ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

"มะลิ"ฟื้นผลิตย้ำผู้นำนมข้นหวาน ขยายแฟรนไชส์รถเข็นเท่าตัว-แตกไลน์กาแฟสด

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 16:46 น. 26 ม.ค 56

ทีมงานประชาสัมพันธ์

updated: 25 ม.ค. 2556 เวลา 15:42:01 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายกน จารุเศรนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิสเตอร์มิลค์ จำกัด ผู้บริหารโครงการ "รถเข็นมะลิ สร้างอาชีพ" ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด เจ้าของแบรนด์มะลิ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงการ "รถเข็นมะลิ สร้างอาชีพ" ที่ดำเนินการมา 2 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าซึ่งเป็นระบบแฟรนไชส์กว่า 700 ราย และบริษัทตั้งเป้าเป็น 2 เท่า หรือไม่ต่ำกว่า 1,500 รายในปีนี้ โดยจะเน้นขยายไปยังต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยใช้โลจิสติกส์ร่วมกับบริษัทแม่ ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าผ่านระบบเอเย่นต์ที่มีในทุกจังหวัด

สำหรับโครงการนี้ใช้เงินลงทุนครั้งแรกในราคา 27,000 บาท หลังจากนั้นบริษัทจะสอนวิธีการชงกาแฟ รวมถึงซัพพลายสินค้าและวัตถุดิบสำหรับการชงกาแฟให้ตลอดเวลา โดยจุดประสงค์ของโครงการนี้ไม่ใช่เรื่องของกำไรเป็นหลัก แต่เป็นวิธีที่ทำให้แบรนด์มะลิเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่เป็นนมข้นหวานด้วยกัน ขณะเดียวกันก็เป็นอีกช่องทางในการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์มะลิ ปัจจุบันนมข้นหวานมะลิยังเป็นอันดับ 1 ในตลาด และปัจจุบันสามารถกลับมาเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ และทำให้ไม่มีปัญหาสินค้าขาดแคลนแล้ว หลังจากประสบปัญหาสินค้าขาดตลาดเมื่อปีที่แล้วจากน้ำท่วมโรงงานที่เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2554

ในส่วนของการแข่งขันในตลาดนมข้นหวานปัจจุบันเหลือผู้เล่นในตลาดเพียง 2-3 ราย นอกจากนมมะลิแล้วก็มีนมตราหมี ซึ่งเป็นระดับพรีเมี่ยม ดังนั้น ปัจจุบันผู้เล่นส่วนใหญ่ในตลาดนี้จะเป็น "ครีมเทียมข้นหวาน" ซึ่งมีราคาถูกกว่านมข้นหวาน ข้อดีคือเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะร้านค้าต่าง ๆ ที่คำนึงเรื่องราคาเป็นหลัก ดังนั้น โครงการรถเข็นมะลินี้จึงเน้นตอบโจทย์ร้านค้า และตอกย้ำรสชาติของนมข้นหวานที่แตกต่างจากครีมเทียมข้นหวาน

นายกนกล่าวว่า ปัจจุบันรถเข็นกาแฟในตลาดส่วนใหญ่เป็นแบรนด์กาแฟ อาทิ เนสกาแฟ, เขาช่อง ฯลฯ บริษัทจึงต้องการสร้างความแตกต่างในตลาดนมข้นหวาน และในปีนี้เตรียมที่จะต่อยอดโครงการนี้ด้วยการเปิดตัว "รถเข็นมะลิ กาแฟสด" ในรูปแบบแฟรนไชส์เช่นเดียวกัน เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคในระดับพรีเมี่ยม สร้างโอกาสในขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้วยราคาขายต่อแก้วที่สูงกว่าประมาณ 40-50 บาท

"ตอนนี้กำลังหาโซลูชั่นที่เหมาะสมสำหรับโครงการกาแฟสดนี้ เพราะการลงทุนจะสูงกว่าแฟรนไชส์รถเข็นมะลิ สร้างอาชีพ เพราะกาแฟก็ต้องแพงกว่าเพราะใช้เมล็ดกาแฟคั่วบด รวมถึงเครื่องใช้กาแฟซึ่งไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท โดยจะพยายามให้ไม่เกิน 4 หมื่นบาท เพราะถ้ามากกว่านี้อาจไม่จูงใจให้คนเข้ามาลงทุนมากนัก"

ส่วนการต่อยอดในอนาคต เป็นไปได้ว่าจะทำธุรกิจร้านกาแฟสดเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจจะผ่านแฟรนไชส์ หรือบริษัทลงทุนด้วยตัวเอง ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีโรงงานผลิตกาแฟของตัวเอง แต่ใช้วิธีซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์แล้วนำมาผสมเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกน จารุเศรนี ถือเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของผู้ก่อตั้งบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด โดยเป็นลูกชายของพลเอกณรงค์ จารุเศรนี ประธานกรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ในปัจจุบัน