กอ.รมน.จัดเวทีพบสื่อสงขลา เสวนาบทบาทการแก้ปัญหาชายแดนใต้

[ทีมงานบ้านเรา]

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จัดเวทีเสวนา "บทบาทสื่อมวลชนกับการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้"  แฉมีตัวละคร 3 ตัว ในสถานการณ์ชายแดนใต้ เงื่อนไขใหม่ 7 ข้อต้องการสื่อถึงประชาชน สปต.เผยประชาชนชายแดนใต้สิ้นหวัง เมื่อผู้ใหญ่ในกองทัพ และรัฐบาลพูดเลิกเจรจาเข้าทางกลุ่มคนร้าย

[attach=1]
       
(27 มิ.ย.) ที่โรงแรม บี.พี.แกรนด์ ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.กิตติ อินทสร รองแม่ทัพกองทัพภาค 4  และ รอง ผอ.รมน.ภ.4 สน. เป็นประธานเปิดการเสวนาบทบาทสื่อกับการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยรอง ผอ.รมน.ภ.4 สน. กล่าวว่า ระยะเวลาเกือบ 10 ปี ที่ทาง กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า ได้ประสานการทำงานกับสื่อมวลชน โดยใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาพัฒนาการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ที่มีความสำคัญมากที่ทำให้เกิดกระแสสังคมในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ในการทำงานดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทาง กอ.รมน.ภ.4 สน. ได้รับนโยบายจากทางรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในการพูดคุยทำความเข้าใจ สร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม จากผลการวิจัยเกี่ยวกับสื่อที่ดี ปรากฏว่าสื่อปากต่อปาก คือ การพูดคุยบอกต่อเป็นสื่อที่ดีที่สุด เช่น ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็ว รองลงมา คือ สื่อวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย พ.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองเสนาธิการ รมน.ภ.4 สน. , นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้  สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.)  และอาจารย์วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ หัวหน้าสำนักงานจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ ดำเนินการเสวนาโดยนางสุนิสา รามแก้ว นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ จาก สวท.ยะลา       

โดย พ.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช กล่าวว่า จากการรวบรวมประวัติการต่อสู้ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้าย เป็นการแบ่งแยกดินแดน การเปิดพื้นที่เจรจาได้เห็นตัวกระบวนการแท้จริง มีตัวแสดง 3 ตัวคือ คนของรัฐ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงสู่การปลดปล่อยอำนาจรัฐ ตัวที่ 3 ที่อยู่ตรงกลางคือ ประชาชนเชื้อสายมลายู โดยใช้วิธีการต่างๆ โฆษณาชวนเชื่อ ให้คนกลางเกลียดชังรัฐ ขยายแนวร่วม ทำให้เกิดปัญหา 3 ปัญหาคือ ปัญหาในต้นน้ำ กลุ่มแกนนำในการสร้างแนวคิดให้เกลียดชังรัฐสยาม และใช้วาทกรรมบิดเบือนในประวัติศาสตร์ ปัญหากลางน้ำ คือกลุ่มแนวร่วมที่หลงผิดไปร่วมขบวนกับแกนำ จนนำไปสู่ปัญหาปลายน้ำ คือการก่อความรุนแรงในพื้นที่ต่างๆ 

ด้าน นายวิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานจุฬาราชมนตรีภาคใต้ กล่าวว่า สถานการณ์ใต้เกิดจากการบิดเบือนของคนบางกลุ่ม จนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เอาเศษเสี้ยวของศาสนามาสอนเท่านั้นที่เหลือก็ใส่ความเชื่อของตัวเองลงไป  สำหรับการแก้ปัญหาที่ต้นน้ำด้วยการนำผู้นำศานามาอบรมศาสนาที่มัสยิด 72 ชม. เสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามที่แท้จริง

ขณะที่ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ในสถานการณ์ใต้สื่อตกเป็นจำเลยสังคม เป็นเหยื่อของสถานการณ์ ที่กล่าวว่าสื่อผลิตซ้ำเพราะสื่อมวลชนต้องดำรงไว้ซึ่งวิชาชีพที่ต้องนำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรายงานให้สังคมทราบ แต่สื่อปัจจุบันพัฒนาไปมากที่นำเสนอมุมมองใหม่คือ ความเดือดร้อนของประชาชนจากเหตุการณ์

[attach=2]

นายไชยยงค์ กล่าวอีกว่า ในสถานการณ์ชายแดนภาคใต้มีตัวละคร 3 ตัว พระเอกคือ รัฐ ผู้ร้ายคือ ผู้ก่อการร้าย และตัวประกันคือ ประชาชน ตนเชื่อว่าเดือนรอมฎอนจะเป็นเดือนอันตราย ผู้ร้ายจะเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ดังนั้น รัฐอย่าด่วนตัดสินว่าไม่เอาการเจรจาสันติภาพเพราะเป็นความต้องการของคนในพื้นที่ หากปล่อยให้บีอาร์เอ็นจะฉวยโอกาสสวมรอยจากข้อเสนอใหม่ 7 ข้อ ของ นายฮัสซัน ตอยิบ ตัวแทนบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ นำความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่เรียกร้องมากนานมาเสนอต่อรัฐ แต่รัฐเมินเฉยมาตลอด