ป่าชายเลนสตูลเข้าขั้นวิกฤต ถูกบุกรุกทำนากุ้ง-ตัดไม้ส่งมาเลย์

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

สตูล - กอ.รมน.ภาค 4 บินสำรวจป่าชายเลนพื้นที่ชายฝั่งสตูล พบวิกฤตป่าชายเลนถูกบุกรุก ทั้งไถที่เตรียมทำนากุ้ง และตัดไม้ป่าชายเลนส่งขายมาเลเซีย
       
       วานนี้ (1 มี.ค.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้รับแจ้งจากหน่วยงานลับว่า พื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุกเป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้ทหารนำเฮลิคอปเตอร์ทหารบก จาก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ลงบินสำรวจพื้นที่ป่าชายเลน ชายฝั่งทะเลในพื้นที่ ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล พบสภาพพื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุกตัด และไถพื้นที่เตรียมทำบ่อนากุ้งเป็นจำนวนมาก และบางจุดเป็นบ่อร้างทิ้งไว้ ส่วนพื้นที่ป่าชายเลนบางพื้นที่ได้ถูกบุกรุกตัดไม้ และขโมยไม้ป่าโกงกางนำไปขาย ซึ่งการบินตรวจในครั้งนี้ พื้นที่ป่าชายเลนถูกตัดขยายวงกว้างหลายจุด ถือว่าน่าเป็นห่วง

       ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานให้ พ.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ มากสุวรรณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล ทำหนังสือส่งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล เจ้าหน้าที่ป่าชายเลนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ทางทะเล เพื่อเดินเท้าเข้าตรวจสอบทันที ตรวจดูสภาพพื้นที่ป่าชายเลนทุกจุดว่ากลุ่มคนใดที่เข้าบุกรุก หรือทำนากุ้ง มีเอกสารสิทธิที่ดินถูกต้องหรือไม่ โดยต้องทำรายงานให้เสร็จสิ้น 15 วัน ส่งรายงานแม่ทัพภาค 4 โดยด่วน
       
       นายเอกชัย เถรว่อง หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 34 (ตำมะลัง สตูล) กล่าวว่า สำหรับการบินตรวจในพื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่ตำมะลังติดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทะเลบัน และยังอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนตอนที่ 5 ซึ่งการบินตรวจครั้งนี้ มีการแจ้งจากหน่วยงานลับในพื้นที่ว่า ป่าชายเลนมีการถูกบุกรุก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าไปตรวจดูอีกครั้ง เพราะต้องการรู้ว่าพื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกบุกรุกที่ดินป่าชายเลน ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
       
       สำหรับปี 2555 ที่ผ่านมา มีการยึดไม้ป่าชายเลนจากกลุ่มผู้ตัดไม้นำไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมแล้ว 19 คดี ยึดไม้ได้ 2,204 ท่อน ส่วนคดีบุกรุกพื้นที่ จับผู้ต้องหาได้ 4 คน รถแบ็กโฮ 4 คัน ยึดพื้นที่ถูกบุกรุก 22 ไร่ และ ปี 2556 จับกุมได้ 2 คดี จำนวน 700 ท่อน โดยสาเหตุการตัดไม้เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ต้องการนำไม้ไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศมาเลเซีย โดยทางนายหน้ารับซื้อไม้รับซื้ออยู่ที่ท่อนละ 120 บาท