ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

พิษราคายางฉุดศก.ใต้-กำลังซื้อวูบ ตลาดรถยอดขายหด30%-หวั่นธุรกิจซบทั้งระบบ

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 15:31 น. 04 ก.ย 56

ทีมงานบ้านเรา

โดย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ www.prachachat.net

เศรษฐกิจภาคใต้ทรุด พิษยางราคาตกลามเป็นลูกโซ่ ดีลเลอร์รถยนต์-จักรยานยนต์อ่วม ยอดติดลบ 30% ชี้กำลังซื้อวูบ ธุรกิจการค้าซบหนัก ภาคเอกชนปรับแผนรัดเข็มขัด-งดจ่ายโบนัสพนักงาน จี้รัฐเร่งแก้พร้อมจัดโซนนิ่งพื้นที่ปลูกยางใหม่ ชาวสวนยางถอดใจแห่โค่นยางหันปลูกพืชผลเกษตรอื่น

วิกฤตราคาผลผลิตยางตกต่ำ นอกจากจะก่อให้เกิดม็อบปิดถนนประท้วงยืดเยื้อแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาคใต้โดยรวม ทั้งตลาดรถ ค้าปลีก ค้าส่ง อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมไม้ยาง สินค้าเกษตร ตลอดจนการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน

แหล่งข่าวจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า ภาวะราคาพืชเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพาราและปาล์ม ส่งผลกระทบให้ยอดขายตลาดรถ ค้าปลีก ค้าส่ง ก่อสร้างหายไปประมาณ 30% ตลอดจนกระทบการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน หากสภาพราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคายางยังตกต่ำต่อเนื่อง จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจภาคใต้เสียหายมากขึ้นทั้งระบบ

นายวิฑูรย์ คู่พันธวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด ดีลเลอร์จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ครึ่งปีแรกติดลบไปแล้วประมาณ 20% และมีแนวโน้มลดลงไปถึงต้นปีหน้า เนื่องจากราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพารายังไม่มีสัญญาณขาขึ้น ทำให้ผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ

"หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาชาวสวนยางได้ ตลาดรถจักรยานยนต์รวมในภาคใต้จะติดลบไม่ต่ำกว่า 30% และกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบเศรษฐกิจของภาคใต้อย่างรุนแรง บริษัทต่าง ๆ ทุกองค์กรจะรัดเข็มขัด จะไม่มีโบนัสให้ พนักงานก็จะขาดกำลังซื้อ ขณะที่ดีลเลอร์รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ก็จะงัดทุกกลยุทธ์มากระตุ้นตลาด เพื่อดึงกำลังซื้อ"

ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา เผยว่า มูลค่าส่งออกยางในจังหวัดลดลงกว่า 10% จากปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำลง ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ได้รับผลกระทบพอสมควร ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ภาครัฐส่งเสริมอุตสาหกรรมยางพาราอย่างครบวงจร

เช่นเดียวกับนายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง ระบุว่า ปัญหาราคายางตกต่ำ ส่งผลให้ยอดขายผู้ประกอบการธุรกิจในพื้นที่ตกลงอย่างมาก โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนลดลง ขณะที่เกษตรกรบางส่วนตัดสินใจโค่นยางหันไปปลูกพืชและผลไม้อื่นทดแทน ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐบาลน่าจะมีการจัดโซนนิ่งการปลูกยางพาราใหม่ โดยยึดหลักให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดเป็นสำคัญ

ด้านนายยุทธกิจ มานะจิตต์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ผู้ชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางและชาวสวนปาล์มหลายจังหวัดในภาคใต้ได้ปักหลักชุมนุมประท้วงปิดถนนมาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม ส่งผลกระทบให้อุตสาหกรรมไม้ยางพาราที่จะขนส่งเข้ากรุงเทพฯและท่าเรือขนส่งที่ จ.สงขลา ต้องหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง มูลค่าความเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากการออกสำรวจถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น สายแม่ขรี กงหรา ระหว่างอำเภอตะโหมด และอำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง พบว่า จากเดิมที่เคยมีร้านค้าปลีก ร้านอาหารตามสั่ง ร้านน้ำชา กาแฟจำนวนมาก แต่ขณะนี้ได้ทยอยปิดตัวลงเกือบหมดแล้ว โดยอ้างว่าไม่มีผู้บริโภคมาซื้อ ขณะที่ผู้บริโภคระบุว่าสินค้ามีราคาสูง ไม่มีกำลังซื้อจากได้รายได้ที่ลดลง เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นชาวสวนยางพารา ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคายางตกต่ำ 
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

ต้นเหตุของปัญหา

นี่คือสาเหตุของปัญหาม็อบยางพาราเพราะก่อนหน้านี้ในยุคที่ราคายางดี ชาวสวนยางก็ไม่คิดจะเก็บออม ใช้จ่ายเกินตัวสร้างหนี้สินล่วงหน้ากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการถอยรถเก๋ง กระบะ จักรยานยนต์ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ แทบเลต โดยไม่มีการวางแผนทางการเงิน พอถึงวันนี้ที่ราคายางตกต่ำตามภาวะเศรษฐกิจโลก(ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยนะ) ราคาจึงลดลงตามภาวะอุปสงค์-อุปทาน ของตลาดยางพารา ในเมื่อชาวสวนยางไม่เคยคิดตระหนักถึงความจริงเรื่องนี่้ว่าราคายางมีขึ้นก็ย่อมมีลงซะวัน ทั้งๆที่พ่อของแผ่นดินย้ำแล้วย้ำอีกว่า..........พอเพียง........แต่ก็ไม่เคยเพียงพอกับความอยากมีอยากได้แบบมีสติกันซะคน รายได้ลด แต่หนี้ที่ต้องจ่ายเท่าเดิมเลยชักหน้าไม่ถึงหลัง หลายเดือนเข้าเลยชักกะแด่วกัน ถามว่าใครทำพวกท่าน ไม่ใช่พวกท่านทำตัวเองหรอกเหรอเป็นแบบนี้ พอหาทางออกไม่ได้ก็หันมาใช้วิธีป่าเถื่อน ไร้สติ ปิดถนนสร้างความเดือดร้อนในส่วนรวมโดยไม่คำนึงถึงผลเสียในระยะยาวที่จะตามมา โดยเฉพาะการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวหลักตัวหนึ่งที่สร้างรายได้ให้คนใต้ไม่แพ้ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ยิ่งเดี๋ยวนี้มีการส่งเสริมให้ปลูกยางพารากันทั่วประเทศโดยไม่ควบคุม แถมผู้ใช้ยางรายใหญ่อย่างจีนสามารถเพิ่มพื้นที่ปลูกยางเป็นของตัวเอง บวกกับไปลงทุนสัมประทานปลูกยางใน พม่า ลาว เขมร แม้แต่อัพฟริกา จีนก็ไป แถมต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าชาติอื่นทั้งหมด อีกหน่อยผลผลิตยางพาราของ
ไทยเราจะไปขายให้ใครได้ พึ่งสำเหนียกกันเข้าไว้สำหรับสินค้าเกษตรชองเรา ไม่ว่าจะเป็น ข้าว ยางพารา ฯลฯ  ส.งอน ส.งอน ส.แหยง ส.แหยง ส.แหยง ส.ชิชิ

sanit.chaisoei

อ้างจาก: ต้นเหตุของปัญหา เมื่อ 22:51 น.  04 ก.ย 56
นี่คือสาเหตุของปัญหาม็อบยางพาราเพราะก่อนหน้านี้ในยุคที่ราคายางดี ชาวสวนยางก็ไม่คิดจะเก็บออม ใช้จ่ายเกินตัวสร้างหนี้สินล่วงหน้ากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการถอยรถเก๋ง กระบะ จักรยานยนต์ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ แทบเลต โดยไม่มีการวางแผนทางการเงิน พอถึงวันนี้ที่ราคายางตกต่ำตามภาวะเศรษฐกิจโลก(ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยนะ) ราคาจึงลดลงตามภาวะอุปสงค์-อุปทาน ของตลาดยางพารา ในเมื่อชาวสวนยางไม่เคยคิดตระหนักถึงความจริงเรื่องนี่้ว่าราคายางมีขึ้นก็ย่อมมีลงซะวัน ทั้งๆที่พ่อของแผ่นดินย้ำแล้วย้ำอีกว่า..........พอเพียง........แต่ก็ไม่เคยเพียงพอกับความอยากมีอยากได้แบบมีสติกันซะคน รายได้ลด แต่หนี้ที่ต้องจ่ายเท่าเดิมเลยชักหน้าไม่ถึงหลัง หลายเดือนเข้าเลยชักกะแด่วกัน ถามว่าใครทำพวกท่าน ไม่ใช่พวกท่านทำตัวเองหรอกเหรอเป็นแบบนี้ พอหาทางออกไม่ได้ก็หันมาใช้วิธีป่าเถื่อน ไร้สติ ปิดถนนสร้างความเดือดร้อนในส่วนรวมโดยไม่คำนึงถึงผลเสียในระยะยาวที่จะตามมา โดยเฉพาะการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวหลักตัวหนึ่งที่สร้างรายได้ให้คนใต้ไม่แพ้ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ยิ่งเดี๋ยวนี้มีการส่งเสริมให้ปลูกยางพารากันทั่วประเทศโดยไม่ควบคุม แถมผู้ใช้ยางรายใหญ่อย่างจีนสามารถเพิ่มพื้นที่ปลูกยางเป็นของตัวเอง บวกกับไปลงทุนสัมประทานปลูกยางใน พม่า ลาว เขมร แม้แต่อัพฟริกา จีนก็ไป แถมต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าชาติอื่นทั้งหมด อีกหน่อยผลผลิตยางพาราของ
ไทยเราจะไปขายให้ใครได้ พึ่งสำเหนียกกันเข้าไว้สำหรับสินค้าเกษตรชองเรา ไม่ว่าจะเป็น ข้าว ยางพารา ฯลฯ  ส.งอน ส.งอน ส.แหยง ส.แหยง ส.แหยง ส.ชิชิ


ถูกต้อง ชัดเจนคับท่าน  ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

ขาดทุนถึงเส้นเลือดดำ

              วิเคราะห์ตามข้อเท็จจริง คิดเสมอว่า ชาวสวนยางทุกคนรู้ดีว่า ราคายางมีขึ้นมีลง แต่สำหรับสองปีที่ผ่านมา มีแต่ขาลงและลงอย่างรุนแรง จากปี 53 ยาง กก.ละ 150 บาท เหลือเพียง 70 ณปัจจุบัน  ขณะเดียวกัน ต้นทุนในการผลิตยางพาราก็เพิ่มขึ้นทุกตัว ปุ๋ย ค่าแรงงาน สภาพอากาศ ยางไม่ได้ตัดได้ทุกวัน  สรุปง่าย ๆ ไม่ใช่ชาวสวนฟุ่มเฟือยหรืออะไรก็ตามหรอก ส่วนตัวมองว่า  ชาวสวนตกอยู่ในภาวะขาดทุนร่วม 2 ปีแล้ว เงินออมที่มีอยู่จากที่เคยขายได้ราคาดีมีกำไร ก็ต้องนำออกมาใช้จ่าย จนตอนนี้ ไม่สามารถทนต่อการขาดทุนได้แล้วประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซนต์  ชาวสวนยางและสวนปาล์มจึงออกมาเรียกร้องจากรัฐบาล      เราก็ได้รับผลกระทบจากการปิดถนนเช่นกัน แต่ก็เข้าใจชาวบ้านที่มาประท้วง   ต้นเหตุของปัญหาคือ รัฐบาลแบ่งแยกประชาชน ไม่ได้คิดบริหารประเทศอย่างจริงจัง  เราต้องอย่าลืมว่าข้าว และ ยางพาราไทย ล้วนเคยเป็นสิ่งค้าส่งออกอันดับ 1  ทำไมรัฐบาลไม่รักษาตลาดไว้ ไม่ไป road show ไม่ไปนำเสนอสินค้า หรือจะไปแลกเปลี่ยนข้าวกับสินค้าอื่นๆที่เราต้องนำเข้า  เพื่อรักษาตลาดไว้  สร้างจุดแข็ง พัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ เรามีมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัยที่เก่งๆมากมาย รัฐบาลไม่สนใจทำสิ่งเหล่านี้ เค้าทำอย่างเดียว คือ มุ่งแก้กฎหมายเพื่อนิรโทษ ให้กับคนๆหนึ่ง เท่านั้นจริงๆ   ส.บ่น

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: ขาดทุนถึงเส้นเลือดดำ เมื่อ 12:12 น.  05 ก.ย 56
              วิเคราะห์ตามข้อเท็จจริง คิดเสมอว่า ชาวสวนยางทุกคนรู้ดีว่า ราคายางมีขึ้นมีลง แต่สำหรับสองปีที่ผ่านมา มีแต่ขาลงและลงอย่างรุนแรง จากปี 53 ยาง กก.ละ 150 บาท เหลือเพียง 70 ณปัจจุบัน  ขณะเดียวกัน ต้นทุนในการผลิตยางพาราก็เพิ่มขึ้นทุกตัว ปุ๋ย ค่าแรงงาน สภาพอากาศ ยางไม่ได้ตัดได้ทุกวัน  สรุปง่าย ๆ ไม่ใช่ชาวสวนฟุ่มเฟือยหรืออะไรก็ตามหรอก ส่วนตัวมองว่า  ชาวสวนตกอยู่ในภาวะขาดทุนร่วม 2 ปีแล้ว เงินออมที่มีอยู่จากที่เคยขายได้ราคาดีมีกำไร ก็ต้องนำออกมาใช้จ่าย จนตอนนี้ ไม่สามารถทนต่อการขาดทุนได้แล้วประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซนต์  ชาวสวนยางและสวนปาล์มจึงออกมาเรียกร้องจากรัฐบาล      เราก็ได้รับผลกระทบจากการปิดถนนเช่นกัน แต่ก็เข้าใจชาวบ้านที่มาประท้วง   ต้นเหตุของปัญหาคือ รัฐบาลแบ่งแยกประชาชน ไม่ได้คิดบริหารประเทศอย่างจริงจัง  เราต้องอย่าลืมว่าข้าว และ ยางพาราไทย ล้วนเคยเป็นสิ่งค้าส่งออกอันดับ 1  ทำไมรัฐบาลไม่รักษาตลาดไว้ ไม่ไป road show ไม่ไปนำเสนอสินค้า หรือจะไปแลกเปลี่ยนข้าวกับสินค้าอื่นๆที่เราต้องนำเข้า  เพื่อรักษาตลาดไว้  สร้างจุดแข็ง พัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ เรามีมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัยที่เก่งๆมากมาย รัฐบาลไม่สนใจทำสิ่งเหล่านี้ เค้าทำอย่างเดียว คือ มุ่งแก้กฎหมายเพื่อนิรโทษ ให้กับคนๆหนึ่ง เท่านั้นจริงๆ   ส.บ่น
แม่นแล้ว ปัญหาคือ รัดตะบวย ยื้อเวลาไปเรื่อยๆ   ส.โกรธอย่างแรง
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

Puiey2521

อ้างจาก: ขาดทุนถึงเส้นเลือดดำ เมื่อ 12:12 น.  05 ก.ย 56
              วิเคราะห์ตามข้อเท็จจริง คิดเสมอว่า ชาวสวนยางทุกคนรู้ดีว่า ราคายางมีขึ้นมีลง แต่สำหรับสองปีที่ผ่านมา มีแต่ขาลงและลงอย่างรุนแรง จากปี 53 ยาง กก.ละ 150 บาท เหลือเพียง 70 ณปัจจุบัน  ขณะเดียวกัน ต้นทุนในการผลิตยางพาราก็เพิ่มขึ้นทุกตัว ปุ๋ย ค่าแรงงาน สภาพอากาศ ยางไม่ได้ตัดได้ทุกวัน  สรุปง่าย ๆ ไม่ใช่ชาวสวนฟุ่มเฟือยหรืออะไรก็ตามหรอก ส่วนตัวมองว่า  ชาวสวนตกอยู่ในภาวะขาดทุนร่วม 2 ปีแล้ว เงินออมที่มีอยู่จากที่เคยขายได้ราคาดีมีกำไร ก็ต้องนำออกมาใช้จ่าย จนตอนนี้ ไม่สามารถทนต่อการขาดทุนได้แล้วประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซนต์  ชาวสวนยางและสวนปาล์มจึงออกมาเรียกร้องจากรัฐบาล      เราก็ได้รับผลกระทบจากการปิดถนนเช่นกัน แต่ก็เข้าใจชาวบ้านที่มาประท้วง   ต้นเหตุของปัญหาคือ รัฐบาลแบ่งแยกประชาชน ไม่ได้คิดบริหารประเทศอย่างจริงจัง  เราต้องอย่าลืมว่าข้าว และ ยางพาราไทย ล้วนเคยเป็นสิ่งค้าส่งออกอันดับ 1  ทำไมรัฐบาลไม่รักษาตลาดไว้ ไม่ไป road show ไม่ไปนำเสนอสินค้า หรือจะไปแลกเปลี่ยนข้าวกับสินค้าอื่นๆที่เราต้องนำเข้า  เพื่อรักษาตลาดไว้  สร้างจุดแข็ง พัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ เรามีมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัยที่เก่งๆมากมาย รัฐบาลไม่สนใจทำสิ่งเหล่านี้ เค้าทำอย่างเดียว คือ มุ่งแก้กฎหมายเพื่อนิรโทษ ให้กับคนๆหนึ่ง เท่านั้นจริงๆ   ส.บ่น

ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้
ทำดีแล้วโดน "ด่า" ดีกว่าพวกไม่ทำ "ห่า" แล้วด่า "คนอื่น"