ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อบจ.สงขลาทุ่ม 230 ล้าน สร้างกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลสาบสงขลา

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 09:39 น. 01 ต.ค 55


นรก

อ้างจาก: ปกป้องคนดี เมื่อ 00:43 น.  02 ต.ค 55

คนเราถ้ามีผลงานจะพิจสูจน์ทุกอย่าง  ไม่ใช่คนเราจะดีไปทั้งหมด  แต่เราต้องช่วยกันปกป้องคนดี  ไม่ใช่สนับสนุนคนมีอิทธิพล  เพราะตอนนี้คนสงขลามีความคิด ไม่ต้องสร้างกระแส 

ปกป้องต่อไปเถอะครับคนดีที่สั่งฆ่าคนอื่น

Big MaHad

เจดีย์องค์ขาว องค์ดำ ทางฝั่งเขาแดงนั้น ถ้าพัฒนาและปรับปรุงให้ดี + เพิ่มตัวข้อมูล ประวัติที่สำคัญต่างๆ ของตัวเจดีย์และเมืองสงขลา ผมว่าสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีอีกแห่งนึงได้ครับ
ปัญหานึงที่พวกเราหลายๆคน ที่ไปมาแล้วมองว่าไม่มีอะไร เป็นแค่ซากเจดีย์เก่าๆ นี่คงเพราะว่า คนไทยเวลาไปเที่ยวไหน ไม่ค่อยจะสนใจอ่านป้าย หรือศึกษาข้อมูลของที่ที่จะไปเที่ยวนั้นๆ ผมไปมาแล้วครั้งนึง ระยะทางที่เดินขึ้นไปก็ยอมรับว่าสูงพอสมควร และระหว่างทางขึ้นนัน้ก็จะมีป้อมปืนใหญ่ ที่สร้างโดยทหารชาวฮอลันดาครับ ส่วนเจดีย์ข้างบนนั้นก็สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยต้นๆกรุง เพื่อเป็นที่ระลึกในการปราบกบฎหัวเมืองมลายู ทั้งสองครา ที่น่าปรับปรุงคือ พวกป้ายสื่อความหมาย และรายละเอียดของสถานที่นี้แหละครับ ใช้งบไม่มากหรอก แต่อยากให้ทำให้ดี แข็งแรงถาวรหน่อย

พวกสถานที่เชิงประวัติศาสตร์แบบนี้ ต้องเป็นคนที่สนใจ และใส่ใจครับ ถึงอยากไปเที่ยวชม ใครไม่ชอบการเที่ยวสไตล์แบบนี้คงไม่สนุก แต่สำหรับผมสนุกมากครับ เมื่อก่อนก็เคยคิดว่าถ้ามีกระเช้าข้ามไป ก็คงดีเพราะคนคงไปเที่ยวมากขึ้น เพราะเดินทางสะดวกสบายไม่ต้องเดินขึ้นทางฝั่งเขาแดง แต่คิดไปคิดมาก หากคนไปเที่ยวมากๆ แต่ไม่มีการจัดการที่ดีพอ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ก็อาจจะทรุดโทรมลงได้ เพราะไม่ดูแลกันดีดี
อดีตคือรากฐานของปัจจุบัน...ปัจจุบันคือรากฐานของอนาคต

เด็กฝั่งธน

ท่านครับสร้างสะพานดีกว่า มาดูที่ท่าแพตอนเช้ากับตอนเย็นสิ รถโคตรติด please.

หนับหนุน

อ้างจาก: Big MaHad เมื่อ 18:49 น.  11 พ.ย 55
เจดีย์องค์ขาว องค์ดำ ทางฝั่งเขาแดงนั้น ถ้าพัฒนาและปรับปรุงให้ดี + เพิ่มตัวข้อมูล ประวัติที่สำคัญต่างๆ ของตัวเจดีย์และเมืองสงขลา ผมว่าสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีอีกแห่งนึงได้ครับ
ปัญหานึงที่พวกเราหลายๆคน ที่ไปมาแล้วมองว่าไม่มีอะไร เป็นแค่ซากเจดีย์เก่าๆ นี่คงเพราะว่า คนไทยเวลาไปเที่ยวไหน ไม่ค่อยจะสนใจอ่านป้าย หรือศึกษาข้อมูลของที่ที่จะไปเที่ยวนั้นๆ ผมไปมาแล้วครั้งนึง ระยะทางที่เดินขึ้นไปก็ยอมรับว่าสูงพอสมควร และระหว่างทางขึ้นนัน้ก็จะมีป้อมปืนใหญ่ ที่สร้างโดยทหารชาวฮอลันดาครับ ส่วนเจดีย์ข้างบนนั้นก็สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยต้นๆกรุง เพื่อเป็นที่ระลึกในการปราบกบฎหัวเมืองมลายู ทั้งสองครา ที่น่าปรับปรุงคือ พวกป้ายสื่อความหมาย และรายละเอียดของสถานที่นี้แหละครับ ใช้งบไม่มากหรอก แต่อยากให้ทำให้ดี แข็งแรงถาวรหน่อย

พวกสถานที่เชิงประวัติศาสตร์แบบนี้ ต้องเป็นคนที่สนใจ และใส่ใจครับ ถึงอยากไปเที่ยวชม ใครไม่ชอบการเที่ยวสไตล์แบบนี้คงไม่สนุก แต่สำหรับผมสนุกมากครับ เมื่อก่อนก็เคยคิดว่าถ้ามีกระเช้าข้ามไป ก็คงดีเพราะคนคงไปเที่ยวมากขึ้น เพราะเดินทางสะดวกสบายไม่ต้องเดินขึ้นทางฝั่งเขาแดง แต่คิดไปคิดมาก หากคนไปเที่ยวมากๆ แต่ไม่มีการจัดการที่ดีพอ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ก็อาจจะทรุดโทรมลงได้ เพราะไม่ดูแลกันดีดี

เป็นธรรมดาที่คนทำงานและมีผลงานย่อมถูกวิพากวิจารณ์  ในทางตรงข้ามหากไม่ทำอะไรเลยอยู่เฉยๆอาจไม่โดนใครตำหนิ     =>ดังนั้นขอสนับสนุนและให้กำลังใจนายกต้อยในทำงานต่อไปนะคะ[/b]  เชื่อว่าหากผู้วิจารณ์ลองใช้สติในการพิจารณาอย่าง "ปราศจากอคติ"ใดๆ ก็น่าจะมองเห็นว่าอะไรดีหรือไม่ดี 

สำหรับกรณีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่หลายคนอาจดูว่าไม่เห็นมีอะไรให้ดู หรือไม่น่าสนใจ  ไม่แน่ใจว่าอาจเป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่มักไม่ชอบศึกษาหรือสนใจเรื่องแบบนี้ ยิ่งอากาศบ้านเราก็ไม่ได้เย็นฉ่ำเหมือนต่างประเทศ   แต่ต่างจากชาวต่างชาตินะคะ พอมีวันหยุดเค้ามักจะไปลูกหลานไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หรือสถานที่เชิงประวิตศาสตร์ หรืออุทยานวิทยศาสตร์ เป็นต้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้  แต่บ้านเรามักสนุกกับการได้ไปเที่ยวห้างที่มีแอร์เย็นๆ มีอาหารอร่อยๆหรือดูหนังต่างๆ มากกว่า  ดังนั้นหากเราสามารถปลูกฝังให้เยาวชนสนใจสิ่งที่มีประโยชน์เหล่านี้ ก็น่าจะเป็นการดีกว่าแหล่งยั่วยุอื่นๆหรือปล่าวคะ

อีกทั้งเมื่อเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดทั้งคนไทยและต่างชาติ ก็ยิ่งสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างชื่อเสียงให้กับคนในจังหวัด ไม่ดีกว่าหรือคะ   ขออนุญาตฝากแง่คิดเหล่านี้ไว้ให้พิจารณากันด้วยนะคะ :)


[บัวใต้ตม

หลากหลายแนวความคิดครับ มองกลางๆเมื่อก่อนสงขลาไม่เห็นมีไรเดี๋ยวนี้มีโน่นนั่นนี่ แต่พอมีคนคิดทำนั่นนี่ก็มีคนค้านบ้างก็ว่าๆกันครับ แต่ผมก็มองว่าการที่พยายามจะทำอะไรดีกว่าไม่คิดทำไรนะครับ ภาษีที่จ่ายไปจะได้กลับมาพัฒนาบ้านเรามั่งการที่จะไปพิพากษาว่าโกงไม่โกงขั้นตอนการตรวจสอบปฎิบัติมันก็มีนี่ครับ ทำไมไม่เอามาใช้ตรวจสอบ หรือ สั่งคนไปทำอะไรใคร กฎหมายมันก็มีอยู่แล้ว ก็มีวิจรณญาณในการรับฟังข่างสารอย่าไปพิพากษาให้เขาเสียหาย ระบบกฎหมายมีขั้นตอนครับศาลท่านมีวิจรณญาณไปชี้นำท่านไม่ได้หรอก

เอวัง

ปัญหาคือไม่มีจุดสนใจพอที่จะสร้าง
เห็นภาพเลยว่า พอคนนั่งกระเช้าลงมา ก็จะบอกว่า  ไม่มีอะไร
พูดกันไปปากต่อปาก สุดท้ายก็แทบไม่มีคนใช้
นอกจากชาวบ้าน ใช้ข้ามไปมา เอวัง

เอวัง

จะเป็นที่เดียวในโลกนี้ ที่ประชาชนได้ใช้กระเช้าไฟฟ้าในการข้ามทะเลแทนการใช้สะพาน

เตรียมงบดูแลบำรุงรักษาให้เยอะๆนะ คนที่จะมารับผิดชอบต่อ

SAM

กระเช้าลอยฟ้า คือความสุขของคนสงขลา ?



การทำโครงการหลายๆอย่างเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากให้เรื่องกระเช้าลอยฟ้าเป็นเรื่องหลังๆที่จะทำ เพราะอยากให้เน้นเรื่องต่อไปนี้ก่อน

1. การศึกษา



     จากที่ทาง อบจ. ได้จัดโครงการอบรมคอมพิวเตอร์ให้หน่วยงานต่างๆ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว จึงอยากให้ขยายโอกาสไปยังประชาชนธรรมดา คล้ายๆกับโครงการต้นกล้าอาชีพที่รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ทำ และอยากให้สนับสนุนเรื่องการศึกษาแบบหลากหลาย เช่น มอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่เรียนดีแต่ทางบ้านยากจน จัดแข่งทักษะวิชาชีพ ทักษะเชิงวิชาการบ่อยๆ ฯลฯ

2. ความปลอดภัย



     เพิ่มกล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยงและปรับปรุงของเดิมที่เสียให้ดีทุกตัว เพิ่มชุดรักษาความปลอดภัยในตัวเมืองเป็นจุดๆ และฝึกซ้อมแผนรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วม สึนามิ พายุ รวมถึงการก่อความไม่สงบ ฯลฯ ให้กับภาคประชาชนเข้าใจกันอย่างทั่วถึง  จะทยอยทำทีละหมู่บ้านหรือทีละชุมชนก็ว่ากันไป

3. การคมนาคม



    ผมคิดว่าควรยกเลิกการสัมปทานรถโดยสารประจำทางที่มีผู้ให้บริการเพียงเจ้าเดียว และควรเพิ่มตัวเลือกให้กับประชาชนได้เลือกใช้บริการ โดยให้ผู้ให้บริการแข่งขันกันในเรื่อง การให้บริการ ความปลอดภัย ความสะอาด ความทันสมัย มารยาทของคนขับรถและกระเป๋ารถเมล์ และควรเพิ่มจำนวนรถในชั่วโมงเร่งด่วน เช่นตอนเช้าเวลาไปทำงานและตอนเย็นเวลาหลังเลิกงาน ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้โดยสารอัดแน่นกันยังกับปลากระป๋องเพราะไม่มีทางเลือก หรือถ้าเป็นไปได้ก็จัดทำรถไฟฟ้าแบบ กทม. ไปเลย แต่ก็เข้าใจว่ามีความเป็นไปได้น้อยเพราะเบื้องบนคงจัดสรรงบมาให้น้อย แต่ถ้าทำได้จะลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดอุบัติเหตุ ฯลฯ หลายๆคนก็คงอยากให้มี

มีอื่นๆ อีกเยอะแยะ

ขอเสนอความคิดเห็นเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ  ส.ยกน้ิวให้

ลูกแมวตาดำๆ

อ้างจาก: SAM เมื่อ 05:42 น.  15 พ.ย 55
กระเช้าลอยฟ้า คือความสุขของคนสงขลา ?



การทำโครงการหลายๆอย่างเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากให้เรื่องกระเช้าลอยฟ้าเป็นเรื่องหลังๆที่จะทำ เพราะอยากให้เน้นเรื่องต่อไปนี้ก่อน

1. การศึกษา



     จากที่ทาง อบจ. ได้จัดโครงการอบรมคอมพิวเตอร์ให้หน่วยงานต่างๆ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว จึงอยากให้ขยายโอกาสไปยังประชาชนธรรมดา คล้ายๆกับโครงการต้นกล้าอาชีพที่รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ทำ และอยากให้สนับสนุนเรื่องการศึกษาแบบหลากหลาย เช่น มอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่เรียนดีแต่ทางบ้านยากจน จัดแข่งทักษะวิชาชีพ ทักษะเชิงวิชาการบ่อยๆ ฯลฯ

2. ความปลอดภัย



     เพิ่มกล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยงและปรับปรุงของเดิมที่เสียให้ดีทุกตัว เพิ่มชุดรักษาความปลอดภัยในตัวเมืองเป็นจุดๆ และฝึกซ้อมแผนรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วม สึนามิ พายุ รวมถึงการก่อความไม่สงบ ฯลฯ ให้กับภาคประชาชนเข้าใจกันอย่างทั่วถึง  จะทยอยทำทีละหมู่บ้านหรือทีละชุมชนก็ว่ากันไป

3. การคมนาคม



    ผมคิดว่าควรยกเลิกการสัมปทานรถโดยสารประจำทางที่มีผู้ให้บริการเพียงเจ้าเดียว และควรเพิ่มตัวเลือกให้กับประชาชนได้เลือกใช้บริการ โดยให้ผู้ให้บริการแข่งขันกันในเรื่อง การให้บริการ ความปลอดภัย ความสะอาด ความทันสมัย มารยาทของคนขับรถและกระเป๋ารถเมล์ และควรเพิ่มจำนวนรถในชั่วโมงเร่งด่วน เช่นตอนเช้าเวลาไปทำงานและตอนเย็นเวลาหลังเลิกงาน ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้โดยสารอัดแน่นกันยังกับปลากระป๋องเพราะไม่มีทางเลือก หรือถ้าเป็นไปได้ก็จัดทำรถไฟฟ้าแบบ กทม. ไปเลย แต่ก็เข้าใจว่ามีความเป็นไปได้น้อยเพราะเบื้องบนคงจัดสรรงบมาให้น้อย แต่ถ้าทำได้จะลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดอุบัติเหตุ ฯลฯ หลายๆคนก็คงอยากให้มี

มีอื่นๆ อีกเยอะแยะ

ขอเสนอความคิดเห็นเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ  ส.ยกน้ิวให้


รบกวนเข้าไปอ่าน แผนพัฒนา 3ปี ในเว็บ อบจ.สงขลา ด้วยนะครับ มีโครงการอยู่ทั่้งหมด หลากหลายครอบคลุมมากกว่านี้อีก มีเรื่องสุขภาพประชาชนด้วย แต่เพราะโครงการเหล่านี้ นักข่าวไม่เอามาลง คนเลยอาจจะไม่รู้

ดังนั้นขอให้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องก่อนนะครับ เพราะอาจจะกลายเป็นการสร้างความเข้าใจผิดได้

ลูกแมวตาดำๆ

อ่อ ผมเลยลงไว้ใว้นิน่า ตามนี้นะครับ ข้อมูล โครงการ อบจ. ทุ่มงบไปทุกๆด้าน ไม่ใช่แค่กระเชาลอยฟ้า ผมไม่เข้าข้างการเมืองฝ่ายใด แต่ผมเน้นพูดคุยกันด้วยข้อมูลจริง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะชน ทุกคนสามารถหาอ่านได้ เพียงเข้าเว็บ อบจ.สงขลา หรือ ค้นหาผ่าน Google ได้เช่นกัน

อ้างจาก: ลูกแมวตาดำๆ เมื่อ 09:48 น.  12 ต.ค 55
สำหรับคนที่กล่าวว่า ทำไมไม่เอางบไปทำเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนบ้างนั้น ก่อนจะว่าอะไร รบกวนศึกษาข้อมูลให้ดีๆ เพราะงบประเภทนั้นไม่ค่อยเป็นข่าว ถ้าอยากรู้ว่างบแต่ละปีนั้น ลงไปเรื่องไหนบ้าง ก็ควรหัดศึกษาข้อมูล ซึ่งข้อมูลพวกนี้เป็นข้อมูลเผิดเผย หาอ่านได้ที่เว็บไซต์ของ อบจ.สงขลา ไม่ต้องอ้างว่าไม่รู้ชื่อเว็บไซต์ ผมเองก็จำไม่ได้ แต่สมัยนี้มี Google เข้าไปพิมพ์ว่า อบจ.สงขลา ก็ค้นหาเว็บเจอแล้วง่ายๆ แล้วไปอ่านที่ข่าวประชาสัมพันธ์ก็จะทราบข่าวสารการใช้งบประมาณต่างๆแล้ว

ไม่ต้องไปหาผมเอาลิงค์มาให้แล้ว ประกาศองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เรื่อง ให้ใช้แผนพัฒนาสามปี (พ.ศ.2556-2558) อบจ.สงขลา ลองเข้าไปโหลดอ่านได้ที่ลิงค์ http://www.songkhlapao.go.th/news/detail/565/? แต่ต้องมีเวลาหน่อยนะ ข้อมูลเยอะมาก แยกแยะเป็นยุทธศาสตร์ต่างๆมากมาย

เมื่ออ่านแล้วอันไหนท่านคิดว่าไม่เหมาะสม ก็ค่อยมาวิจารณ์กันได้เต็มที่ แต่ขอเป็นข้อมูลจริง รู้เรื่องแล้วจริง ไม่ใช่แค่ว่าไม่เห็นข่าวแล้วมาโวยวายกัน ข่าวเค้าก็ขายข่าวที่เด่นๆดังๆ แต่ถ้าอยากรู้จริงข่าวสารก็หาอ่านได้

Figo

ต้องคิดว่าส่วนรวมได้ประโยชน์หรือไม่ เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายคับ

ปกป้องคนดี

การเดินก้าวไป  บนเส้นทางที่หลายคนไม่สามารถเดินไปได้  ก็จะมีหลายคนที่คิดว่าทำไม่ได้   อีกกลุ่มหนึ่งก็ว่าทำไปแล้วจะเกิดอะไร   
แต่ลองคิดดูว่า  ตลอด 15-16 ปี ในการเป็นนักพัฒนาของ นายกต้อย  เราทุกคนก็เห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา  ใครบ้างที่กล้าจะทำที่คิดว่าทำไปแล้วไม่ได้ประโยชน์  แต่ นายกต้อย  ไม่เคยหยุดคิด  ทำทุกอย่างให้คนสงขลานั้นได้ มีความสุข  กินดี  อยู่ดี  ทุกคนก็สามารถตรวจสอบได้  และสามารถค้นหาข้อมูลการพัฒนาได้   ว่า "นายต้อย" นั้นคิดที่จะดูแลพี่น้องมาตลอด  ผมเชื่อว่าพี่น้องทุกคนสามารถเข้าใจผิดได้  เพราะปัจจุบันนี้เรา  บริโภคข่าวสารที่ บิดเบยดความจริงไป  สำนักข่าวไหน ที่เค้าให้เงินเยอะก็ให้ข่าวตาม คนว่าจ้าง    วันนี้เราทุกคนก็รู้ว่าบ้านเมืองเราตอนนี้เป็นอย่างไร   ใครเป็นใคร  ต้องการทำร้ายเพื่ออะไร   เราต้องรู้ต้นสาเหตุของปัญหา 
นายอุทิศ  ชูช่วย คนนี้ เป็นนักพัฒนา  ไม่ใช่นักการเมือง  เพราะได้สร้างหลายอย่างเป็นอย่างมากเพื่อพัฒนาให้คนสงขลานั้นมีความสุข และปลอดภัย  นักการเมืองคนอื่นๆ ก็เลยกลัวว่าถ้าปล่อยให้ นายต้อยทำไปเรื่อยๆ ไม่ดีแน่  เดี๋ยวจะเสียผลประโยชน์  ก็เลยกลั่นแกล้งให้นายต้อยนั้น  ตกเป็นจำเลยสังคม  ที่ผ่านมาตอนนี้ที่นักข่าวมาทำข่าวที่สงขลา  ตอนเข้าบ้าน  นายต้อย  ผมยังสงสัยว่าคน ประมาณ 300 คน มาจากไหน  ก็ลองให้ทีมงานสืบ  จนได้ความว่า  มีคนจ้างคนละ 300 บาท ให้มายืนหน้าบ้าน นายต้อย  เพื่อที่จะให้ข่าวถ่ายว่า คนสงขลาสนใจเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก 
และพยายามสื่อให้เกี่ยวข้องกับตัวนายต้อย  และน้องชาย  เพื่อให้ลตำตรวจ เน้นประเด็นในเรื่องของ การเมืองท้องถิ่น ซึ่งเกิดมาแล้ว 3 ปี ที่ผ่านมา  เท่าที่สัมผัส กับ นายกิตติ ชูช่วย  ไม่ได้มีนิสัยที่ชอบทำร้ายคนอื่น และเป็นคนที่ไม่มีอิทธิพล อย่างข่าวที่กล่าวมา  เป็นคนที่มีนิสีัยเป็นนักกีฬา แพ้คือแพ้  ชนะคือชนะ "ประชาชนเลือกแล้วก็ให้โอกาศเค้าทำงานสิ"  คำพูดของนายกิตติ หน้าจากการเลือกตั้ง  เหตุการทั้งหมด เหมือนเป็นการจัดฉากขึ้น องคิดดูสิครับ  ว่า บอกว่าเป็นมือปืนมืออาชีพ  แต่ทำไม มีทั้งหมวกไหมพรหม มีทั้งปลอกกระสูนปืน ทิ้งไว้ในรถ  ทั้งๆ ที่ตอนยิงยิงนอกรถ  และอยู่ๆ ก็มีรูปถ่ายหัวหน้าซุ้มมือปืนอยู่ในรถ 
มันเป็นการวางหลักฐานชัดๆ แต่ทำไมทุกคนไม่คิดเรื่องนี้  ทุกอย่างเหมือนการจัดฉากเป็นอย่างมากๆ


กขคง

อ้างจาก: ปกป้องคนดี เมื่อ 15:32 น.  02 ม.ค 56
การเดินก้าวไป  บนเส้นทางที่หลายคนไม่สามารถเดินไปได้  ก็จะมีหลายคนที่คิดว่าทำไม่ได้   อีกกลุ่มหนึ่งก็ว่าทำไปแล้วจะเกิดอะไร   
แต่ลองคิดดูว่า  ตลอด 15-16 ปี ในการเป็นนักพัฒนาของ นายกต้อย  เราทุกคนก็เห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา  ใครบ้างที่กล้าจะทำที่คิดว่าทำไปแล้วไม่ได้ประโยชน์  แต่ นายกต้อย  ไม่เคยหยุดคิด  ทำทุกอย่างให้คนสงขลานั้นได้ มีความสุข  กินดี  อยู่ดี  ทุกคนก็สามารถตรวจสอบได้  และสามารถค้นหาข้อมูลการพัฒนาได้   ว่า "นายต้อย" นั้นคิดที่จะดูแลพี่น้องมาตลอด  ผมเชื่อว่าพี่น้องทุกคนสามารถเข้าใจผิดได้  เพราะปัจจุบันนี้เรา  บริโภคข่าวสารที่ บิดเบยดความจริงไป  สำนักข่าวไหน ที่เค้าให้เงินเยอะก็ให้ข่าวตาม คนว่าจ้าง    วันนี้เราทุกคนก็รู้ว่าบ้านเมืองเราตอนนี้เป็นอย่างไร   ใครเป็นใคร  ต้องการทำร้ายเพื่ออะไร   เราต้องรู้ต้นสาเหตุของปัญหา 
นายอุทิศ  ชูช่วย คนนี้ เป็นนักพัฒนา  ไม่ใช่นักการเมือง  เพราะได้สร้างหลายอย่างเป็นอย่างมากเพื่อพัฒนาให้คนสงขลานั้นมีความสุข และปลอดภัย  นักการเมืองคนอื่นๆ ก็เลยกลัวว่าถ้าปล่อยให้ นายต้อยทำไปเรื่อยๆ ไม่ดีแน่  เดี๋ยวจะเสียผลประโยชน์  ก็เลยกลั่นแกล้งให้นายต้อยนั้น  ตกเป็นจำเลยสังคม  ที่ผ่านมาตอนนี้ที่นักข่าวมาทำข่าวที่สงขลา  ตอนเข้าบ้าน  นายต้อย  ผมยังสงสัยว่าคน ประมาณ 300 คน มาจากไหน  ก็ลองให้ทีมงานสืบ  จนได้ความว่า  มีคนจ้างคนละ 300 บาท ให้มายืนหน้าบ้าน นายต้อย  เพื่อที่จะให้ข่าวถ่ายว่า คนสงขลาสนใจเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก 
และพยายามสื่อให้เกี่ยวข้องกับตัวนายต้อย  และน้องชาย  เพื่อให้ลตำตรวจ เน้นประเด็นในเรื่องของ การเมืองท้องถิ่น ซึ่งเกิดมาแล้ว 3 ปี ที่ผ่านมา  เท่าที่สัมผัส กับ นายกิตติ ชูช่วย  ไม่ได้มีนิสัยที่ชอบทำร้ายคนอื่น และเป็นคนที่ไม่มีอิทธิพล อย่างข่าวที่กล่าวมา  เป็นคนที่มีนิสีัยเป็นนักกีฬา แพ้คือแพ้  ชนะคือชนะ "ประชาชนเลือกแล้วก็ให้โอกาศเค้าทำงานสิ"  คำพูดของนายกิตติ หน้าจากการเลือกตั้ง  เหตุการทั้งหมด เหมือนเป็นการจัดฉากขึ้น องคิดดูสิครับ  ว่า บอกว่าเป็นมือปืนมืออาชีพ  แต่ทำไม มีทั้งหมวกไหมพรหม มีทั้งปลอกกระสูนปืน ทิ้งไว้ในรถ  ทั้งๆ ที่ตอนยิงยิงนอกรถ  และอยู่ๆ ก็มีรูปถ่ายหัวหน้าซุ้มมือปืนอยู่ในรถ 
มันเป็นการวางหลักฐานชัดๆ แต่ทำไมทุกคนไม่คิดเรื่องนี้  ทุกอย่างเหมือนการจัดฉากเป็นอย่างมากๆ



การไปกล่าวหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีการจ้างคนมา หรือ ซื้อเสียงหัวละเท่านั้นเท่านี้
ผมว่าเป็นเรื่องตลกมาก และเป็นการฆ่าตัวเองอย่างโง่บรม

คุณจะแสดงให้ประชาชนเห็นว่า คุณไม่เคยจ่ายเงินจ้าง หรือ ไม่เคยซื้อเสียงใช่ไหม
แล้วคุณคิดว่าประชาชนเขาจะเชื่อที่คุณพูดหรือ




น่าสมเพส

อ้างจาก: ปกป้องคนดี เมื่อ 15:32 น.  02 ม.ค 56
การเดินก้าวไป  บนเส้นทางที่หลายคนไม่สามารถเดินไปได้  ก็จะมีหลายคนที่คิดว่าทำไม่ได้   อีกกลุ่มหนึ่งก็ว่าทำไปแล้วจะเกิดอะไร   
แต่ลองคิดดูว่า  ตลอด 15-16 ปี ในการเป็นนักพัฒนาของ นายกต้อย  เราทุกคนก็เห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา  ใครบ้างที่กล้าจะทำที่คิดว่าทำไปแล้วไม่ได้ประโยชน์  แต่ นายกต้อย  ไม่เคยหยุดคิด  ทำทุกอย่างให้คนสงขลานั้นได้ มีความสุข  กินดี  อยู่ดี  ทุกคนก็สามารถตรวจสอบได้  และสามารถค้นหาข้อมูลการพัฒนาได้   ว่า "นายต้อย" นั้นคิดที่จะดูแลพี่น้องมาตลอด  ผมเชื่อว่าพี่น้องทุกคนสามารถเข้าใจผิดได้  เพราะปัจจุบันนี้เรา  บริโภคข่าวสารที่ บิดเบยดความจริงไป  สำนักข่าวไหน ที่เค้าให้เงินเยอะก็ให้ข่าวตาม คนว่าจ้าง    วันนี้เราทุกคนก็รู้ว่าบ้านเมืองเราตอนนี้เป็นอย่างไร   ใครเป็นใคร  ต้องการทำร้ายเพื่ออะไร   เราต้องรู้ต้นสาเหตุของปัญหา 
นายอุทิศ  ชูช่วย คนนี้ เป็นนักพัฒนา  ไม่ใช่นักการเมือง  เพราะได้สร้างหลายอย่างเป็นอย่างมากเพื่อพัฒนาให้คนสงขลานั้นมีความสุข และปลอดภัย  นักการเมืองคนอื่นๆ ก็เลยกลัวว่าถ้าปล่อยให้ นายต้อยทำไปเรื่อยๆ ไม่ดีแน่  เดี๋ยวจะเสียผลประโยชน์  ก็เลยกลั่นแกล้งให้นายต้อยนั้น  ตกเป็นจำเลยสังคม  ที่ผ่านมาตอนนี้ที่นักข่าวมาทำข่าวที่สงขลา  ตอนเข้าบ้าน  นายต้อย  ผมยังสงสัยว่าคน ประมาณ 300 คน มาจากไหน  ก็ลองให้ทีมงานสืบ  จนได้ความว่า  มีคนจ้างคนละ 300 บาท ให้มายืนหน้าบ้าน นายต้อย  เพื่อที่จะให้ข่าวถ่ายว่า คนสงขลาสนใจเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก 
และพยายามสื่อให้เกี่ยวข้องกับตัวนายต้อย  และน้องชาย  เพื่อให้ลตำตรวจ เน้นประเด็นในเรื่องของ การเมืองท้องถิ่น ซึ่งเกิดมาแล้ว 3 ปี ที่ผ่านมา  เท่าที่สัมผัส กับ นายกิตติ ชูช่วย  ไม่ได้มีนิสัยที่ชอบทำร้ายคนอื่น และเป็นคนที่ไม่มีอิทธิพล อย่างข่าวที่กล่าวมา  เป็นคนที่มีนิสีัยเป็นนักกีฬา แพ้คือแพ้  ชนะคือชนะ "ประชาชนเลือกแล้วก็ให้โอกาศเค้าทำงานสิ"  คำพูดของนายกิตติ หน้าจากการเลือกตั้ง  เหตุการทั้งหมด เหมือนเป็นการจัดฉากขึ้น องคิดดูสิครับ  ว่า บอกว่าเป็นมือปืนมืออาชีพ  แต่ทำไม มีทั้งหมวกไหมพรหม มีทั้งปลอกกระสูนปืน ทิ้งไว้ในรถ  ทั้งๆ ที่ตอนยิงยิงนอกรถ  และอยู่ๆ ก็มีรูปถ่ายหัวหน้าซุ้มมือปืนอยู่ในรถ 
มันเป็นการวางหลักฐานชัดๆ แต่ทำไมทุกคนไม่คิดเรื่องนี้  ทุกอย่างเหมือนการจัดฉากเป็นอย่างมากๆ

งานนี้คงไม่ได้จัดฉากแต่เป็นเพราะความชะล้าใจของตัวเองที่คิดว่ายังไงก็รอดเหมือนคดีอื่นๆที่ผ่านมา

ทำไม

วางศิลาฤกษ์ก็จ้างมา หัวละ 2-3ร้อย เป็นพันสองพันคนทำไมไม่โฟส์จ้า 300 คน จิบ จิบ พี่น้อง หรือคิดว่าเขารักเขาหลงถึงได้มาหา  สจ.แต่ละคนซิ แหมลงพื้นที่เกณฑ์คน น่าเอนดู และสมเพช

นอน

อ้างจาก: คิดไม่ได้ เมื่อ 07:33 น.  03 ม.ค 56
วางศิลาฤกษ์ก็จ้างมา หัวละ 2-3ร้อย เป็นพันสองพันคนทำไมไม่โฟส์จ้า 300 คน จิบ จิบ พี่น้อง หรือคิดว่าเขารักเขาหลงถึงได้มาหา  สจ.แต่ละคนซิ แหมลงพื้นที่เกณฑ์คน น่าเอนดู และสมเพช


ถูกต้องครับเกณฑ์คนหาดใหญ่ ไป แล้วให้ค่าหัว หัวละ 300 บาท ครับ

ปกป้องคนดี

โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีมาก  เพราะความคิดนี้ต้องยกให้ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา  ในช่วงนั้น
คือท่าน นวพล  ท่านได้ใช้ความคิดที่ต้องการพัฒนาบ้านเมือง เพื่อเป็นประตูสู่อาเซี่ยน  แต่ท่านทำในช่วงนั้น มีการออกแบบ โดยในการออกแบนั้น  มีแบที่มี สอง แบบคือ  แบบที่หนึ่งคือ ส่วนสถานี ในการตั้งเป็นสถานีกระเช้า  ส่วนที่สองคือ  ร้านอาหาร 3 วัฒนธรรม  (มุสลิม  จีน  พุทธ ) เป็นร้านอาหารที่ อบจ. ในปีนั้นได้คิดขึ้นมา แต่พอได้ดำเนินการ  ขออนุญาติ เพื่อจะทำการเช้าที่ดิน และดำเนินการก่อสร้าง นั้นก็ไม่สามารถผ่านด่านแรกได้คือ  การของอนุญาติ  เช่าที่ดิน จาก กรมธนารักษ์น้้นไม่สามรถทำได้ จึงทำให้  อบจ.ปีนั้นหยุดไปเพราะไม่เดินต่อ  เนื่องด้วยต้องเดินผ่านหลายหน่วยงาน
และในช่วงปี 53 ตอนที่ นายก ต้อย รับการเลือกจากประชาชนชาวสงขลา ให้มาเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา  ก็ได้เล็งเห็นว่าโครงการนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องสงขลาในด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก  มาถึงปี 53-54  ได้ทำการนำโครงการนี้มาศึกษา ในการดำเนินการก่อสร้างมาตลอด  ได้ดำเนินการในการ ขอเช่าที่ดิน กรมธนารัก และเสนอโครงการให้พิจรณาในครั้งนั้น  ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแล  หลายหน่วยงาน  คณะกรรมการโบราณสถาน  ซึ่มมีผู้ที่คุณวุฒิ ในการดูแลเกี่ยวกับโบราณสถาน ซึ่งเห็นด้วยว่าโครงการ การสร้างกระเช้านั้น จะทำให้ผู้คนได้ ขึ้นไปดู สิ่งที่บรรพบุรุษ สร้างมา เพื่อให้ เยาวชนได้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของสงขลาได้ ก็เลยได้อนุญาติในการดำเนินการ เพราะนายก อุทิศ ได้ไปอธิบายด้วยตัวเองในการอนุญาติ เรียกว่าถ้าไม่ผ่านขอไหนก็จะไปแก้ไข  ซึ่งในการทำโครงการนี้นั้น แน่นอน ว่ายากเป็นอย่างมากในการดำเนิน และเดินเรื่องในการขออนุญาติ ต้องผ่าน 6 กระทรวง และ 12 หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งดั้งหมดนี้เป็นการดำเนินการมาเป็น เวลา ร่วม 2 ปี นับว่าเป็นคนที่จิงจังกับเรื่องงานเป็นอย่างยิ่ง  อันนี้เป็นข้อมูลซึ่งท่าน สามารถตรวจสอบได้  เพราะเป็นข้อมูลในการดำเนินโครงการ ซึ่งถ้าเราเปิดใจรับฟัง ข้อมูลทั้งสองฝ่าน ท่านจะทรายเอง เพราะ เราวามารถพิจรณาเองได้  โดยที่ไม่ต้องใสห้คนอื่น มาสั่งให้เราคิดว่าเป็นแบบนั้น
ยากให้เราคิดเถอโครงการนี้ดีน่ะครับ  เพื่อชาวสงขลาต่อไป

แน่ใจหรือว่าคนดี?

ปกป้องคนดี หมายถึง ปกป้องนายกต้อย??  ส.อืม ส.อืม  คิดหนักเลย  ส.โอ้โห

เรื่องกระเช้าลอยน้ำ ศาลปกครองก็มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไปแล้ว

ส่วนเรื่องคดีนายกพีระ ก็เพิ่งโดนตำรวจเรียกเข้าไปสอบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจว่าจะหาคนร้ายมาลงโทษได้หรือไม่  อะไรเป็นอะไร ชาวสงขลาเห็นกันทั้งจังหวัดแล้ว

กระเช้าเลือด   เราไม่เอา  ส.ฉันเอง

รอดู

ต่างคนต่างความคิด บางคนอยากให้มี บางคนก็บอกไม่เอากระเช้าลอยฟ้า ส่วนในเรื่องคดียิงกันตายก็ว่ากันตามหลักฐาน ทุกอย่างยังต้องว่ากันอีกยาว.....ส่วนผมเอากระเช้าครับ ส.บ๊ายบาย

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวสุดท้าย:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง