ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

วาทกรรม 'เอาอยู่'กับเดิมพัน 'ความเป็นความตาย' ของ รบ.'ยิ่งลั

เริ่มโดย itplaza, 11:38 น. 17 ก.ย 55

itplaza







ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ สำหรับ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ที่มีพี่ชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ผู้มีอำนาจตัวจริง หนุนอยู่เบื้องหลัง ที่ถือกันว่าเป็นรัฐบาลมีเสถียรภาพในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุดชุดหนึ่งที่ประเทศไทยเคยมีมา เพราะมีเสียงสนับสนุนอยู่ในสภาฯ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพียงพรรคเดียว แถมมีมวลชนจำนวนมาก อย่างกลุ่มคนเสื้อแดง (นปช.) หนุนหลังแบบ "สุดลิ่มทิ่มประตู" จะต้องถูกสั่นคลอนความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง จากกรณีมหาอุทกภัยหรือน้ำท่วมใหญ่ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน ตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554

ประเทศไทยต้องพบกับความวิบัติจากภัยธรรมชาติ และบางส่วนเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง ยิ่งใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศในปลายปี 2554 ที่ผ่านมา 

พอมาถึงปี 2555 รัฐบาลก็ทำท่าจะ "ซ้ำรอย"เอาไม่อยู่ซะแล้ว เมื่อเมืองสุโขทัยต้องจมบาดาล ตามมาด้วย พิษณุโลก พิจิตร ลำปาง ลำพูน ไล่มาจนถึงพระนครศรีอยุธยา ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ รวมไปถึงนักวิชาการจากทุกสำนักจะฟันธงตรงกันว่า ปีมะโรง (งูใหญ่) 2555 ปริมาณน้ำโดยรวมจะน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 20%

หากยังจำกันได้ หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ประกาศแผนบริหารจัดการน้ำ"แบบบูรณาการ" ใช้งบประมาณสูงถึง 3.5 แสนล้านบาท โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะ ประธาน กบอ. แสดงความมั่นอกมั่นใจถึงขนาดบอกว่า "ประเทศไทยบอกลาน้ำท่วมไปได้เลย" เมื่อมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ พร้อมมีงบประมาณมหาศาลอยู่ในมือ

ช่วงนั้นทุกสิ่งทุกอย่างทำท่าจะดีขึ้น ประชาชนมีความเชื่อมั่น มีความหวังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงช่วงเวลานี้ ต้องยอมรับว่า รัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังทำงานไม่ได้ตามเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วม   

ถ้าจะไม่เป็นการหลอกตัวเองจนเกินไปตอนนี้ "อย่าว่าแต่เรื่องจะทำอย่างไรจะทำให้น้ำไม่ท่วมเลย ขนาดแค่เรื่องให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า น้ำจะไม่กลับมาท่วมใหญ่อีก ก็ยังไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้ การทำงานที่ผ่านมาปรากฎเป็นที่แน่ชัด หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการน้ำ ยังคงเดินไปคนละทิศละทาง แบบที่เรียกว่า ต่างคนต่างทำ ไม่ได้มีการบูรณาการอย่างที่ว่า"

ตอนแรกก็ว่าไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ กับกรณีเคยมีหมอดูทำนายทายทัก จนถึงขั้นโพสต์ลงไปใน "โลกโซเชียลมีเดีย"อยู่พักหนึ่งว่า สำหรับ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำเป็นหลัก เพราะต้องไม่ลืมว่า ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะได้เข้ามาบริหารประเทศ เคยมีปรากฏการณ์ "กลุ่มคนเสื้อแดง" นำเลือดไปสาดใส่บริเวณหน้าลาน "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" สัญลักษณ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรคปชป. เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดอาเพศได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า "พระแม่ธรณี" ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยให้ความเคารพนับถือ ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของพรรค ปชป.อย่างเดียวเท่านั้น





เรียกว่าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! หรือรัฐบาลชุดนี้มีดวงพ่ายแพ้ภัยเรื่องน้ำ อย่างที่มีการทำนายทายทักกันไว้ก่อนหน้านี้ ของอย่างนี้เข้าตำราโบราณ "ไม่เชื่อแต่ก็อย่าลบหลู่"



อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงเรื่องทาง "โหราศาสตร์" เป็นเพียงการทำนายทายทักของหมอดู ซึ่งก็ไม่รู้ว่า จะถูกหรือจะผิด ส่วนในโลกความเป็นจริง หากงวดนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเอาเรื่องน้ำไม่อยู่อีกล่ะก็ ก็สุ่มเสี่ยงอาจถึงคราวหมดวาระอายุของรัฐบาลชุดนี้ก็เป็นได้ เพราะประชาชนคงไม่ให้โอกาสบริหารประเทศอีกต่อไป



หากรัฐบาลยังปล่อยให้มีวันนั้นเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกครั้ง วาระหรืออายุของรัฐบาลที่หวังกันว่า จะอยู่ครบ 4 ปี ก็คงต้องจบลงอย่างรวดเร็วอย่างไม่ต้องสงสัย ประเด็นนี้จึงเป็นที่น่าจะต้องจับตาว่า รัฐบาลจะเอาเรื่องน้ำท่วมอยู่ แล้วประคองตัวไปรอดหรือไม่?

ยังดีที่ นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการ กบอ. ออกมากระตุกความเชื่อมั่นของประชาชนได้บ้าง โดยยืนยันว่า เราเอาน้ำอยู่แน่ เพราะปีนี้เราเตรียมพื้นที่รับน้ำไว้ถึง 2 ล้านไร่ และยังไม่มีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำเข้าไป เพราะยังสามารถควบคุมการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปกติได้อยู่ แถมยังคุยอีกว่า ต่อให้พายุมาอีก 3 ลูก ก็ยังไหว

"วันนี้น้ำที่เอ่อล้นในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ หรือปลายน้ำตอนบนแทบไม่มีเลย ดังนั้นพื้นที่เราเตรียมไว้สำหรับรองรับน้ำ ประมาณ 2 ล้านไร่ ตอนนี้แทบยังไม่มีน้ำเข้าไปในพื้นที่เลย ถ้าจำเป็นต้องใช้ยังสามารถรับน้ำได้อีกหลายพันล้านลูกบาศก์เมตร ร่องมรสุมหรือแม้ฝนจากพายุ แม้จะมีฝนตกช่วงปลายน้ำ หรือกลางน้ำตอนบน พื้นที่รับน้ำเรามีหลายพันล้าน ดังนั้นร่องมรสุมหนักๆ ถ้ามา แม้จะติดกันสองสามระลอก ยังรับได้อยู่ แต่ปกติมรสุมจะไม่ติดกัน ดังนั้น ช่วงระหว่างกลาง เราจะสามารถเร่งระบายน้ำ และทำให้พื้นที่รับน้ำแห้งกลับลงมา และสามารถรับน้ำได้อีก" นายอานนท์ กล่าว...

ก็ขอเอาใจช่วยให้รัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี เอาน้ำอยู่ได้จริงๆ ซะทีในปีนี้ ไม่เช่นนั้น อาจส่งผลกระทบกับความมุ่งหวังของบางคนที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาล อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เฝ้าใฝ่ฝัน และต้องพำนักอยู่ต่างประเทศมาตลอด 6 ปี ซึ่งออกมายอมรับตรงๆ ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วว่า อยากจะกลับเข้ามาในประเทศ แต่มันอาจยิ่งห่างไกล และไม่มีทางสำเร็จได้ดังหวังเป็นแน่ หากท้ายที่สุดแล้ว น้องสาวเอาน้ำไม่อยู่จริงๆ

ยิ่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง ก็เพิ่งโฟนอินมาในงานชุมนุมใหญ่ครบรอบ 6 ปี การรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยตอกย้ำความตั้งใจของตนเองว่า

"อยู่เมืองนอกมา 6 ปี มีกำลังใจได้ เพราะพี่น้องกลุ่มคนเสื้อแดง คิดถึงบ้าน คิดถึงพี่น้องทุกคน แต่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย ไม่กลับก็ไม่ว่ากัน ในวันที่ 19 กันยายนที่จะถึงนี้ จะครบรอบ 6 ปี รัฐประหาร  6 ปีที่ผ่านมา ประเทศเสียหายมากขนาดไหน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ บ้านเมืองบริหารยากมาก ถึงแม้ว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาแต่ก็มาบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นใจ จะให้เป็นประชาธิปไตย และเมื่อไรจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ ประชาชนส่วนน้อยไม่กี่คน แต่บังเอิญว่าเส้นใหญ่ก็สามารถทำให้บ้านเมืองหยุดชะงักหมด

อยากจะวิงวอนให้ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีอะไรให้หันกลับไปทบทวนว่า 6 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองได้อะไร ประชาชนได้อะไร แล้วมีใครได้อะไรบ้าง อยากขอร้องทุกฝ่ายว่าวันนี้เราเดินหน้ากันดีกว่า

"ขอบคุณพี่น้องเสื้อแดง เป็นคนที่เสียสละและจะทำได้ยากขึ้น เพราะพี่น้องเสื้อแดงไม่เคยลืมว่าการปฏิวัติเป็นการทำร้ายบ้านเมือง เพราะพี่น้องจะออกมาต่อต้านทุกครั้งที่มาทำลายประชาธิปไตย ผมหวังว่า จะได้กลับไปรับใช้พี่น้องกันอีกครั้งหนึ่ง และอีกไม่นานเราคงจะได้อยู่ด้วยกัน" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ความหวังที่จะกลับประเทศในเวลาอันใกล้แบบไม่มีความผิด คงต้องพังทลายลงไปในพริบตา แบบเป็นไปไม่ได้เลย หากรัฐบาลน้องสาวที่มีตัวเองสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เกิดต้องมีอันต้องพ่ายแพ้ใน "สงครามน้ำ" อีกเป็นคำรบที่ 2 เรียกว่า ไปด้วยภัยธรรมชาติล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับการเมืองแม้แต่น้อย



จากนี้ไป เรื่องน้ำจะท่วมหรือไม่? จึงถือเป็นงานที่ท้าทาย และเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หากล้มเหลวอีก ก็ไม่ต้องแปลกใจ หรือมาทวงถามเหตุผลกับประชาชนทั้งประเทศว่า เหตุใดจึงไม่ให้โอกาสรัฐบาลทำงานอีกต่อไป แต่เห็นควรต้องกลับไปพิจารณาตัวเอง...

นี่ยังไม่นับรวม ที่มีการกล่าวหาคนในรัฐบาล หรือแม้แต่ กรณีหญิงที่มีตัวอักษรย่อ ว่า "เจ๊ด" เข้าไปเกี่ยวข้องกับงบฯช่วยเหลืออุทกภัยอื้อฉาว ที่ว่ากันว่ามีมูลค่านับหมื่นล้านบาท หรือการที่ "ไม้เบื่อไม้เมา" อย่างฝ่ายค้าน ปชป. ออกมารณรงค์ต่อต้านล้างผิดคนโกง หรือจะเลยไปถึงปัญหา โกหกสีขาว ปัญหาข้าวของแพง ทุจริตจำนำข้าว มันสำปะหลัง ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ที่กำลังจะถาโถมเข้ามาในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องเตรียมรับมือในอนาคตอันใกล้นี้...

อ้างอิง  : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=21039&page=1


ก็แค่ วาทกรรมที่อคติ

"นี่ยังไม่นับรวม ที่มีการกล่าวหาคนในรัฐบาล หรือแม้แต่ กรณีหญิงที่มีตัวอักษรย่อ ว่า "เจ๊ด"

เข้าไปเกี่ยวข้องกับงบฯช่วยเหลืออุทกภัยอื้อฉาว ที่ว่ากันว่ามีมูลค่านับหมื่นล้านบาท

หรือการที่ "ไม้เบื่อไม้เมา" อย่างฝ่ายค้าน ปชป. ออกมารณรงค์ต่อต้านล้างผิดคนโกง

หรือจะเลยไปถึงปัญหา โกหกสีขาว ปัญหาข้าวของแพง ทุจริตจำนำข้าว มันสำปะหลัง

ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ที่กำลังจะถาโถมเข้ามาในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องเตรียมรับมือในอนาคตอันใกล้นี้..."

ก็แค่ วาทกรรมที่อคติและวิพากษ์วิจารณ์แบบสิ้นคิด ไม่มีสมอง

ผมไม่ได้เลือกเพื่อไทย และไม่ได้ชอบนโยบายเพื่อไทย แต่ยอมรับประชาธิปไตย

เมื่อเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล เป็นผู้บริหารประเทศและยอมรับความเป็นไป

แม้บางครั้งรัฐบาลทำงานไม่เข้าตาก็ตาม เหตุและปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น ยอมรับได้

บางครั้งมันเกินความสามารถของรัฐบาลจริงๆ มันเกิดขึ้นแบบไม่ได้คาดคิดมาก่อน โดยเฉพาะภัยธรรมชาติ

ความจริงไม่ว่าใครก็ตามบนผืนแผ่นดินนี้ควรที่จะเข้ามาช่วยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  แต่ เปล่า ครับ พี่ น้อง

ฝ่ายหนึ่งยังใหม่ แม้ในคณะจะเก่า ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดมันไม่เคยเกิดแบบนี้มาก่อน โดยฝ่ายตรงข้ามโจมตีโถมกระหน่ำ

ด้วยอาศัยภัยธรรมชาติทับถม แทนที่จะร่วมมือร่วมไม้กันช่วยกอบกู้สถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลับดี นี่กลับซ้ำเติม

ใส่ความ ท้าทาย อวดอ้าง ความดี ความชอบ โดยที่ไม่ได้ทำอะไร นอกจาก วาทกรรมอคตินั้น เท่านั้นเป็นที่สะใจ

ถามจริงเหอะ ถ้าตอนที่รัฐบาลเก่าเจอ สภาพน้ำแบบนี้ จะทำอย่างไร? มีใจเป็นธรรมและมองโลกในแง่ดีบ้าง?

เท่านี้แหละ เราคนไทยด้วยกัน ดี หรือ เลว ก็ไปด้วยกันทั้งหมดแหละ ถ้าไม่สบอารมณ์ใครก็ขอโทษด้วย จริงๆ


xeviv