ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ส.ค.ส.เก่าของสงขลา

เริ่มโดย คนเขารูปช้าง, 04:18 น. 08 ม.ค 53

หม่องวิน มอไซ

ขอบคุณทุกท่านครับสำหรับข้อมูลสงขลาพยาบาลเพิ่มเติม
โรงพยาบาลสงขลา สำคัญสำหรับผมมากทีเดียว
เพราะผมเกิดที่โรงพยาบาลแห่งนี้ครับ  ;D

ภาพเจ้าหน้าที่ รพ.สข. ถ่ายที่"ฉายาสงขลา" ด้วยสิครับ

Singoraman

ผมเกิด "บ้านหมอจาม" ครับ

HAADYAI.history

อ้างจาก: Singoraman เมื่อ 13:39 น.  08 ม.ค 53
ขออนุญาตออกนอกเรื่องส.ค.ส. เพื่อเสริมเรื่อง "สงขลาพยาบาล" สักเล็กน้อย
๑. ผมเคยผ่านตาเรื่องประวัติ รพ.สงขลา จากหนังสือวารสารของ รพ.สงขลา ว่า
๒. เดิมนั้นที่ตั้ง รพ.สงขลา (เก่า) หลังวัดดอนแย้นั้น เป็น "ตึกดิน"
๓. "ตึกดิน" นั้น เป็นตึกที่เก็บ "ดินปืน" สมัยสงครามญี่ปุ่นขึ้น ในเมืองสงขลา
๔. ครั้นสงครามสงบ จึงเหลือแต่ชื่อว่า ตึกดิน
๕. รพ.สงขลา ตั้งขึ้นสมัย กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ เป็นอุปราชมณฑลนครศรีธรรมราช
๖. "หมอจาม" เป็นพยาบาลคนแรก
๗. จำชื่อและบรรดาศักดิ์ "หมอใหญ่" ไม่ได้
      *ทั้งหมดเป็นข้อมูลจากความจำ หาต้นฉบับหนังสือไม่พบที

ขอบพระคุณที่กรุณาเอ่ยถึง ตึกดิน ครับ

ทำให้ผมต้องขยับมือขับไม้ขุดกรุอีกครั้ง

ในพงศาวดารสงขลาฉบับ เจ้าพระยาวิเชียรคิรีบุญสังข์ กล่าวเอาไว้ว่า...

ครั้น ณ วันเดือนสี่ขึ้นสิบเอ็ดค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๑  ปีมแมเอกศก ...
ได้จัดแจงซ่อมแซมกำแพงเมืองแลประตูเมือง ตึกดิน
แลในจวนนอกจวนต่อก่อร่อถมทรายปลูกฉางใส่เข้าไว้สำหรับราชการ ๒ ฉาง 
แลต่อก่อ ตะพานลองขวาง แล ป้อมรักษาขอบเขตที่ปากน้ำแหลมซาย ป้อมหนึ่ง   ต่อก่อ สระศิลา ไว้ที่น่าโรงศาลเจ้ามาจ่อ
ปลูกบัวสัตบงกช ไว้ให้ดอกให้รากให้ผลเปนใบทานตามแต่ผู้จะปรารถนา   คิดค่าเปนเงินใช้จ่ายตกแต่งกำแพงเมือง ประตูหอรบตึกดินแลในจวน  นอกจวน 
แลต่อก่อตะพานคลองขวางแลป้อมแหลมซาย   คิดเปนเงินใช้จ่ายหมื่นมีเศษพัน

ณ วันอังคารเดือนเก้าแรมสิบค่ำ...
ตรัสถามว่า ตึกดิน มีฤๅไม่ 
กราบทูลว่ามีอยู่ภายในกำแพงเมืองใกล้ ประตูสนามสงคราม ฝ่ายบูรพ์...

[attach=1]
ผังเมืองโบราณสงขลา
http://www.gimyong.com/webboard/index.php/topic,29250.0.html



HAADYAI.history

จุลศักราช ๑๒๒๑  ปีมแมเอกศก  = พ.ศ. ๒๔๐๒ เปนปีที่รัชกาลที่ ๔ เสด็จประพาสสงขลาครั้งแรก
(๒๔๐๖ ประพาสครั้งที่ ๒ เข้าใจว่ามาฉลองพระเจดีย์ ตามที่ทรงตรัสเอาไว้ในคราวเสด็จครั้งแรก)

ซ่อมแซมเดือนสี่ เสด็จฯ เดือนเก้า ดูสมเหตุสมผลดี

(พ.ศ.๒๓๗๙ ก่อป้อมแลกำแพงเมืองสงขลา)

สะพานคลองขวาง อ.หม่อง กล่าวไว้ในกระทู้ไหนแล้วครับ

ป้อมแหลมทราย มีภาพอยู่ในกระทู้....(จำไม่ได้)

สระบัว ในพงศาวดาร ข้างต้น สันนิษฐานว่าคือ "สระบัว" ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน

หม่องวิน มอไซ

 ;D
พอถามว่าอะไรอยู่ที่กระทู้ไหน ผมก็ชักจะจำไม่ค่อยได้แล้วเหมือนกันครับ โพสต์ไปโพสต์มา
คงต้องค้นดูก่อนครับ

HAADYAI.history

ไม่เปนไรครับ

จากผังเมืองข้างต้น
ร.พ.สงขลา (เก่า) จะอยู่บริเวณใดครับ

หม่องวิน มอไซ

อยู่หลังวัดดอนแย้ครับ (ทิศตะวันออกของวัดดอนแย้)

[attach=1]

ส่วนกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก ถูกทุบออกแล้วสร้างถนนรามวิถีทับไป ไม่มีร่องรอยให้เห็นเลยครับ

HAADYAI.history

อ้างจาก: หม่องวิน มอไซ เมื่อ 23:09 น.  08 ม.ค 53
อยู่หลังวัดดอนแย้ครับ (ทิศตะวันออกของวัดดอนแย้)

ส่วนกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก ถูกทุบออกแล้วสร้างถนนรามวิถีทับไป ไม่มีร่องรอยให้เห็นเลยครับ

สันนิษฐานว่า เปน ตึกดิน หลังเดียวกัน

HAADYAI.history

สาเหตุที่สร้างสระบัวบริเวณนั้น สันนิษฐานว่า เพื่อเปนส่วนหนึ่งของ Landscape ของ พระราชวังแหลมซาย

หม่องวิน มอไซ

ภาพถ่ายทางอากาศ มองเห็นสงขลาพยาบาล ถ่ายปี 2478
อยู่ที่มุมบนขวาของภาพนี้ครับ
ตรงกลางคือวัดโรงวาส
ถัดมาด้านล่างคือโรงรถจักร ถังน้ำและวงเวียนกลับรถจักร
มองเห็นสะพานรถไฟข้ามคลองขวางด้วยครับ

http://www.songkhlaline.com/image/phayaban2478.jpg

คนเขารูปช้าง

ตามผังเมืองโบราณที่ท่าน"HAADYAI.history" นำมาให้ชมกำแพงเมืองดั้งเดิมที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ก็จะอยู่
ระหว่างประตูมฤคพิทักษ์ และประตูพุทธรักษา โดยอยู่ทางใต้ของตลองขวางครับ ขอนำภาพกำแพงเมืองส่วนนั้นที่ผมถ่ายไว้มาให้ชมครับ

คนนอกสวน

^
ท่านคนเขารูปช้างครับ
กำแพงเมืองส่วนนี้ อยู่ใกล้สถานที่อะไรที่พอสังเกตได้ง่าย ๆ บ้างครับ
อย่างเช่น โรงพักเล็ก ธนาคารกสิกร ท่าเรือไปวัดบ่อทรัพย์ ฯลฯ
ผมจะได้ไปดูบ้าง ขอบคุณมากครับ

หม่องวิน มอไซ

ผมเป็นคนสงขลาแท้ ๆ ยังนึกว่ากำแพงเมืองเหลืออยู่แค่ที่ถนนจะนะกับป้อมแหลมทรายเท่านั้น
เป็นความรู้ใหม่จริง ๆ ครับ  O0

หม่องวิน มอไซ

อ้างจาก: คนนอกสวน เมื่อ 08:28 น.  09 ม.ค 53
^
ท่านคนเขารูปช้างครับ
กำแพงเมืองส่วนนี้ อยู่ใกล้สถานที่อะไรที่พอสังเกตได้ง่าย ๆ บ้างครับ
อย่างเช่น โรงพักเล็ก ธนาคารกสิกร ท่าเรือไปวัดบ่อทรัพย์ ฯลฯ
ผมจะได้ไปดูบ้าง ขอบคุณมากครับ
ภาพของท่านคนเขารูปช้าง ถ่ายเมื่อ 15 ปีที่แล้ว
หวังว่าในปัจจุบันจะยังอนุรักษ์ไว้นะครับ
อยากทราบพิกัดตำแหน่งด้วยคนครับ

คนเขารูปช้าง

คุณ "คนนอกสวน" ครับ อยู่หลังหน่วยบริการประชาชนของตำรวจ หรือสุดถนนนครนอก
ใกล้กับธนาคารกรุงไทย(ถนนนครนอก)ครับ หน่วยฯอยู่ริมปากคลองขวางลงทะเลสาบฯครับ

อจ.หม่องครับ ผมพยายามเก็บ film , slide ที่ถ่ายไว้อย่างดี ใส่กล่องปิดมีตัวดูดความชื้น
และเอาไปไล่ความชื้น เมื่อผ่านไประยะหนึ่งครับ รวมทั้ง เทป VDO, CD, DVD ด้วยครับ

หม่องวิน มอไซ

กลับไปสงขลาเมื่อไหร่ ผมจะแวะไปชมครับท่านคนเขารูปช้าง

ดีใจมากครับที่ทราบว่ายังเก็บหลักฐานไว้อย่างดี เพราะเป็นเอกสารที่มีคุณค่ามาก แบบนี้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติก็อาจไม่ได้เก็บรักษาไว้ครับ
ได้เห็นผลงานการ "Remaster" ภาพถ่ายสถานีรถไฟสงขลา และชุมทางหาดใหญ่ รวมทั้ง ส.ค.ส. สมัย 60 ปีก่อนแล้ว
ทำให้ผมมองเห็นอนาคตของ"พิพิธภัณฑ์เมืองสงขลา"แล้วครับ แม้ตอนนี้จะเป็นเพียงพิพิธภัณฑ์บนจอคอมพ์ก็ตาม

หม่องวิน มอไซ

เกี่ยวกับการรื้อกำแพงเมืองด้านตะวันออกนั้น มีเอกสารทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมขุนลพบุรีราเมศวร์ ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช (ดำรงตำแหน่งสุมหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช และอุปราชมณฑลปักษ์ใต้) ทรงชี้แจงในการที่ได้เสด็จไปตรวจราชการในมณฑลนครศรีธรรมราช โดยทรงทำหนังสือทูลเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ดังนี้

---------------------------

ศาลาว่าการมณฑลนครศรีธรรมราช
วันที่ ๑๓ พฤศภาคม ร.ศ. ๑๒๙
ทูลกรมหลวงดำรง ทรงทราบ

พรุ่งนี้หม่อมฉันจะทูลลาไปฉวาง ซึ่งนับว่าตั้งต้นไปตรวจราชการตามอำเภอข้างใน ๆ ในเวลานี้หม่อมฉันได้ดูการปกครองแล้วทั้ง ๓ เมือง แต่ในการที่ดูนั้นเป็นแต่ดูเผิน ๆ ยังไม่ได้ตรวจตราการงานให้ลึกซึ้งหรือเลอียด เพราะมาเที่ยวนี้เป็นคราวมาวางตราปล่อยให้ข้าราชการพ่อค้าแลราษฎรมีช่องรับรองอย่างแข็งแรงเต็มไปด้วยเพชติลิตี้ ต่อเมื่อขากลับสงขลาจะแวะดูงานที่พัทลุงให้เลอียดแล้วอยู่สงขลาสัก ๓ อาทิตย์หรือเดือนหนึ่ง แล้วออกตรวจอำเภอชายทเลตั้งแต่เทพาถึงสิชล เลยมาอยู่เมืองนครสักเดือนหนึ่ง

ในเวลานี้จะถวายรายงานชั้นแรกเพียงที่ได้เห็น เมืองสงขลาการโยธาได้ทำไปมากจริง ถนนได้ถมหินไปหลายสาย ถนนสำคัญที่จะต้องทำในปีนี้คือสายหลังเมืองตามแนวกำแพงด้านไต้ ซึ่งเป็นทางเคียงสถานีรถไฟ จะเป็นถนนสายสำคัญในเมืองสงขลาสายหนึ่ง พระยาชลได้เริ่มรื้อกำแพงลงบ้างแล้ว และคิดจะทำถนนไปบนรากกำแพง แต่ถ้าจะทำเช่นนี้ หม่อมฉันเห็นว่ากำแพงยังอยู่อีกมาก การรื้อจะเปลืองเงินแลเปลืองเวลาเท่ากับทำตัวถนน

หม่อมฉันมาคิดดูออกจะเห็นว่า ถ้าทำถนนบนที่ราบริมกำแพงนอกเมือง รื้อกำแพงเป็นตอนเอาหินถมถนนจะได้ถนนสายนี้เร็วแลถูกกว่าที่จะทำบนรากกำแพง แล้วจึงค่อยรื้อกำแพงไปให้ตลอด ที่บนรากกำแพงเป็นที่หลวง ต่อไปจะทำห้องเช่าหรือหาผลประโยชน์อย่างอื่นก็จะได้และเข้าใจว่าแนวถนนก็จะได้ตรงดี ไม่ผิดอันใดที่จะทำตามแนวกำแพง แต่ถ้าทำถนนเช่นนี้จะต้องกินที่ซึ่งรถไฟต้องการสักสี่วาตลอดไป บางทีรถไฟจะขัดข้องบ้าง แต่ที่จริงที่ของรถไฟมีเหลือแหล่สเตชั่นยังอยู่ห่างกำแพงมาก หม่อมฉันได้สั่งให้ผู้ช่วยข้าหลวงโยธาลองกรุยแลคิดเทียบเงินดู แต่เข้าใจว่าคงจะถูกกว่าที่จะรื้อกำแพงต่อไปมาก การพูนถนนปีเดียวคงจะเสร็จ ถนนคงจะเรียบร้อยทันรถไฟ

การอื่น ๆ ในเมืองสงขลาไม่มีอะไรแปลก เว้นแต่ของกินอยู่ข้างจะแพง มีเสียงว่าตั้งแต่กุลีรถไฟเข้ามามากของขึ้นราคา แต่ได้สอบถามพวกจีนพ่อค้าว่าก่อนนั้นของก็กำลังขึ้นราคาอยู่แล้ว การโจรผู้ร้ายในเมืองมีลักเล็กลักน้อยมากขึ้น เขาซัดกันว่าเพราะพวกคนเนรเทศ ความจริงก็น่าจะมีอยู่บ้าง เป็นต้นว่าเมื่อวานซืนนี้ตำรวจภูธรไปจับพวกคนเนรเทศที่หนีไปได้ ๖ คนได้ไกล้ ๆ เมือง มีของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นร่มหลายสิบสิ่ง

เมืองพัทลุงโจรผู้ร้ายดูสงบลงและเจ้าเมืองก็ยังไม่ถูกเรื่องราวเลย แต่ถนนยังไม่ได้ทำอะไรแปลกปลาดขึ้น หม่อมฉันคิดว่าจะต้องทำถนนสายพัทลุงถึงช่องให้ดีขึ้นในปีนี้ เพราะมีเกวียนเดินระหว่างพัทลุงกับตรังอยู่เสมอ แต่ถนนสายนี้จำเป็นต้องคิดใส่หินทีเดียว เพราะหินหาได้ง่าย ในเมืองก็ไม่มีถนนอะไรสำคัญที่จะต้องทำ

ส่วนเมืองนครการโยธาหม่อมฉันอยากจะรีบทำถนนให้ติดต่อกับปากพนัง คือ ขุดคลองสุขุมขึ้นถมถนนจะได้ประโยชน์ทั้งทางน้ำแลทางบก ถ้ารถไฟถึงเมืองนครและถ้าจะทำให้มีทางต่อปากพนังมาขึ้นรถไฟนครจะสดวกแก่คนปากพนังโดยมาก ในอำเภอปากพนังไม่จำเป็นจะต้องทำถนนอะไรอีกนอกจากสายนี้....
...
...
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
(ลงพระนาม) ยุคล
------------------------
//---
หนังสือฉบับนี้ ลงวันที่ 13 พ.ค. ร.ศ.129 (พ.ศ. 2453)
อีกไม่กี่เดือนก็จะครบ 100 ปีพอดีครับ
ถ้าย้อนเวลากลับไป 100 ปีก่อน ก็จะเห็นการรื้อกำแพงเมืองออก เอามาทำเป็นถนนรามวิถี และเห็นการสร้างทางรถไฟที่เสร็จเรียบร้อยเดินรถไฟได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2456 (ค.ศ. 1914) ครับ

นั่นคือ 13 พ.ค. 2553 หนังสือฉบับนี้จะครบ 100 ปี
และ 1 ม.ค. 2557 ครบรอบ 100 ปี การเดินรถไฟสายสงขลา

Singoraman

มีโอกาสคุยกับเพื่อนที่เป็นลูกจีนในเมืองบ่อยาง ได้ความว่า
"ศาลเจ้ามาจ่อ" หมายถึง "ศาลเจ้าแม่ทับทิม" ออกเสียงว่า  "หมาโจ้ว" ในสำเนียงแต้จิ๋ว
ศาลเจ้าโดยทั่วไปในบ่อยางจะเป็นของชาวจีนฮกเกี้ยน
ส่วน ศาลเจ้าแม่ทับทิม เป็นของชาวจีนแต้จิ๋ว
ในบ่อยางเท่าที่ผมเคยพบ มี 1 แห่ง คือ หลังปั๊มเชลล์สวนเถ้าแก่
ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นศาลเจ้า มาจ่อ ในพงศาวดารหรือไม่