มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

[หม่องวิน มอไซ]

ขออนุญาตตอบตรงนี้นะครับ
ผมเข้ามหาวชิราวุธ ม. 4/1 ปีการศึกษา 2529 ครับ
ส่วนสาธิต มอ.ปัตตานี เข้า ม.1 ปีการศึกษา 2526
ก่อนหน้านั้น เรียน ป.1-ป.2 ที่โรงเรียนปัจจันต์เจริญวิทย์ อ.สะเดา ป.3- ป.6 ที่โรงเรียนบ้านเทพา อ.เทพาครับ

เป็นรุ่นน้อง อ.Singoraman ครับ

[Singoraman]

ยินดีครับ

[หม่องวิน มอไซ]

ภาพสมัยอยู่ ม.3 ที่สาธิต มอ.ปัตตานี พ.ศ. 2528 ครับ
ประกวดวงดนตรีไทยระดับมัธยมศึกษา ภาคใต้ ที่ มศว.สงขลา (ม.ทักษิณในปัจจุบัน)
ผมคนสีซอด้วงอยู่ซ้ายมือสุดของภาพครับ  ;D

[Big MaHad]

ไม่ได้เรียนสาธิต ไม่ได้จบ มอ. ปัตตานี แต่เคยพักหอโหด (หอรัตนวิไล) อยู่ในซอยตรงข้าม สหกรณ์ มอ ปัจจุบันครับ อิอิ
เข้าไปอ่านหนังสือใน มอ. บ่อยๆ ครับ

ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเค้าเลยเรา 555

[หม่องวิน มอไซ]

หอโหด (รัตนวิไล) มีเพื่อนผมพักอยู่หลายคนครับสมัยนั้น (2526-2529)
แต่ผมพักอยู่หอพักสหชัย
ปีที่น้ำท่วมใหญ่ปัตตานี กลางคืนนอนอยู่บนเตียง เช้ามาก้าวขาลงจากเตียง
จุ่มลงไปในน้ำเลยครับ น้ำมาเร็วมาก

[Big MaHad]

ผมอยู่หอโหดปีเดียวเองครับ ปี 2544 น้ำท่วมเหมือนกันปีนั้น ที่ตลกมากคือผมพักอยู่ห้องกลางน้ำ 1 เป็นเรือนอยู่กลางสระ แล้วน้ำท่วมประมาณตี 3 เห็นจะได้ แต่ผมนอนหลับไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีน้ำเข้าห้องหมดแล้วพร้อมเสียงปลาสวายว่ายชนประตูห้องโครมคราม งง เลยนึกว่าฝันไป ที่ไหนได้น้ำมันท่วม

[มอ.ตานีรหัส 29]

ฝากประชาสัมพันธ์ Web ของ อาสามอ.ตานีครับ

http://www.rsatanee.com/board/

[คนสงขลารักบ้านเกิด]

ผมขอฝาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตานี ไว้ในกำมือ พี่ๆ น้องๆ ในเขตรั้วสีบลู ณ รูสะมิแล ไว้ด้วยครับ ปัจจุบัน นักศึกษาในวิทยาเขตปัตตานี เป็นคนในพื้นที่ 90 % ที่เหลือ 10 % เป็นคนนอกพื้นที่ เสน่ห์ของรูสะมิแล กำลังหมดไป จิตวิญญาณของที่นี้กำลังเปลี่ยนแปลง พี่ๆ น้องๆๆ มอ. ทุกท่านช่วยได้ครับ ช่วยเผยแพร่สิ่งดีๆที่ท่านได้รับจากปัตตานีไปยัง น้องๆที่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ว่าปัตตานียังมีอะไรที่ดีๆๆอยู่ ไม่ใช่มีแต่ระเบิด หลายๆสาขาของปัตตานียังน่าเรียน อาจารย์ก็มีความพร้อม แต่เด็กนอกพื้นที่ไม่กล้ามาเรียน จะบอกว่าที่นี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ผมเป็นคนสงขลา จบมหาวชิราวุธ ไม่ได้เรียน มอ.ปัตตานี วันแรกที่มาทำงานที่นี้ก็รู้สึกกลัว แต่อยู่ๆไป หลงเสน่ห์ที่นี้ครับ รักที่นี่ ที่นี่น่าอยู่ ปัจจุบัน และจะอยู่ต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

[Big MaHad]

ผมขอฝาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตานี ไว้ในกำมือ พี่ๆ น้องๆ ในเขตรั้วสีบลู ณ รูสะมิแล ไว้ด้วยครับ ปัจจุบัน นักศึกษาในวิทยาเขตปัตตานี เป็นคนในพื้นที่ 90 % ที่เหลือ 10 % เป็นคนนอกพื้นที่ เสน่ห์ของรูสะมิแล กำลังหมดไป จิตวิญญาณของที่นี้กำลังเปลี่ยนแปลง พี่ๆ น้องๆๆ มอ. ทุกท่านช่วยได้ครับ ช่วยเผยแพร่สิ่งดีๆที่ท่านได้รับจากปัตตานีไปยัง น้องๆที่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ว่าปัตตานียังมีอะไรที่ดีๆๆอยู่ ไม่ใช่มีแต่ระเบิด หลายๆสาขาของปัตตานียังน่าเรียน อาจารย์ก็มีความพร้อม แต่เด็กนอกพื้นที่ไม่กล้ามาเรียน จะบอกว่าที่นี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ผมเป็นคนสงขลา จบมหาวชิราวุธ ไม่ได้เรียน มอ.ปัตตานี วันแรกที่มาทำงานที่นี้ก็รู้สึกกลัว แต่อยู่ๆไป หลงเสน่ห์ที่นี้ครับ รักที่นี่ ที่นี่น่าอยู่ ปัจจุบัน และจะอยู่ต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ด้วยความเคารพครับ ไม่ทราบว่าที่ว่า "ปัจจุบัน นักศึกษาในวิทยาเขตปัตตานี เป็นคนในพื้นที่ 90 % ที่เหลือ 10 % เป็นคนนอกพื้นที่ เสน่ห์ของรูสะมิแล กำลังหมดไป จิตวิญญาณของที่นี้กำลังเปลี่ยนแปลง" หมายความว่าอย่างไรครับเสน่ห์อะไรที่หายไป การที่มีคนในพื้นที่เข้าไปเรียน 90% มากกว่าเมื่อก่อนนี้ ทำให้เสน่ห์ของ มอ. ตานีหมดไปอย่างนั้นหรือครับ? หรือจิตวิญญาณของ มอ. อยู่ที่การมีนักเรียนจากภูมิภาคอื่นๆ มาเรียนมากๆ ครับ

ผมเองเป็นคนปัตตานีครับเรียนปัตตานีตั้งแต่ประถมจนจบ ม ปลาย ไปอ่านหนังสือใน มอ. อยู่บ่อยครั้งครับ ก็เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันนี้นะครับที่มี นร.จากที่อื่นไม่ค่อยกล้าลงมาเรียนเท่าไหร่ เนื่องจากห่วงปัญหาทางด้านความปลอดภัย แต่อย่างน้อยก็คิดสะว่ามหาวิทยาลัยก็ได้ทำหน้าที่รับใช้คนในท้องถิ่นเช่นกันครับ ซึ่งเขาก็จะได้กลับไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของเขาต่อไป

[แสน ราชสีห์]

เสน่ห์ ของ ม.อ. ปัตตานี ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จิตวิญญาณของความเป็นอาจารย์ บุคคลากร นักศึกษา คือ สงขลานครินทร์



    "  ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง

                                 ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง

                                ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง

                               ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์  "

                                                                     "  มหิดล  "

                                                          พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์

[แสน ราชสีห์]

ทุกๆ ปี ทางมหาวิทยาลัยก็ได้จัดโครงการแนะแนวหลักสูตรและการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (Road Show) ทั้ง 5 วิทยาเขต อยู่แล้วครับ

[แสน ราชสีห์]

คณะพยาบาล ม.อ.ปัตตานี เปิดรับนักศึกษาใหม่ ปี 2554
ผอ.โครงการจัดตั้งคณะพยาบาล ม.อ.ปัตตานี เร่งทำหลักสูตรและเตรียมความพร้อม
คาดเปิดรับนักศึกษาได้ในปีการศึกษา 2554

ผศ.พัชรียา ไชยลังกา  ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี   กล่าวถึงวัตถุประสงค์การเปิดคณะพยาบาลศาสตร์ ว่า ผู้บริหารมีนโยบายให้ ม.อ.ป็นที่พึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้คนในพื้นที่ย้ายถิ่นฐานออกนอกพื้นที่ และพยาบาลส่วนหนึ่งก็ย้ายออกจากพื้นที่สามจังหวัดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความเครียด เพราะพยาบาลต้องทำงานหนักในการช่วยเหลือผู้ป่วยและความเสี่ยงในการประกอบอาชีพ แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะการช่วยชีวิตและดูแลคนไข้เป็นหน้าที่ของพยาบาล  ในขณะที่แพทย์มีจำนวนน้อยมาก พยาบาลจึงเปรียบเสมือนด่านแรกที่ต้องดูแลผู้บาดเจ็บ  โดยเฉพาะเหตุที่เกิดกลางคืน
   ปี 2548-2549 พยาบาลขาดแคลนเป็นจำนวนมาก  เนื่องจากการขยายตัวของประชากรและความต้องการพยาบาลในอัตราสูงประกอบกับโรงงานที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องมีการดูแลให้ทั่วถึง มาตรฐานอนามัยโลกบอกว่าคือ 1 ต่อ 500 การดูแลประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งปัญหาสุขภาพกายและจิตใจยังไม่เพียงพอ แม้มีการผลิตพยาบาลเพิ่มจำนวน 3,000 คน เพื่อมาทดแทนพยาบาลที่ลาออก เพราะพยาบาลต้องไปประจำการที่สถานีอนามัยจำนวน 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ทุกตำบลต้องมีพยาบาลวิชาชีพประจำอย่างน้อย 1 คน ดั้งนั้นการตั้งคณะพยาบาลที่ ม.อ.ปัตตานี เป็นช่องทางหนึ่งที่เราสามารถช่วยเด็กในสามจังหวัดได้เลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ ขณะนี้ก็พยายามทำความเข้าใจในส่วนตัวว่าทำไมจะต้องไปเปิดคณะพยาบาลที่ปัตตานี เพราะที่หาดใหญ่ก็เป็นที่รองรับเด็กในพื้นที่สามจังหวัดอยู่แล้ว  ซึ่งในปัจจุบันถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นนักศึกษามุสลิมสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากที่มาเรียนคณะพยาบาลและเป็นเด็กภาคใต้จำนวน 97 เปอร์เซ็นต์ แต่จากการวิเคราะห์ก่อนจะมีนโยบายการผลิตนักศึกษาพยาบาล 3 พันคน นั้นปรากฏว่า เรียนจบแต่ไม่มีงานทำ บางคนมีอายุถึง 30 ปีก็สนใจมาสมัครเรียนพยาบาล  ดังนั้นวิชาชีพพยาบาลเป็นวิชาชีพที่จบแล้วมีงานทำแน่นอน  การเปิดคณะพยาบาลที่ ม.อ.ปัตตานี แน่นอนจะทำให้เด็กไม่ข้ามไปเรียนที่ และเป็นตัวกระตุ้นที่ให้เด็กมาเรียนมากขึ้น สิ่งที่นักศึกษาที่เรียนพยาบาลที่ ม.อ.ปัตตานีได้เปรียบไม่ว่า เป็นเด็กมุสลิมหรือไทยพุทธ คือสามารถสื่อสารด้วยภาษาอาหรับได้ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนต้องการพยาบาลที่สามารถพูดภาษาอาหรับได้ เพราะคนอาหรับเข้ามารักษาในประเทศไทยถึงปีละ 2-3 ล้านคน คงเป็นโอกาสเลือกของเด็กในภาคใต้มากขึ้น ถ้าเขามีโอกาสเลือกเรียนพยาบาล มีโอกาสได้ทำงาน และมีโอกาสที่จะเลือกไปต่างประเทศก็ได้หรือทำงานในภูมิลำเนาบ้านเกิดของตัวเองก็ได้

การดำเนินการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ในครั้งนี้ต้องขอบคุณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นอย่างสูงที่ได้ให้ความร่วมมือและความอนุเคราะห์ในด้านต่างๆ
สำหรับการเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาเขตปัตตานีนั้น ได้พิจารณาถึงศักยภาพและการทำงานด้านต่างๆที่ผ่านมาโดยเฉพาะด้านการบริหารว่า สามารถช่วยอะไรได้บ้าง เพราะการเปิดคณะใหม่ต้องใช้ศักยภาพและต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
การผลิตพยาบาลที่มีคุณภาพนอกจากต้องเตรียมความพร้อมแก่บุคลากรแล้ว ต้องเตรียมสถานที่ให้พร้อม เพราะต้องฝึกปฏิบัติในห้องปฏิบัติการก่อนฝึกกับคนไข้จริง เพราะมีผลต่อต่อชีวิตของคนไข้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณพอสมควรในการซื้อหุ่น ห้องแลป และอุปกรณ์เปรียบเสมือนโรงพยาบาลจำลอง การก่อตั้งคณะพยาบาลน่าจะเป็นจุดเล็กๆที่ทำให้เกิดสันติสุข คาดว่าสามารถเปิดรับนักศึกษาได้ในปีการศึกษา 2554
สำหรับการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ ที่ ม.อ.ปัตตานีจะใช้สถานที่ของคณะวิทยาการสื่อสารเดิม เพราะคณะวิทยาการสื่อสารได้มีอาคารใหม่ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ขณะนี้วิทยาเขตปัตตานีกำลังจะขยายในเรื่องของวิทยาศาสตร์สุขภาพ มีคณะพยาบาลศาสตร์เป็นคณะแรก คณะเภสัชศาสตร์และคณะแพทย์ศาสตร์ ก็คงจะตามมาในอนาคต คณะเภสัชเองก็อยู่แผนเช่นกัน  และในส่วนของคณะแพทย์เอง ทางวิทยาเขตปัตตานีก็ช่วยสอนนักศึกษาแพทย์ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสอนในวิชาพื้นฐาน ซึ่งในวิชาขั้นพื้นฐานนั้นทางวิทยาเขตปัตตานีก็ได้มีการสอนไปในระดับหนึ่ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เปลี่ยน พรบ.ใหม่หลักสูตรที่จะเปิดนั้นต้องผ่าน กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education, TQF:HEd)   ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552  เป็นมาตรฐานที่บัณฑิตจะต้องมีมาตรฐานเป็นที่ยอมยอมรับในระดับสากล

[แสน ราชสีห์]

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดกิจกรรมแนะแนวสัญจรสร้างสายใย ระหว่างวันที่ 25-29 มกราคม 2553 ให้แก่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ในจังหวัดตรัง ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช และสงขลา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความเชื่อมั่นให้กับสังคมต่างวัฒนธรรม ตลอดจนเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและหลักสูตรที่เปิดสอน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมปอง ทองผ่อง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า วิทยาเขตปัตตานี ได้จัดโครงการแนะแนวสัญจรสร้างสายใยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ปกครอง ชุมชนและนักเรียน นับเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจต่อมหาวิทยาลัย ตลอดระยะเวลา 40 ปีของการทำหน้าที่ผลิตบัณฑิต มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตามนโยบายในการจัดการศึกษา เข้าถึงระดับท้องถิ่น เพื่อให้ผู้ใฝ่รู้ได้มีโอกาสเรียนรู้สาขาวิชาและสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่ทั้งนี้ความเป็นสถาบันการศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่เศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อการเลือกเข้าศึกษาของนักเรียนทั่วประเทศ เป็นการยากที่จะสร้างความมั่นใจให้กลับคืน

งานประชาสัมพันธ์ จึงได้จัดโครงการแนะแนวสัญจร สร้างสายใย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและผู้ปกครองใน 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดตรัง ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช และสงขลา โดยมีคณะศึกษาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะวิทยาการสื่อสาร คณะรัฐศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ วิทยาลัยอิสลามศึกษา และโครงการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ เข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 25-29 มกราคม 2553 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความเชื่อมั่นให้กับสังคมต่างวัฒนธรรม ตลอดจนเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและหลักสูตรที่เปิดสอน

รองอธิการบดี วิทยาเขตปัตตานี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวประกอบด้วยการบรรยายเกี่ยวกับการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสิทธิประโยชน์เมื่อได้เข้าศึกษา นิทรรศการ กิจกรรมสันทนา การ แจกเอกสาร ของที่ระลึกและตอบข้อซักถาม โดยมีกำหนดแนะแนวดังนี้

วันที่ 25 มกราคม 2553 โรงเรียนวิเชียรมาตุ 3 จังหวัดตรัง
วันที่ 26 มกราคม 2553 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ และ โรงเรียนเมืองถลาง จังหวัดภูเก็ต
วันที่ 27 มกราคม 2553 โรงเรียนเมืองกระบี่
วันที่ 28 มกราคม 2553 โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันที่ 29 มกราคม 2553 โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ จังหวัดสงขลา