มองสงขลาจากภาพถ่ายทางอากาศเก่า

[หม่องวิน มอไซ]

สวัสดีครับสมาชิกชาวกิมหยงดอทคอมทุกท่าน
ขอนำภาพถ่ายทางอากาศเก่า ๆ ของสงขลามาย้อนรำลึกอดีตกันครับ

[หม่องวิน มอไซ]

ภาพถ่ายต้นฉบับภาพแรกนี้เป็นภาพถ่ายทางอากาศบริเวณเขตเทศบาลเมืองสงขลาครับ
ถ่ายโดย กรมแผนที่ทหาร ตามที่กรมที่ดินร้องขอ เรียกว่าภาพถ่ายทางอากาศโครงการ น.ส.3
ถ่ายเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2517 มาตราส่วนภาพถ่ายต้นฉบับ 1:15,000 มีขนาด 9x9 นิ้ว
อัดลงบนกระดาษโบรไมด์ขาวดำจากฟิล์มเนกาตีฟ ด้วยวิธี contact print

)star ดาวน์โหลดภาพถ่ายได้ที่ http://biochem.flas.kps.ku.ac.th/songkhla/m39_105_110374.jpg
(ไฟล์ภาพมีขนาด 41.9 MB)

[คนนอกสวน]

ดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้วครับ ภาพคมชัดมาก
ขอบคุณ คุณหม่องวินมากครับ

[Singoraman]

ขอบคุณ อ.หม่องวินฯ มากครับ
ปี 2517 เป็นช่วงที่เรือยนต์เดินระหว่างสงขลา-ระโนด เริ่มลดบทบาทลง
เนื่องจากถนนสายสงขลา-ระโนด เปิดใช้ตลอดเส้นทางตั้งแต่ หัวเขาแดง-ตลาดระโนด
รถเมล์บริษัท ระโนดขนส่ง สะดวกขึ้น
แพขนานยนต์ของกรมทางหลวง เปิดมาแต่ปี 2510
สังเกตดี ๆ เห็นท่าแพไหมครับ

[หม่องวิน มอไซ]

ท่าแพอยู่ที่มุมบนซ้ายสุดของภาพถ่ายทางอากาศพอดีครับ
สังเกตเห็นว่า ห้องขับของแพขนานยนต์สมัยก่อน เมื่อครั้งยังอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง
มีลักษณะเป็นหอสูงกว่าแพรุ่นปัจจุบันมาก
ปัจจุบันแพขนานยนต์อยู่ในความดูแลของ อบจ.สงขลาแล้วครับ

หลังจากเปิดใช้สะพานติณสูลานนท์ในปี พ.ศ. 2529 อาการรถ"ติดแพ" เป็นชั่วโมง ก็คงไม่มีให้เห็นอีกแล้ว
(ปี 2529 ผมอยู่ ม.4 ที่มหาฯ และเรียนนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ปี 1
มีการเกณฑ์ให้ไปวิ่งมินิมาราธอน จากน้ำกระจายไปหัวเขาแดง ข้ามสะพานติณสูลานนท์ด้วยครับ
เหนื่อย แต่สนุกมาก ๆ (วิ่ง ๆ เดิน ๆ เสียมากกว่า วันนั้นใครชนะไม่รู้เลย)
แต่อย่างน้อยก็ภาคภูมิใจมาถึงเดี๋ยวนี้ครับ ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เคยวิ่ง ๆ เดิน ๆ จากแยกเกาะยอที่น้ำกระจาย
ข้ามสะพานป๋าเปรมจนถึงหัวเขาแดงแล้วข้ามแพ เดินกลับบ้านที่วชิรามาแล้ว  ;D

[หม่องวิน มอไซ]

แพขนานยนต์ปัจจุบัน ห้องขับเตี้ยลงกว่าเดิมแล้วครับ
(ภาพถ่ายโดยคุณ tweety3d จาก panoramio.com)

[ArChuRa]

ขอบคุณมากครับ

[ลูกแมวตาดำๆ]

ปัจจุบัน แพขนานยนต์ ได้ย้ายไปอยู่ในสังกัดของ อบจ.สงขลา แล้วครับ

[หม่องวิน มอไซ]

ขอบคุณมากครับ

ภาพถ่ายปี 2517 นี้เป็นภาพแรกเท่านั้นครับ เดี๋ยวภาพที่เหลือจะค่อย ๆ ทะยอยนำลงให้ครับ  :)

[Big MaHad]

รอดูอยู่นะครับบ อ. หม่องวิน

[หม่องวิน มอไซ]

ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณศาลากลางจังหวัดสงขลา มองเห็นหาดชลาทัศน์อยู่ทางด้านขวามือของภาพครับ
ส่วนบริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยมกลางภาพ เคยเป็นสนามบินสงขลาในอดีตยุค 2470 ครับ

[หม่องวิน มอไซ]

เปรียบเทียบกับภาพในปี 2550 พื้นที่สี่เหลี่ยมกลายเป็นสนามกีฬาติณสูลานนท์ไปแล้ว

[Anusorn_ab]

ลองสังเกตุดูครับ  ตั้งแต่บริเวณ สระบัว ถึง สวนสองทะเล   
ปัจจุบันมีแผ่นดินงอกออกมาเยอะเลย

[Anusorn_ab]

อีกรูปคับ  แบบเทียบกันไปเลย

[หม่องวิน มอไซ]

ขอบคุณคุณ Anusorn_ab เป็นอย่างมากครับที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพถ่ายทางอากาศเก่า
ถ้าไปดูแผนที่เก่าสมัยแรกตั้งเทศบาลเมืองสงขลา พ.ศ. 2478 จะเห็นว่าปลายแหลมสนอ่อนมีแต่ป่าสน และมีพื้นที่ไม่มาก
หลังจากสร้างเขื่อนกั้นทรายที่ปลายแหลมโดยกรมเจ้าท่า (สร้างเมื่อ พ.ศ.เท่าไหร่ยังค้นไม่ได้ครับ)
ทำให้แผ่นดินค่อย ๆ งอกออกมาทีละน้อย

จากปี 2517 -2550 เวลาผ่านไป 33 ปี แผ่นดินงอกออกไปมากอย่างเห็นได้ชัดครับ

แต่น่าเสียดายว่า ณ วันนี้ หาดชลาทัศน์กำลังถูกคลื่นกัดเซาะเข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนธรรมชาติมาเอาแผ่นดินคืนยังไงก็ไม่ทราบ  >:(

ผมเคยเขียนเรื่องหาดสมิหลากับแผ่นดินงอกไว้นิดหน่อย ในคอลัมน์บันทึก 2 ทะเล นสพ.โฟกัสภาคใต้ ฉบับวันที่ 14-20 ก.พ. 52 ครับ

[Singoraman(เดิม)]

ทุกเรื่องราว คือบันทึกแห่งกาลเวลา
อ.หม่องวินฯ ช่วยนำภาพเขียนของวิศกรฝรั่งเศส เมอซิเออร์  เดอ ลามา
ที่วาดแผนที่เมืองสงขลา ยุคปลายอยุธยามาลงเทียบหน่อยนะครับ
จะเห็นว่าปลายแหลมที่ยื่นไปในทะเล (ตรงจุดพระยานาคพ่นน้ำในปัจจุบัน)
ยุคนั้น ขดงอหาได้ยื่นออกไปเช่นปัจจุบันไม่
ผมมีเรื่องหารือในกระทู้นิดหน่อย วาน อ.หม่องวินฯ และผู้รู้-สหาย ทุกท่านช่วยแสดงทัศนะด้วยครับ
คือ "ป้อมปากน้ำแหลมทราย" ที่ตั้งอยู่ในโรงพักสงขลาปัจจุบัน เดิมน่าจะตั้งอยู่ที่ "ปากน้ำ" จริง ๆ
ส่วน "แหลมสนอ่อน" น่าจะเพิ่งงอกออกไปภายหลัง
ในตัวเมืองบ่อยาง มีแหลม แค่ ๓ แหลม คือ แหลมทราย -แหลมหิน(แหลมสมิหลา) - และแหลมสนอ่อน
อ.หม่องวินฯ และ สมาชิก ว่าไงครับ
แผนที่ต่าง ๆ ที่นำเสนอน่าจะช่วยได้นะครับ

[หม่องวิน มอไซ]

แผนที่สงขลาของเดอ ลามาร์ ตัวจริงอยู่ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปสำเนามาเก็บไว้เลย
แต่คุณ Navarat.C ได้เคยนำมาลงไว้ให้ในกระทู้นี้ที่พันทิปครับ
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7296563/K7296563-7.jpg

คงต้องค่อย ๆ ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมครับสำหรับเรื่องป้อมปากน้ำแหลมทราย
ในยุคโบราณเขาว่าคาบสมุทรสทิงพระก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ
แต่ต้องโบราณมาก ๆ ก่อนที่จะมีเจดีย์และโบราณสถานต่างๆ ที่สทิงพระเกิดขึ้นน่ะครับ

[attach=1]
ลงรายละเอียดเพิ่มเติมโดยคุณ Navarat.C

[หม่องวิน มอไซ]

ไปพลิก ๆ ดูพงศาวดารเมืองสงขลา ภาคที่ ๒ เรียบเรียงโดย พระยาสวัสดิ์คีรีศรีสมันตราษฎร์นายก (เย็น สุวรรณปัทม) บอกว่า
เจ้าพระยาวิเชียรคีรี (บุญสัง) ที่ ๕ พ.ศ. ๒๓๙๐-๒๔๐๙ มีราชการพิเศษ คือ
๑. สร้างป้อมรักษาขอบเขตต์ก่อด้วยศิลา ที่ตำบลแหลมทรายใกล้กับปากน้ำ เป็นป้อมรูป ๔ เหลี่ยมสูงประมาณ ๕ ศอก กว้างยาว ๑๐ วาเศษ
๒. สร้างสะพานช้างข้ามคลองขวางกลางเมือง
๓. สร้างสระบัวที่น่าบ้าน (ออก) ตะวันออก เขื่อนและขอบสระก่อด้วยศิลา
...

---------------------------
นั่นคือ ป้อมปากน้ำแหลมทราย มีอายุประมาณ 150 ปีแล้ว ซึ่งอยู่คนละยุคกับในแผนที่ของเดอ ลามาร์ ที่มีอายุ 300 ปี
แหลมสนอ่อนจึงค่อย ๆ งอกออกไปเรื่อย ๆ จริง ๆ ครับ

[Singoraman]

แผนที่ชัดเจนมาก
ขอบคุณครับ

[Big MaHad]

ป้อมปากน้ำแหลมทราย   คือป้อมนี้ใช่ไหมครับ

[คนนอกสวน]

วันนี้ไปค้นรูปเก่า ๆ เจอรูปถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ที่คุณ Joel** โพสต์ไว้ที่ pantip.com เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 44
เลยขออนุญาตคุณ Joel**  เผยแพร่ภาพตรงนี้เลยครับ

[คนนอกสวน]

 .