ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ทำไมพุทธเราจึงมีระบบเจ้าสำนัก

เริ่มโดย เณรเทือง, 18:38 น. 12 ธ.ค 55

แค่โลกียะวาทะกรรมหลงกิเลศ

อ้างจาก: คุณหลวง เมื่อ 11:23 น.  04 ก.พ 56
    ท่านพี่Mr.No ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นดอกครับ เพราะว่าหากท่านพี่พูด ผมเงียบ มันก็จบ ท่านพี่ฅนหลงพูด ผมเงียบ มันก็จบ แต่เพราะผมต่อด้วย มันเลยยาว แต่เรายาวไปทางเดียวกัน มันเลยไม่มีปัญหา แต่เมื่อมีคนยาวไปคนละทาง มันก็แย้งกันบ้าง ธรรมดา อินทรียะต่างกัน

    ตอนที่ท่านพี่เอ่ยว่าสนใจธรรมแต่ยังชอบรสชาติเบียร์เมื่อ...สักปีก่อน หรือปีกว่าๆได้แล้วนะ เป็นครั้งแรกที่ท่านพี่นำพูดเรื่องนี้ ผมร้องในใจ เฮ้ย..เจ๋งๆ วาจาตรงดี ผมก็เลยตอบรับไปบ้างตามความเป็นจริง แต่ก่อนตอบ ผมคิดนานพอควร นึกถึงคนที่เข้ามาคุย มาตอบ มาแลกเปลี่ยน มาถามปัญหากันว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ผมคงแย่และเสียศรัทธาไปแน่ๆ แต่สุดท้ายก็คิดว่า คนเราต่างมีดีเลว เราศรัทธากันตามความเป็นจริงของตัวตนจะดีกว่านะ หากผมกลัวเสียชื่อผมคงไม่ยอมรับมาตั้งแต่นั้นแล้วล่ะ

    การเข้าเส้นทางธรรม ไม่ใช่ว่าจะต้องเลิศเลยทีเดียว มันต้องค่อยๆปรับ ค่อยๆแก้กันไป เหมือนกับจะทำอะไรต่างๆนานา สร้างบ้านก็ไม่ใช่ยกมาตั้งทั้งหลังเลย มันต้องผ่าการปรับพื้นปรับอะไร ก่ออะไรไปเรื่อยๆกว่าจะสมบูรณ์ คนที่เริ่มสนใจธรรม แม้ว่ายังเลวอยู่ แต่เมื่อสนใจสิ่งดีๆแล้ว สักวันจะต้องดีขึ้นแน่ๆเรื่อยๆ เราก็ช่วยกันส่งเสริมไปตามกำลัง...เนาะ

    ประการสำคัญคือ เราต้องมีความซื่อตรงต่อตัวเองให้มากที่สุด เพราะความซื่อตรงต่อตัวเอง ยอมรับตัวเองตามความเป็นจริงแล้ว เราจึงจะปรับ แก้ไขมันได้ หากใช้ความดีมาปกปิดตัวเองอยู่ เราก็แก้ไขตัวเองไม่ได้

    การฝึกธรรม ฝึกสมาธิก็เหมือนกัน มันค่อยๆเป็นค่อยๆไป หมั่นตรวจสอบใจตนเองให้มาก สิ่งที่พูดกับความจริงในใจ มันตรงกันไหม ฟังคนอื่นบ้างก็ดี เพราะเขาจะมองมาจากข้างนอกอาจจะเห็นได้ชัดกว่า สิ่งที่เขามองผิดบ้าง อคติบ้างก็ช่างๆมันไปเสีย นักมวย นักบอล นักกีฬาจึงต้องมีโค้ชมีพี่เลี้ยงคอยดู เพื่อมองจุดบกพร่องนั่นเอง นักกีฬาที่อวดตน เก่งเอาเองไม่ฟังใครจึงไม่ประัสบความสำเร็จถึงจุดสุดยอด

    เรื่องจิตใจ แม้จะพูดแบบง่ายๆว่ารู้จักใจตนก็สุดยอดธรรม แต่การรู้จักใจนั่นแหละยากที่สุด เพราะว่าจิตใจมันพร้อมที่จะป้องกันตัวเองให้ดีอยู่ร่ำไป จนละเลยความดีที่แท้จริงไปก็มี แม้คนเลวก็ยังอวดความดีของตนในแบบที่ตนมีตนเป็นว่าดีว่าเด่นว่าสุดยอด

    อย่างการคุยกับท่านผู้นี้ ผมเองก็เคยคิดจะหยุดเลยแล้วล่ะ แต่เมื่อเห็นอะไรมันหลุดมาหลายอย่าง ประสาอยู่ไม่สุข ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ก็เลยคุยเรื่อยๆมา เพื่อกระทุ้งให้เขาแสดงธรรมออกมา อย่าดีแต่อวด และเพื่อให้เขาแหนงใจตัวเองในสิ่งที่เขาอาจจะยังไม่เห็น แม้ว่ามันจะทำให้กระทู้นี้หม่นไปบ้าง น่ารำคาญบ้างจากท่านผู้อ่าน เพราะดูเหมือนการทะเลาะ ถกเถียงกันก็ตาม

   
    ผมคงจะไม่ยกเอาอะไรที่ท่านพูดคำหลังไม่ตรงกับคำหน้ามาเป็นตัวอย่างนะครับ เพราะอยากให้ท่านรู้ด้วยตัวเอง ลองกลับไปอ่านไปทบทวนดู ผมไม่มีเจตนาที่จะทำลายท่าน ที่พูดมาก็เพื่อให้ท่านเห็นตัวเองมากขึ้น กล้าพูดว่าผมหวังดีต่อท่านด้วยจริงใจ แต่ความเลวของผมอาจทำให้ท่านมองความหวังดีของผมไม่เห็น อันนี้ผมก็ทำใจ

    ธรรมจะไปต่อได้ก็ด้วยความไม่เกรงใจตัวเอง ไม่หวาดกลัวต่อความจริงที่ตนเองเป็น ธรรมมันเติบโตได้ด้วยการยอมรับตนได้ตามความเป็นจริงเท่านั้น หากยังไม่สามารถยอมรับตน ยังหลู่คุณครูบาอาจารย์ มันก็เป็นได้เพียงธรรมปฏิรูปเท่านั้น และหลอกลวงตัวเองร่ำไป

   
    ป.ล. สำนักที่แยกออกมาเพราะกิเลสคนก็เยอะครับ วันหลังมีเวลาจะเข้ามาเล่าสู่กันฟังครับ


สะบายดี...  ส.อืม

| บาปใหญ่ - บาปลึก ? |

    คิดว่าดี กว่าเขา ซิเราแย่
มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่บาปใหญ่
ส่วนตัวเอง บาปลึก นึกให้ไกล
มันบาปหนา อยู่เมื่อไร ให้นึกดู

    เขาติดซ้าย, เราติดขวา, ถ้ามานึก
มันยังติด เหลือลึก กันทั้งคู่
แม่ติดซ้าย เลวกว่า ไม่น่าดู
แต่ติดขวา มันก็หรู อยู่เมื่อไร

    มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่ยังเลว
ส่วนตัวเอง ก็ยังเหลว ไม่ไปไหน
เฝ้าเกลียดซ้าย รักขวา เป็นบ้าใจ
มันก็ไพล่ พลัดห่าง ทางนิพพานฯ

                      พุทธทาสภิกขุ
ท่่านยังเหมือนเด็กๆที่ห่่วงของเล่น พอใครมาแย่งชิงเอาไป ก็ร้องห่มร้องให้ฟ้องพ่อฟ้องแม่ เมื่อไหร่จะโตให้สมกับกูรูธรรม หันหน้ารักษาศีลเถอะจะได้ไม่โดนธรรมชูชกเทวทัตหลอกให้อ้อมวกวน คนมุ่งธรรมปลีกวิเวกสันโดษเข้าป่าที่สงบเงียบ ไม่ห่วงวงเหล้าศรวลเศรเฮฮานารีหรอก ของปลอม ทองปลอมเดี๋ยวก็ลอก อย่าอวดเก่ง แค่การท่องจำความจำได้หมายรู้ เด็กๆ  ส.บ๊ายบาย

เณรเทือง

อืมมม...ต่างสำนักจริงๆ
ขอแสดงความนับถือทั้งสองฝ่าย

จิตควบคุมสั่งการทุกอย่าง

บักหำน้อย จำไว้ ว่า จิต เจ้า ไม่ ทำ มะ ดา

เราเองตัวตนไม่มี

เฮ้ย ตื่นๆ มาถกธรรมกันต่อ เหงา ทางที่ท่านว่าน่ะมันก็ถูกอยู่หรอกแต่มันค่อนข้างจะวกวนเวียนและประมาท ท่านก็เข้าใจประมาณนึงแล้ว ต้องจูนช่วยกันให้ธรรมไปต่อ ถึงจะต่างสำนัก เราเองๆไม่ใช่ใคร เรามันพันธุ์ยักจริตมันอย่างนี้แก้ยาก แต่เรามุ่งธรรม สล่ะแล้วเพื่อธรรม พระโคตมะ ตื้นๆ อย่าพึ่งโดนน๊อคนับสิบ ส.โกรธ

คุณหลวง

    เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของราชบัณฑิต เสฐียรพงศ์ วรรณปก เล่าถึงประสบการณ์ของท่านตอนไปเรียนต่างประเทศ พูดถึงการขยายสาขาวัดไทยที่มากมายนั้น ท่านว่ามีมากที่ไม่ใช่เกิดจากความศรัทธาของชาวต่างชาติอย่างที่คนไทยจำนวนมากดีใจกัน แต่หากเป็นเพราะพระที่แข่งกันเด่นก็มี เมื่อยอมกันไม่ได้ในถ้ำ..อ้อ วัดเดียวกัน ก็รวบรวมญาติโยมของตนสร้างวัดใหม่ โดยมีตนเองเป็นเจ้าอาวาส หรือบางทีเกิดจากคนไทยที่จัดตัวเองอยู่ในเกรดสูงหน่อยก็จะไม่เข้าวัดที่เกิดจากการร่วมมือกันสร้างของหญิงประเภทที่ขายบริการแล้วได้ผัวฝรั่ง เมื่อหลายคนเข้าก็มักจะดึงสามีให้สนใจศาสนาและประเพณีพุทธและร่วมสร้างวัด ซึ่งคนเกรดสูงจะถือว่าเป็นวัดกะหรี่เลยไม่เข้า แล้วร่วมกันสร้างใหม่ก็มี

    อ่านแล้วก็ขำดี

    กลับมาเมืองไทย สมัยที่ยังบวช เคยได้เดินทางไปเดินทะลุดงที่เมืองกาญจน์ ไปพักที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านกลางป่า ชื่อวัดป่าภูเตย หลวงตาจันทร์ ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวมาสร้างไว้แล้วให้ลูกศิษย์(ของตน ซึ่งเท่ากับหลานศิษย์หลวงตา....มั้ง)ดูแล ส่วนตัวท่านก็ธุดงค์ต่อไป แต่ไม่ทราบยังไง ท่านได้ไปเจอสถานที่อันเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมอีกที่ แต่อยู่ห่างกันเพียงคนละมุมหมู่บ้าน ๒-๓ กม.เท่านั้น จึงสร้างวัดโพธิญาณขึ้นอีก แล้วให้ลูกศิษย์อีกรูปดูแลอยู่ ส่วนท่านก็เดินทางต่อไป เห็นออกข่าวท่านสร้างวัด อยู่ดูแลเองที่เมืองกาญจน์แหละ ที่ออกข่าวว่าเลี้ยงเสือนั่นแหละครับ

    ปรากฏว่าลูกศิษย์ภูเตยไม่ยอมรับลูกศิษย์โพธิญาณ เนื่องจากกล่าวหาว่ามาอยู่เพื่อแย่งลาภสักการะ ทำชาวบ้านแตกแยก ทั้งสองแห่งเลยไม่ยอมพูดคุย ไม่ทำสังฆกรรมร่วมกัน แม้กระทั่งไปงานที่วัดป่าบ้านตาดก็ยังไม่ยอมคุยกัน ผมไปเจอไปพูดคุยกับทั้งสองที่แล้วก็ได้แต่ขำ ยังสงสัยว่าท่านหลวงตาจันทร์ท่านทราบเรื่องไหมหนอ เหตุใดจึงไม่มาระงับเรื่องให้ศิษย์ทั้งสองแห่งได้อยู่ร่วมกันด้วยสันติ สามัคคีเล่าหนอ

    เรื่องทั้งสองนี้ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการแบ่งเป็นสำนักอย่างหัวข้อ แต่มันมีส่วนเชื่อมโยงถึงกันอยู่ จัดเป็นเรื่องเดียวกันได้ เพราะความแตกแยกแข่งขัน อวดดี อคติ และถือตน ถือครูบาอาจารย์ ล้วนเป็นที่มาของการแบ่งแยก ซึ่งแน่นอนว่ามันเกิดขึ้นส่วนใหญ่ที่ลูกศิษย์ของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน หรือผู้ที่ถือตนว่าเป็นศิษย์ เป็นคนใกล้ชิดครูบาอาจารย์เหล่านั้นนั่นเอง ซึ่งคนเหล่านี้มักยึดเอาตัวอาจารย์ ข้อวัตรปฏิบัติของอาจารย์(และของตนที่ยึดตามอาจารย์) ยึดเอารูปแบบการพูดของครูบาอาจารย์มากกว่าเนื้อหาสาระ ยึดเอาแนวทางการสั่งสอน(ซึ่งถูกใจตน)มาเป็นข้อแบ่งแยก โดยไม่ได้ศึกษาสาระอันแท้จริง หรือละเลยไปว่าสาระแท้จริงนั้นไม่อยู่ที่รูปแบบภายนอกประการใดทั้งสิ้น

    สาระสำคัญมันอยู่ที่ผลที่จิตได้รับจากความปล่อยวางสิ่งรัดรึง(จิต)ได้ต่างหาก ซึ่งความสามารถในการปล่อยวางสิ่งรัดรึงได้นี้ มิได้เกี่ยวกับข้อวัตรรูปแบบใด ไม่เกี่ยวกับการแต่งกายแบบใด ไม่เกี่ยวกับการกินข้าวกี่มื้อ กินน้ำชา กาแฟหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับวิธีการสอน ไม่เกี่ยวกับคำพูด ไม่เกี่ยวกับนรก สวรรค์ ไม่เกี่ยวกับผีสางเทวดาใดๆทั้งสิ้น ฯลฯ

    แต่เมื่อมีการสอน มีจริต อุปนิสัย ธาตุ บารมีที่สั่งสม และตั้งใจมาต่างกัน ทำให้แนวทางภายนอกต่างกัน แม้วิธีการพูดการสอนก็อาจจะมองเผินๆว่าค้านกันนั้น หากเราคั้นสาระออกมาแล้ว เรากลับจะไม่พบความแตกต่างเลย แต่ลูกศิษย์คนธรรมดาที่ยึดติดครูบาอาจารย์ อคติ ศึกษาไม่ถึง หรือไม่ศึกษานั้นก่อความแตกแยกกันได้เสมอ เพราะ.....

    เพราะธรรมเป็นหนึ่งเดียวรวด แต่โลกเป็นของคู่

    หากเรามองด้วยสายตาของโลกที่มีของคู่ เราก็จะพลาดจากสาระได้เสมอไป เนื่องจากเราจะมีคติทางบวกกับจริตแนวทางของตน แต่เรามีมีคติทางลบกับแนวทางที่ต่างกับตน คือมีเรามีเขาร่ำไป หากเมื่อละเราละเขาออกเสียเราก็จะเห็นสาระของมันที่อยู่ภายใต้องค์ประกอบภายนอก(ที่เป็นเพียงเครื่องอยู่ในโลกเท่านั้น)ทั้งมวล แม้บางทีเราจะพบครูบาอาจารย์บางท่านเข้มข้น เอาจริงเอาจังกับข้อวัตร สิกขาบทในรูปแบบของตนอย่างมาก จนคล้ายจะตำหนิอีกแบบว่าผิด แต่นั่นเป็นเพียงการจ้ำจี้จ้ำไชศิษย์ของตนและผู้ศรัทธาในแนวทางของท่านเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงทั้งมวล


    ดังนั้น หากเราได้ศึกษาประวัติครูบาอาจารย์หลายท่าน ที่มีความแตกต่างกันมากมายนั้น เราจะพบว่าท่านเหล่านั้นหาได้แบ่งแยก อวดมึงกูกันไม่ อย่าง หลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านพุทธทาส องค์ดะไล ลามะ และท่านติช นัท ฮันท์ ๔ ท่านนี้เป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี เพราะทั้ง ๔ ท่านนี้ ต่างกันอย่างที่แทบจะเรียกได้ว่าสิ้นเชิงในรูปแบบภายนอกทั้งในรูปแบบการปฏิบัติ แนวทางการสอน การแต่งกาย การขบฉัน การเป็นอยู่ ฯลฯ แต่ท่านเหล่านี้ให้การยอมรับกันและกันในส่วนของธรรมเป็นอย่างดี หาได้แตกแยกไม่ (ขออนุญาตที่จะไม่ค้นหาให้นะครับว่าท่านแสดงธรรมและให้ความยอมรับกันและกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวกันไว้ที่ใดบ้าง เพราะอ่านเจอมานานเกินกว่าจะจำได้ว่าอยู่ในหนังสือเล่มใด และอ่านที่ใด)

    อันนี้ จึงน่าจะเป็นข้อพิจารณาได้อีกประการหนึ่งเกี่ยวกับรูปแบบและสาระของสำนัก ว่ามีส่วนร่วมส่วนแยกกันอย่างไร

    ว่ากันไปมา การพูดคุยกันในหัวข้อนี้ยาวพอสมควร จนมีความรู้สึกว่าน่าเบื่อเสียแล้ว(๕๕๕๕ หัวเราะเป็นภาษาไทย) แต่จนถึงที่สุดมานี้ มันทำให้ผมต้องรำลึกขอบคุณทุกท่านเหลือเกิน อย่างท่านคู่สนทนากับผม(ที่ผมเรียกว่า ท่านผู้นี้) ผมขอขอบคุณท่านมากจริงๆที่ท่านพูดคุย ตอบด้วยตลอดมา เพราะหากท่านหยุดเสียตั้งแต่กลางคัน ผมก็คงไม่เห็นว่าตัวเองยังหลงตัวเองอยู่มากมายเพียงใด มันเป็นความหลงตัวเองที่ผมไม่เท่าทันมันเลยจริงๆ เพราะความตั้งใจที่คิดว่าผมจะต้องแก้ไขความหลงของท่านให้ได้(ตั้งใจดีนะครับ ยอมรับว่าผมเห็นว่าท่านยังติดในออปชั่นมากเกินไป  ส.ฉันเอง) จนไม่ยอมที่จะหยุดตามที่ตั้งใจ กลับยังคงโต้ตอบไปเรื่อยๆ แม้ท่านผู้หวังดีหลายๆท่านตักเตือนแล้วก็ยังไม่หยุด นึกๆแล้วสงสารตัวเองยังไงไม่รู้สิครับ

    ต้องขออภัยท่านผู้อ่านด้วยครับ ที่ต้องพบกับความน่ารำคาญ มันคล้ายๆกับผมพยายามโฆษณาว่าผมถูกกว่า จนละเลยคุณภาพไป เหมือนสินค้ายี่ห้อโมเดิร์น เทรด ที่ราคาถูกกว่าที่อื่น แต่อย่าดูคุณภาพแล้วกัน ผมก็ออกไปทำนองนั้นแหละครับ

    และอีกท่านที่ผมไม่อาจไม่รำลึกถึง คือท่านพี่ฅนหลง ผมต้องขอบคุณในความตั้งใจดีที่พี่มีแก่ผม จนออกตัวไปรับแทน แต่อันนั้นมันทำให้ท่านพี่ต้องเจ็บตัวไปพอสมควร(มั้ง...ว่าเอาเอง) แต่ผมคงต้องบอกตรงๆว่านั่นเป็นความหวังดีที่เกิดความยึดติดในตัวตน ซึ่งมันทำให้เราออกนอกทางธรรมไป เพราะเท่ากับสร้างตัวตนให้จิต แม้ยึดติดในพระอรหันต์ก็ยังเป็นความผิด เพราะสร้างอัตตาแก่ตน ประสาอะไรกับผม เราเป็นเพื่อนร่วมทางกัน ไม่ต้องกลัวว่าผมจะเจ็บเพราะใครจะว่าจะด่าผมดอกครับ

    ผู้ประพฤติธรรม ธรรมย่อมรักษาเอง ผมเองก็มีธรรมดีรักษาและธรรมชั่วให้โทษผมอยู่เหมือนกัน การนับถือกันและกันเป็นสิ่งที่ผมน้อมรับด้วยใจและผมก็นับถือท่านพี่ด้วยใจ แต่อย่างที่บอกครับ หากเป็นการป้องกันเพื่อนจนตนเองสร้างทุกข์สร้างวัฏฏะแก่ตนอย่างนั้นก็ไม่สมควร(หากเป็นการรับลูกปืนแทนก็ว่าไปอย่าง  ส.หลกจริง) ก็ขอบคุณท่านพี่มากๆครับ หวังว่าจะยังไม่ทิ้งกันไปเน้อ

    ขอความสุขจงมีแด่ทุกท่านครับผม สะบายดี...


    ป.ล. เห็นว่างอยู่นานไม่มีใครมา พอผมตั้งใจมา ท่านผู้นี้ก็มาก่อน นับว่าวาสนาไม่ขาดกันจริงๆ จะพยายามหาเวลาคุยด้วยเรื่อยๆครับท่าน สาธุกับความตั้งใจในธรรมครับผม
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

ค คนหลง

.

...ผมไปเที่ยวตรุษจีนมา โชคดีถูกรางวัล ของ ธกส ด้วย ได้มาล้านกว่าบาท เที่ยวกันเปรมไปเลย

ยังคิดถึงท่านเจ้าคุณหลวง และเพื่อนๆญาติธรรมทุกท่าน

...เมื่อเช้าพิมพ์ตอบแล้ว ด้วยไอแผด iPad แต่ส่งไม่ได้ ไม่ทราบขัดข้องอย่างไร

ตอนนี้ใช้โน๊ตบุ๊คตอบ หวังว่า คงจะใช้ได้ เครื่องนี้ ไม่มี ค คนครับ


..ปล.ขอบคุณที่คิดถึง และห่วงใย ผมซำบายดีครับ...

แล้วถ้าได้เจอกัน จะเอาเบียร์ดำ กินเนส สเต้าท์ไปฝาก ดีกับสุขภาพครับ... ส.หัว ส.ก๊ากๆ ส.หลกจริง ส-ดีใจ ส-เหอเหอ

ฅ ฅนหลง

.


...วันนี้ ใช้ไอแผด มี ฅ ฅน ครับ ท่านเจ้าคุณหลวง เละเพื่อนๆ ซำบายดีบ่..


พรุ่งนี้ ไปเที่ยวภูเก็ตอีกแว้ว นอนชายหาดป่าตอง นั่งริมเล เล่นเนต คงสุขใจใช่น้อย

จะไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อแช่ม และวักนาคา บนเขา วิวสวย อากาศเย็นดี สบายทั้งกายและใจ

คงจะอยู่หลายวัน


................ขอบคุณพระ ขอบคุณเจ้า และพระเจ้า...

.....รักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้ ความรักไม่อวดตัว ไม่หยาบคาย ไม่หยิ่งจองหอง ไม่ฉุนเฉียว


ไม่คิดเห็นแต่ฝ่ายตัวข้างเดียว...


Love is kind...from Crorinthians 13.. The Holy Bible... ส-ดีใจ ส-ดีใจ ส.ก๊ากๆ

คุณหลวง

 ส.โอ้โห  เป็นล้านเลยรึ  ส.โอ้โห ส.โอ้โห ส.โอ้โห ส.โอ้โ


อิจฉาง่ะ  ส.หลกจริง

สะบายดี...ตลอดไปนะครับ ท่านและทุกๆท่าน สาธุ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

ฅ ฅน

..



...นมัสการ ท่านเจ้าคุณหลวง


...ผมเพิ่งกลับมาจากภูเก็ต ขับรถไปมาหลายร้อย กม. สนุกดีครับ ได้รู้ ได้เห็นหลายเรื่อง มากมาย

ตอนนี้ยังเหนื่อยอยู่เลย ขอตัวไปพักผ่อนก่อนครับ


...ครับโชคดีในชีวิต ไม่เคยเจออย่างนี้เลยครับ ล้านกว่าบาท ขอบคุณพระ ขอบคุณเจ้า และพระเจ้าทุกองค์ที่ฅนไม่รู้จัก....

วันนี้ มีฅนติดต่อเรื่องจะขอซื้อบ้านและที่ดินอีก กลุ้มใจจริงๆ ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรดี...


....unknown God.... ส.โอ้โห ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ

ฅ ฅนหลง

......



...หวัดดีครับ ท่านเจ้าคุณหลวง

...ผมเพิ่งกลับมาจากเที่ยวต่างจังหวัด ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้เจอผู้คนหลายคนเช่นกัน

..ซื้อคอมมาเครื่องหนึ่ง ยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่น ไอแมค iMac ยังใช้ไม่คล่องเลย หาวิธีพิมพ์ตัว ฅ ฅนตั้งนาน กว่าจะหาเจอ

...ถ้าไม่ตายเสียก่อนคงได้พบกันอีกครับ.... ส.บ๊ายบาย ส.บ๊ายบาย ส.บ๊ายบาย ส.บ๊ายบาย ส.บ๊ายบาย ส.หัว ส.ก๊ากๆ

คุณหลวง

ท่านพี่ฅนหลงครับ

    ผมมีโอกาสเข้ามาน้อยลงอีกเพราะปัญหาสัญญาณเน็ตอย่างที่เคยบอก กับเดี๋๋ยวนี้ได้ออกบ้านน้อยลง ขี้เกียจมากขี้น เอาเป็นว่าเราติดต่อกันทางโทรศัพท์ดีกว่า ท่านพี่ส่งเบอร์ของท่านพี่มาที่เบอร์ 08 6966 4042 เป็นเบอร์ที่ผมใช้เล่นเน็ต อาจโทรไม่ติดเป็นส่วนใหญ่ แต่ฝากข้อความไว้ได้

    ข้องใจลาวสเด๊าท์จริงๆ ส.หลกจริง ส.หลกจริง ส.หลกจริง

อย่าฟุ่มเฟือยมากนะครับ แบ่งบริจาคผู้ด้อยโอกาสบ้างเล็กน้อยก็สาธุๆๆ อย่าลืมว่าทรัพย์สมบัติไม่ว่าเท่าไหร่ก็ไม่พอใส่กระเป๋าแห่งความหลงระเริงและฟุ่มเฟือยดอกครับ


    สะบายดี...

ขอมอบเพลงนี้ให้ครับ
http://youtu.be/wfn0ycztfzQ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

ฅ ฅนหลง

...

....หวัดดีครับ ท่านเจ้าคุณหลวง

ผมดีใจที่พบกับท่านอีก คิดถึงอยู่เสมอ

....ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และเพลงที่มีความหมายดีๆ ส.หัว ส.หัว ส-ดีใจ ส-เหอเหอ ส.หลกจริง

Barw

  ผมว่าน่าจะประมาณแนวใครแนวมัน ถ้าไม่ออกนอกลู่นอกทางเกินไป ก็คงไม่ผิด  ส.อืม

ฅ ฅนหลง รอ ฅ ฅุณหลวง

.


....กระทู้นี้โผล่ออกมาอีกแล้ว จึงแวะมาเยี่ยม มาเยือน..


....มาตามสายชล กว้างจนสุดเหลือคะเน....เสียงเพลง ลานเท แว่วมา...

เพลงรักอมตะ ยอดนิยมในอดีต.. ส.ดุดุขำขำ ส-เหอเหอ ส.ยกนิ้วให้


...เจอปัญหาแว้ว พยัญชนไทยตัวที่ 5 คือ.....บ่องตง ม่ายรุจิงๆ ต้องเอามือถือมาดู..

ahingsaga

601 คนปากเสีย และปากดี

ปัญหา คนเช่นใด "ปากอุจจาระ" "ปากดอกไม้ และปากน้ำผึ้ง" คืออย่างไร ?

พุทธดำรัส ตอบ"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลปากอุจจาระ คืออย่างไร ? บุคคลบาง คนในโลกนี้ไปในที่ประชุมก็ดี ในฝูงชนก็ดี ไปในท่ามกลางเหล่าญาติก็ดีไปใน ท่ามกลางเสนาก็ดี ไปในท่ามกลางราชาสกุลก็ดี ถูกเขาอ้างเป็นพยาน.... เขาไม่รู้ก็ กล่าวว่ารู้ หรือรู้ก็ว่าไม่รู้ไม่เห็นก็ว่าเห็น หรือไม่เห็นก็ว่าเห็น กล่าวแกล้งเท็จทั้งที่รู้ เพราะเห็นแก่ตนเอง เพราะเห็นแก่คนอื่น หรือเพราะเห็นแก่อามิสเล็กน้อย... นี้เรียกว่า คน "ปากอุจจาระ" "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน ปากดอกไม้คืออย่างไร ? บุคคลบางคนในโลกนี้ไปในที่ ประชุม.... ถูกเขาอ้างเป็นพยาน.... เมื่อเขาไม่รู้ก็กล่าวว่าไม่รู้ หรือเมื่อรู้กล่าวว่ารู้เมื่อ ไม่เห็นก็กล่าวว่าไม่เห็น เมื่อเห็นก็กล่าวว่าเห็น ย่อมไม่แกล้งกล่าวเท็จทั้งที่รู้เพราะเห็น แก่ตน เพราะเห็นแก่คนอื่น หรือเพราะเห็นแก่อามิสเล็กน้อย... นี้เรียกว่าคน "ปาก ดอกไม้" "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน ปากน้ำผึ้ง คืออย่างไร ? บุคคลบางคนในโลกนี้ละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ พูดแต่วาจาที่ไม่มีโทษ เสนาะโสตเป็นที่รักจับหัวใจ เป็นวาจา ของชาวเมือง เป็นที่รักที่ชอบในของคนมาก... นี้เรียกว่าคน "ปากน้ำผึ้ง"....

คูถภาณิสูตร ติก. อํ. (๖๔๗) ตบ. ๒๐ : ๑๖๑-๑๖๒ ตท. ๒๐ : ๑๔๕ ตอ. G.S. ๑ : ๑๑๐-๑๑๑ 589 ความคดโกง กาย วาจา ใจ

ปัญหา เปรียบเทียบความสมบูรณ์แห่งการดัด?

คำตอบ"ในอดีตกาล มีกษัตริย์ องค์หนึ่งพระนามว่าปเจตนะ รังสั่งให้นายช่างรถไปทำ ล้อรถคู่หนึ่งให้เสร็จใน ๖ เดือน เมื่อเวลาล่วงไป๕ เดือน กับ๒๔ วัน เขาทำล้อเสร็จ เพียงข้างเดียว แต่ภายใน ๖ วันที่เหลืออยู่เขาก็สามารถทำล้ออีกข้างหนึ่งให้เสร็จได้ เขาได้นำล้อ ๒ ข้างมาแสดงให้พระราชาทอดพระเนตรล้อที่เขาทำใน ๖ วันนั้นกลิ้ง ไปสุดแรงผลักแล้วก็ล้มลง ส่วนล้อที่ทำใน ๕ เดือน ๒๔ วันนั้น เมื่อกลิ้งไปสุดแรงแล้ว ยังตั้งอยู่ได้เหมือนอยู่ในตัวรถ เมื่อพระราคาตรัสถามถึงสาเหตุ นายช่างรถทูลว่า ล้อ ที่ทำใน ๖ วันนั้นมีส่วนประกอบที่คดโค้ง มีข้อเสียมียางเหลืออยู่ในไม้ ส่วนล้อที่ทำใน ๕เดือน ๒๔ วันนั้น ไม่มีข้อบกพร่องเหล่านั้น นายช่างผู้ทำรถนั้นคือใคร? พุทธดำรัส ตอบ"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอาจจะคิดอย่างนี้ว่านายช่างทำ รถนั้นในสมัยนั้นคงจะเป็นคนอื่น แต่ข้อนี้ท่านทั้งหลายไม่ควรเห็นดังนั้นนายช่างรถ ในสมัยนั้น ก็คือเรานั้นเอง "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คราวนั้นเราฉลาดในความคดโค้งแห่งไม้ในข้อเสียแห่งไม้ใน ยางเหนียวแห่งไม้ แต่บัดนี้เราเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าฉลาดในความคดโกง แห่งกายในโทษแห่งกายในยางเหนียวแห่งกาย ฉลาดในความคดโกง...ในโทษ...ใน ยางเหนียวแห่งวาจา ฉลาดในความคดโกง...ในโทษ... ในยางเหนียวแห่งใจ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่งไม่ละความคดโกง... โทษ.... ยาง เหนียวแห่งกาย... แห่งวาจา...แห่งใจ เขาได้พลัดตกไปจากพระธรรมวินัยเหมือนกับ ล้อที่เสร็จใน ๖ วัน.... "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่งละความคดโกง... โทษ.... ยาง เหนียวแห่งกาย... วาจา...ใจได้ เขาตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมวินัยนี้เหมือนกับล้อที่เสร็จ ใน ๖ เดือนหย่อน ๖ ราตรี...."

ปรจตนสูตร ติก. อํ. (๔๕๔) ตบ. ๒๐ : ๑๔๐-๑๔๒ ตท. ๒๐ : ๑๒๘-๑๒๙ ตอ. G.S. ๑ : ๙๕-๙๗



อหิงสา


ปิดถนนแว้วกั้บ

ฅนบ้าไม่มา คงไปประท้วงปิดถนน ส.หลก ส.ยกน้ิวให้

PKComputer & service

ยึดไปเถอะครับ  ถ้าเราเอาหลักธรรมของแต่ละท่านไปใช้ แล้วเกิดประโยชน์ ไม่ว่ากับตัวเองหรือผู้อื่น แต่ก็ไม่ใช้ไม่รับฟังผู้อื่นเลย ดูให้ดี แต่ละท่านก็แค่บุคคลตัวอย่าง ที่ท่านได้นำหลักธรรมไปปฎิบัติ แล้วเกิดประโยชน์ จริงไหมครับ
ซ่อมคอม มือถือ หรือสั่งซื้อสินค้าของทาง Pk computer & Service
โทร 088-8344416 , 097-354-5354
ติดตามข่าวสารของเราได้ที https://www.facebook.com/PKcomputerservice/
เลือกช๊อปสินค้าของเราเพิ่มเติมได้ที่ http://pkcoms.lnwshop.com/

ค้าบน


อุขิตตะขัคนะอุตทัง

ว่า พรื่อ ภาวนากันเป็นรึยัง  ส.โอ้โห

ภาวนาชนะใจ

.
...ภาวนา ดาราคนแก่แล้วหรือ ส.ก๊ากๆ ส.หลก