ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บันทึกส่วนตัว : ดูหนังที่หาดใหญ่เมื่อ 30 ปีก่อน….จวบยุคปัจจุบัน (ปี พ.ศ.2555)

เริ่มโดย คนคลองเรียน 2, 12:30 น. 10 ส.ค 55

คนคลองเรียน 2

บันทึกส่วนตัว : ดูหนังที่หาดใหญ่เมื่อ 30 ปีก่อน....จวบยุคปัจจุบัน (ปี พ.ศ.2555)

                   สมัยเมื่อประมาณ 30 ปีก่อนในความทรงจำอันเริ่มจะลางเลือนของผู้เขียน  หาดใหญ่ยังไม่เจริญเฉกเช่นยุคปัจจุบัน  ถนนหนทางหลายแห่งยังคงเป็นถนนดินแดง  รถรายังไม่มากนัก  การคมนาคมส่วนใหญ่ผู้คนยังนิยมโดยสารรถประจำทาง  ตุ๊กตุ๊ก  และรถสองแถว  ทีวีในสมัยก่อน(ราวปี พ.ศ.2524)ส่วนใหญ่ผู้คนยังนิยมบริโภคเป็นทีวีภาพขาว-ดำกันอยู่  สถานีโทรทัศน์เองก็มีกันอยู่แค่ 4 ช่อง โดยเริ่มออกอากาศเปิดสถานีตอนตี 5 ปิดเวลาประมาณเที่ยงคืนตรง  ความบันเทิงเกี่ยวกับเรื่องการดูหนัง(โดยเฉพาะหนังสยองขวัญ)นั้นหนังดีๆส่วนใหญ่หาชมยาก  นอกจากเข้าไปดูในวิกในโรงภาพยนตร์ในเมือง  หรือตามไปดูเป็นหนังกลางแปลงแถวบ้านกับเลือกดูในทีวีแล้วนี่  ก็ต้องเก็บสะสมเงินเพื่อซื้อเครื่องเล่น-เช่าม้วน VDO มาดูอย่างเดียว(ซึ่งสมัยนั้นเครื่องเล่น VDO ถือเป็นสินค้าราคาแพงสำหรับคนมีรายได้สูงเท่านั้น)

                  "หนังกลางแปลง"  หรือที่คนหาดใหญ่สมัยเมื่อราว 30 ปีก่อนเรียกว่า "หนังขายยา" หรือ "หนังเร่" มักเป็นที่นิยมและได้รับความสนอกสนใจจากเด็ก, วัยรุ่น  รวมถึงผู้ใหญ่-คนเฒ่าคนแก่โดยทั่วไป  เพราะนอกจากความบันเทิงในการรับฟังเพลงจากคลื่นวิทยุ  การชมละคร-หนังจากทีวีภาพขาว-ดำ  หนังตะลุง / มโนราห์ แล้วก็คงมีหนังกลางแปลงนี่แหล่ะที่เป็นเครื่องสนองความบันเทิงเริงใจในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดีในยุคสมัยที่ความเจริญทางวัตถุนิยมยังห่างไกลจากยุคปัจจุบันอยู่มาก 

                  หนังกลางแปลงในสมัยก่อนที่หาดใหญ่ในความทรงจำของผู้เขียนมีกันอยู่ 3 จำพวก คือ 1. หนังกลางแปลงประเภทฉายกั้นผ้าเก็บเงิน  2. หนังกลางแปลงประเภทได้รับการว่าจ้างให้มาเปิดฉาย  และ 3. หนังขายยา หรือหนังเร่ หนังประเภทสุดท้ายนี้มักจะมีการหยุดฉายตอนกลางเรื่องเพื่อขายยา และลูกอบ /ขนมขบเคี้ยวประเภทต่างๆ

                   ปกติคนหาดใหญ่จะคุ้นเคยกับหนังกลางแปลงประเภทแรกเสียมากกว่า  คือหนังประเภทฉายกั้นผ้าเก็บเงิน  ที่ผู้เขียนพอจำได้นี่ก็เป็นลานฉายหนังกลางแปลงแถวเยื้องๆกับวัดคลองเรียน  สถานที่แห่งนี้เองแต่ก่อนเป็นลานกว้างพอประมาณ  ก่อนวันฉายหนังจะมีการแจกใบปลิว  ใบโฆษณาติดประกาศตามสถานที่ต่างๆที่ผู้คนพลุกพล่าน  นอกจากนี้ก็เป็นการบอกกันปากต่อปากของเด็ก และวัยรุ่นในสมัยนั้นกันเอง  วันฉายหนังกลางแปลง  ทีมงานจะจัดวางจอหนังให้ได้ในมุมที่ดูดีที่สุด  จัดระบบเครื่องเสียง  และใช้ผ้าใบ หรือผ้าสีขาวหนาๆมาขึงเป็นกำแพงล้อมรอบ 4 ทิศ  กำแพงผ้าที่ขึงนี้เองกะเอาด้วยสายตาแล้วคงสูงราว 2 เมตรเห็นจะได้  ช่วงหัวค่ำขณะที่ฟ้ายังสว่างอยู่ไม่สามารถทำการฉายหนังได้  นายหนังกลางแปลงจะเปิดเครื่องเสียง-ดนตรีให้ดังเข้าไว้เพื่อเรียกลูกค้า-คนใช้บริการ  นอกจากนี้ก็ยังมีเสียงจากโทรโข่งขนาดย่อมๆดังคลอกับเสียงดนตรีมาเป็นระยะเพื่อชักจูงให้คนเข้ามาดูหนังกลางแปลงกันมากๆ  พอฟ้าเริ่มมืดสนิทของกินก็มาวางขายกันเต็มลานรอบๆกำแพงโรงหนัง  ผู้ชมเริ่มต่อแถวเพื่อจ่ายเงินเข้าโรง  สนนราคาการดูหนังกลางแปลง 1 เรื่องในสมัยนั้นคือ 1 บาท



                  ผู้เขียนก็เคยเข้าไปดูนะหนังกลางแปลงแบบกั้นผ้าเก็บเงินหน้าโรง  คือตามพี่ๆแถวบ้านเข้าไปดูเพราะอยากรู้ว่าเสียงที่มันดังๆอยู่ในแนวกั้นผ้าสีขาวน่ะ  มันคือเสียงอะไร  เข้าไปดูอะไรกัน?  แต่เพราะผู้เขียนอายุยังน้อย(ราว 5 ขวบ) เลยสนุกสนานกับการวิ่งเล่นในแนวกั้นรั้วผ้าเสียมากกว่า  พอหนังจบก็บอกไม่ได้ว่าดูเรื่องอะไรไปบ้าง  สนุกสนานแบบเด็กๆ(ฮา)  อีกนิดดด....ขอพูดเกี่ยวกับหนังประเภทที่ 3 เสียหน่อย  หนังขายยา หรือหนังเร่  ประมาณปี พ.ศ.2526 มีคณะหนังขายยาคณะหนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดทางภาคเหนือเพื่อมาเยี่ยมญาติที่หาดใหญ่แถวซอยบ้านผู้เขียน  พักกันอยู่หลายวันจนใกล้เดินทางกลับ  ทางคณะหนังขายยาเลยอยากตอบแทนญาติๆที่เคยให้ความช่วยเหลือในหลายๆเรื่องในครั้งอดีตด้วยการจัดฉายหนังให้คนในซอยบ้านผมได้ชมกันฟรีๆ 1 เรื่อง  ตอนนั้นคุณป้าท่านหนึ่ง(ญาติกับทางคณะฉายหนัง)ถามผมซึ่งเป็นเด็กตัวเล็กๆมาแอบยืนดูด้วยความสนใจว่า "แล้วลูกอยากดูหนังเรื่องอะไรล่ะจ๊ะ"  ผมในวัยเด็กตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว "อยากดูหนังสยองขวัญครับ"  คืนนั้นเลยได้นั่งดูหนังขายยาหน้าบ้านเรื่อง งูผี เป็นผลตอบแทนที่อุตส่าไปยืนเฝ้าคณะฉายหนังเร่ทั้งวันด้วยความสนใจ  ฉายเรื่องแรกจบก็ต่อด้วยเรื่อง ใต้ฟ้าสีคราม  หนังเรื่องนี้เพลงเปิดตัวไพเราะดีครับ  แต่ทนดูได้แค่ 30 นาทีก็ง่วงล่ะ 

                   กระโดดมาที่ประมาณต้นปี พ.ศ.2532 (โดยประมาณ) Big Cinema ได้เริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกทางช่อง 7  โดยการฉายครั้งแรกนี้เองประเดิมด้วยหนังสยองขวัญเรื่อง "สัตว์สยอง"  เป็นที่ฮือฮากันมากในสมัยนั้น  โดยในช่วงนี้เองที่ทางโรงภาพยนตร์ในหาดใหญ่เริ่มมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว  หนังดังๆจากต่างประเทศและในเมืองไทยจึงเริ่มทยอยเข้ามากวาดเงินบาทเข้ากระเป๋ากันอย่างสนุก  ส่วนสนนราคาในการรับชมหนังในโรงภาพยนตร์หาดใหญ่อยู่ที่ประมาณ 24 - 40 บาท  นอกจากนี้การที่เครื่องเล่น VDO เริ่มมีราคาถูกลงและกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคระดับชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น  ส่งผลให้ตลาดขายม้วน VDO เจริญเติบโตขึ้นตามลำดับด้วยเช่นเดียวกับโรงหนัง  ร้านเช่าม้วน VDO ทั้งกิจการเล็กๆระดับครอบครัวไปจนถึงกิจการใหญ่โตข้ามชาติอย่างร้านซึทาญ่าของญี่ปุ่นเริ่มมีเข้ามาให้ได้เห็นบ้างแล้วในหาดใหญ่(หาดใหญ่ : ร้านซึทาญ่าเริ่มเข้ามาเจาะตลาดคนรักหนังราวหลังปี พ.ศ.2540)  สมัยก่อนนี้เองที่ค่าเช่าม้วน VDO  หนึ่งเรื่องสนนราคาแค่ 20 บาท  โดยบางร้านถ้าเช่าถึง 5 ม้วนจะมีบริการตามเก็บถึงที่พัก(ให้ดูได้ 7 วัน / เช่น ร้านวัฒนาศิลป์ สุดสาย 3) คิดว่าหลายคนคงเคยได้รับชม เปรตเดินดินกินเนื้อคน ฉบับม้วน VDO กันมาแล้ว  แน่นอนว่ามีให้เช่าที่ร้านซึทาญ่า สาขาถนนศรีภูวนารถ ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ไม่มีตัดทอนใดใดทั้งสิ้น

                   ในหาดใหญ่ม้วน VDO ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในระดับหนึ่งจวบจนยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไปในราวปี พ.ศ.2544 เมื่อตลาดของหนังแผ่นประเภท VCD เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้  เริ่มจากร้านซึทาญ่าตรงหน้าห้างไดอาน่า สาขาถนนศรีภูวนารถ เริ่มมีมุมสำหรับให้บริการเช่าแผ่นหนัง VCD และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนไม่เหลือม้วน VDO ภายในร้านแม้แต่ม้วนเดียว  ร้านค้าในเมืองหาดใหญ่ไล่ตั้งแต่ร้านแบกะดินยันร้านใหญ่-สุดหรูอย่างร้านบอส (แถวกลางสาย 3) เริ่มทยอยโล๊ะม้วน VDO ขายทิ้งในราคาถูกให้นักนิยมบริโภคของเก่าได้เลือกซื้อหาเพื่อสะสมกัน จากที่เคยขายกันม้วนละหลายร้อยบาทเหลือเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น(และที่สำคัญ....ซื้อ 5 แถม 1 ด้วยนะ)โดยมีการนำแผ่นหนังและแผ่นเพลง VCD เข้ามาแทนที่ 

                   ด้วยข้อเสียของม้วน VDO ที่มีขนาดใหญ่  พกพาไม่สะดวก  เก็บรักษาค่อนข้างยาก(เพราะมักมีเชื้อราขึ้นเป็นประจำ) ที่สำคัญหนังม้วนแบบ VDO มักมีราคาแพง  ด้วยมูลเหตุเหล่านี้เองหนังแผ่นประเภท VCD จึงถูกนำเข้ามาแทนที่อย่างง่ายดาย  ด้วยรูปร่างที่เล็ก / กะทัดรัดกว่า  ให้เสียงที่ใสชัดเจนกว่า  รวมถึงสนนราคาเครื่องเล่นและค่าแผ่นหนังที่ไม่แพงมากเกินไป  หาซื้อง่าย  ถ้าใครชอบแบบสบายกระเป๋า  มีหนังแผ่นแบบก๊อปปี้ให้เลือกซื้อ  ประมาณ 3 แผ่น 100 เดียว  อะไรประมาณนั้นแหล่ะ  หนังแผ่น VCD จึงเริ่มเป็นที่นิยมในหาดใหญ่เป็นอย่างมาก

                   อนึ่ง  เกี่ยวกับม้วน VDO ที่มักเกิดราขึ้น  และการทำความสะอาดแผ่น VCD แบบบ้านๆที่หาดใหญ่  ที่ผู้เขียนเคยรู้มานะ  อย่างแรกม้วน VDO ที่มักเกิดราขึ้นเพราะความชื้นอยู่บ่อยๆ  เชื้อราดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นขุยขาวๆขึ้นตรงบริเวณแถบบันทึกสีดำในม้วน VDO  เข้าใจกันว่าถ้าเชื้อราสีขาวนี้เปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองเมื่อไหร่จะไม่สามารถนำม้วน VDO มาเล่นได้อีก(คือเสีย ต้องทิ้งอย่างเดียว) วิธีการล้างราสีขาวในม้วน VDO สมัยก่อนก็คือนำม้วนเทปดังกล่าวมาทำการล้างรากับเครื่องล้างเฉพาะ(ราคาสมัยนั้นประมาณ 1,500 บาท)  ตัวเครื่องเล่น VDO ก็มีม้วนล้างหัวที่เรียกกันสมัยนั้นว่า "Super King" (ราคา 249 บาท)  ส่วนการทำความสะอาดแผ่น VCD เคยเห็นพวกพ่อค้าที่ตลาดเปิดท้ายหาดใหญ่นำแผ่นที่ลูกค้าอ้างว่าเป็นแผ่นเสียมาแก้ไขให้สามารถดูได้อีกครั้ง  โดยใช้น้ำยาจากขวดยาดมชนิดต่างๆทาลงไปบนแผ่น VCD (ตรงส่วนบันทึกข้อมูล)แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าผืนเล็กๆ  เอามาทดลองเปิดดู  ปรากฏว่าดูได้เป็นปกติ  คงเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านจากสิ่งที่มีอยู่รอบตัวน่ะ

                   ปัจจุบันแผ่นหนัง VCD ยังคงได้รับความนิยมในหาดใหญ่อยู่จวบจนทุกวันนี้ ถึงแม้กระแสบางช่วงจะซบเซาลงไปบ้างก็ตามที มีแผ่นหนัง DVD และ Blu-ray Disc เข้ามาปันส่วนแบ่งของตลาด แต่เพราะว่าราคาที่ถูกลงมากกว่าแต่ก่อนของ VCD เลยทำให้แผ่นหนังประเภทนี้ยังเป็นที่นิยมในหมู่คนดูหนังเรื่อยมา แม้ยอมรับกันว่ายุคปี 2553 เป็นต้นมา การดูหนังโดยแผ่น DVD จะได้รับความนิยมสูงขึ้นมากด้วยสืบเนื่องจากระบบเสียงที่คมชัดขึ้น ระบบภาพที่ดีกว่า VCD ก็ตามที   แต่ช่วงหลังๆ VCD, DVD และ Blu-ray Disc ต่างตกอยู่ภายใต้กระแสการโหลดหนังฟรีในโลกไซเบอร์เข้าโจมตีอย่างหนักหน่วง  จนหลายๆค่ายเก็บผลกำไรได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย  ยอดขายตก  บางค่ายขาดทุนล้มหายตายจากไปเลยก็มี  โลกไซเบอร์-โลกส่วนใหญ่ของวัยรุ่นยุคนี้สมัยนี้ กับการนั่งโหลดหนังฟรีมาดูที่บ้านอย่างสบายอารมณ์  ไม่ต้องเสียเวลาออกไปเดินเลือกซื้อ  ไม่ต้องจ่ายเงินให้สิ้นเปลือง  มีความรู้นิดหน่อย มีเครื่องคอมพิวเตอร์ แค่นี้ก็สามารถหาหนังที่เป็นที่นิยมมาดูได้อย่างสบายๆ มีทั้งหนังเก่า-ใหม่มีให้ได้เลือกหามากมายหลากหลาย  นั่งโหลดกัน 10 วัน10 คืนก็ไม่มีหมด  นั่งมองปัจจุบันแล้วย้อนภาพกลับไปยังอดีตเราได้เห็นคลื่นลูกหนึ่งถาโถมเข้าสู่ฝั่งอย่างรุนแรงและน่ากลัว  เวลาผ่านไปเพียงไม่นานคลื่นลูกแรกหมดกำลังลง  อ่อนล้า  และถูกคลื่นลูกที่สองถาโถมเข้าใส่อย่างน่ายำเกรง  ไม่นานนักคลื่นลูกที่สองเองก็อ่อนกำลังลงกลายเป็นเพียงกระแสน้ำที่ไร้พลังอำนาจ ไร้ทิศทาง  ชั่วอึดใจคลื่นลูกใหม่ก็กำลังก่อตัวขึ้นและท้าทายคลื่นสองลูกแรกอย่างอหังการ  นั่งพิมพ์มาถึงตรงนี้ทำให้นึกถึงหนังสือชื่อ The Third Wave ของ อัลวิน ทอฟเลอร์ เมื่อหลายปีก่อนขึ้นมา  ยกแก้วกาแฟดำขมๆขึ้นมาดื่มอย่างเชื่องช้า  มองคลื่นอีกลูกที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างอาจอง  โลกใบนี้เปลี่ยนไปแล้ว  ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว............
                 
                     
ม้วน VDO สำหรับใช้ดูหนังสมัยก่อน  มีราคาที่ค่อนข้างแพง....คนที่สงขลามักเรียก "เครื่องเล่น VDO" ว่า "เครื่องฉายหนัง"  ส่วนภาพประกอบข้างล่างเป็นม้วน VDO ที่ผู้เขียนซื้อเก็บสะสมไว้ระหว่างปี พ.ศ.2536-2544












อันนี้คือเครื่องล้างม้วน VDO ฝากญาติหิ้วมาจากประเทศมาเลเซียราวปี พ.ศ.2537.....ใช้ดีมาก  ปัจจุบันก็ยังใช้งานได้อยู่  ราคาในตอนนั้นประมาณ 1,500 บาท





เครื่องเล่น VDO รุ่น SD1 ซื้อไว้ราวปี พ.ศ.2538  ตอนนั้นราคาประมาณ 8,500 บาท  ปัจจุบันยังใช้ได้อยู่นะ



อันนี้เป็นม้วน VDO ล้างหัวอ่านเครื่องเล่น.....ราคา 249 บาท  ปัจจุบันใช้งานไม่ได้แล้ว  เก็บไว้เป็นที่ระลึกเฉยๆ  ^^





เครดิตบทความ  :  อ.คุณาพร  /  http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

ส-ดีใจ ส-ดีใจ ส-ดีใจ

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

ได้ย้อนอดีตกันอีกแล้ว

ตอนผมเป็นเด็กเนี่ย ส่วนมากจะไปดูหนังในโรงมากกว่า จุติ (โดนทุบสร้างตึก)  เฉลิมไทย(ตลาดกิมหยง) โคลีเซียม(ก่อนจะเป็นเซ็นทรัล) สยาม(ข้างๆสะพานลอย) ราคาตั๋วก็ไม่แพง ชอบกินข้าวโพดคั่ว และบางครั้งกลิ่นอับจากห้องน้ำก็โชยมาด้วย 555555  หนังในโรงหนังมีโฆษณาไม่มากเหมือนสมัยนี้ เฮ่อ ภาพตอนนั้นแวบเข้ามาทีไรใจหดหู่ทุกที
ม้วนวีดีโอก็เช่นกัน ตอนนั้นใครมีหนังใหม่ๆ การ์ตูนสนุกๆมาเปิดดูกับเพื่อนนี่ สุขที่สุดละ  ส.ตากุลิบกุลิบ ส.ตากุลิบกุลิบ
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

HatYai Hi-Fi

ผมเกิดทันยุคของ VDO เหมือนกันครับ แต่ต้องอาศัยไปดูบ้านเพื่อนเพราะที่บ้านตัวเองไม่มีเนื่องจากสมัยนั้นราคาเครื่องเล่นค่อนข้างสูง  ส.ร้อง
จำหน่ายเครื่องเสียง Yamaha Denon Onkyo Marantz Nad B&W  และอื่นๆอีกมากมาย

wankun

ขอบคุณครับ
แต่ผมว่าเรื่องของเงื่อนเวลาอาจจะมีการพลาดกันบ้างครับ
เพราะผมจำได้ว่าสมัยผมเป็นเด็กมอต้น
ช่วงนั้นหนังฝรั่งหลายๆเรื่องก็ฉายให้เห็นในหาดใหญ่เยอะ
และสถานีโทรทัศน์ในช่วงนั้น
ถ้าจำไม่ผิดหรือว่าบ้านผมมันไม่มีสัญญานก็ไม่ทราบได้
รับได้แค่ช่องเจ็ด
และช่อง10 หาดใหญ่
และอีกช่องคือ TV3 ของมาเลย์
เรื่องม้วนวีดีโอได้รับความนิยมมากในสมัยน้น
ค่าเช่าม้วนละ10บาท
ร้านเช่ามีเยอะพอๆกับร้านให้บริการโทรศัพท์ทางไกล
และในพศ นั้นน่าจะประมาณ2529 ขึ้นมาเลยที่วีดีโอเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับหลายๆบ้านครับ
ผิดถูกต้องขออภัยด้วยครับ

นายไข่นุ้ย

ปัจจุบันนี้ที่บ่าว มีม้วนวีดีโอเก็บไว้ดูต่างหน้า ส.โบยบิน ส.ตากุลิบกุลิบ แต่คิดว่าไปหมดแล้ว ตัวเครื่องบริจาคไปนานแล้ว   
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

bang10baht

เครื่องเล่นวิดีโอ NV-300 ราคาเมื่อปี พ.ศ.2526 อยู่ที่ 11.300 บาท



อีกรุ่นคือ NV-777 ราคาแพงกว่า เพราะมีฟังก์ชั่นเล่นภาพช้าและลูกเล่นอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา


บังสหม้อ

ช่วง พ.ศ 2528 ถ้าพูดถึง VDO ช่วงนั้นจะมีร้านอาหารในหาดใหญ่เปิดหนังวีดีโอให้ลูกค้าได้ชมกัน
โดยจะติดโปรแกรมฉายไว้หน้าร้านว่า ฉายเรื่องอะไร เวลาเท่าไร
ที่เคยไปนั่งจะมีร้านซันเดย์ (แถวๆ ร.ร.เอ็งเสียง) ตอนหลังย้ายไปอยู่แถวจุติ
ร้านวีไซด์ สาย 3 (แถว ร.ร.อำนวยวิทย์) ร้านนี้จะเปิดบริการถึงเช้า
และจะมีร้านที่เปิดหนังพิเศษ(หวาบหวิว) วัยรุ่นช่วงนั้ันจะรู้ดีว่าร้านไหนมั่ง เพราะช่วงนั้นหนังประเภทนี้หาดูยากมากๆ   ส.ยกน้ิวให้

เด็กป้อมหก(ไม่6)

ปี25ไปสิงคโปร์ครั้งแรก เจอคนปัตตานีไปโตที่นั่นหลอกขายม้วนโป๊ 2 ม้วน800 มาถึงหาดใหญ่ถึงรู้ว่าโดนต้ม ในสันติสุขหนังเรื่องเดียวกันขายม้วนละ200เท่านั้น แต่แล้วก็มี"เหยื่อ"หลงมาติดกับจนได้(ฉันเปล่าหนา เขามาเอง) เปิดให้มันดูตัวอย่างไม่ถึง10นาทีมันขอเหมา 2 ม้วน1500
สัจจธรรม"โลกนี้ไม่ใช่เราคนเดียวที่โง่ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ"

กุ๊กเทวดา ส่องพระ

อ้างจาก: บังสหม้อ เมื่อ 12:36 น.  16 ส.ค 55
ช่วง พ.ศ 2528 ถ้าพูดถึง VDO ช่วงนั้นจะมีร้านอาหารในหาดใหญ่เปิดหนังวีดีโอให้ลูกค้าได้ชมกัน
โดยจะติดโปรแกรมฉายไว้หน้าร้านว่า ฉายเรื่องอะไร เวลาเท่าไร
ที่เคยไปนั่งจะมีร้านซันเดย์ (แถวๆ ร.ร.เอ็งเสียง) ตอนหลังย้ายไปอยู่แถวจุติ
ร้านวีไซด์ สาย 3 (แถว ร.ร.อำนวยวิทย์) ร้านนี้จะเปิดบริการถึงเช้า
และจะมีร้านที่เปิดหนังพิเศษ(หวาบหวิว) วัยรุ่นช่วงนั้ันจะรู้ดีว่าร้านไหนมั่ง เพราะช่วงนั้นหนังประเภทนี้หาดูยากมากๆ   ส.ยกน้ิวให้
ร้านซันเดย์อยู่ปากซอยบ้านผมเองครับ เจ้าของร้านวีไซด์เป็นเพื่อนผมเป็นเจ้าของร้านแตงกวาด้วย ถ้าสมันก่อนใครเคยเห็นรถเข็นขายเสื้อผ้าตอนค่ำจะมาจอดขายอยู่แถวยิบอินซอย คนขายผอมๆสูงๆคนนี้เจ้าของวีไซด์ชื่อเมื่อสมัยเรียนที่ วิริยะเธียรด้วยกัน เขาชื่อเตียงกังครับ

หนุ่มหาดใหญ่

อ้างจาก: กัปตันม้าเหล็ก เมื่อ 18:00 น.  10 ส.ค 55
ได้ย้อนอดีตกันอีกแล้ว

.....โคลีเซียม(ก่อนจะเป็นเซ็นทรัล) ...........  ส.ตากุลิบกุลิบ ส.ตากุลิบกุลิบ

โรงหนังโคลีเซี่ยม(ในอดีต) ปัจจุบันตรงนั้น คือ ลีการ์เด้นส์พลาซ่า นะครับ
ขอบคุณครับ

Bush

อ้างจาก: บังสหม้อ เมื่อ 12:36 น.  16 ส.ค 55
ช่วง พ.ศ 2528 ถ้าพูดถึง VDO ช่วงนั้นจะมีร้านอาหารในหาดใหญ่เปิดหนังวีดีโอให้ลูกค้าได้ชมกัน
โดยจะติดโปรแกรมฉายไว้หน้าร้านว่า ฉายเรื่องอะไร เวลาเท่าไร
ที่เคยไปนั่งจะมีร้านซันเดย์ (แถวๆ ร.ร.เอ็งเสียง) ตอนหลังย้ายไปอยู่แถวจุติ
ร้านวีไซด์ สาย 3 (แถว ร.ร.อำนวยวิทย์) ร้านนี้จะเปิดบริการถึงเช้า
และจะมีร้านที่เปิดหนังพิเศษ(หวาบหวิว) วัยรุ่นช่วงนั้ันจะรู้ดีว่าร้านไหนมั่ง เพราะช่วงนั้นหนังประเภทนี้หาดูยากมากๆ   ส.ยกน้ิวให้


                  เริ่มกินเบียร์วุ้นครั้งแรก ที่ร้านซันเดย์นี่แหละ  ขาประจำเลย  ส.หัว

Kungd4d


Bush


  พูดถึงเรื่องบ้าหนัง ม้วนวิดีโอก็คงยาว  ตอนมาบุญครองเปิด  แมงป่องเปิดที่มาบุญครอง สมัครเป็นสมาชิก ซื้อม้วนฯ

  ทุกเดือน เขาจะส่งรายชื่อ หนังใหม่มาให้ถึงบ้าน แล้วถ้าจะซื้อก็ตอบไป เขาจะส่งประเภท เก็บเงินปลายทาง

  หนังเกือบทั้งหมดจะเป็นซาวด์แทร็ก  ดูแล้วได้อารมณ์ บวกกับเครื่อง HiFi  ต่อเข้าแอมป์ เป็นโฮมเธียร์เตอร์ แทบไม่อยาก

ออกไปไหน   

            เครื่องนี้ก็เก๋ากึ๊ก (พาวเวอร์ซัพพลายเสีย) ถ้าจะซ่อมคงไม่ยาก  สงวนพาณิชย์เคยซ่อมครั้งหนึ่งแล้ว เสียอีก

เก็บไว้เฉย ๆ เพราะม้วนอันตรธานหมดแล้ว     ส.หัว ส.หัว ส.หัว


             [attach=1]



ยาวและ

ประมาณปี 2522หรือ 2523  ทางแผนกฯ จักนิทรรศการที่โรงอาหารเทคนิคชายเล กลางคืนต้องอยู่เฝ้าดึกๆรุ่นพี่จะเอาเครื่องวีดีโอมาฉายหนังอย่างว่าให้แลครับ แต่ต้องลงขันกันคนละ 10-20 บาท ไปเช่าม้วนที่ร้านหลัง ร.พ.สงขลา จำได้ว่า ราคาค่าเช่าม้วนละร้อย เป็นระบบ VHF ของเนชั่นแนล มีอีกระบบเป็นของโซนี่คือระบบ เบต้า เป็นม้วนเอีดยหวา ถาพชัดหวาแต่ม้วนหนังมีน้อยเลยไม่ค่อยมีคนใช้ของโซนี่

pnylink

แล้วคุณจะรู้จักชายแดนใต้มากขึ้นกับ "www.pnylink.com"
ปัตตานี / ยะลา / นราธิวาส / เบตง

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

sirichot

สมัยวีดีโอเริ่มเข้ามาในหาดใหญ่ การเช่าม้วนต้องเป็นสมัครสมาชิกเท่านั้น 500 บาท แถมเช่าได้ไม่เกิน 3 ม้วน ร้านอยู่แถวอำนวยวิทย์ ผมเรียนที่นั้น
ใครมีเครื่องเล่นวีดีโอที่บ้านนี้ถือว่าสุดยอด โดยเฉพาะรุ่นรีโมทไร้สาย ราคาเรื่อนหมื่น (หนีภาษี) ส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อเนชั่นแนล

คนซอยสาม

แถวๆอำนวยวิทย์ น่าจะชื่อร้านหาดใหญ่วีดีโอ ติดกับร้านกาแฟเจษฎา(ถ้าจำไม่ผิด)

น้ำท่วม54

 ส-ฝนเล็บ คิดถึงเหมือนกัน เมื่อก่อนประมาณ ระหว่างปี 30 - 39 เคยรับราชการเป็นทหารเรือ เช่าม้วนวีดิโอ เป็น ลังแม่โขง ก้อประมาณ เกือบ 50 เรื่อง เรือออกทะเล กลับเข้าท่าเมื่อไหรค่อยมาคืนร้าน อยู่กลางทะเลมันเหงานิ เห็นน้ำกับฟ้า ได้หนังวีดิโอเป็นเพื่อน พวกเราชาเลก้อเฮ กันไป เอากลับมาส่งคืนที รับรอง ต้องแอบๆซุกหนังที่กินม้วน ยิ่งหนังชุดอย่างมังกรหยกด้วยแล้ว กลับมาขาดวิ่นเลย อิอิ ดูกันมันส์มากครับ