราะของหมด  แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างตรงที่ได้ข้าวมันไก่ห่อสุดท้ายของร้านแห่งนี้กลับไปทานที่บ้าน  คราวหน้าว่ากันใหม่ครับ

ปอลิง.  ไม่ได้ทานข้าวมันไก่ของร้านมุ่ยกี่โอชานานพอสมควร........วันนี้  :  ข้าวก็ยังหอม  นุ่ม  เหมือนเมื่อครั้งนั้นแล  ไก่นุ่มมากกกกก  ไม่มีกลิ่น  หนังไก่ของที่นี่เหนี่ยวนิดๆ เนื้อไก่หวาน....แทบละลายในปาก  ทุกอย่างดีหมดยกเว้นน้ำจิ้มนะเออ  ถ้าเป็นชาวต่างประเทศมาสั่ง.....จะได้น้ำจิ้มแบบเค็มๆ   ถ้าเป็นคนไทยมาสั่ง.....จะได้น้ำจิ้มแบบหวานๆเปรี้ยวๆ(ยังไม่ค่อยลงตัวนะ)   แต่โดยภาพรวมจากการที่ผมมีโอกาสได้ไปชิมข้าวมันไก่จากหลายๆแห่งในประเทศไทย  มุ่ยกี่โอชา คือ ร้านขายข้าวมันไก่ที่อร่อยที่สุดในใจของผม(ความเห็นส่วนบุคคลนะครับ) 




เมื่อกล่องละ 100 แห่งตำนานมาวางอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า !!!  / พุธ 25 กรกฎาคม 2555

ไม่ใช่ว่าจะหาทานกันง่ายๆสำหรับเจ้าข้าวมันไก่แห่งตำนานจาน(กล่อง)ละ 100 ของร้านมุ่ยกี่โอชาแห่งนี้  เพราะเป็นที่เข้าใจกันว่าบริบทของมุ่ยกี่เป็นร้านเล็กๆ ชื่อดัง  ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่  หาที่จอดรถยากมากๆ ที่สำคัญลูกค้าแน่นร้านตลอด  แทบจะไม่มีที่ว่างสำหรับลูกค้าขาจร หากจะซื้อกลับไปทานที่บ้าน ต้องจับบัตรคิว(ในวันที่ลูกค้าเยอะ) บางครั้งรออยู่ราว 40 นาทีกว่าจะได้ของ  บางคนกะจะมาทานมื้อเที่ยงที่ร้านแห่งนี้  เห็นไก่อยู่ในตู้กระจก 3 ตัวว่าได้ทานเป็นแน่  รีบหาที่จอดรถด้วยความดีใจ  สุดท้ายกลับผิดหวังกลับไป  เพราะบางครั้งไก่ในตู้ถูกคุณลูกค้าจองยกแผงเรียบวุธ  เรียกว่ายอมจ่ายเงินจองกันก่อนเป็น 2 – 3 ชั่วโมงล่วงหน้าเพื่อให้ได้กินไก่และข้าวมันไก่ที่ร้านแห่งนี้

ข้าวมันไก่แบบพิเศษสุดยอดของร้านมุ่ยกี่กล่องละ 100 บาทก็เช่นเดียวกัน หากท่านจะทานเป็นกรณีเฉพาะ ท่านต้องมาซื้อในห้วงเวลาระหว่าง 9.00 – 11.30 น. เห็นจะได้ทานกัน เพราะคุณเจ้าของร้าน (เฮียมุ่ยกี่) เคยพูดให้ฟังเอาไว้ว่า "กล่องละ 100 ต้องคัดเฉพาะบางส่วนของไก่มาใส่รวมกันเท่านั้น ถึงจะอร่อยสุดๆ มาเที่ยงคงอดกินเป็นแน่" 

วันนี้ไม่รู้คนที่บ้านคิดยังไงแอบไปทานมุ่ยกี่ที่ร้านตอนสาย  แล้วสั่งเจ้ากล่องละ 100 มาฝากผมที่บ้าน จู่ๆเดินเข้ามาในครัวก็เห็นเจ้ากล่องพิเศษตั้งอยู่บนโต๊ะกินข้าวแล้ว ลาภลอยสิครับงานนี้ ไม่ต้องขับรถเข้าไปในเมือง หาที่จอดให้วุ่นวาย ไม่ต้องออกตังค์ รอทานลูกเดียว  อิอิ  เลยถ่ายรูปมาฝากนักชิมข้าวมันไก่ทั้งในเว็บ Siamsouth และเว็บ Gimyong ให้ได้ยลโฉมเจ้าตำนานกล่องนี้กันครับ  กินเสร็จแล้ว  อิ่มมากมาย  เข้าใจความหมายของคุณ ร. อย่างแจ่มแจ้ง ที่ว่า...............

กินข้าวมันไก่กันตาย..............ร้านไหนก็ได้
กินข้าวมันไก่ให้อิ่ม................ร้านไหนก็ได้
กินข้าวมันไก่ให้ถึงสวรรค์........ต้องที่มุ่ยกี่โอชาเท่านั้น!!!

ปอลิง.  ข้าวมันไก่ฟรีกล่องนี้.....อร่อยที่สุดในสามโลกครับผ๊ม   ฟันธง!!!    ^ _ ^


เครดิต  :  กระทู้นี้สำหรับ........" คนรักข้าวมันไก่ตัวจริง "
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=23560.0;all
































ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.

ตามไปอ่านรวมตำนานร้านข้าวมันไก่อร่อยๆในหาดใหญ่ต่อให้จบ
ลิ้งนี้จ๊ะ  /   กระทู้นี้สำหรับ........" คนรักข้าวมันไก่ตัวจริง "   ส.ยกน้ิวให้

http://gimyong.com/talung/index.php/topic,28748.0.html

****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

ทั่วไป

ผมว่าราคามันแพงไปนะครับ กล่องละ 100 บาทน่ะ น่าจะถูกลงกว่านี้สักหน่อยนะครับ

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: ทั่วไป เมื่อ 10:13 น.  01 ส.ค 55
ผมว่าราคามันแพงไปนะครับ กล่องละ 100 บาทน่ะ น่าจะถูกลงกว่านี้สักหน่อยนะครับ
ใช่ ทำไมถึงได้แพงขนาดนี้   ส.อืม
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

หน้าสวน

เห็นมีสองสาขา...ลูกสาวชอบกิน และกินประจำ ส่วนผมได้แต่นั่งรอคอย (ผมเคยกินร้านเก่า)....แค่เห็นก็งั้นๆไม่มีอะไรสะกดให้ผมต้องลองชิม หรือผมเป็นคนชอบรสจัด....

คุณาพร.

อ้างจาก: ทั่วไป เมื่อ 10:13 น.  01 ส.ค 55
ผมว่าราคามันแพงไปนะครับ กล่องละ 100 บาทน่ะ น่าจะถูกลงกว่านี้สักหน่อยนะครับ

^

^

^

ราคาข้าวมันไก่ปกติของร้านนี้ 40 บาท
ราคาข้าวมันไก่พิเศษของร้านนี้ 50 - 60 บาท

ปอลิง. ราคาจานละ 100 บาทที่ร้านนี้  เป็นเเบบพิเศษสุดเพื่อสนอง "ความอยาก" ให้เเก่คนบางกลุ่มเท่านั้นนะขอรับ  ที่เจ้าของร้านตั้งราคาไว้เเรงๆเเบบนี้มันมีที่มาที่ไปนะครับ(ลองอ่านดูที่หัวข้อข้างบน)  ส-เหอเหอ

****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

Zipporah

อยู่หาดใหญ่มา10ปียังไม่เคยทานเลยค่ะ สงสัยต้องไปลองซะหน่อยแล้ว เอามายั่วซะขนาดนี้... ส.โอ้โห

คนค้าขาย

ร้านนี้เปิดมาหลายสิบปีแล้ว เตี่ยเขากับเตี่ยผมเป็นเพื่อนกัน(ไหหลำด้วยกัน)แต่รุ่นลูกไม่รู้จักกัน เคยฟังจากที่เตี่ยเล่า ข้าวมันไก่ไหหลำ(เกือบ)ทุกคนต้องทำได้ เป็นอาหารประจำบ้านของทุกครัวเรือนที่เป็นชาวเกาะไหหลำ ส่วนสุกี้ไหหลำ,ขนมจีนไหหลำ,โบ้เกี่ยและอีกหลายๆเมนูรวมทั้งข้าวสตูแบบไหหลำเหล่านี้แล้วแต่ว่าเป็นคนตำบลไหนบนเกาะำไหหลำเป็นอาหารเฉพาะถิ่นของเขา แต่ข้าวมันไก่จะทำกินกันทั่วทั้งเกาะและจำเจที่สุด เพราะมีเทศกาลให้ฆ่าไก่บ่อยที่สุด
มุ่ยกี่ที่ดังได้ก็เพราะเขาพิถีพิถันเรื่องไก่ ทุกๆเช้ามืดจะมีคนเอาไก่มาส่งที่หน้าบ้านให้เขาเลือกว่าตัวไหนใช้ได้-ใช้ไม่ได้ ราคาต้องยอมซื้อแพงกว่าแน่นอน นี่คือต้นทุนที่ลูกค้าบางคนไม่เข้าใจ ได้แต่วิจารณ์ว่าโคตรแพง ไก่ทุกตัวเขาต้องลูบๆคลำๆหลายนาที ซื้อหลายตัวก็กินเวลาเป็นชั่วโมง บางรายเอาไก่มาเสนอขาย แต่ขายไม่ได้เลยสักตัวก็บ่อย แต่ก็เข้าใจกัน วันนี้ขายไม่ได้พรุ่งนี้ไปคัดเอาตัวดีๆมาเสนอใหม่ บางคนสงสัยว่าทำไมไม่บอกให้คนเลี้ยงคัดมาให้เลย นี่คือความลับสุดยอดไงครับ?ถ้าบอกให้รู้กันหมดลูกค้ามุ่ยกี่ก็หายไปร้านอื่นแน่นอน โปรดสังเกตุไก่ที่สับ เนื้อจะแน่นแต่นุ่มและหอม ส่วนหนังไก่ถ้าไม่รังเกียจเมื่อเอาเข้าปากจะเคี้ยวกรุบๆสนุกลิ้นเหลือเกิน ส่วนน้ำจิ้มจริงๆแล้วไม่ใช่ของไหหลำแท้ ดั้งเดิมมีแค่ซีอิ๊วดำอย่างเดียวจริงๆ เพิ่งประยุกต์มาไม่ถึง50ปีนี่เอง
สรุปว่ามุ่ยกี่เหนือร้านอื่นตรงเนื้อไก่บ้านนี่เอง ผมกินมาเกือบทุกร้าน รวมทั้งร้านที่ใช้ชื่อมุ่ยกี่สาขาอื่นๆ เนื้อไก่สู้ร้านนี้ไม่ได้จริงๆ
ข่าวว่า"โก๊ะตี๋"กำลังเล็งๆจะมาเปิดสาขาในหาดใหญ่ อาจจะขายดีก็ได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นผู้บ้าเห่อทั้งหลาย

คนค้าขาย

ข้าวมันไก่นอกจากไก่แล้วยังมี"ข้าว"ที่เรียกลูกค้าได้มากหรือน้อย ข้าวของมุ่ยกี่ถือว่าอร่อย ผมให้ได้แค่8เต็ม10 แต่ก็ยังให้มากกว่าทุกๆเจ้าในหาดใหญ่ ข้าวที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีวิตนี้คือร้านข้าวมันไก่หน้าสถานีรถไฟ"ตันหยงมัส" ผมให้9.5เต็ม10 ตอนนี้เลิกขายไปนานแล้ว นี่ก็เพื่อนเตี่ยผม ขนาดที่ว่าข้าราชการทุกระดับที่ต้องมาขึ้นรถไฟที่นี่ต้องให้คนมาจองล่วงหน้า หรือสั่งปิดร้านไม่ต้องขายคนอื่นเพื่อให้พวกเขามากิน คุณนายบางคนลงรถไฟแล้วต้องแวะมาขอแบ่งข้าวเปล่าใส่ห่อกลับบ้านทีละหลายห่อเลยทีเดียว ข้าวร้านนี้หอม นุ่มเหนียวหน่อยๆและมันพอดีๆ ไม่เคยเจอข้าวอร่อยแบบนี้อีกเลยจริงๆ
แม้คนไหหลำรุ่นโน้นจะทำข้าวมันไก่แบบไหหลำเป็นทุกคน หลายๆคนเปิดร้านแต่ใช่ว่าจะอร่อยทุกเจ้า เคล็ดลับไม่เหมือนกันจริงๆ

คุณาพร.


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

Bush

อ้างจาก: คนค้าขาย เมื่อ 15:07 น.  19 ส.ค 55
ร้านนี้เปิดมาหลายสิบปีแล้ว เตี่ยเขากับเตี่ยผมเป็นเพื่อนกัน(ไหหลำด้วยกัน)แต่รุ่นลูกไม่รู้จักกัน เคยฟังจากที่เตี่ยเล่า ข้าวมันไก่ไหหลำ(เกือบ)ทุกคนต้องทำได้ เป็นอาหารประจำบ้านของทุกครัวเรือนที่เป็นชาวเกาะไหหลำ ส่วนสุกี้ไหหลำ,ขนมจีนไหหลำ,โบ้เกี่ยและอีกหลายๆเมนูรวมทั้งข้าวสตูแบบไหหลำเหล่านี้แล้วแต่ว่าเป็นคนตำบลไหนบนเกาะำไหหลำเป็นอาหารเฉพาะถิ่นของเขา แต่ข้าวมันไก่จะทำกินกันทั่วทั้งเกาะและจำเจที่สุด เพราะมีเทศกาลให้ฆ่าไก่บ่อยที่สุด
มุ่ยกี่ที่ดังได้ก็เพราะเขาพิถีพิถันเรื่องไก่ ทุกๆเช้ามืดจะมีคนเอาไก่มาส่งที่หน้าบ้านให้เขาเลือกว่าตัวไหนใช้ได้-ใช้ไม่ได้ ราคาต้องยอมซื้อแพงกว่าแน่นอน นี่คือต้นทุนที่ลูกค้าบางคนไม่เข้าใจ ได้แต่วิจารณ์ว่าโคตรแพง ไก่ทุกตัวเขาต้องลูบๆคลำๆหลายนาที ซื้อหลายตัวก็กินเวลาเป็นชั่วโมง บางรายเอาไก่มาเสนอขาย แต่ขายไม่ได้เลยสักตัวก็บ่อย แต่ก็เข้าใจกัน วันนี้ขายไม่ได้พรุ่งนี้ไปคัดเอาตัวดีๆมาเสนอใหม่ บางคนสงสัยว่าทำไมไม่บอกให้คนเลี้ยงคัดมาให้เลย นี่คือความลับสุดยอดไงครับ?ถ้าบอกให้รู้กันหมดลูกค้ามุ่ยกี่ก็หายไปร้านอื่นแน่นอน โปรดสังเกตุไก่ที่สับ เนื้อจะแน่นแต่นุ่มและหอม ส่วนหนังไก่ถ้าไม่รังเกียจเมื่อเอาเข้าปากจะเคี้ยวกรุบๆสนุกลิ้นเหลือเกิน ส่วนน้ำจิ้มจริงๆแล้วไม่ใช่ของไหหลำแท้ ดั้งเดิมมีแค่ซีอิ๊วดำอย่างเดียวจริงๆ เพิ่งประยุกต์มาไม่ถึง50ปีนี่เอง
สรุปว่ามุ่ยกี่เหนือร้านอื่นตรงเนื้อไก่บ้านนี่เอง ผมกินมาเกือบทุกร้าน รวมทั้งร้านที่ใช้ชื่อมุ่ยกี่สาขาอื่นๆ เนื้อไก่สู้ร้านนี้ไม่ได้จริงๆ
ข่าวว่า"โก๊ะตี๋"กำลังเล็งๆจะมาเปิดสาขาในหาดใหญ่ อาจจะขายดีก็ได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นผู้บ้าเห่อทั้งหลาย

             โบ้เกี่ย แถวนี้หากินที่ไหนได้บ้างครับ  แถวนี้คนไหหลำน้อยคงหายากนะ นึกแล้วอยาก  ส.หัว


หนุ่มหาดใหญ่

นานาจิตแต่ละคน รสชาติปาก ปากใครปากมัน "คงไม่มีอะไรที่อร่อยที่สุด" (ความเห็นผมนะ)
ผมก็เคยกินร้านนี้ 2-3 ครั้ง นานแล้ว รสชาติก็งั๊นๆ แต่ปัจจุบันเวลาจะกินข้าวมันไก่
ผมจะไปกินเจ้าอื่นที่อร่อยกว่าและถูกกว่า.

kooroo

จริงครับ ปากใครก็ปากใคร(ถ้าปากมันแสดงว่ากินข้าวมันไก่มา ส-เหอเหอ)สำหรับคำว่าอร่อยยังแยกย่อยได้อีกหลายทาง
บางคนบอกว่าอร่อยเพราะให้เยอะ
บางคนชอบรสหวาน
บางคนชอบที่มันมัน
บางคนชอบจืด,เค็มหรือเผ็ด ฯลฯ
ใครที่ไปกินอาหารร้านไหนแล้วบอกว่าอร่อยก็อย่าไปตำหนิเขา ทางใครทางมัน
เช่นข้าวมันไก่มุ่ยกี่ มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ หรือข้าวมันไก่ทุ่งลุงบางคนบอกว่า"มันอร่อยตรงไหน?"แต่ก็ยังมีคนอุตส่าห์ตีรถไปกินถึงทุ่งลุง กินเสร็จขับรถกลับก็เยอะ(ผมก็เคย..แฮ่ๆ)
นานาจิตตัง มีตังก็มีกิน ฉันใดก็ฉันนั้น แต่อย่าฉันหลังเพลก็แล้วกัน  ส.อืม ส.อืม ส.อืม

ได้แก้ไขคำผิดให้แล้ว  คำว่า ก็ เขียน ก็ิิ   ขอบคุณมาก


คุณาพร.

  " ในโลกนี้ไม่มีอะไรอร่อยที่สุดสำหรับทุกคนหรอก "  (เชื่อสิ)
 

  นานาจิตตังจ๊ะ........ ส.สู้ๆ ส.อ่านหลังสือ ส.ยกน้ิวให้

****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

แป๊ะหงวน

วันไหนสบายใจกินที่ไหนก็อร่อย วันไหนทะเลาะกับเมียหรือแบงค์ตามทวงหนี้ กินที่ไหนก็ไม่อร่อย เจียะบ่เลาะ แปลว่ากินไม่ลง

moddy

ไก่พอได้ ข้าวไม่ไหวแฉะเกิน
น้ำจิ้มไม่ค่อยรอด น้ำซุบจบ กินไม่กี่ที แม่ยายผมทำ O กว่าเยอะ ส.หลก
ตกลงไก่ ok สุด แต่ผมว่า ข้าวมันไก่ไปกินที่เบตง กินที่ทุ่งลุง หลอยกว่าลุย โดยเฉพาะ ตอนเนือย ส.หลกจริง
ปล. ไหหลำเหมือนกัน มันอยู่ที่ไก่บ้านตอน ครับพี่

เป็นต่อ

         ส.ปิดปากเปิดมาเจอพอดีกระทู้ข้าวมันไก่..เลยหิวขึ้นมาทันใด...ของอร่อยอยู่ที่คนกิน..คนชอบครับ..ไม่ต้องเถียงกัน..      ว่าแล้วก็ไปกินดีกว่าแถว..ตลาดใหม่... มีร้านอร่อยอยู่เหมือนกัน..ที่ลุงแก่ฯขายไปละ.. ส.โบยบิน..
อย่าคิดอะไรมากพรุ้งนี้ก็เช้าแล้ว..?

เด็กป้อมหก(ไม่6)

ลองทำกินเองดูไหมครับ?จริงๆแล้วไม่มีอะไรยุ่งยาก ทุกร้านวัตถุดิบหลักๆเหมือนๆกัน ที่อร่อยไม่เท่ากันเพราะ"ใส่ใจ"ไม่เท่ากันนั่นเอง
มีไก่บ้านก็ใช้ไก่บ้าน ถ้าไม่มีจะลองใช้ไก่เนื้อก่อนก็ได้ (ถ้าทำขายต้องซื้อไก่บ้านมาขุนให้อวบสัก10วัน)ล้างไก่ควักเครื่องในออกแล้วเอาเกลือทาในท้องไก่ให้ทั่ว(อย่าพลาดขั้นตอนนี้)
ตั้งหม้อกะให้น้ำพอท่วมตัวไก่(ยังไม่เปิดแก๊ส) ใส่ตะไคร้สักต้น เกลือนิดหน่อยแล้วเปิดแก๊สเบาๆพอให้น้ำเดือดปุดๆ ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ต้มไปเรื่อยๆใจเย็นๆ คอยดูพอน้ำลดคอยเติมให้ท่วมไก่เหมือนเดิม ต้มนาน30-45นาที แค่พอสุกสัก80%(กระดูกยังมีเลือดซิบๆ)ขั้นตอนนี้ต้องฝึกทำหลายครั้งจึงจะเห็นทางสว่าง
เสร็จแล้วตักไก่ขึ้นใส่ถาดพักไว้้
(ข้าวมันไก่ สมัยก่อนใช้ข้าวขาวเสาไห้ผสมข้าวเหนียวก็เยี่ยมแล้ว)ตั้งกะทะใส่น้ำมันนิดเดียว ใส่ขิงทุบ,กระเทียมทุบ,แล้วผัดให้ออกกลิ่นหอมฉุยแล้วเทใส่หม้อข้าวที่เตรียมข้าวสารไว้แล้ว(จะใส่ข้าวเหนียวปนนิดหน่อยก็ได้)เติมน้ำต้มไก่เท่ากับที่เคยหุงข้าว พอข้าวดีดใส่"ใบเตย"สักใบ2ใบแล้วปิดฝาทิ้งไว้สัก15นาที เอาใบเตยออกแล้วกวนๆๆๆให้ข้าวคลายความร้อนเม็ดจะได้สวยแวววับแต่นุ่มลิ้น
น้ำจิ้ม...ซีอิ๊วขาว,ซีอิ๊วดำ,น้ำตาลทราย,เต้าเจี้ยวสับ(ไม่เอาน้ำ)ซอสมะเขือเทศแบบเผ็ดหรือแบบเปรี้ยวแล้วแต่ชอบ ตั้งไฟพอน้ำตาลทรายละลายยกขึ้นตั้งให้เย็น ใส่พริกสับกระเทียมสับชิมดูตามชอบ สุดท้ายเหยาะ"โชยุ"นิดหน่อย ลองดูนะครับ
น้ำซุป...เอาน้ำไก่ที่เหลือมาตั้งไฟ ใส่ฟักเขียวหรือหัวผักกาดต้มพอเปื่อย จะเติมคะนอร์หรือชูรสก็ตามใจ

เป็นต่อ

อ้างจาก: เด็กป้อมหก(ไม่6) เมื่อ 22:31 น.  21 ส.ค 55
ลองทำกินเองดูไหมครับ?จริงๆแล้วไม่มีอะไรยุ่งยาก ทุกร้านวัตถุดิบหลักๆเหมือนๆกัน ที่อร่อยไม่เท่ากันเพราะ"ใส่ใจ"ไม่เท่ากันนั่นเอง
มีไก่บ้านก็ใช้ไก่บ้าน ถ้าไม่มีจะลองใช้ไก่เนื้อก่อนก็ได้ (ถ้าทำขายต้องซื้อไก่บ้านมาขุนให้อวบสัก10วัน)ล้างไก่ควักเครื่องในออกแล้วเอาเกลือทาในท้องไก่ให้ทั่ว(อย่าพลาดขั้นตอนนี้)
ตั้งหม้อกะให้น้ำพอท่วมตัวไก่(ยังไม่เปิดแก๊ส) ใส่ตะไคร้สักต้น เกลือนิดหน่อยแล้วเปิดแก๊สเบาๆพอให้น้ำเดือดปุดๆ ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ต้มไปเรื่อยๆใจเย็นๆ คอยดูพอน้ำลดคอยเติมให้ท่วมไก่เหมือนเดิม ต้มนาน30-45นาที แค่พอสุกสัก80%(กระดูกยังมีเลือดซิบๆ)ขั้นตอนนี้ต้องฝึกทำหลายครั้งจึงจะเห็นทางสว่าง
เสร็จแล้วตักไก่ขึ้นใส่ถาดพักไว้้
(ข้าวมันไก่ สมัยก่อนใช้ข้าวขาวเสาไห้ผสมข้าวเหนียวก็เยี่ยมแล้ว)ตั้งกะทะใส่น้ำมันนิดเดียว ใส่ขิงทุบ,กระเทียมทุบ,แล้วผัดให้ออกกลิ่นหอมฉุยแล้วเทใส่หม้อข้าวที่เตรียมข้าวสารไว้แล้ว(จะใส่ข้าวเหนียวปนนิดหน่อยก็ได้)เติมน้ำต้มไก่เท่ากับที่เคยหุงข้าว พอข้าวดีดใส่"ใบเตย"สักใบ2ใบแล้วปิดฝาทิ้งไว้สัก15นาที เอาใบเตยออกแล้วกวนๆๆๆให้ข้าวคลายความร้อนเม็ดจะได้สวยแวววับแต่นุ่มลิ้น
น้ำจิ้ม...ซีอิ๊วขาว,ซีอิ๊วดำ,น้ำตาลทราย,เต้าเจี้ยวสับ(ไม่เอาน้ำ)ซอสมะเขือเทศแบบเผ็ดหรือแบบเปรี้ยวแล้วแต่ชอบ ตั้งไฟพอน้ำตาลทรายละลายยกขึ้นตั้งให้เย็น ใส่พริกสับกระเทียมสับชิมดูตามชอบ สุดท้ายเหยาะ"โชยุ"นิดหน่อย ลองดูนะครับ
น้ำซุป...เอาน้ำไก่ที่เหลือมาตั้งไฟ ใส่ฟักเขียวหรือหัวผักกาดต้มพอเปื่อย จะเติมคะนอร์หรือชูรสก็ตามใจ
มีประโยชน์สำหรับสมาชิกมากครับ..นี่มันสูตรใช้ในการขายได้เลยครับ..ขออณุญาตินำไปสอนน้องฯนะครับ..สำหรับผมถ้าว่างจะลองทำสูตรนี้ดู..ถ้าทำแล้วได้ผลยังไงจะมาแจ้งให้ท่านทราบครับ..ขอบคุณครับ... ส.ยกน้ิวให้
อย่าคิดอะไรมากพรุ้งนี้ก็เช้าแล้ว..?

เด็กป้อมหก(ไม่6)

เมื่อสักครู่แว๊บไปอ่านหัวข้อ"หนานหยวน"เปิดสาขาใหม่ มีคนคอมเม้นต์ว่าเคยคิดจะซื้อแฟรนไชส์ของหนานหยวนเหมือนกัน ส่วนผมก็เคยคิดจะเอาแบรนด์ดังจากกทม.ที่ใช้ทุนไม่เยอะมาลงหาดใหญ่ แต่พอได้ศึกษาเรื่องแฟรนไชส์มากเข้าจึงหวนคิดถึงวลีเด็ด"สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ" นั่นคือทำไมเราไม่คิดทำเองจากระดับพื้นๆ เช่นข้าวมันไก่นี่ก็เช่นกัน มีขายมานับร้อยปีแล้วแต่ก็อยู่ยงคงกะพันได้อีกยาวนาน หรือซาลาเปาก็ด้วย มีมานมนานแล้ว และจะยังมีอยู่คู่ประเทศนี้ต่อไปอีกนานเท่านาน ของกินอีกหลายสิบหลายร้อยอย่างที่สามารถนำมาประยุกต์ ดัดแปลงแต่งหน้าตาเสียใหม่ด้วยสายตาก้าวไกล ผมว่ายังพอมีจะให้คัดสรรมาลงทุนได้อีกมากมาย ขอเพียงอย่าท้อ อย่าเพิ่งเลิกคิดถึงสิ่งเหล่านั้น
อย่างข้าวมันไก่นี่สำหรับผมเป็นอาหารพื้นๆเหลือเกิน เป็นอาหารประจำบ้านตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยทำขายเลยแต่ทำแจกตามเทศกาลบ่อย ถ้าคนมีหัวคิดแตกแขนง ลองคิดสูตรน้ำจิ้มแบบใหม่ๆได้อีกเยอะแยะ จะได้เป็นจุดขาย ผมเคยไปกินข้าวมันไก่ที่แปดริ้วใช้"แม่ประนอม"เพียงอย่างเดียว ถามเขาว่าทำไมไม่มีน้ำจิ้มข้าวมันไก่แท้ๆ เจ้าของร้านเว้าซื่อๆ"ทำไม่เป็น"ใช้แม่ประนอมมันนี่แหละง่ายดี คนกินก็ไม่ว่าอะไร?

88