กุฏิวัดท้ายยอ, เกาะยอ

[Big MaHad]

เมื่อ สองสามปีที่แล้วผมได้เดินทางไปเที่ยว และพบว่ามีการบูรณะครั้งใหญ่บริเวณเรือนหมู่กุฏิสงฆ์ แต่สิ่งที่ผมเห็นก็คือ การทาสีเป็นสีม่วงกับสีเหลืองผมไม่ทราบว่าดั้งเดิมแล้วหมู่กุฏินี้เป็นสีอะไรกันแน่ แต่ผมว่าไม่น่าจะทาสีม่วง น่าจะทาเป็นสีเหลืองมากกว่า ดูแล้วมันขัดๆตายังไงไม่ทราบครับ แต่ทั้งนี้เคยไปอ่านที่ไหนแล้วไม่ทราบ หรือมีคนเล่าให้ฟังก็จำไม่ได้แล้ว เขาว่าที่ทาสีม่วงกับสีเหลืองนั้นเพราะว่าพระสงฆ์ ทั้งสองกุฏินี้ไม่ค่อยถูกกัน (เท็จจริงประการใดอันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ) เลยทาสีแยกแบ่งโซนกันชัดเจน แต่อันที่จริงพระไม่น่าจะมาบาดหมางใจกัน ถึงขนาดทางสีกุฏิแยกกันอย่างนี้ จนตอนนี้ก็ไม่ทราบได้ว่าที่มาที่ไปยังไงกัน และอยากให้อนุรักษ์โดยรักษารูปแบบดั้งเดิมไว้ครับ การบูรณะครั้งนั้นน่าจะมีกรมศิลปากร 13 สงขลาเป็นเจ้าภาพ เพราะเห็นป้ายแสดงการดำเนินการก่อสร้างอยู่ครับ  มาปัจจุบันนี้ผมก็ไม่ได้ไปนานแล้ว ไม่ทราบว่ายังเป็นสีม่วงแบบนี้อยู่อีกรึเปล่าครับ

[Big MaHad]

มาดูด้านสีม่วงกัน

[Big MaHad]

อีกฝั่งสีเหลือง

[Singoraman]

กุฏิหลังนี้ คือ "เฎะท่าน" หมายถึง กุฏิเจ้าอาวาส  บางแห่งเรียก "สมภาร"
เป็นอาคารทรงไทยปักษ์ใต้ที่จัดว่าสมบูรณ์แบบ ในเกาะยอสไตล์
ที่ว่าพระไม่ถูกกันน่าจะเป็นเรื่องเล่าเอาขำ มากหวา

[พี่แอ๊ด]

ถ่ายภาพนี้จากด้านหน้าศูนย์ประณีตศิลป์   เขียนว่า มัสยิด
แต่ดูแล้วน่าจะเป็นวัดท้ายยอ   มากกว่า

[หม่องวิน มอไซ]

มัสยิดถูกแล้วครับ
ชื่อ มัสยิดวาดิลฮูเซ็น ครับ อยู่ที่นราธิวาส

[พี่แอ๊ด]

กุฏิเจ้าอาวาส  วัดท้ายยอ

[Big MaHad]

ขอบคุณพี่แอีดมากครับที่เอารูปก่อนการบูรณะมาเปรียบเทียบ ไม่ทราบว่าพอมีข้อมูลไหมครับว่าถ่ายเมื่อปีใด
จากภาพของพี่แอ๊ดเห็นได้ชัดว่าเรือนทางขวามือของภาพ มีการทาสีเหลืองอยู่แล้วแต่เดิม แต่เรือนทางซ้ายมือดูแล้วไม่เห็นร่องรอยว่าของเก่าทาสีม่วงเหมือนอย่างที่บูรณะใหม่เลยครับ หรือว่าสีหลุดลอกไปหมดแล้ว

ผมเคยเอารูปที่ถ่ายไปโพสต์ถามที่เวบบอรืดของกรมศิลปากรแล้ว แต่ก็มีเสียงตอบรับหรือชี้แจงใดใดมาเลยครับ..

[พี่แอ๊ด]

วัดนี้หากจำไม่ผิด  เคยได้รับรางวัลเกี่ยวกับ
การอนุรักษ์  จากกรมศิลปากร

[พี่แอ๊ด]

กุฏิเจ้าอาวาส มีอายุกว่า ๒๔๐ ปี เป็นกุฏิเรือนไทยโบราณ ๓ หลัง
และกระเบื้องลอนแบบโบราณ เสาเรือนเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม่ฝังลงดิน
แต่ตั้งอยู่บน "ตีนเสา" ที่ทำด้วยอิฐ   เจาะช่องหน้าต่างเล็กๆ มีไม้
ตีเป็นซี่ บานหน้าต่างเปิดเข้าด้านใน    กลางชานปลูกต้นจำปา
http://202.142.213.110/otop/ovc8/news1.php?id=5&idA=

[dek gayray]

คล้ายากับหอประชุมเฉลิมพระเกียติม.ราชภัฏสงขลา

[หม่องวิน มอไซ]

คล้ายกับหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ ม.ราชภัฏสงขลา

ใช่ครับ เพราะหอประชุมได้แบบอย่างมาจากกุฏิพระวัดท้ายยอนี่แหละครับ

[กู้ภัยพเนจร]

เคยไปเมื่อไม่นานนี้ครับ  แต่ก็สงสัยว่า ทำไม เสาทุกต้นของกุฎิ ต้องเอนเอียง เป็นหลักการก่อสร้างของคนสมัยก่อนโดยใช้เหตุผลอย่างไร ช่วยบอกได้ไหมครับ (เหมือนเสาอุโบสถวัดพระธาตุจ.นครศรีฯ)

[Big MaHad]

กู้ภัยพเนจร ครับถ้าสนใจลองหาอ่านได้จากวิทยานิพนธ์ ของคุณณัฐนีภรณ์ น้อยเสงี่ยม เรื่อง การศึกษาสัดส่วนเรือนมงคลสูตร ตำบลเกาะยอ จังหวัดสงขลา แล้วจะทราบว่ากุฏิหลังนี้มีการสร้างที่ไม่ธรรมดาครับ ผมมีไฟล์อยู่แต่ใหญ่มากครับ แต่ใครสนใจไปดหลดได้โดยตรงจากเวบ http://www.thapra.lib.su.ac.th/thesis/resultthesis_th.asp?choice=f&keyword=%E0%A1%D2%D0%C2%CD&degree=1&year_th=&Submit=Search

แต่ช่วงนี้ยังปิดปรับปรุงเวบอยู่นะคัรบ

[ว่าที่เด็กเกาะยอ]

ลองศึกษาข้อมูลได้ที่นี่ครับ http://www.thapra.lib.su.ac.th/objects/thesis/fulltext/thapra/Sittidet_Ruangchan/Chapter5.pdf

หรือ อีกวิธีที่อยากแนะนำคือ ไปที่วัดท้ายยอครับ เพื่อไปพบเจ้าอาวาสวัดท้ายยอครับ ท่านจะอธิบายเป็นกลอน

ผมเคยไปเตรียมงานหาข้อมูลเพื่อทำกิจกรรมแรลลี่บนเกาะยอ ท่านก็อธิบายให้ฟังไว้มากมายครับ และเป็นคำสอนไปด้วยในตัว

ท่านบอกว่า นอกจากเรือน มงคลสูตรแล้ว ก็ยังมี เรือน อัปมงคลสูตร ส่วนมากจะเป็น โรงเหล้า โรงพนัน ครับ

[Singoraman]

๑.  เป็นลักษณะของเรือนไทยปักษ์ใต้ เรียกว่า "ทรงช้างเยี่ยว"  เสาเรือนจะเอียงสอบปลายเข้าปลายแยกออกเล็กน้อย
๒. เจ้าอาวาสท่านที่กล่าวถึง คือ "พระอาจารย์มานพ ฐิตธัมโม" ครับ สึกหาลาเพศไปปีกว่า ๆ แล้วครับ

[คนเขารูปช้าง]

ผมขอนำภาพกุฏิวัดท้ายยอ และบริเวณวัดที่ถ่ายไว้เมื่อ กันยายน ๒๕๓๗ มาให้ชมครับ
๑ , ๒

[คนเขารูปช้าง]

๓ , ๔ 

[คนเขารูปช้าง]

๕ , ๖ ,๗ 

[คนเขารูปช้าง]

๘ , ๙ 

[คนเขารูปช้าง]

๑๐ , ๑๑ 

[Big MaHad]

ขอขอบคุณพี่คนเขารูปช้าง มากเลยครับที่นำภาพที่มีคุณค่ามาร่วมแสดงกันครับ