มทภ.4 เดินสายทำความเข้าใจกรรมการอิสลามกรณีเจรจาบีอาร์อ็น

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

ยะลา - คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนใต้ สนับสนุนแนวทางการพูดคุยเพื่อสันติภาพของรัฐบาล ในขณะที่แม่ทัพภาค 4-เลขาฯ ศอ.บต.-ผบช.ศชต.-ผู้ว่าฯ 3 จชต.เดินสายทำความเข้าใจกรรมการอิสลาม นักวิชาการชี้กระบวนการเจรจาต้องเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม
       
       ที่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส ประธานคณะกรรมการอิสลาม จ.ยะลา และ ผู้นำศาสนา ในพื้นที่ ได้เดินทางมาพูดคุยและชี้แจง กรณีการลงนามร่วมการพูดคุยเพื่อสันติภาพชายแดนภาคใต้กับนายฮาซัน ตอยิบ ประธานขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ฝ่ายอูลามา (ฝ่ายศาสนา) ในฐานะรองเลขาขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ภายใต้การอำนวยความสะดวกของฝ่ายความมั่นคงประเทศมาเลเซียนั้น เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา
       
       นายรุสดี บาเกาะ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า การที่ทางรัฐบาลได้ไปพูดคุยเพื่อตกลงเบื้องต้นให้มีการพูดคุยในคราวต่อไปนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นนิมิตหมายอันดีว่าต่อไปนี้ก็เริ่มที่จะเห็นแนวทางสันติสุขในพื้นที่ ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านก็จะเห็นด้วยและสนับสนุนแนวทางนี้ ดังนั้นการที่จะพูดในคราวต่อไปนั้นก็จะต้องมาดูในรายละเอียดว่าสิ่งใดที่สามารถทำได้ หรือทำไม่ได้
       
       แต่สิ่งที่สำคัญก็คือจะต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหา เพราะสังคมรอการแก้ไขมาเป็นเวลานานแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วยเพราะทุกคนมองว่าได้ทนความทุกข์มาเป็นเวลานาน หากมีการพูดคุยก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เกิดความสันติสุข เริ่มต้นแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าไม่เริ่มต้นก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าหันหน้ามาเปิดอกคุยกัน บางครั้งเรื่องที่ไม่เข้าใจกันก็อาจจะทำให้เข้าใจกันดีขึ้น
       
       "ในส่วนของกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั้ง 5 จังหวัดนั้น มองว่าเรื่องนี้เราก็มีการสนับสนุนให้มีการพูดคุยกันมานานแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่าทุกวันนี้จะมีป้ายตามสถานที่ต่างๆ ของคณะกรรมการอิสลามที่แสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุย ซึ่งก็มีการตอบรับจากหลายภาคส่วนเป็นอย่างดี" รองประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลากล่าว
       
       ด้าน ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า คิดว่าควรจะต้องมีการพูดคุยกันกับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ไปร่วมพูดคุย และฝ่ายอื่นๆ เช่น บีอาร์เอ็น พูโล เพื่อให้หลายฝ่ายได้พูดคุยกัน ซึ่งการให้ภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมพูดคุยเป็นสิ่งที่สำคัญ และประชาชนในพื้นที่ต้องการมีส่วนร่วมในขบวนการพูดคุยนี้
       
       "การที่ยังมีการก่อเหตุในพื้นที่อยู่ต่อเนื่องขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นผลต่อเนื่องจากการพูดคุยหรือไม่ ซึ่งการพูดคุยนี้ยังไม่ได้ตกลงว่าจะหยุดยิง หยุดก่อเหตุ ซึ่งอาจจะมีบ้าง แต่ระยะยาวถ้ามีการพูดจากันชัดเจนยิ่งขึ้นจะมีการหยุดยิง ตรวจสอบกำลังกันว่ามีเท่าใด ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะต้องทำกันต่อไป ทั้งนี้ ผู้นำศาสนามีบทบาทสำคัญที่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการพูดคุย เพราะเป็นจิตวิญญาณของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะการพูดคุยเรื่องนี้ รวมทั้งภาคประชาสังคม ถ้าจะมีเวทีกลางมาพูดกันก็จะส่งเสริมให้ฝ่ายขบวนการ ประชาสังคม และภาครัฐ มาพูดคุยร่วมกันในกระบวนการสันติภาพ ซึ่งคิดว่าน่าจะดีขึ้นถ้ามีกระบวนการ มีขั้นตอนที่เหมาะสมไม่ใช่ไปคุยกันเพียงสองฝ่าย แต่ต้องเปิดพื้นที่ให้กว้างมีกระบวนการจัดการร่วมกันให้คนในมีบทบาทด้วย การมีกระบวนการสันติภาพทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน และควรมีพื้นที่ที่ปลอดภัยพร้อมกันด้วย" ผศ.ศรีสมภพกล่าว
       

[คนรือเสาะรู้ดี]

ผมไม่ใช่ทหาร แต่กล้าพูดตรงๆยิ่งกว่าทหารบางคนซะอีก กรณีเหตุร้ายแรงบนแผ่นดินของเรา เราจะจัดการยังไงก็ได้ ทำไมเราต้องไปเกรงอกเกรงใจคนพวกนั้น จะก้าวเดินสักก้าวก็ต้องรายงานพวกมัน กลัวพวกมันจะไม่พอใจหรือไง?กรุณาจดจำบทเรียนในอดีตและกรุณาละอายต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกย่างก้าวต้องใช้เงินมหาศาลและต้องใช้ชีวิตของน้องๆทหารตำรวจอาสาฯและผู้บริสุทธิ์เป็นต้นทุนมหาศาลเช่นกัน แต่ผลลัพย์ขาดทุนมาตลอด รบทุกสนามเสียเปรียบทุกสนาม แถมเสียหน้าเสียค่าโง่อีกต่างหาก
ขณะที่เราหมดปัญญาแก้ไขปัญหาภายในบ้านของเรา(แท้ๆ) ต้องไปกราบเท้าขอร้องเพื่อนบ้านช่วยเจรจาให้ รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนบ้านตัวดีมีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ไม่มากก็น้อย นี่ก็ขาดทุนตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย
เพื่อนบ้านตัวดีนี่แหละที่แนะนำให้เราใช้การเจรจาเพื่อแสวงหาสันติ และอาสาเป็นตัวกลางสร้่างความสงบสุขให้เราด้วยการเจรจา แต่เขาเองกลับใช้กำลังเข้าปราบปราม"โจรก่อการร้ายแยกติดแดน"ในรัฐซาบาร์
????

[ชัดเจนเปลี่ยน]

ผมไม่ใช่ทหาร แต่กล้าพูดตรงๆยิ่งกว่าทหารบางคนซะอีก กรณีเหตุร้ายแรงบนแผ่นดินของเรา เราจะจัดการยังไงก็ได้ ทำไมเราต้องไปเกรงอกเกรงใจคนพวกนั้น จะก้าวเดินสักก้าวก็ต้องรายงานพวกมัน กลัวพวกมันจะไม่พอใจหรือไง?กรุณาจดจำบทเรียนในอดีตและกรุณาละอายต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกย่างก้าวต้องใช้เงินมหาศาลและต้องใช้ชีวิตของน้องๆทหารตำรวจอาสาฯและผู้บริสุทธิ์เป็นต้นทุนมหาศาลเช่นกัน แต่ผลลัพย์ขาดทุนมาตลอด รบทุกสนามเสียเปรียบทุกสนาม แถมเสียหน้าเสียค่าโง่อีกต่างหาก
ขณะที่เราหมดปัญญาแก้ไขปัญหาภายในบ้านของเรา(แท้ๆ) ต้องไปกราบเท้าขอร้องเพื่อนบ้านช่วยเจรจาให้ รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนบ้านตัวดีมีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ไม่มากก็น้อย นี่ก็ขาดทุนตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย
เพื่อนบ้านตัวดีนี่แหละที่แนะนำให้เราใช้การเจรจาเพื่อแสวงหาสันติ และอาสาเป็นตัวกลางสร้่างความสงบสุขให้เราด้วยการเจรจา แต่เขาเองกลับใช้กำลังเข้าปราบปราม"โจรก่อการร้ายแยกติดแดน"ในรัฐซาบาร์
????

ชัดเจน เราต้องการคนคุณภาพแบบนี้ไม่อ้อมค้อมไม่ต้องเกรงใจผลประโยชน์และความชั่วร้าย ไม่ต้องใส่หน้ากาก ต้องการคนแบบท่านเยอะๆ อ่านแล้วมันตรงได้ใจ สู้ต่อไปมั่นคงหนักแน่น มาถูกทางแล้ว สุดยอด

[สะเด็ดสะเด่า]

วันนี้ก็ยังมีบางคนในรัฐบาล"แกล้งโง่"ดันทุรังไม่หยุด ดูไปดูมาสงสัย"โง่จริงๆ"