ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เร็ว ๆ นี้กับรายละเอียดเล็ก ๆ ในภาพเก่าเมืองหาดใหญ่

เริ่มโดย กิมหยง, 23:07 น. 30 ก.ค 53

กิมหยง

จากที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติได้โพสภาพเก่า ๆ ไว้หลายภาพ
ได้อธิบายในส่วนรวมมาแล้ว
แต่ในบางภาพมีรายละเอียดย่อยที่น่าสนใจอีกมากมาย
ภาพต้นฉบับบางภาพทางเว็บกิมหยง
ได้สแกนเก็บไว้ด้วย ทำให้เห็นรายละเอียดเล็ก ๆ
พอที่จะนำเสนอผ่านทางหน้าเว็บกิมหยงได้

ติดตามกันนะครับ เร็ว ๆ นี้ เราจะมาเก็บตกรายละเอียดที่ว่านั้น
สร้าง & ฟื้นฟู

กิมหยง

สร้าง & ฟื้นฟู

tee2502

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 23:09 น.  30 ก.ค 53
ตัวอย่างครับ
รถตุ๊ก ๆ แบบนี้ผมเคยยั่งตอนสมัยเรียนประถมหรือมัธยม น่ครับ เสียวมากเวลาเลี้ยว กลัวมันจะคว่ำน่ะครับ ถ้าเลือกได้จะเลือกนั่งแบบสี่ล้อ

กิมหยง

ไม่แน่ใจว่าเคยได้ทันนั่งหรือเปล่า

แต่จำได้ว่าเคยนั่ง เพียงแต่ไม่รู้ว่านั่งเมืองใดครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

หม่องวิน มอไซ

ที่หาดใหญ่ไม่เคยนั่งครับ เกิดมาก็เห็นตุ๊กตุ๊ก 4 ล้อแล้ว

แต่ตุ๊กตุ๊กปากกบ 3 ล้อ สีเขียว
ปัจจุบันยังให้บริการอยู่ที่ตรังครับ
ที่มาภาพ : http://mrforever.multiply.com/photos/album/83/..._Trang_Thailand_...

SydneyChocolatier

 :)  ผมเคยนั่งตุ๊กๆแบบนี้ในเมืองหาดใหญ่ สมัยก่อนค่าโดยสารประมาณ 1 บาท (สามสิบกว่าปีแล้วล่ะ) ตุ๊กๆหน้ากบเริ่มหายจากเมืองหาดใหญ่ช่วงปี 2520 เพราะตุ๊กๆสี่ล้อกำลังมาแรง บรรทุกได้มากกว่า

ลูกแม่ค้า

รถตุ๊กๆหัวกบไม่เหมือนกับ3ล้อเครื่องในกรุงเทพ ตุ๊กๆหัวกบใช้พวงมาลัยเหมือนรถยนต์ เป็นรถมียี่ห้อ"ไดฮัทสุ"ประกอบจากโรงงานทั้งคัน ส่วน3ล้อกรุงเทพใช้แฮนด์แบบมอไซค์ เป็นรถที่คนไทย"สร้างเอง"เอาชิ้นส่วนมาผสมกันจนใช้งานได้ดี หัวกบซื้อใหม่ๆสมัยนั้นคันละ5-6พันบาท ค่าเช่าวันละ20-30บาท เบนซินลิตรละ3บาท ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าจานละ3บาท ข้าวหมูแดงชินกิจจานละ3บาท(สั่งจานครึ่ง5บาท)บุหรี่เกล็ดทอง-สามิตซองละ4บาท
พอรถตุ๊กๆหัวกบค่อยๆทะยอยขายไปจ.ตรัง-ยะลา-และอยุธยาจนเกลี้ยง เสียงท่อรถและควันโขมงที่เป็นสัญญลักษณ์ประจำเมืองหาดใหญ่ก็ค่อยๆหายไปด้วย สมัยนั้นพอลงจากบันไดสถานีรถไฟ จะได้ยินเสียงตุ๊กๆๆๆๆ สลับกับกลุ่มควันท่อไอเสียและเสียงเรียกคนโดยสารระงมไปทั่ว เวลานั่งรถนี้เหมือนนั่งเรือที่เจอคลื่น รถจะเอียงไปมาตลอดทาง
ที่หัวเลี้ยวมุมธนาคารกรุงไทยสาขาโรงพยาบาล ตรงนั้นเวลาหลังเที่ยงคืนพวกตุ๊กๆชอบมาซิ่งกัน ชาวบ้านหนวกหูเอา"ถั่วเขียว"มาโรยบนถนน พวกมือไม่ถึงเข้าโค้งเหยียบถั่วเขียวแล้วคว่ำระเนระนาด เวลาพลิกหงายท้องใช้คนแค่2-3คนก็งัดขึ้นมาขับต่อได้ พวกเราชอบมาแอบดูตอนมันตะแคงแล้วค่อยๆเอียงจนคว่ำหงายท้อง สนุกดีสะใจและสมน้ำหน้ามันด้วย ไม่เคยเห็นคนขับบาดเจ็บเลย มุดออกจากรถยังหัวเราะกันได้
คิดว่าอีกไม่นานก็จะมีคนหาดใหญ่ไปซื้อกลัีบมาเพื่อเก็บสะสมแน่นอน

Nakhonlampang

เมื่อก่อนนี้กรุงเทพฯก็มีสามล้อหัวกบวิ่งครับ ถ้าเป็นแบบวิ่งประจำทางจะมีที่นั่งด้านหลังเป็นแบบสองแถวเหมือนกับที่ตรังหรืออยุธยาในปัจจุบันนี้ ส่วนมากจะอยู่ทางฝั่งธนบุรี กับอีกแบบที่วิ่งรับจ้างทั่วไปจะมีที่นั่งตามขวางหันไปข้างหน้าเหมือนกับรถตุ๊กตุ๊กทั่วไป แต่ตอนนี้หารถหัวกบวิ่งเป็นรถรับจ้างในกรุงเทพไม่พบแล้ว

รถหัวกบนี้ที่จริงมีหลายยี่ห้อครับ เช่น HINO , LAMBRETTA แต่ที่มีมากสักหน่อยก็ยี่ห้อ DAIHATSU ซึ่งปัจจุบันนี้ต้องบอกว่ารถหัวกบที่ตรังจะมีสภาพเหมือนของเดิมมากที่สุด ส่วนที่อยุธยาจะแปลงสภาพไปค่อนข้างมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนไปใช้ไฟเหลี่ยม ไฟท้ายรถปิคอัพ บานประตูจากรถกระป๊อสี่ล้อ รวมถึงยืดความยาวของรถให้นั่งได้มากขึ้น สภาพเดิมหาได้ยากมาก

สำหรับรถตุ๊กตุ๊กที่ใช้แฮนด์แบบรถจักรยายยนต์นั้น เดิมทีเดียวก็เป็นรถจากญี่ปุ่นเช่นกันครับ ของแท้จะใช้เครื่อง 2 จังหวะ เวลาติดเครื่องแต่ละครั้งจะมีเสียงระเบิดออกมาจากท่อไอเสียเป็นประจำ เสียงเครื่องยนต์ก็จะดังเป็นจังหวะไม่ราบเรียบ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกรถแบบนี้ว่ารถตุ๊กตุ๊ก  

สมัยก่อนหน้าตารถตุ๊กตุ๊กจะมี 2 แบบ ต่างกันตรงบังโคลนล้อหน้า แบบแรกบังโคลนจะติดอยู่ที่ตัวถังรถเหมือนกับรถในปัจจุบัน กับอีกแบบบังโคลนจะอยู่ที่ตะเกียบล้อหน้าแบบรถจักรยานยนต์  รถตุ๊กตุ๊กนี้ตอนหลังพอญี่ปุ่นเลิกผลิต ประกอบกับรถตุ๊กตุ๊กกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯไปแล้ว คนไทยเลยมาผลิตเองตามความต้องการของตลาดที่ยังมีอยู่

รถตุ๊กตุ๊กแบบใช้แฮนด์นี้ก็มีแบบที่เป็นที่นั่ง 2 แถวเช่นกัน ส่วนมากก็จะอยู่ทางฝั่งธนบุรีเหมือนกับรถหัวกบ 2 แถว ปัจจุบันนี้ยังเห็นแถวๆโรงพยาบาลศิริราช สมัยผมเด็กๆเคยเห็นรถตุ๊กตุ๊กแบบ 2 แถววิ่งที่อยุธยาเช่นกัน แต่ที่อยุธยาจะเพิ่มที่นั่งผู้โดยสารประกบที่นั่งคนขับทั้งซ้ายและขวาฝั่งละที่ ดูแปลกดี เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เป็นรถหัวกบหมด