ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มีใครถามคำว่า "บาตรลวก" หรือยังครับ

เริ่มโดย กิมหยง, 08:21 น. 17 พ.ย 52

กิมหยง

ถ้าเขาด่าว่า "ไอ้บาตรลวก" นี่คงเจ็บได้แรงอกครับ

ความหมายและที่มาเป็นอย่างไร
ต้องตามกันต่อไปครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

หม่องวิน มอไซ

คนบวชเป็นพระ แล้วถ้าประพฤติตนไม่ดี บาตรก็ร้อนเป็นไฟครับ

Singoraman

ผมว่าน่าจะเป็นความหมายเชิง
"(อุ)บาทว์ลวก"
คำว่า "บาด" ในภาษาใต้ที่เป็นเชิงลบ ยังมี เช่น
"โถกบาทว์" 
"ตายบาด"
"จาดบาด"
เป็นอาทิ

Probass

อ้างจาก: Singoraman เมื่อ 09:03 น.  17 พ.ย 52
ผมว่าน่าจะเป็นความหมายเชิง
"(อุ)บาทว์ลวก"
คำว่า "บาด" ในภาษาใต้ที่เป็นเชิงลบ ยังมี เช่น
"โถกบาทว์"  
"ตายบาด"
"จาดบาด"
เป็นอาทิ

ขอความหมายของแต่ละอย่างได้ไหมครับ ไม่หอนเห็นเขาแหลงกัน
ได้ยินแต่ (ไก่)ตายบาด    กับ " จั๊กบาท " เมื่อตอนไปอยู่อีสาน
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

Singoraman


คุณหลวง

ไม่รู้ว่าบาตรลวกจะมาอย่างหม่องวินว่ามั้ย
แต่ถ้าไก่ตายบาด(ขอเขียนยังนี้นะครับ) หมายถึงไก่เป็นโรคระบาด (โรคขี้ขาวตายเป็นเบืออย่างนั้นแหละ)
โถกบาด ก็มาจากการติดโรคระบาดนี่แหละครับ เมื่อก่อนหมายถึงโรคอหิวาตกโรคครับ เพราะโรคนี้เป็นโรคระบาด
ที่ตายทีเกือบทั้งหมู่บ้าน การตายบาด จึงหมายถึงตายจากโรคระบาด แล้วตายทีละเยอะๆน่ะครับ

ส่วนบาตรลวกนั้นน่าจะมาจาก เรื่องพระชั่วๆแหละครับ เพราะคนสมัยก่อนรู้เรื่องราวศาสนาดีมาก
โดยเฉพาะพระชั่วบิณฑบาต เขากิน พระพุทธเจ้าตรัสว่า กินเหล็กร้อนเสียดีกว่า กินก้อนไฟเสียดีกว่า
พระชั่วมากๆมันก็คงร้อนแหละครับ (ร้อนเพราะอะไรก็ตาม)จึงน่าจะเป็นที่มีของคำเปรียบเทียบนี้น่ะครับ

หรือไม่ อีกที บาตรพระเมื่อก่อน เป็นเหล็กครับ แล้วพระอุ้มมือเปล่า หากชาวบ้านใส่ของร้อนก็จะลวกมือ
พระที่ทนไม่ได้บาตรก็หลุดมือ ถือว่าบาปยิ่งนักครับ คนที่ทำบาตรลวกอย่างนั้นถือว่าชั่วนักครับผม

อย่าง องค์ร.4 สมัยบวชก็โดนคู่แค้นของท่านใส่บาตรด้วยข้าวต้มร้อนมาแล้ว แต่พระองค์ข่มใจไม่ทิ้งบาตร
พอท่านสึกออกมา ศัตรูท่านนี้ก็ต้องหนีไปเอง ท่านเลยสร้าง พระไพรีพินาศมาเป็นอนุสรณ์ ว่าคนชั่วแพ้ความดี
วันยังค่ำ ปัจจุบัน พระไพรีพินาศ ราคาสูงมากครับ

เอ หรือว่า บาตรลวก จะมาจากเรื่องของ องค์ท่าน ร.4 นี้ก็ได้ครับผม
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

Anusorn_ab

เคยนั่งฟัง หนังตะลุง ไม่แน่ใจว่าคณะอะไร  เล่าเรื่องที่มาของคำว่า  "บาตรลวก"   ว่า     
        มีพระหนุ่มรูปหนึ่งมารับบิณฑบาตรทุกเข้า  เป็นปกติทุกวัน   
เมื่อมาถึงบ้านของผู้ใหญ่บ้าน ก็มีสีกาหน้าตาดีออกมาใส่บาตร
ผู้ใหญ่บ้านสักเกตุว่า พระรูปนี้ยืนนานผิดปกติ  จึงรู้ว่าพระจีบลูกสาวตนเอง
       วันรุ่งขึ้น ผู้ใหญ่จัดของใส่บาตรเป็นอาหารธรรมดา ให้กับพระทุก ๆ รูป ตามลำดับ
เมื่อถึงพระหนุ่มซึ่งเป็นรูปสุดท้าย ผู้ใหญ่บ้านก็นำข้าวต้มร้อน ๆ ใส่เต็มบาตร
จนบาตรร้อน  แต่พระหนุ่มก็ยังฝืนเดินบิณฑบาตรต่อไป
      วันต่อมาพระหนุ่มก็ลาสิขาบทไปแล้ว   ประมาณนี้ครับ

สมน้ำหน้า )55